กลุ่มคนจับนายทหารที่ดูราวกับบ้าไปแล้วเอาไว้แล้วจับเขากดลงเอาไว้ด้วยความยากลำบากก่อนที่จะมีเสียงรองเท้าส้นสูงดังขึ้นบริเวณโถงทางเดิน
เมื่อเหลือบตาขึ้นมอง ก็เป็คุณนายสูงศักดิ์อายุราวๆ สี่สิบกว่าปี สวมชุดสีแดง พร้อมทั้งพาลูกน้องติดสอยห้อยตามมามากมาย
เดิมทีอาการของเป่าเจียก็อยู่ระหว่างความเป็กับความตายคนทางนี้ต่างก็เศร้าสลด คุณนายคนนี้พาผู้คุ้มกันมากมายเดินล้อมเข้ามาอีกทั้งยังสวมชุดสีแดงไม่เหมาะสม ในใจของหลินลั่วหรานไม่พอใจขึ้นมานายทหารที่ถูกจับเอาไว้คนนั้นก็เริ่มดิ้นรนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของเขาจับจ้องไปยังคุณนายคนนั้นด้วยความไม่พอใจ
คุณนายแสดงท่าทางรังเกียจเหล่านายทหารจนๆ เหล่านี้ เธอหันหน้าไปอีกทางก่อนจะส่งเสียงแหลมขึ้น “ผู้บังคับบัญชาฉิน”
ผู้บังคับบัญชาฉินเงยหน้าขึ้น เก็บความรู้สึกเอาไว้ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเงียบสงบ “คุณนายโจวเื่มาขนาดนี้แล้ว พูดอะไรมากไปก็ไม่ได้มีประโยชน์ขึ้นมาพวกเราให้มันเป็ไปตามขั้นตอนเถอะ”
คุณนายโจวเลิกคิ้วขึ้นแต่กลับหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับดวงตาที่ไร้หยาดน้ำใสของตัวเอง “ผู้บังคับบัญชาฉิน สถานการณ์ในบ้านของเรา คุณก็น่าจะรู้ดี เด็กคนนั้นถึงจะชอบใช้อำนาจทำตามใจตัวเอง แต่ก็ชอบเป่าเจียมาโดยตลอด แม้จะรู้เธอหมั้นแล้วเขาจะไปทำร้ายเธอได้อย่างไร...ทั้งหมดจะต้องเป็เื่เข้าใจผิดแน่ๆ”
ผู้บังคับบัญชาฉินยังไม่ทันได้พูดอะไรนายทหารที่ถูกจับเอาไว้คนนั้นกลับด่าออกมา “เข้าใจผิด? แค่คำว่าเข้าใจผิดก็ทำให้คุณหนูต้องนอนไม่รู้ความเป็ความตายอยู่ในห้องผ่าตัดแบบนั้น?! คนอื่นกลัวอำนาจของตระกูลโจว แต่ชีวิตของฉันก็แค่ถูกเก็บมาเท่านั้นฉันลู่ซานชุนไม่กลัวหรอกนะ! เห็นกันอยู่ชัดๆว่าโจวเย่าเวยบังคับให้คุณหนูแต่งงานด้วยไม่ได้ ก็เลยตั้งใจทำร้ายคุณหนู...”
ขอบตาของหลินลั่วหรานยังคงมีหยาดน้ำเกาะอยู่เมื่อได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นในทันที จงใจชนที่แท้ก็จงใจนี่เอง ลูกชายของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ชื่อโจวเย่าเวยอะไรสักอย่างจงใจจะชนเป่าเจียให้ตาย?
เมื่อเห็นว่าผู้บังคับบัญชาฉินไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับคุณนายโจวที่วางท่าถึงได้เริ่มร้อนใจขึ้นมา “ผู้บังคับบัญชาฉินฉันแค่คิดว่าทั้งสองตระกูลก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมายาวนานจึงได้มาถึงที่นี่เย้าเวยเป็เด็กดีขนาดนั้น เขาจะไปจงใจขับรถชนเป่าเจียได้ยังไงท่านอย่าได้โดนคนอื่นหลอกเอาเลยนะคะ...ไม่ว่ายังไงนั่นก็เป็ลูกชายคนเดียวของตระกูลโจวหากคุณปู่ที่อยู่บน์รู้เข้า คงจะต้องเสียใจมากแน่ๆ”
คุณนายโจวพูดพร้อมทั้งร้องไห้งอแง
หลินลั่วหรานััได้ว่าในตอนที่เธอพูดถึงคำว่า “คุณปู่”ภายในแววตาของผู้บังคับบัญชาฉินที่คอยระงับความโมโหตลอดมา ก็ปรากฏความดิ้นรนขึ้นมา
คุณปู่ของคุณนายโจว เป็คนที่เสียไปแล้วคนหนึ่งหรือว่าจะเป็ตัวละครสำคัญในเื่นี้ ที่ส่งผลต่ออารมณ์ของผู้บังคับบัญชาฉิน? ไม่สิ ถ้าฟังจากการโต้แย้งแบบด้านๆ ของคุณนายโจวแล้วก็เห็นได้ชัดว่านี่เป็การจงใจฆ่าชัดๆ!
ความเย็นะเืไหลผ่านไปในแววตาของหลินลั่วหรานดูเหมือนว่าอิทธิพลของตระกูลโจวจะยิ่งใหญ่พอสมควร และยังมีคุณปู่โจวที่เสียไปแล้วแถมยังมีอิทธิพลต่อผู้บังคับบัญชาฉินเป็อย่างมากอีกคุณนายโจวคนนี้ทำอะไรดูก้าวร้าวไปหมด เกิดเื่แบบนี้ขึ้น แทนที่จะมาขอโทษก่อนแต่กลับพากลุ่มคนมามากมาย แถมยังสวมชุดสีแดงแปร๊ดมาสร้างความวุ่นวายที่โรงพยาบาลแบบนี้...
หลินลั่วหรานหันสายตาไปทางหลิ่วเจิงที่เอาแต่นิ่งเงียบมาั้แ่ตอนแรกคนที่นอนอยู่ด้านในห้องผ่าตัดคือคู่หมั้นของเขา เมื่อได้เผชิญหน้ากับแม่ของคนร้ายเขากลับยังเลือกที่จะนิ่งเงียบ
เป็เพราะว่ามีผู้าุโอยู่ หลิ่วเจิงจึงไม่อยากจะรีบร้อนอะไรหรือเป็เพราะอิทธิพลของตระกูลโจวนั้นแกร่งกล้า ทำให้หลิ่วเจิงทำอะไรได้ไม่สะดวกนัก?
หลินลั่วหรานไม่รู้ และตอนนี้ก็ไม่ได้อยากจะรู้ด้วย
เธอรู้เพียงแค่เป่าเจียนอนอยู่ในห้องผ่าตัด พวกหมอกำลังพยายามช่วยเหลือใครจะมาทำลายความเงียบสงบของที่นี่ หลินลั่วหรานไม่ยอมแน่! ไม่มีทาง!
“คุณนายโจว ถ้าคุณไม่ได้มีเื่อะไรแล้วก็กลับไปเถอะ...ส่วนเื่ลูกชายของคุณ ถ้าเขาไม่ได้ทำ ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแต่ถ้าเขาทำ มันก็หนีไม่พ้นหรอก”
“หนีไม่พ้น” ระหว่างที่พูดสามคำนี้ออกมาหลินลั่วหรานเผลอปล่อยพลังออกมาด้วยอย่างไม่ทันรู้ตัวมันสะท้อนอยู่ในโถงทางเดินยาว ให้ความรู้สึกเด็ดขาดไม่อาจจะขัดขืนได้ออกมา!
คุณนายโจวถูกหญิงสาวหน้าตางดงามที่อยู่ๆ ก็เปิดปากออกพูดทำเอาใเมื่อเห็นท่าทางสูงศักดิ์ของเธออีกทั้งในเมืองหลวงมักจะซ่อนบุคคลที่ไม่ธรรมดาเอาไว้คุณนายโจวไม่รู้ว่าหลินลั่วหรานเป็ใครมาจากไหน จึงไม่ได้สนใจอะไรในคำพูดของเธอแต่กลับหันไปร้องห่มร้องไห้กับผู้บังคับบัญชาฉินแทน
“ผู้บังคับบัญชาฉินเองก็เห็นเย้าเอ๋อโตมา...เขาจะเป็คนแบบนั้นได้ยังไง...”
หลินลั่วหรานมองไปยังผู้บังคับบัญชาฉินที่ก็ขมวดคิ้วเครียดอยู่เมื่อได้ยินเสียงแหลมสูงของคุณนายโจว เธอก็รู้สึกราวกับว่าไฟที่สุมอยู่ในอกมันกำลังจะปะทุออกมาแต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้อย่างอยากลำบาก
“ครืด” อยู่ๆ ประตูของห้องผ่าตัดก็เปิดออกพยาบาลคนหนึ่งยื่นหน้าออกมา พร้อมทั้งพูดด้วยความโมโห “เอะอะอะไรกันไม่รู้เหรอว่าที่นี่้าความสงบ!”
หลินลั่วหรานส่งสายตาออกไป ก่อนที่คุณนายโจวก็เงียบเสียงลง
เสียงปิดประตูดัง “ปัง” ของนางพยาบาล ทำเอาคำพูดของแต่ละคนจุกอยู่ในปากไม่กล้าเอ่ยถามขึ้นมา
เวลาค่อยๆ ไหลผ่านโถงทางเดินอันเงียบสงบของโรงพยาบาลไปราวกับเงินเหลวไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ก่อนที่ไฟของห้องผ่าตัดจะสว่างขึ้นมาคุณหมอสวมชุดกาวน์เดินออกมาจากห้อง เมื่อพบกับสายตาเต็มไปด้วยความหวังของทุกคนเขาก็ถอดหน้ากากออก ก่อนจะหันไปพูดกับคุณตาของเป่าเจียด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
“ผู้บังคับบัญชาฉิน พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้วหลานสาวของท่านเืออกใน่อกมาก ภายในกะโหลกก็ได้รับการกระทบกระเทือนกระดูกหักหลายจุดเกรงว่าจะยืดเวลาได้ไม่พ้นคืนนี้...ให้คนในครอบครัวได้ไปบอกลาเถอะครับ”
ผู้บังคับบัญชาฉินเกือบจะทรงตัวไม่อยู่ก่อนที่เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะช่วยกันประคองเอาไว้
คุณโจวยกมือขึ้นปิดปาก ภายในแววตาของเธอแสดงอาการช็อกออกมาฉินเป่าเจียตายแล้ว แบบนี้เธอจะช่วยลูกชายให้พ้นผิดได้อย่างไร?
เมื่อได้ยินว่า “ให้ครอบครัวเข้าไปบอกลา” หลินลั่วหรานก็ทรุดตัวลงหน้าประตูหลิ่วเจิงอยากจะเข้าไปประคองเธอเอาไว้แต่เมื่อคิดถึงภาพวันวานที่เขาพาเป่าเจียไปเล่นที่สวนสาธารณะเป่ยไห่ในตอนนั้นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ยังคงเป็เพียงเด็กสาวตัวน้อยที่ติดเขาแจและไม่ได้เรียกเขาว่า “คุณชายหลิ่ว” แต่กลับเป็ถ้อยคำหวานๆอย่าง “พี่หลิ่วเจิง”...
เป่าเจียคือคู่หมั้นของเขา แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอเป็น้องสาวมาโดยตลอดแถมยังไปใจเต้นกับผู้หญิงคนอื่น มือของหลิ่วเจิงถูกทิ้งลงอย่างหมดเรี่ยวแรงภายใต้แว่นตากรอบทองของเขา ก็มีน้ำใสไหลรินลงมา
ลู่ซานชุนพุ่งตัวเข้าไปหาคุณนายโจวเพื่อจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ถูกเหล่าบอดี้การ์ดตัวโตของเธอจับเอาไว้
เมื่อได้ยินเสียงดังโวยวาย หลินลั่วหรานก็ได้สติกลับมาเธอหันไปมองประตูของห้องผ่าตัด ก่อนจะได้แต่คิดขึ้นมาในใจแม้แต่ความสงบครั้งสุดท้ายพวกเขาก็ไม่คิดจะให้มันกับเป่าเจีย...ป่าเจียเธอจะตายได้อย่างไร ฉันมาช่วยเธอแล้วไง ฉันมาช่วยเธอแล้ว!
“ออกไป! พาคนของคุณออกไปให้หมด! ถ้าเป่าเจียตายขึ้นมา ฉันจะฆ่าลูกชายของคุณให้ตายตามไปด้วย!”
หลินลั่วหรานลุกยืนขึ้นมา แล้วจัดการจับบอดี้การ์ดชุดดำเหวี่ยงไปที่กำแพงด้วยความว่องไวราวกับสายฟ้า บอดี้การ์ดพากันปล่อยตัวลู่ซานชุนเพื่อมาจับตัวเธอก่อนจะโดนเธอที่กำลังบ้าคลั่งอัดปลิวออกไป
คุณนายโจวถูกเธอทำเอาใจนไร้สติ เธอส่งเสียงแหลมออกมา “อย่าฆ่าฉัน” พร้อมทั้งรีบพุ่งตัวออกไปจากโถงทางเดินเมื่อเห็นว่าเ้านายของตัวเองหนีไปแล้วเหล่าบอดี้การ์ดก็พากันพยายามดิ้นรนตามเธอไป
ทุกคนต่างถูกหลินลั่วหรานที่บ้าคลั่งขึ้นมาทำเอาใกันไปหมดใครจะรู้ว่าหลังจากจัดการไล่คุณนายโจวออกไปแล้ว เธอก็ไม่ได้สงบลงแต่กลับหันไปจับแขนเสื้อของผู้บังคับบัญชาฉินเอาไว้
ผู้บังคับบัญชาฉินมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหลินลั่วหรานก็คิดขึ้นมาว่า หลานสาวของเขามักจะอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวมาโดยตลอดแต่เด็กสาวข้างหน้าคนนี้ ก็ทำให้เธอไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปในใจของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“หนูหลิน ไปพบกับเป่าเจียเป็ครั้งสุดท้ายเถอะ...เธอมองว่าหนูเป็พี่สาวของเธอมาตลอดไปส่งเธอสักหน่อยเถอะนะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้