Chapter 32
"พี่กรีน ๆ ๆ สวยมาก สวยกว่าตลาดวันนั้นอีกนะ" คนน้องพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่ทั้งคู่เดินทางมาจนถึงตลาดคริสต์มาสเรียบร้อยแล้ว
ตลอดกาลเดินทางหลายกิโล กรีนชวนป๋ายคุยมาเรื่อย ๆ มีหลายเื่เกี่ยวกับน้องที่กรีนเองก็เพิ่งจะรู้ ไม่รู้ว่าเป็เพราะอะไรที่ป๋ายดูตื่นเต้นในตอนที่เล่าเื่เกี่ยวกับวันคริสต์มาสมากกว่าเื่อื่น ๆ กรีนเดาว่าอาจจะเป็เพราะน้องชอบมันมาก ๆ เหมือนกับที่เขาชอบ
พอเห็นแบบนั้นก็รู้สึกว่าตัดสินใจถูกมากที่พาน้องมาที่ตลาดคริสต์มาสวันนี้ ในตอนแรกที่บอกไปว่ารีบพามาก่อนวันคริสต์มาสเพราะว่ากลัวคนเยอะ อันที่จริงมันไม่ใช่แบบนั้น แต่กรีนแค่กลัวว่าถ้าไม่ได้พามา ก็คงจะไม่มีโอกาสได้พามาอีก ที่คิดว่าได้อยู่ด้วยกันจนคุ้มมากพอแล้ว พอใกล้วันจะจากกัน ถึงได้รู้ว่ายังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำด้วยกัน ยังมีอีกหลายที่ที่อยากจะไปด้วยกัน ยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านที่อยากจะไปลองกินด้วยกัน
ตอนนี้ก็คงทำได้มากเท่าที่เวลาเหลือ
"ป๋ายป๋ายอยากได้อะไรไหมครับ?" พอเดินเข้ามาถึงโซนด้านในของตลาด กรีนก็ถามขึ้น
"เค้าอยากได้ต้นคริสต์มาสใหญ่ ๆ ไปตั้งในบ้านนะพี่กรีน"
"ได้ครับ เดี๋ยวเราไปเลือกของตกแต่งด้วยกัน"
บรรยากาศในตลาดคริสต์มาสดูอบอุ่นกว่าทุก่ของปี ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็ตอนกลางวัน แต่ก็ไม่มีความร้อนของแสงแดดมากวนใจแต่อย่างใด เพราะอุณหภูมิและอากาศใน่นี้ดีมาก ๆ มีลมพัดอยู่ตลอดเวลา ความร้อนของแดดที่เคยหงุดหงิดมันในฤดูร้อน ตอนนี้กลับรักมัน เพราะช่วยให้อุ่นขึ้นจากความหนาวเย็นของลมและอากาศ
"พี่กรีน เค้ากินขนมได้ไหม?" ป๋ายพูดขึ้นมาเสียงอ้อน ๆ
"ได้สิ เธออยากกินอะไรล่ะ?"
"อันโน้น" น้องพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปฝั่งตรงข้าม ที่มีร้านขายขนมชิ้นเล็ก ๆ ตกแต่งในธีมคริสต์มาส แถมหน้าขนมแต่ละชิ้นก็มีการตกแต่งให้เข้ากับเทศกาลมาก ๆ
"อันนั้นขนมของคนนะ เธอจะอร่อยเหรอ?"
"ไม่น่านะ แหะ ๆ" พอคิดได้ว่าตัวเองลืมคิดเื่รสชาติของมันไป ป๋ายก็หัวเราะออกมา
"อยากได้เพราะมันสวยเหรอครับ?"
"ใช่ เค้าลืมคิดเื่รสชาติไปเลยแหละ"
"ไม่เป็ไร ถ้าอยากเลือกก็ไปเลือก เธอลองกินดูเผื่อจะถูกใจ ยังไม่เคยลองนี่ ใช่ไหม?"
"แต่ถ้าเค้าไม่อร่อยมันจะเสียดายนะพี่กรีน ต้องทิ้งน้องลงไปในถังขยะ"
"เดี๋ยวพี่กินเองครับ เธอไปเลือกเถอะ" พอได้ยินดังนั้นคนตัวเล็กก็ยิ้มออกมาทันที จากนั้นก็เดินกึ่งวิ่งไปที่ร้านฝั่งตรงข้ามและเลือกขนมที่หน้าตาถูกใจตัวเอง
หลังจากที่เลือกขนมอยู่หลายนาที สุดท้ายก็ได้มันกลับมาทั้งหมด 3 ชิ้น ถึงแม้ว่าจะอยากเลือกมันมากกว่านั้นก็ตาม แต่คนตัวเล็กกลับคิดว่าถ้าหากว่าซื้อมาแล้วรสชาติไม่ถูกใจตัวเอง ก็ต้องให้กรีนรับผิดชอบที่จะกินให้ เลยเลือกมาแค่นั้นดีกว่า
"ซื้อน้อยกว่าที่คิดนะ"
"กลัวมันไม่อร่อย พี่กรีนจะได้ไม่ต้องมากินแทนเค้าเยอะ ๆ"
"เด็กดี"
กรีนยิ้มออกมาพร้อมกับยกมือไปลูบหัวน้องเบา ๆ จากนั้นคนตัวเล็กก็เริ่มแกะขนมที่ซื้อมาทันที ยกยิ้มให้ความสวยงามของการตกแต่งอย่างดีหนึ่งที และเอามันเข้าไปในปาก แบ่งกันเป็คำเล็ก ๆ ก่อนจะเริ่มเคี้ยว หลังจากที่เริ่มรับรสชาติได้เล็กน้อย คนตัวเล็กก็เบ้ปากทันที กรีนที่ยืนลุ้นถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
"ฮือ ไม่ชอบเลยพี่กรีน" ป๋ายงอแงออกมา กรีนก็ยื่นขวดน้ำที่เปิดไว้รอน้องให้ทันที
"ไม่เป็ไรครับ เดี๋ยวพี่กินเอง ตรงโน้นมีขนมเค้กแมวนะ ไว้เธอค่อยไปซื้อร้านนั้น"
"เค้าขอโทษนะ พี่กรีนต้องกินแทนเค้าเลย" ป๋ายว่าออกมาด้วยความรู้สึกผิด
"พี่บอกให้เธอไปซื้อเองครับ ไม่ต้องขอโทษ"
"ก็รู้ว่าเป็ขนมของคน แต่เค้าก็ดื้อที่จะกินไง"
"ป๋ายป๋าย งอแงอะไรครับเนี่ย"
"ไมjได้งอแง"
"เงยหน้ามาหน่อย" คนน้องที่ยืนก้มหน้าก้มตาในตอนแรกก็เงยหน้าตามคำของพี่ทันที กรีนช้อนคางของป๋ายให้เงยขึ้นมาหาตัวเอง จับที่คางมนเบา ๆ และกดริมฝีปากลงไปที่ปากของป๋ายสักพักแล้วผละออก
"ไม่เป็ไรจริง ๆ ครับ พี่กินได้" พูดจบกรีนก็ยิ้มให้น้องทันที
หลังจากนั้นกรีนก็พาป๋ายไปที่ร้านขายขนมเค้กสำหรับแมวทันที กรีนเข้าใจว่าน้องงอแงเื่อะไร แต่ปกติก็ไม่คิดมากถึงขนาดนี้ กรีนถึงค่อนข้างที่จะไม่เข้าใจว่าอีกคนรู้สึกแบบไหนอยู่ แต่พอได้พามากินขนมเค้กที่อร่อยสำหรับเ้าเหมียวแล้ว แร็กดอลล์ตัวน้อยก็อารมณ์ดีขึ้นมา
"กินเสร็จเดี๋ยวไปซื้อของกันนะ"
"เหมียวทราบ"
กรีนเอ่ยบอกน้องที่กำลังนั่งกินขนมเค้กอยู่ และหลังจากที่คนน้องกินขนมเค้กเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกซื้อของตกแต่งที่เป็แผนหลักของวันนี้ กรีนเดินไปหยิบรถเข็นที่ตลาดมีบริการให้ ตลาดคริสต์มาสเป็ตลาดที่มีบริเวณกว้างมาก ๆ ถ้าเทียบกับตลาดซื้อขายของทั่วไป ลักษณะการจัดวางหรือแผนผังของร้านค้าใกล้เคียงกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่มาก และมีบริการรถเข็นใส่ของเหมือนกับในห้างอีกด้วย นั่นก็เพราะผู้ใช้บริการตลาดคริสต์มาสส่วนใหญ่เป็กลุ่มคนที่มาซื้อของเพื่อจัดงานเทศกาล ของที่ขายส่วนใหญ่ก็เป็ของประเภทนั้น ส่วนการบริการด้านอาหารหรือเครื่องดื่มเป็เพียงเป้าหมายรองของตลาดคริสต์มาส แต่ก็ใช่ว่าโซนของการบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มจะเป็โซนเล็กเสียทีเดียว จะถือได้ว่าเป็โซนที่กว้างพอสมควร มีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกเยอะมาก ๆ ทั้งอาหารจานหลักและขนมต่าง ๆ
"อยากได้อะไรไปตกแต่งที่บ้านก็ไปซื้อเลยนะครับ พี่ให้เธอจัดการเลย" ป๋ายพยักหน้ารับคำกรีนรัว ๆ
สำหรับการซื้อของเพื่อไปตกแต่งร้านใน่เทศกาลคริสต์มาส ปกติแล้วในทุกปี กรีนจะเริ่มออกแบบก่อน ว่าปีนี้จะจัดประมาณไหน และ้าซื้ออะไรบ้าง แต่ด้วยความที่ปีนี้กรีนได้มาซื้อของเร็วกว่าปกติ และยังไม่ได้คิดว่าจะจัดอะไรไว้ตรงไหนบ้าง ก็เลยยังไม่มีไอเดียอะไรในตอนนี้เลย ปล่อยให้คนตัวเล็กของเขาได้เลือกซื้อสำหรับตกแต่งในบ้านไปก่อน ส่วนของร้าน กรีนก็ขอเดินคิดไปเรื่อย ๆ
"พี่กรีน บ้านเราตั้งต้นไม้ที่สูงมาก ๆ แบบนั้นได้ไหมนะ? เค้าอยากได้จัง" ป๋ายที่ยืนมองต้นไม้ถามขึ้นมา
"ถ้าแบบนั้นสูงเกินไปครับ เอาเข้าบ้านเราไม่ได้นะ"กรีนตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
"ต้นข้าง ๆ ได้ไหมพี่กรีน?"
"ต้องถัดมาอีกนะ ต้นที่ 3 นับจากต้นที่ใหญ่ที่สุด"
"โอเคเลย! งั้นเค้าไปเลือกนะ"
"ได้ครับ"
กรีนส่งยิ้มให้กับแผ่นหลังของอีกคนที่กำลังวิ่งไปเลือกต้นไม้เพื่อที่จะตกแต่งในธีมคริสต์มาสที่บ้าน เห็นน้องดูตื่นเต้นและสนุกกรีนเองก็เบาใจ ทุกครั้งเวลาที่พาน้องไปไหน กรีนจะลุ้นทุกครั้งว่าน้องจะชอบหรือเปล่า สนุกหรือเปล่า และกรีนเองก็รู้สึกดีมาก ที่ทุกครั้งที่ได้ไปไหนด้วยกัน อีกคนจะสนุกกับมันเสมอ เพราะมันคุ้มค่ามากกับการนั่งคิดนั่งวางแผนในแต่ละวันของแต่ละที่ที่จะไป
"แล้วต้องเอากลับยังไงนะ? ใหญ่กว่ารถอีก" ป๋ายบ่นออกมาเบา ๆ ในขณะที่มองต้นไม้
"เดี๋ยวร้านเขาไปส่งที่บ้านให้ ไม่ต้องเอากลับเอง"
"โห ดีจัง งั้นเราก็ไปเลือกอย่างอื่นต่อได้ใช่ไหม?"
"ใช่ครับ เดี๋ยวไปเลือกของตกแต่งกัน"
"แล้วพี่กรีนไม่เลือกของที่ร้านเหรอ?" คนตัวเล็กถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะเห็นว่าั้แ่มาถึง กรีนยังไม่ได้เลือกซื้ออะไรเลย
"พี่ยังคิดไม่ออกเลยครับ ว่าจะตกแต่งแบบไหน ปกติจะคิดมาก่อน แต่วันนี้ออกมากะทันหัน ก็เลยยังไม่มีแบบเลย" ป๋ายยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา
"พี่กรีนไว้ใจเค้าไหม?"
"หื้ม?"
"เดี๋ยวเค้าจัดการเอง!"
พอกรีนเริ่มเข้าใจสิ่งที่น้องจะสื่อ ก็พยักหน้าให้ทันที ในความหมายของป๋าย ก็คืออยากจะคิดแล้วก็เลือกซื้อของเพื่อไปตกแต่งให้ร้านของกรีนด้วยตัวเอง เื่นี้เป็เื่ที่ดูสนุกมากสำหรับคนตัวเล็ก เพราะแค่บรรยากาศของวันคริสต์มาส ตัวเขาเองก็ชอบมากอยู่แล้ว ในตอนที่อยู่ที่ศูนย์ดูแล เวลามีเ้าหน้าที่มาเริ่มจัดสถานที่ให้เข้ากับเทศกาลวันคริสต์มาส ป๋ายก็มักจะไปป่วนอยู่บ่อย ๆ ตอนกลางคืนก็จะชอบไปย้ายที่ของสิ่งของต่าง ๆ ที่ถูกจัดวางไว้แล้ว เพราะตัวเขาสนุกกับการจัดและตกแต่งมาก ๆ แล้วพอได้ยินกรีนพูดแบบนั้น ความคิดในหัวก็ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ว่าอยากจะตกแต่งที่บ้านแบบไหนและอยากจะตกแต่งที่ร้านของกรีนแบบไหน
"พี่กรีนว่าแบบไหนสวย?" หลังจากเดินเลือกของไปสักพัก คนตัวเล็กก็หันมาถามความเห็นของกรีนเกี่ยวกับของตกแต่งที่มีลักษณะเหมือนกันแต่คนละสี
"แล้วแต่เธอเลย พี่ไม่รู้ว่าเธอจะตกแต่งแบบไหน เอาที่เธอว่าดีเลยครับ"
"เค้าแค่อยากให้พี่กรีนเลือกสีที่ชอบเฉย ๆ นะ"
"โอเค ๆ งั้นพี่เลือกสีทองครับ"
"โอเค!" พอได้รับคำตอบ คนน้องก็ยิ้มออกมาทันที จากนั้นก็เลือกของอีกสองสามอย่างไปชำระเงิน
"ขอโทษนะครับ พอดีอยากทราบว่าสะดวกให้ช่องทางการติดต่อไหมครับ?" ป๋ายหันไปหาต้นทางของเสียง แล้วก็พบกับชายคนหนึ่งที่มายืนอยู่ใกล้ ๆ และส่งยิ้มมา
"ไม่สะดวกน้า เค้ามีเ้านายแล้ว" ป๋ายตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
"ไม่ได้อยากจะรับเลี้ยงครับแมวน้อย ผมจะจีบ"
"จีบ?"
"เธอครับ" กรีนเดินเข้ามาโอบไหล่น้องแล้วเรียกออกมา
"คุณคือ?" ผู้ชายคนนั้นถามขึ้น
"พี่กรีนเป็เ้านายเค้าเอง" คนตัวเล็กตอบกลับไป
"อ๋า เ้านายของคนสวย คุณเ้านายพอจะสะดวกให้ผมจีบเ้าเหมียวหรือเปล่าครับ?"
"ไม่สะดวกครับ พอดีไม่ได้เป็แค่เ้านาย แต่เป็แฟนด้วย ขอตัวนะครับ"
หลังจากพูดจบ กรีนก็ดึงมือน้องให้เดินตามตัวเองออกมาทันที คนตัวเล็กถูกพามาที่โซนด้านหลังของตลาดคริสต์มาสที่มีที่นั่งรับรองผู้ที่มาใช้บริการ ถึงโต๊ะแล้วก็นั่งลง ป๋ายเองก็นั่งลงตาม
"ทำไมเธอต้องมีคนมาจีบตอนเดินตลาดตลอดเลย หื้ม?" กรีนพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดในใจ
"ขี้หวงจังเลยน้า"
"เธอยังขี้หวงพี่เลยป๋าย พี่ก็หวงเธอเหมือนกันนั่นแหละ"
"โอ๋ ๆ พี่กรีนงอแงแล้ว"
"หงุดหงิดครับ ไม่เห็นปลอกคอที่มือเธอหรือไงกัน?"
"เห็นแล้วยังไงเล่า นี่มันปลอกคอแมวนะ แมวตัวไหนก็มีทั้งนั้นแหละ"
"งั้นพี่ต้องสลักใหม่ว่ามีแฟนแล้วเลยไหมครับ ถึงจะได้ไม่มีคนมายุ่งกับเธอ"
"ไม่เอาสิพี่กรีน เขาก็แค่มาถาม ไม่ได้มาตามตื๊อเยอะ ๆ สักหน่อย ถ้าเราไม่ให้จีบก็จบแล้วไง ไม่หงุดหงิดนะ" คนตัวเล็กเปลี่ยนที่นั่งไปนั่งฝั่งเดียวกัน จากนั้นก็ซบลงที่ไหล่ของคนพี่แล้วถูไถไปมาเบา ๆ มือเล็ก ๆ ก็เลื่อนไปคอยลูบมือหนาไปด้วย
"ขอโทษครับ"
"ไม่เป็ไรเลย แต่เค้าแค่อยากให้พี่กรีนสบายใจ เค้าไม่ให้จะคนอื่นจีบนะ"
"ถ้างั้นก็อย่าพูดว่าพี่เป็เ้านายสิครับ คนอื่นเขาก็จะเข้าใจอยู่แค่นั้น พี่ไม่ได้เป็แค่เ้านายเธอเฉย ๆ นะ"
"โอ๊ะ! พี่กรีน! พี่กรีนบอกว่าเค้าเป็อะไรนะ"
"อะไรครับ?"
"พี่กรีนเรียกเค้าว่าแฟนอ่ะ"
"อ่า" พอรู้ตัวกันทั้งคู่ก็พากันนั่งหน้าแดงไม่พูดไม่จา
"เค้าเขินจัง" คนตัวเล็กมุดหน้าลงที่ไหล่ของกรีนไม่ยอมเงยขึ้นมา
"เธออย่าเขินเยอะสิครับ พี่จะเขินที่เธอเขินนะ"
"ก็เค้าเขินอ่ะ เราเป็แฟนกันอ่ะ เค้ามีแฟน" ความเคอะเขินของกรีนถูกลดลงและแทนที่ด้วยความเอ็นดูคนข้าง ๆ แทน
"แล้วเป็ไหม?"
"หื้อ?" ป๋ายเงยหน้าขึ้นมา
"เป็แฟนไงครับ พี่ยังไม่เคยขอสักหน่อย อยากเป็แฟนพี่ไหมล่ะ?"
"ฮือ ใครให้ถาม?" คนที่เพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมากลับมุดหน้าลงไปอีกครั้ง
"ก็เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่เคยขอ พี่ชอบเธอ เธอก็ชอบพี่เหมือนกัน แต่เรายังไม่มีสถานะอะไรเลยนะ ใครมาถามพี่หรือถามเธอ เราก็ตอบแบบชัดเจนไม่ได้ไง"
"เมื่อกี้พี่ยังพูดเลยว่าเราเป็แฟนกัน"
"นั่นมันสถานการณ์ฉุกเฉินนี่ครับ ถ้าพี่ไม่พูดเขาก็อาจจะไม่จบก็ได้ ถ้าเกิดพี่บอกแค่เราจีบกันอยู่เฉย ๆ ยังไม่ได้เป็อะไรกันแปลว่าเขาก็มีสิทธิ์ไง"
"ไม่มีหรอก เค้าไม่ได้ให้สิทธิ์ใครสักหน่อย ให้พี่กรีนคนเดียว"
"ตัวดื้อ ดูละครมาเยอะนะ คำพูดแต่ละอย่าง"
"เค้าพูดออกมาจากหัวใจของเค้าต่างหากเล่า"
"แล้วสรุปยังไงครับ? จะเป็แฟนพี่หรือเปล่า?" สีหน้าที่ดูเคอะเขินในตอนแรก กลับดูกังวลมากในตอนนี้
"มันได้จริง ๆ ใช่ไหม?" ป๋ายถามออกมาด้วยความลังเล
"เธอกังวลมาก ๆ เลยใช่ไหมครับ?"
"มาก ๆ ถ้าเราเป็แฟนกันแล้ว ถึงวันนั้นเราไม่ได้เจอกันแล้วล่ะพี่กรีน"
"ต้องได้เจอสิ"
"เค้าก็ไม่รู้สิ เค้าแค่กลัว เราจะได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ ใช่ไหม? แบบว่า ไม่ใช่แบบที่พี่กรีนรับเลี้ยงเค้าก็ได้ แต่หมายถึงว่าเราจะยังมีโอกาสได้มารักกันอีกใช่ไหม?"
"ตัวเล็ก" กรีนขมวดคิ้วออกมา
"ในหัวเค้ามีคำถามเต็มไปหมดเลย"
"ครับ พี่เข้าใจ เอาเป็ว่าพี่ให้เธอตัดสินใจนะ ตอนแรกพี่จะบอกให้เธอไม่ต้องสนใจวันข้างหน้า เอาแค่วันนี้ แต่พอคิดดูอีกทีแล้ว ถ้าวันนี้เราไม่คิดกับมันเยอะ ๆ วันข้างหน้าเราอาจจะเสียใจก็ได้ แต่เธอตัดสินใจแบบไหนก็ได้ พี่จะเคารพมันทั้งหมดเลย เธอจะเลือกแบบที่สนใจแค่วันนี้แล้วตกลงเป็แฟนกับพี่ หรือจะเลือกนึกถึงวันข้างหน้าด้วยแล้ววันนี้ก็ถือเสียว่าพี่ไม่ได้ขอ"
สิ่งที่กังวลหรือสิ่งที่กำลังลังเล มันไม่ใช่เื่ความรู้สึกที่มีให้กันแต่อย่างใด เพราะถ้าพูดถึงความรู้สึก ทั้งตัวกรีนและตัวป๋ายเองก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามันคือความรู้สึกแบบไหน ถ้าให้ป๋ายตอบคำถามกรีนโดยที่นึกถึงแค่ความรู้สึกอย่างเดียว ป๋ายเองก็คงจะตอบตกลงโดยที่ไม่คิดอะไรเลย แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้มันมีหลายอย่างให้ต้องคิดเยอะแยะเต็มไปหมด และหลายอย่างที่ว่ามันก็เกี่ยวกับทั้งสองคนโดยตรง เพราะฉะนั้น การตัดสินใจเื่ความสัมพันธ์ของตัวเขาและกรีนในวันนี้ มันก็คงจะส่งผลถึงอนาคตแน่นอน
เพราะทั้งคู่เองก็ไม่รู้ว่าต่อจากนี้อีกไม่กี่วันมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าหากพวกเขาโดนบังคับให้แยกกัน มันก็คงจะแย่มากถ้าความสัมพันธ์ของพวกเราพัฒนาไปแล้ว และถ้ามันต้องจบลงจริง มันก็คงจะส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์ในอนาคต ถ้าหากใครสักคนอยากจะเริ่มต้นใหม่ ป๋ายไม่ได้คิดถึงเื่นี้มาก่อน จนกระทั่งกรีนขอออกมา ซึ่งก็อย่างที่กรีนบอก ว่าไม่ว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะตัดสินใจแบบไหน เขาก็เข้าใจและยอมรับทั้งหมด
"ไปเลือกซื้อของกันต่อดีกว่าครับ ถ้าเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวคนมันจะเยอะ" พอเห็นว่าคนน้องไม่ได้พูดอะไรออกมา กรีนก็เปลี่ยนเื่คุยทันที เพราะไม่อยากจะกดดันน้อง
"พี่กรีน" ในตอนที่กรีนกำลังจะลุกขึ้นยืน ป๋ายที่นั่งอยู่ก็จับข้อมือของกรีนเอาไว้
"หื้ม?"
"เค้าขอโทษนะ"
แปลว่าป๋ายเลือกที่จะไม่ตอบตกลงในวันนี้
"ขอโทษทำไม? พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะยอมรับมันทั้งหมดเลย พี่แล้วแต่เธอเลย"
"เค้าขอโทษ"
"ป๋ายป๋าย ลุกขึ้นหน่อยเร็ว" คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนตามคำบอกของกรีน
"ฟังพี่นะครับ มันไม่เป็ไรเลย สถานการณ์ตอนนี้มันเป็ยังไงพี่กับเธอรู้ดี แล้วพี่ก็เข้าใจมาก ๆ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจแบบไหน"
"แต่พี่กรีนขอเค้า แปลว่าพี่กรีนตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สนใจวันข้างหน้าแล้วเลือกที่จะมองแค่วันนี้"
"ใช่ครับ พี่เลือกแบบนั้น แต่นี้มันเป็ความสัมพันธ์ของเราสองคน เราก็ช่วยกันตัดสินใจไงครับ จะมองแค่ฝั่งพี่ได้ยังไง แล้วความรู้สึกเธอล่ะ หื้ม?"
"แล้วแบบไหนมันถึงจะเป็ผลลัพธ์ของคำว่าช่วยกันตัดสินใจล่ะ? เราเลือกกันคนละแบบนี่" ป๋ายพูดออกมาเสียงอ่อน
"ตรงกลางของเราก็คือเราเข้าใจกันไงครับ เธอเข้าใจพี่ว่าพี่คิดยังไง พี่ก็เข้าใจเธอว่าเธอคิดยังไง ส่วนผลลัพธ์ก็คือการที่เราเข้าใจกันทั้งคู่ว่าความรู้สึกของเราตรงกัน ความสัมพันธ์เราเป็แบบไหน แค่นั้นเอง"
"แต่เราจะเรียกกันว่าแฟนไม่ได้นะ บอกใครก็ไม่ได้ว่าเราเป็แฟนกัน"
"งั้นเธอก็เป็แฟนพี่สิ"
"พี่กรีน"
"เห็นไหมครับ? เธอยังหนักใจอยู่เลย เพราะฉะนั้นเก็บเื่นี้ไว้ก่อน ยังไงเราก็ยอมรับกันทั้งคู่แล้วนี่ พี่ก็ยอมรับแล้วพี่ชอบเธอ ส่วนเธอก็ยอมรับแล้วว่าเธอชอบพี่ ความสัมพันธ์หลาย ๆ ความสัมพันธ์ มันต้องเอาเื่ความรู้สึกเป็หลักก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเรามองแค่ความรู้สึกแล้วมันจะจบนะครับ มันมีปัจจัยอีกหลายปัจจัยให้เราคิดเยอะแยะเลย ถ้าสมมุติว่าเราโดนสั่งให้แยกกันจริง ๆ ถึงเราจะรักกันมากแค่ไหน เราก็คงทนไม่ได้ที่จะไม่ได้เจอกัน สุดท้ายก็อาจจะต้องจบความสัมพันธ์กันไป เข้าใจที่พี่จะบอกไหม? ที่เธอทำมันถูกแล้ว เธอเก่งมาก ๆ ที่มองมันได้กว้างขนาดนี้"
"พี่กรีนก็เก่งที่เข้าใจเค้าได้มากขนาดนี้"
"เอาเป็ว่าวันนี้เราสองคนเก่งกันมาก ๆ แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องโทษใครเลย โอเคไหมครับ?"
"เค้าโอเค"
สุดท้ายแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งกรีนและป๋าย มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ความรู้สึกของทั้งสองคน มีปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้การตัดสินใจมันยากขึ้น มีเื่ให้ต้องคิดเยอะขึ้น ตัวกรีนที่ตัดสินใจจะปล่อยวางในตอนแรก กลับเป็คนที่อยากมีคำในความสัมพันธ์ที่ชัดเจน ส่วนตัวป๋ายที่ตัดสินใจที่จะโฟกัสแค่ตอนนี้ พอถึงเวลากลับคิดถึงอนาคตเยอะแยะมากมาย
แต่ยังไงก็แล้วแต่ สิ่งที่มันชัดเจนในใจของทั้งคู่ ก็คือความรู้สึกที่มีให้กันในตอนนี้ ความรักที่ดูเหมือนจะใช้เวลานิดเดียวในการสร้างมัน แต่ในคำว่าเวลานิดเดียวที่ว่า มันนับเป็เวลาหลายล้านวินาที เวลาหลายล้านวินาทีที่เดินมาเรื่อย ๆ มันก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกผูกพันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับคนที่เรียกได้ว่ามาเติมเต็มชีวิตให้กันแล้ว ระยะเวลาเช่นนี้มันไม่ได้เรียกว่าน้อยเลย อาจจะยังไม่ถึงปีหรือครึ่งปี แต่ก็เต็มที่กับตัวเองมาก ๆ แล้ว ใช้มันได้คุ้มค่ามากแล้ว
ซึ่งสำหรับกรีนและป๋ายแล้ว ระยะเวลามันไม่ได้เกี่ยวข้องเลย เพราะไม่ว่าจะ 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน หรือเป็ปี มันขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันได้คุ้มมากแค่ไหน ใน 1 วัน 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือนนั้น เราสามารถใช้มันได้โดยที่นึกย้อนกลับมาแล้วไม่เสียดายได้หรือเปล่า แน่นอนว่ากรีนและป๋ายทำมันได้ เพราะฉะนั้น การมาเจอกันครั้งนี้ มันเลยกลายเป็สิ่งที่เขาทั้งคู่อยากจะจดจำมันไปนาน ๆ
"เธอรู้ใช่ไหมว่าพี่รักเธอ?"
"เค้ารู้"
"แล้วพี่กรีนรู้ใช่ไหมว่าเค้ารักพี่กรีน?"
"พี่รู้ครับ"
แค่นั้นก็พอแล้ว