โรงเรียนSS SCHOOLนานาชาติ
12:00น.
เ้าหญิง อัยย์ญาดา...
“เ้าหญิง!”เสียงของมินิทำให้ฉันสะดุ้งใรีบหันกลับไปมองหน้าเธออย่างไว
“มินิ?”ฉันเอ่ยชื่อเธอพร้อมกับหัวใจที่ล่วงลงตาตุ่มของฉันเพราะกลัว กลัวว่ามินิจะรู้ว่าฉันกำลังจะหนีออกนอกโรงเรียน ซึ่งปกติฉันไม่เคยทำตัวเหลวไหลแบบนี้เลย
“เธอจะไปไหนเหรอ?”มินิเดินเข้ามาหาฉันพลางเอ่ยถามฉัน ฉันก็ทำสีหน้าเลิกลั่กใส่เธอ ฉันไม่รู้จะตอบเธอยังไงดี
“มาทำอะไรตรงประตูทางออกของโรงเรียนเหรอ?”มินิเอ่ยถามฉันมาพลางชี้มือไปยังบานประตูบานเล็กที่เป็บานเหล็กที่ถูกเปิดอยู่เป็ประจำแต่ก็ไม่ค่อยมีเด็กนักเรียนใช้ช่องทางนี้ออกจากโรงเรียนหรอกเพราะว่าตรงนี้กว่าจะมาได้ต้องผ่านฝูงสุนัขพันธุ์ดุจำนวนสิบตัวซะก่อน แต่บังเอิญว่าฉันสนิทกับสุนัขพวกนั้นเลยสามารถเดินผ่านมายังตรงนี้ได้อย่างสบาย
“คือเรา เรา”ฉันเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงกระตุกกระตักเพราะฉันโกหกไม่เป็และไม่อยากโกหกด้วย
ตื๊ดดดดด(เสียงโทรศัพท์เข้า)
“แปปรับโทรศัพท์แปป”มินิเอ่ยขึ้นพร้อมชูวโทรศัพท์เครื่องหรูของเธอที่ปรากฏชื่อคุณแม่ของเธอ
“จ๊ะ^_^”ฉันตอบเธอไป มินิก็ยิ้มให้ฉันและหันให้ความสนใจกับโทรศัพท์ของเธอต่อและพร้อมกับกดรับสายคุณแม่ของเธอ เธอคุยกับเเม่ของเธออย่างเคร่งเครียด โดยที่เธอไมาได้สนใจฉัน ฉันจึงใช้จังหวะนั้นค่อยๆก้าวขาของฉันถอยหลังไปอย่างช้าๆและเรื่อยๆพยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเท่าที่ทำได้
“วู้วววววว”ฉันชูปากอย่างโล่งใจที่เดินออกมาจากตรงนั้นได้โดยปลอดภัย
พรึบ
“อื้ออออออ”ฉันเบิกตาโตขึ้นด้วยความใที่อยู่ดีๆก็มีมือของใครไม่รู้มาปิดปากฉันจากทางข้างหลังพร้อมกับเอาแขนอีกข้างมาล็อคตัวฉันไม่ให้หนีไป ฉันก็ดีดดิ้นตัวให้หลุดออกจาคนปริศนานี้แต่ก็ไม่เป็ผล
“ชู้วววว ผมเองครับ หมอแทน”เสียงอันคุ้นหูกระซิบบอกฉันที่ข้างหู ทำให้ฉันหลุดดิ้นรนมือทั้งสองข้างที่ทุบตีท่อนแขนแกร่งหยุดชะงักลง
“คุณหมอแทนเล่นอะไรค่ะเนี่ย”ทันทีที่คุณหมอแทนปล่อยฉันให้เป็อิสระฉันก็หันไปถามเขาแทบจะทันที หัวใจของฉันเกือบจะวายเพราะใ
“ผมขอโทษครับที่ทำให้ใ เพียงแค่ว่าผมอยากจะช่วยน้องหญิง”หมอแทนเอ่ยบอกฉันด้วยนำ้เสียงแ่เบาและเขาก็ชำเลืองหางตามองไปยังประตูหลังของโรงเรียนที่ฉันเพิ่งจะหนีออกมา
“ผมขอโทษนะครับที่ทำให้น้องหญิงต้องทำแบบนี้”
“ไม่เป็ไรหรอกค่ะ น้องหญิงไม่มีเรียนพอดีแต่ทางโรงเรียนเขาไม่อนุญาตให้เด็กๆออกนอกโรงเรียนนะคะ”ฉันตอบคุณหมอไปและพลางมองการแต่งตัวที่แปลกตาของหมอแทนที่ฉันไม่เคยพบเห็น เขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีกางเกงรัดรูปสีดำรองเท้าผ้าใบสีขาวแว่นตาดำที่เขาใส่อยู่อีก ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน^_^(มาเป็เพลง)
“ผมรู้สึกผิดจัง”หมอแทนมองหน้าฉันพร้อมกับค่อยๆยื่นมือไปหยิบแว่นกันแดดออกและเขาก็เดินมาหาฉัน
“แต่ผมก็ยอมเห็นแก่ตัว”คุณหมอแทนเอ่ยขึ้นคำพูดของเขานำ้เสียงและเเววตาของเขาสื่อมาที่ฉันอย่างมีความหมาย ฉันก็มองหน้าเขาอย่างสงสัยว่าเขาหมายถึงอะไรที่ว่าเขายอมเห็นแก่ตัว
“เพราะถ้าผมไม่ทำแบบนี้ น้องหญิงกับผมคงไม่มีโอกาสได้เจอกันและไปเที่ยวด้วยกัน”หมอแทนยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้พลางยิ้มบางๆให้ฉัน
“ถ้าการที่ทำให้ผมได้อยู่กับน้องหญิงมันเป็การทำให้คนอื่นมองผมเป็คนเห็นแก่ตัว ผมก็ยอมเป็ครับขอแค่ผมได้อยู่ใกล้ๆน้องหญิงแบบนี้ก็พอ^_^”คุณหมอแทนเอ่ยขึ้นพลางคลี่ยิ้มละมุนมาให้ฉัน ฉันก็ยิ้มให้เขาอย่างเขินๆ
“น้องหญิงพร้อมที่จะผจญภัยไปพร้อมกับผมรึยังครับ?”หมอแทนเอ่ยขึ้นพลางหันข้างไปทางข้างหลังเขา ฉันก็มองตามเขาไป ก็พบกับรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สีดำที่จอดอยู่ตรงริมฟุตบาท
“นั้นคืออะไรเหรอคะ?”ฉันชี้นิ้วไปที่รถเครื่องคันใหญ่และหันหน้ากลับมาเอ่ยถามหมอแทน หมอแทนก็ยิ้ม
“นั่นคือลูกชายสุดที่รักของผมเองครับ^_^”หมอแทนตอบฉันพร้อมกับยิ้มกว้างแววตาเป็ประกาย
“เราไปดูใกล้ๆกันเถอะครับ”
“ค่ะ”ฉันตอบหมอแทนไปเขาก็จับมือพาฉันเดินไปยังรถเครื่องคันใหญ่ทันที
“มันคือลูกชายของผมและเป็ตัวแทนที่พ่อของผมเหลือไว้ให้ดูต่างหน้าครับ”หมอแทนเอ่ยขึ้นทันทีที่เราเดินมาหยุดอยู่ตรงรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขาแล้ว
“เพียงอย่างเดียวที่ผมเหลือคือมัน”เขาเอ่ยขึ้นอีกนำ้เสียงของหมอแทนฟังดูเศร้า ฉันจึงบีบมือเขาเบาๆเพื่อให้กำลังใจเขา
“คุณหมอ”ฉันเอ่ยเรียกเขาด้วยความเป็ห่วงเพราะคุณหมอแทนบีบมือฉันกลับเเรงมากแต่ก็แค่แปปเดียวเพราะเขาผ่อนแรงลงไปแล้ว
“ผมขอโทษครับที่บีบมือน้องหญิงแรงไป”
“ไม่เป็ไรค่ะ^_^”ฉันตอบเขาไปพลางยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน
“ก่อนที่คุณหมอแทนจะพาน้องหญิงไปเที่ยวน้องหญิงขอไปที่หนึ่งก่อนได้ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามหมอแทนไปทันที เขาที่หันไปหยิบหมวกกันน็อคก็หันมามองฉันพลางเลิกคิ้วอย่างนึกสงสัย
“ก็ได้ครับ ไม่มีปัญหาสำหรับน้องหญิง^_^”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ^^”ฉันเอ่ยขอบคุณหมอแทนไปและยิ้มขึ้นมาพลางมองการกระทำของหมอแทนที่หยิบหมวกกันน็อคมาสวมใส่ให้ฉัน
“ใส่เสื้อของผมนะครับ แดดร้อนเดี๋ยวผิวของน้องหญิงจะโดนแดดทำให้ผิวสวยๆของน้องหญิงเสีย”หมอแทนเอ่ยขึ้นพลางยื่นเสื้อเเจ๊คเก็ตหนังสีดำที่เขาหยิบมาจากใต้เบาะระมาให้ฉัน
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”ฉันขอบคุณหมอแทนไปพลางหยิบเสื้อมาสวมทับชุดนักเรียนของฉันทันที
“นี่เอาปิดกระโปรงนะครับ”หมอแทนเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาได้ถอดเสื้อนอกหนังเเเจ๊คเก็ตที่เขาสวมอยู่ออกและยื่นมาให้ฉัน
“อ๋อค่ะ”
“ครับ^_^”หมอแทนยิ้มให้ฉันและเขาก็ขึ้นคร่อมรถเครื่องของเขาอย่างทะมัดทะเเมง
“ขึ้นเลยครับน้องหญิง”หมอแทนเปิดกระจกหมวกกันน็อคมาเอ่ยบอกฉันและชี้มือไปที่ข้างหลังของเขาที่เป็ที่นั่งสำหรับคนซ้อนท้าย
“คะค่ะ”ฉันตอบคุณหมอแทนไปด้วยนำ้เสียงกระกุกกระกักเพราะฉันไม่เคยนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์มาก่อนเลยน่ะสิ ฉันเดินไปยังมอเตอร์ไซค์ของหมอแทนด้วยขาสั่นๆ หมอแทนก็มองฉัน
“น้องหญิง ผมทำให้น้องหญิงต้องลำบากใจรึป่าวครับ?”หมอแทนเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงเป็กังวล ฉันจึงมองไปยังหมอแทน
“ไม่เลยค่ะ น้องหญิงไม่ลำบากอะไรเลย เต็มใจด้วยซำ้ค่ะ^_^”ฉันพูดรัวเร็ว และเดินไปยังข้างรถมอเตอร์ไซค์ของหมอแทนอย่างไว สูดหายใจเข้าปอดลึกๆๆสามสี่ทีและหันไปยิ้มให้หมอแทน หมอแทนก็ยิ้มให้ฉัน
“แน่ใจนะครับ?”
“แน่ใจค่ะ^_^”
“จับไหล่ผมครับและค่อยๆเอาเท้าเหยียบไปตรงนี้และดีดตัวขึ้นมาเลยครับ”หมอแทนอธิบายให้ฉันขึ้นยังไง เหยียบอะไรซึ่งฉันก็ไม่ค่อยจะเข้าใจแต่ฉันก็ยอมทำตามที่เขาบอก และที่สำคัญคือรถของหมอแทนสูงมากและใหญ่มากจนฉันรู้สึกกล้าๆกลัวๆเกร็งๆๆยังไงไม่รู้
พรึบ
“อื้อ”
“เก่งมากครับ^_^”หมอแทนเอ่ยชมฉันเมื่อฉันสามารถขึ้นมานั่งซ้อนท้ายเขาได้เป็ที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ฉันนั่งท่านั่งข้าง โดยใช้เสื้อของหมอแทนคลุมขาฉันไว้เพื่อไม่ให้กระโปรงของฉันเปิด
“โอเคนะครับน้องหญิง?”หมอแทนเอ่ยถามฉัน ฉันก็ชะโงกหน้าไปมองเขา
“โอเคค่ะ”
“ครับ เรามีเวลากี่ชั่วโมงครับ?”หมอแทนเอ่ยถามฉันอีก
“เวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”หมอแทนเอ่ยขึ้นอีก ฉันก็ยิ้มและเข้าใจในคำถามที่เขาถามฉัน ว่าเรามีเวลากี่ชั่วโมง ตอนนี้เที่ยงตรงและฉันต้องกลับมาให้ทันเวลาที่พี่ชายมารับคือสี่โมงเย็น
“สี่ชั่วโมงค่ะแต่คุณหมอช่วยพาน้องหญิงไปที่วัดก่อนนะคะ^_^”ฉันตอบหมอแทนไป
“ได้เลยครับ สี่ชั่วโมงที่มีค่าสำหรับผม^_^”หมอแทนเอ่ยขึ้นพลางยื่นมือของเขามาจับมือฉันให้ไปกอดเอวเขาไว้
“กอดเอวผมแน่นๆๆนะครับเ้าหญิง^_^”หมอแทนเอ่ยขึ้นพร้อบกับรอยยิ้มกว้าง ฉันก็ยิ้มให้เขาและยื่นมืออีกข้างไปกอดเอวของเขา
ปรื้นนนนนน
หมอแทนบิดคันเร่งรถจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ปรื้นนนนน
“ไปเล้วนะครับ”หมอแทนะโถามฉันแข่งกับเสียงท่อรถของเขาที่ดังคำราม
“ค่ะ!!”ฉันะโตอบกลับหมอแทนไป เขาก็ยื่นมือมาปิดกระจกหมวกกันน็อคและเริ่มบิดคันเร่งและใส่เกียร์จนล้อทั้งสองล้อค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆและเริ่มเร็วขึ้นตามลำดับ
“อื้อออ”ฉันกัดริมฝีปากแน่นและร้องอยู่ในลำคะ ทั้งตื่นเต้นทั้งหวาดเสียวและสนุกไปในตัว หมอแทนเริ่มซอกแซกปาดไปปาดมาตามท้องถนนเพื่อหลบหลีกรถยนต์คันใหญ่คันโตไปตามทาง ฉันไม่กล้าดูเพราะฉันกลัวหมอแทนขี่รถคันนี้ล้ม ฉันจึงซบหน้าไปกับแผ่นหลังกว้างของหมอแทนเพื่อไม่อยากมองวินาทีหวาดเสียวที่เขาปาดหน้ารถลรรรทุกขนาดใหญ่และหลบหลีกเปลี่ยนเลนอย่างผู้เชี่ยวชาญ มือของฉันก็กอดเอวหมอแทนแน่น ใจของฉันเต้นตึกตักด้วยความหวาดเสียวและตื่นกลัว เกิดมาฉันไม่เคยได้นั่งรถมอเตอร์ไซค์เลยสักครั้ง นี่เป็ครั้งแรกเลย
ปรื้นนนนน บรึ้มมมมมมม
เสียงคำรามของท่อรถมอเตอร์ไซค์ของหมอแทนยังคงคำรามอยู่ นี่ขนาดฉันใส่หมวกกันน็อคแล้วน่ะเนี่ย ยังได้ยิน ฉันไม่รู้ว่าหมอแทนกำลังจะพาฉันไปที่วัดไหน แต่ฉันอยากจะพาเขาไปเข้าวัดเพื่อทำจิตใจให้สงบฉันไม่อยากให้หมอแทนจมอยู่กับความทุกข์ ถึงมันจะเป็เื่อยากที่จะไม่ให้เขาคิดถึงคุณพ่อของเขาแต่ฉันก็ไม่อยากเห็นเขาทุกข์ ฉันอยากให้เขามีความสุขกับเวลาที่เหลือของเขามากกว่า อย่าไปจมปรักกับอดีตเลย อดีตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ฉันสงสารเขาจัง ถึงฉันจะไม่เคยรู้เื่ของเขา แต่ฉันอยากจะบอกเขาว่าไม่ว่ายังไง ฉันจะคอยให้กำลังใจเขาอยู่ข้างๆแบบนี้ตลอดไป แต่เขาจะยอมให้ฉันอยู่ข้างๆเขารึป่าวน่ะ นั่นแหละที่ฉันเป็ห่วงและคิดมาก