“เ้าถือดีอะไรมาสั่งให้ข้าลงไป” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยชา คนพวกนี้ช่างหยิ่งยโสกันจริงๆ ไม่ว่าใครก็ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ทุกคนล้วนดูถูกหลินเฟิงทั้งนั้น
หลินเฟิงอยากจะรู้นักว่า คนเหล่านี้มีคุณสมบัติอะไรถึงได้มาดูแคลนเขา อาศัยอะไรมาเหยียดหยามเขา???
“ข้าถือดีอะไรนะเหรอ?” ป๋ายหยวนฮ่าวกระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะกล่าวเสียดสีไปว่า “เ้าก็แค่ตัวเบี้ยที่ถูกใช้ให้มาเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ พูดกันตรงๆ ก็เป็แค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น แล้วสุนัขอย่างเ้ากล้าดียังไงมาถามข้าว่าข้าถือดีอะไร?”
“ชิวหลัน คนที่เ้าเลือกก็ดูไม่เท่าไรเลยนี่ ความแข็งแกร่งก็งั้นๆ แถมยังไม่เชื่องอีกต่างหาก”
ชิวหลันส่ายหน้าพลางยิ้มอย่างจนใจแล้วพูดว่า “ตั๋วมิ่ง อย่าต่อต้านพี่ชายของข้าเลย เ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ลงมาเถอะ”
“พี่ชาย?” ในใจของทุกคนพลันสั่นสะท้าน เด็กหนุ่มผู้แสนเย่อหยิ่งที่โผล่ขึ้นมากะทันหัน เป็พี่ชายของชิวหลันอย่างนั้นเหรอ
“ข้ามาเข้าร่วมงานชุมนุมในครั้งนี้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่มาเพราะใคร” หลินเฟิงกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าจะเป็คู่ต่อสู้ของเขาได้หรือไม่นั้นเ้าตัดสินเร็วเกินไป”
“หึๆ คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าสถานที่เล็กๆ อย่างเมืองหยางโจว จะยังมีคนใจกล้าพูดแบบนี้กับข้า ชิวหยวนฮ่าว ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้านัก”
“ชิวหลัน ชิวหยวนฮ่าว ล้วนแล้วแต่แซ่ชิว” น่าหลันซยงที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็พึมพำกับตัวเองเบาๆ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ฉายแววใขึ้นมา
“เ้าเดาถูกแล้ว ข้าแซ่ชิว ข้ากับชิวหลันต่างก็เป็รุ่นเยาว์ของตระกูลชิวแห่งหยางโจว ตระกูลที่ถูกเ้าฆ่าล้างบางทั้งตระกูลในคืนนั้น” ดวงตาของชิวหยวนฮ่าวทอประกายอาฆาตแค้นขึ้นมา เขามองไปที่น่าหลันซยงด้วยสายตาเ็า
“ในปีนั้น สมาชิกทุกคนของตระกูลชิวต่างมีพร์ที่สูงมาก และมีจิติญญาที่แข็งแกร่ง ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วตระกูลของข้าก็จะกลายเป็ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหยางโจว แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าท่านเ้าเมืองน่าหลันซยงจะเป็คนต่ำทราม ด้วยความกลัวว่าตระกูลชิวของข้าจะแข็งแกร่งเหนือกว่าตระกูลน่าหลัน เ้าจึงตัดสินใจฆ่าล้างบางตระกูลชิวในคืนหนึ่ง สมาชิกทุกคนของตระกูลชิวเกือบจะต้องตกตายไปทั้งหมด หนี้เืนี้เ้าคงจำได้นะ”
“ตูม!”
หัวใจของทุกคนพลันสั่นะเืไปชั่วขณะ ที่แท้ชิวหลันกับชิวหยวนฮ่าวก็เป็ลูกหลานของตระกูลชิวแห่งหยางโจว
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็เคยได้ยินเื่ราวของตระกูลชิวมาก่อน ตระกูลชิวมีจิติญญากายาทองคำที่แข็งแกร่งมาก ปีนั้นตระกูลชิวเป็เหมือนดาวหางที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า ไร้ซึ่งผู้ต้านทาน แต่ทว่าใน่เวลาอันรุ่งโรจน์ของตระกูลชิว จู่ๆ พวกเขาก็หายตัวไปจากเมืองหยางโจวอย่างไร้ร่องรอย บางคนเดาว่าตระกูลชิวย้ายไปอยู่ที่เมืองอื่น บางคนก็เดาว่าตระกูลชิวคงถูกฆ่าล้างตระกูล
และที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ ตระกูลชิวถูกฆ่าล้างบางโดยคฤหาสน์ท่านเ้าเมือง นอกจากนี้พวกเขายังทำลายหลักฐานทั้งหมดจนเกลี้ยง
หน้าอกของน่าหลันซยงกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ความโกรธเกรี้ยวแล่นพล่านไปทั่วร่าง กระทั่งดวงตายังทอประกายสังหารออกมา เขาคาดไม่ถึงเลยว่ายังจะมีลูกหลานของตระกูลชิวเหลือรอดมาได้
“ทำไม หรือคิดจะฆ่าปิดปาก?” ชิวหยวนฮ่าวหัวเราะในลำคออย่างเยือกเย็น ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “น่าหลันซยง ข้าแนะนำเ้าบางอย่างนะ อย่ายั่วโมโหข้าจะดีกว่า ถ้ายังอยากให้ตระกูลน่าหลันของเ้าอยู่รอดไปอีกสักพัก เพราะอีกไม่นานข้าจะกลับมาแก้แค้นตระกูลน่าหลันด้วยตัวเอง มิฉะนั้นตระกูลน่าหลันของเ้าอาจจะถูกลบออกจากเมืองหยางโจวพรุ่งนี้”
“งั้นหรือ ข้าเองก็อยากจะเห็นนักว่าเ้าจะลบตระกูลน่าหลันของข้าออกจากเมืองหยางโจวอย่างไร” น่าหลันซยงแสยะยิ้มออกมา
“ท่านพ่อ” ตอนนี้เองน่าหลันเฟิงก็ะโเรียกบิดาออกมาเสียงดัง ก่อนจะส่ายหน้าเพื่อส่งสัญญาณห้ามน่าหลันซยง ทำให้ทุกคนพากันตื่นใขึ้นมา ดูเหมือนว่าที่ชิวหยวนฮ่าวพูดจะไม่ใช่เื่โกหก ภูมิหลังของเขาต้องยิ่งใหญ่มากแน่ๆ มิฉะนั้นน่าหลันเฟิงคงไม่กลัวจนหัวหดแบบนี้
“ป๋ายหยวนฮ่าว ข้าไม่เชื่อว่าเ้าจะกล้าสังหารข้า” น่าหลันเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเ็า
“ไม่กล้าสังหารเ้า เหอะ ขนาดฉีกหน้าเ้า ข้าก็ทำมาแล้ว กะอีกแค่สังหารเ้าทำไมข้าจะไม่กล้า วันนี้ที่ข้ามายังเมืองหยางโจวก็เพื่อฟื้นฟูตระกูลชิว และทำให้ทุกคนได้รู้ว่าตระกูลน่าหลันของเ้ามันจิตใจสกปรกแค่ไหน สักวันหนึ่งข้าจะกลับมาที่เมืองหยางโจวอีกครั้งและทำลายตระกูลน่าหลันของเ้าให้ย่อยยับ”
จากนั้นชิวหยวนฮ่าวก็กล่าวอย่างโอหังว่า “สามคนนี้น่ะเหรอ? อัจฉริยะของเมืองหยางโจว ตลกสิ้นดี”
“เ้ามีความแค้นกับใครก็ไปจัดการกับคนคนนั้น แต่อย่าใช้ข้าเป็หินรองเท้าเพื่อเหยียบขึ้นไป” หลินเฟิงคิดในใจอย่างเงียบๆ ก่อนจะจ้องไปยังชิวหยวนฮ่าวแล้วกล่าวว่า “หลังงานชุมนุมจบ เื่ของเ้า ไม่เกี่ยวกับข้า”
“ไอ้หน้าโง่ เ้าคิดว่าตัวเองเป็ใครกัน? ข้า ชิวหยวนฮ่าว ถ้าอยากจะฆ่าใครก็ฆ่าทันที เป็แค่สุนัขแท้ๆ แต่กลับกล้ายโสโอหังต่อหน้าข้างั้นหรือ ได้! ในเมื่อเ้าไม่ไสหัวไป งั้นก็อยู่ที่นี่ตลอดกาลเลยก็แล้วกัน!!!” ชิวหยวนฮ่าวแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“สุนัข? อยากจะฆ่าใครก็ฆ่า?” หลินเฟิงลอบส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ชิวหลันกับชิวหยวนฮ่าวมีหนี้แค้นกับตระกูลน่าหลัน ตัวเขาเองก็เข้าใจถึงความแค้นของอีกฝ่าย ดังนั้นหลินเฟิงจึงให้เกียรติพวกเขา แต่ทว่าชิวหยวนฮ่าวกลับเย่อหยิ่งจนมองไม่เห็นหัวใคร มิหนำซ้ำยังพูดจาดูถูกเหยียดหยามหลินเฟิงตลอดเวลา ในเมื่อเป็แบบนี้หลินเฟิงก็ไม่จำเป็ต้องเห็นใจชิวหยวนฮ่าว
“อัจฉริยะของเมืองหยางโจว? หึ! วันนี้ข้าจะทำให้ทุกคนเห็นว่าพวกเ้าทั้งหมดเป็ได้แค่สวะ!!!” สิ้นประโยคของชิวหยวนฮ่าว เขาก็ปลดปล่อยจิติญญาแห่งนักรบออกมา ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เปล่งแสงสว่างสีทองดุจดวงอาทิตย์ ยิ่งมีแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ ก็ยิ่งทำให้ร่างของเขาเจิดจ้ามากขึ้น เมื่อเทียบกับจิติญญาแขนเทวะสีทองของน่าหลันเฟิงแล้ว จิติญญาตนนี้ดูโดดเด่นกว่าหลายเท่า
“หรือนี่จะเป็... จิติญญากายาทองคำ ดูร้ายกาจนัก” ฝูงชนพากันตกตะลึงขึ้นมา
ร่างกายของชิวหยวนฮ่าวตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็ทองคำทั้งหมด ไม่ว่าจะหอกหรือดาบก็ไม่อาจแทงเข้า
“น่าหลันเฟิง เห็นเ้าโม้ว่าตัวเองเป็อัจฉริยะ ทั้งยังทำตัวจองหอง โอ้อวดว่ามีจิติญญาแขนเทวะสีทอง ถ้าอย่างนั้นลองรับมือกับข้าดูไหม”
เมื่อชิวหยวนฮ่าวทะยานร่างขึ้นไปบนอากาศ ร่างกายของเขาก็ยิ่งเปล่งแสงสว่างสีทองเจิดจ้า ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวตนของเขานั้นอยู่ยงคงกระพัน
ทันทีที่เขาะโลงมายืนบนเวที ทั่วทั้งเวทีก็พลันสั่นะเืขึ้นมา แม้แต่ผู้ชมที่อยู่รอบๆ ก็รู้สึกได้ว่าชิวหยวนฮ่าวแข็งแกร่งขนาดไหน
“กายาทองคำไร้พ่าย”
ชิวหยวนฮ่าวะโออกมาอย่างฮึกเหิม ก่อนจะปล่อยหมัดไปที่น่าหลันเฟิง
กายาทองคำไร้พ่าย เป็เคล็ดวิชาที่ชิวหยวนฮ่าวได้รับโดยบังเอิญ ซึ่งเป็เคล็ดวิชาระดับลี้ลับ นอกจากนั้นเคล็ดวิชานี้ยังช่วยส่งเสริมจิติญญากายาทองคำของเขา ทำให้พลังโจมตีแข็งแกร่งมาก ชิวหยวนฮ่าวใช้เคล็ดวิชานี้ในการสังหารผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันมานับไม่ถ้วน
“กำปั้นพระเ้า” เมื่อน่าหลันเฟิงเห็นชิวหยวนฮ่าวโจมตีตัวเอง ก็ปล่อยหมัดออกไปต้านรับ นางไม่เชื่อหรอกว่าจิติญญาแขนเทวะสีทองจะด้อยกว่าจิติญญากายาทองคำของอีกฝ่าย!
“ตูม ตูม...”
เมื่อความแข็งแกร่งปะทะกัน อากาศที่อยู่รอบๆ ก็พลันสั่นไหวขึ้นมา ระหว่างหมัดสีทองมีกระแสอากาศสีขาวพวยพุ่งออกมา กลายเป็คลื่นลมอันรุนแรงม้วนตัวอยู่ในอากาศ
“ข้าจะบดขยี้เ้า”
ทันใดนั้นแสงสีทองบนร่างของชิวหยวนฮ่าวก็เปล่งประกายเจิดจ้าออกมา พร้อมพลังอันไร้เทียมทานที่ปรากฏขึ้นมาบนหมัดของเขา ทำให้น่าหลันเฟิงกรีดร้องด้วยความเ็ป และถอยหลังไปหลายสิบก้าวถึงจะตั้งตัวได้
ทุกคนเห็นน่าหลันเฟิงหอบหายใจถี่รัวด้วยความเหนื่อยอ่อน และเมื่อหันไปมองชิวหยวนฮ่าว ที่บนใบหน้ายังคงปรากฏรอยยิ้มเย่อหยิ่งออกมา ลมหายใจไม่มีผันผวน ทั้งยังมั่นคงก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ
น่าหลันเฟิง อัจฉริยะผู้แสนเย่อหยิ่งของเมืองหยางโจว พออยู่ต่อหน้าชิวหยวนฮ่าวก็ไม่อาจรับมือเขาได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว
“แม้แต่กำปั้นพระเ้าก็ไม่ใช่คู่มือของเขา กายาทองคำไร้พ่ายแข็งแกร่งมาก”
กำปั้นพระเ้ามีชื่อเสียงมากในด้านพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง แต่จิติญญากายาทองคำและกายาทองคำไร้พ่ายของชิวหยวนฮ่าว กลับทรงพลังกว่าหลายเท่า
“น้ำหน้าอย่างเ้าก็คงเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะได้แค่เมืองเล็กๆ อย่างหยางโจวเท่านั้นแหละ” ชิวหยวนฮ่าวกล่าวดูแคลนออกมา จากนั้นก็หันมามองหลินเชียนและหลินเฟิง
“พวกเ้าสองคนรีบไสหัวขึ้นมาซะ ถ้าข้าไม่สั่งสอนสุนัขอย่างพวกเ้าให้รู้จักคำว่า ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ พวกเ้าก็คงไม่เข้าใจว่าอัจฉริยะที่แท้จริงมันเป็อย่างไร”
ชิวหยวนฮ่าวไม่ใช่แค่ยโสธรรมดาแต่ยังบ้าระห่ำอีกด้วย ในสายตาของเขานั้น อัจฉริยะในเมืองหยางโจวก็ไม่ต่างอะไรกับขยะ แต่ทว่าการที่ชิวหยวนฮ่าวสามารถเอาชนะน่าหลันเฟิงเพียงกระบวนท่าเดียว มันก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเขามีคุณสมบัติมากพอที่จะอวดดี
“นี่สิถึงจะเรียกว่าอัจฉริยะ และเป็ผู้มีพร์อย่างแท้จริง” ในสายตาของทุกคน ชิวหยวนฮ่าวแข็งแกร่งและไร้เทียมทาน พวกเขาต่างมองไปที่ชิวหยวนฮ่าวด้วยความนับถือและอดไม่ได้ที่จะะโเรียกชื่อชิวหยวนฮ่าวออกมา
ทวีปเก้า์ ผู้แข็งแกร่งจะได้รับความเคารพ ดังนั้นทุกคนจึงสรรเสริญเฉพาะผู้แข็งแกร่งเท่านั้น
“แล้วเ้าล่ะเป็อะไร? คงไม่ได้มาที่เมืองหยางโจวเพื่อเล่นจำอวดหรอกนะ?”
ทันใดนั้นหลินเฟิงก็พูดแทรกขึ้นมา ทำให้ทุกคนอ้าปากตาค้างด้วยความตกตะลึง เด็กคนนี้ใจกล้าเกินไปแล้ว กระทั่งชิวหยวนฮ่าวก็ยังกล้าดูถูก
ชิวหยวนฮ่าวมองหลินเฟิงด้วยหางตา ก่อนจะกล่าวยั่วยุว่า “ดูเหมือนว่าเ้าจะพอมีฝีมืออยู่บ้างนี่ ช่างเถอะก็แค่สุนัข ครั้งนี้ข้าจะไม่สังหารเ้า แต่จะทำให้เ้าตายทั้งเป็ และจะทำลายปากเหม็นๆ ของเ้าทิ้งซะ”
“คำก็สุนัขสองคำก็สุนัข ดูเหมือนว่าเ้าจะคุ้นเคยกับการเป็สุนัขนะ” หลินเฟิงหัวเราะเยาะออกมาเบาๆ ถึงแม้ว่าเคล็ดวิชาและจิติญญาของชิวหยวนฮ่าวจะแข็งแกร่ง แต่ทว่าระดับการบ่มเพาะของเขาก็แค่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 1 เท่านั้น ไม่อย่างนั้นแล้วหมัดนั่นคงไม่ทำได้แค่ผลักให้น่าหลันเฟิงถอยหลังไปเฉยๆ แบบนี้แน่
“แกตาย” ชิวหยวนฮ่าวตวาดออกมาอย่างโมโห เขาชอบเรียกคนอื่นว่าสุนัข แต่กลับเกลียดคนที่เรียกเขาว่าสุนัขที่สุด เงาร่างบนเวทีพุ่งทะยานไปทางหลินเฟิงพร้อมะเิแสงสว่างสีทองออกมา
