จุนห่าวเห็นว่า หานรุ่ยกับจุนเช่อหายไปสามวันแล้ว ยังไม่กลับมา ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย คอยตั้งตารออยู่ในบ้านกับจุนฟาน ก่อนที่จะเข้าป่า หานรุ่ยได้บอกกับเขาว่า คงไม่ได้ไปแค่วันสองวัน เพราะต้องรอยาออกฤทธิ์ก่อน แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะไปนานขนาดนี้ ตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่สี่แล้ว ใบสั่งยาของจุนห่าวได้ปรับปรุงจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว หากหานรุ่ยยังไม่กลับมา เขาตั้งใจว่าจะเข้าป่า เพื่อตามหาหานรุ่ย
จุนฟานเดินวนไปวนมารอบบ้านด้วยความวิตกกังวล แต่เมื่อมองดูใบหน้าที่ดูไม่ยินดียินร้อนของจุนห่าว เขาก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่า ภายใต้ใบหน้าที่ดูไม่ร้อนรนของจุนห่าวนั้น ที่จริงแล้วจิตใจของจุนห่าวกระสับกระส่ายขนาดไหน เพียงแค่เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ที่แท้จริงของเขาออกมา จึงดูเหมือนเขาสงบและมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก จุนห่าวจะเผยความรู้สึกที่แท้จริงของเขาต่อหน้าหานรุ่ยเท่านั้น ในบางทีเขาก็ชอบทำตัวน่ารักตาใสกับหานรุ่ย
“น้องสี่ นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว พี่รองกับน้องสะใภ้ยังไม่กลับมาเลย พวกเขาจะไม่เป็อันตรายใช่ไหม” จุนเช่อกล่าวอย่างเป็กังวล แม้ว่าป่าหลานอูจะไม่ได้อันตรายเท่าไหร่นัก ทว่าบริเวณป่าชั้นในมีสัตว์อสูรที่มีพลังปราณสูงส่งอยู่ หากหานรุ่ยและจุนเช่อเผอิญได้พบกับสัตว์อสูรเ่าั้ออกมาเดินเล่นพอดีละก็ พวกเขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายก็เป็ได้
“ไม่มีเื่อันใดหรอก ข้าเชื่อใจเสี่ยวรุ่ย” จุนห่าวพูดพลางมองไปที่ทิศทางของป่า แม้ว่าเขาจะรู้สึกเป็กังวลอยู่มาก แต่เขาก็เชื่อใจหานรุ่ย เหมือนกับคำพูดของเขา หานรุ่ยไม่ใช่นักพรตธรรมดา เขาเคยก้าวข้ามประตูของผู้ฝึกลมปราณระดับสูงมาแล้ว เขาสามารถไปถึงจุดนั้นได้ั้แ่อายุยังน้อย และได้พบกับอันตรายมามากมาย อีกทั้งป่าหลานอูก็ไม่ใช่สถานที่ที่มีอันตรายระดับสูงมาก คงไม่เป็ปัญหาสำหรับหานรุ่ยเท่าไหร่
“ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้ว” จุนฟานบ่นพึมพำไม่หยุด เมื่อได้ฟังจุนห่าวแล้ว จุนฟานก็รู้สึกวางใจอยู่ไม่น้อย ที่บัดนี้เกิดเื่ยุ่งยากขึ้น ก็เพราะเขาเป็ต้นเหตุ หากมีใครเป็อะไรไป เขาย่อมรู้สึกทรมาน เพราะความละอายใจเป็แน่
“ท่านพ่อ ท่านแม่ไปไหน ข้าคิดถึงท่านแม่ คงไม่ได้เป็เพราะข้ากับท่านพี่กินเก่งเกินไป เลยทำให้ท่านแม่ไม่้าพวกเราแล้วใช่ไหม” จุนหนานร้องไห้จนดวงตาพร่าเลือน พลางถามจุนห่าว จุนหนานคิดในใจว่า ั้แ่เขาเกิดมาจนถึงบัดนี้ เขาไม่เคยห่างกับท่านแม่มาก่อน มีแต่ท่านพ่อที่มักจะออกไปข้างนอก ฉะนั้นหากเป็จุนห่าวที่หายไปหลายวัน เขาก็คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่
พอได้ฟังจุนหนาน จุนตงก็เชิดหน้าขึ้น พร้อมมองไปทางจุนห่าวอย่างตึงเครียด เพราะเขาเองก็คิดถึงแม่เช่นกัน
จุนห่าวมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่ละม้ายคล้ายคลึงกันของลูกทั้งสอง คนหนึ่งร้องไห้จนดวงตาพร่าเลือน ส่วนอีกคนเชิดหน้าขึ้น แต่ก็มองออกว่า กำลังตึงเครียดอย่างยิ่ง เขารับรู้ว่า เด็ก ๆ ต่างคิดถึงหานรุ่ย มันไม่ง่ายเลย ที่จะพูดอะไรที่ทำให้พวกเขาต้องรู้สึกผิดหวัง เขาจึงพูดไปว่า “ท่านแม่ของพวกเ้าออกไปทำธุระ เดี๋ยววันนี้ก็กลับแล้ว พวกเ้าไม่ต้องร้อนใจไป พ่อก็เคยออกไปทำธุระ เพียงไม่กี่วันก็กลับมาแล้วไม่ใช่หรือ?” ั้แ่ที่เด็ก ๆ เริ่มโตขึ้น ยามจุนห่าวออกจากบ้าน ก็เป็เวลาหลายวันกว่าจะกลับ ไม่ใช่เพราะจุนห่าวไม่คิดจะกลับมา แต่เพราะเขากลับมาไม่ได้จริง ๆ
“พวกเขากลับมาแล้ว! น้องสี่เ้ารีบดูเร็ว น้องสะใภ้และพี่รองกลับมาแล้ว” จุนฟานพูดพลางมองทั้งสองคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ “จุนหนาน จุนตง แม่พวกเ้ากลับมาแล้ว ดีใจไหม?”
จุนตงและจุนหนานมองตามไปทางที่จุนฟานชี้ เมื่อเห็นหานรุ่ย จุนหนานก็วิ่งออกไปด้วยความดีใจ แม้ว่าจุนตงจะไม่ได้วิ่งไปด้วย แต่ก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขายืนนิ่งอยู่ตรงประตูใหญ่อย่างใจจดใจจ่อ และแอบคิดในใจว่า เขาก็คิดถึงท่านแม่เช่นกัน แต่เขาไม่อาจเผยความรู้สึกออกมาได้หมด และไม่อาจออดอ้อนท่านพ่อกับท่านแม่ได้อย่างจุนหนาน
เมื่อหานรุ่ยเดินมาถึงหน้าประตู จุนตงที่ยืนนิ่งอยู่ตรงประตูใหญ่ก็พูดกับหานรุ่ยว่า “ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้ว” จากนั้นก็มองจุนหนานที่อยู่ในอ้อมกอดของหานรุ่ยด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
“ใช่ แม่กลับมาแล้ว แม่ทำให้จุนตงเป็ห่วงเสียแล้วสินะ” หานรุ่ยกล่าวพร้อมลูบหัวจุนตง เมื่อหานรุ่ยเห็นสายตาของจุนตง แม้ว่าแขนข้างซ้ายของเขาจะโอบกอดจุนหนานอยู่ แต่เขาก็กางแขนขวาออกและสวมกอดเขาไว้
“ท่านแม่ ข้าโตแล้วนะ” จุนตงพูดในขณะที่ปลายหูของเขาขึ้นสีแดงระเรื่อในอ้อมกอดของหานรุ่ย
หานรุ่ยรู้มานานแล้วว่า จุนตงมักจะปากไม่ตรงกับใจเสมอ แกล้งทำตัวเป็ผู้ใหญ่มาตลอด เขาพูดด้วยความรักที่มีต่อจุนตงว่า “แม่รู้ว่า เสี่ยวตงโตแล้ว ไม่ต้องให้แม่กอดก็ได้ แต่แม่อยากกอดเสี่ยวตงนี่ เราไม่ได้เจอกันหลายวันเลย แม่คิดถึงเสี่ยวตง เสี่ยวตงทำตามความ้าของแม่ได้ไหม?”
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำตามความ้าของท่านแม่ก็แล้วกัน” จุนตงพูดพร้อมทำหน้ามุ่ย เพราะเขาเป็ลูกกตัญญู เขาจึงทำตามความ้าของท่านแม่ ปล่อยให้ท่านแม่กอดไป คงไม่เป็ไรหรอก
“ท่านแม่คิดถึงแต่ท่านพี่ แล้วข้าล่ะ ท่านไม่คิดถึงข้าหรือ?” จุนหนานเรียกร้องบ้าง “อีกอย่าง ข้าก็โตแล้วเหมือนกัน ข้าไม่อยากให้ท่านแม่กอดแล้ว” จุนหนานงอแงกับหานรุ่ย พอนึกถึงตอนที่เขากางแขนทั้งสองข้างวิ่งไปหาท่านแม่เมื่อครู่นี้ เขาก็รู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อย ที่เขาเป็ฝ่ายให้ท่านแม่โอบกอดก่อน ไม่เหมือนกับท่านพี่ที่ท่านแม่เป็ฝ่ายโอบกอดเอง
“แม่ก็คิดถึงจุนหนานเหมือนกัน พวกเ้าเป็ดั่งดวงใจและจิติญญาของแม่” หานรุ่ยพูดกับลูกทั้งสองที่อยู่ในอ้อมกอด ั้แ่มีลูก หานรุ่ยก็ไม่ได้เก็บซ่อนความรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว บางครั้งก็มีแสดงออกด้วยท่าทางใกล้ชิดกับเด็ก ๆ ทั้งสองบ้าง
