สวี่ซื่ออดใไม่ได้เมื่อได้ยินดังนั้น นางพูดกับหลินฟาไฉด้วยริมฝีปากสั่นเทา “ตาแก่ เ้าต้องคิดเื่นี้ให้ดีนะ เ้าก็รู้ว่าครอบครัวนั้น…หากครอบครัวนั้นมาตามหาพวกเราจะทำอย่างไร?”
หลินฟาไฉยิ้มเยาะด้วยสีหน้าชั่วร้าย “วางใจเถิด ข้ามีแผนของตัวเอง สวีเทาอยากได้นังเด็กนั่นไม่ใช่หรือ พวกเราช่วยสร้างโอกาสให้เขาก็พอ ไว้เขาบรรลุเป้าหมายแล้วเราค่อยให้นังเด็กนั่นตาย ถึงเวลาแค่ทำให้เหมือนนางฆ่าตัวตายเพราะโดนย่ำยี พัวพันไม่ถึงพวกเรา อีกอย่าง ครอบครัวนั่นทำเื่เลวร้ายให้ถูกเนรเทศไปหย่าโจวเอง มิเช่นนั้นตอนนั้นคงไม่… พวกเขายังมีชีวิตหรือไม่ก็ไม่รู้ ต่อให้ยังมีชีวิต จะพลิกตัวกลับมามีชีวิตได้หรือไม่ยากเกินจะคาดเดา ดังนั้นเ้าเลิกกังวลเถิด จริงสิ เื่นี้รู้กันแค่เราสองคน ซย่าเอ๋อร์ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ เกรงว่าหากนางรู้เข้าจะทำเสียเื่ อีกอย่างเื่นี้ไม่ใช่จะสำเร็จใน่เวลาสั้นๆ จำเป็ต้องให้นายพรานเจียงขึ้นเขาไปล่าสัตว์เสียก่อน เราต้องรอโอกาส”
สวี่ซื่อรีบพยักหน้า “ได้ ข้าจะเก็บเื่นี้เป็ความลับ!”
ทั้งคู่คิดว่ามีแต่ฟ้าดินกับพวกตัวเองที่รู้ ไม่เคยคิดเลยว่าที่ใต้เชิงกำแพง โจวเอ้อร์เหนิงกำลังโค้งเอวฟังบทสนทนาภายในห้องของทั้งคู่
บ้านเหล่าจ้าวกับเหล่าหวางไม่มีคน เจียงหงหย่วนทานมื้อเย็นเสร็จ ฟ้ามืดแล้วจึงพาหลินหวั่นชิวไปมอบของให้ทั้งสองครอบครัว
เื่เมื่อตอนกลางวันทำให้เขาหวาดผวา ตัวเองแค่ไม่อยู่บ้าน ภรรยาตัวน้อยกลับโดนรังแก ตอนนี้เขาไปที่ใดย่อมอยากพาภรรยาตัวน้อยไปด้วย
แน่นอนว่าถ้าเหน็บภรรยาตัวน้อยไว้บนเอวพกไปไหนมาไหนได้จะดีที่สุด
ทั้งคู่มาที่บ้านตระกูลหวางก่อน คนบ้านตระกูลหวางกำลังกินข้าวอยู่ เห็นทั้งคู่มาก็รีบเรียกมากินด้วยกัน
“ไม่รบกวนล่ะลุงหวาง ท่านป้า พวกข้ากินจากบ้านมาแล้ว ขึ้นเขาครั้งนี้ข้าล่าเสือมาได้หนึ่งตัว เนื้อเสือขายไม่ได้ราคาจึงเก็บไว้ส่วนหนึ่ง หวั่นชิวบอกให้นำมาให้พวกท่านลองกินขอรับ”
หลินหวั่นชิวฟังจบก็อดเงยหน้ามองเจียงหงหย่วนไม่ได้ บุรุษนี้…รู้จักยกยอนางต่อหน้าผู้อื่นเพื่อให้เป็ที่ชอบพอ
นับว่าเอาใจใส่
แต่แน่นอน…หากไม่เอาแต่พูดจาทะลึ่งเวลาไม่มีผู้อื่นคงยิ่งสมบูรณ์แบบ
เจียงหงหย่วนมอบเนื้อเสือก้อนหนึ่งให้หวางฟู่กุ้ย หวางฟู่กุ้ยไม่กล้ารับ หลิวซื่อกับหวางทงเป่าส่ายมือเช่นกัน
“ไม่ได้ๆ จะมอบเนื้อเสือที่เ้าเสี่ยงชีวิตไปล่ามาให้พวกข้าได้อย่างไร พวกเ้าเก็บไว้กินเองเสียเถิด อีกอย่างเด็กๆ กับภรรยาที่บ้านเ้าล้วนต้องบำรุงร่างกายทั้งนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวเราไม่จำเป็ต้องพึ่งของพวกนี้”
หวางกุ้ยเซียงช่วยพูดสนับสนุนอยู่ด้านข้าง อยากให้ทั้งคู่เอาของกลับไป แต่ลูกสองคนของพี่ใหญ่บ้านพวกนางกลับกลืนน้ำลายจ้องเนื้อเสือตาเป็มัน
หลินหวั่นชิวเห็นดังนั้นก็คว้าเนื้อเสือจากมือเจียงหงหย่วน ปลายนิ้วนางััโดนฝ่ามือของเขาโดยไม่ทันระวัง ฝ่ามือเขาแข็งเหมือนเหล็กกล้าและร้อนผ่าว
เจียงหงหย่วนหุบมือลงอย่างเงียบๆ แอบถูหลังมือกับหลังตัวเอง
ปลายนิ้วภรรยาตัวน้อยเย็นเล็กน้อยและนุ่มมาก น่าเสียดายที่ปัดโดนนิดเดียวก็หายไป เหมือนขนนกข่วนลงบนฝ่ามือเขา
ข่วนไปถึงหัวใจ
คันยุบยิบไปหมด
“กุ้ยเซียง ท่านป้า พวกท่านรับไว้เถิด!” หลินหวั่นชิววางเนื้อเสือบนโต๊ะกลางห้องโถงพวกเขา จากนั้นจึงพูดว่า “หย่วนเกอขึ้นเขาไปล่าสัตว์บ่อยๆ คนในหมู่บ้านไม่ค่อยเป็มิตรกับข้านัก ข้ายังต้องหวังให้พวกท่านช่วยหนุนหลังข้าตอนหย่วนเกอไม่อยู่บ้าน อีกอย่าง เนื้อเสือหนักตั้งกี่ร้อยชั่ง เนื้อเพียงเท่านี้จะเทียบกระไรได้กัน อีกไม่นานก็เข้าหน้าหนาวแล้ว ตุ๋นเนื้อเสือกินจะได้ไล่ความเย็นให้ร่างกายอบอุ่น หากพวกท่านไม่รับจะถือว่าดูถูกพวกข้า วันหน้าคงไม่กล้ารับของที่ท่านป้ากับกุ้ยเซียงนำมาให้อีกเ้าค่ะ!”
“เด็กคนนี้…นี่…” หลินหวั่นชิวพูดยาวติดต่อกันจนหลิวซื่อจะรับย่อมไม่ใช่ ไม่รับล้วนไม่ใช่เช่นกัน
สุดท้ายต้องให้หวางทงเป่า พ่อของหวางฟู่กุ้ยพูดว่า “ในเมื่อเป็ความปรารถนาดีของเด็กทั้งสอง พวกเราจงรับไว้เถิด กุ้ยเซียง ภรรยาโหย่วกุ้ย พวกเ้ามีเวลาก็ไปบ้านตระกูลเจียงบ่อยหน่อยนะ”
เมื่อก่อนบ้านตระกูลเจียงไม่มีสมาชิกสตรี ฟู่เหรินและสตรีสาวย่อมไม่สะดวกไปบ้านพวกเขาบ่อยๆ แต่ตอนนี้บ้านเจียงหงหย่วนมีหลินหวั่นชิวแล้ว หากเจียงหงหย่วนไปล่าสัตว์ ให้สมาชิกสตรีในบ้านไปเที่ยวเล่นบ้านตระกูลเจียงจะได้อยู่เป็เพื่อนหลินหวั่นชิว อีกเื่คือให้คนในหมู่บ้านเห็นว่าถึงเจียงหงหย่วนจะไม่อยู่ คนตระกูลหวางจะเป็คนปกป้องหลินหวั่นชิว
หวงซื่อ ภรรยาของหวางโหย่วกุ้ยรีบตอบ “เอ่อ…ทราบแล้วเ้าค่ะท่านพ่อ”
“พี่สะใภ้ หลินซย่าจื้อพาคนไปหาเื่ท่านอีกแล้วหรือ?” เจียงหงหย่วนกับหลินหวั่นชิวบอกลา หวางกุ้ยเซียงดึงหลินหวั่นชิวมาแอบถามตอนพามาส่ง
“อื้ม แต่หย่วนเกอกลับมาพอดี สั่งสอนพวกนางไปแล้ว” หลินหวั่นชิวนึกถึงภาพที่เจียงหงหย่วนยัดมูลลาใส่ปากแม่ม่าย ทั้งยังกดหลินซย่าจื้อลงกับมูลวัวอุ่นๆ ท่าทีและพลังที่แสดงออกมาช่างดูดี
ที่สำคัญคือสะใจ!
วิธีที่บุรุษผู้นี้ปกป้องนางช่างป่าเถื่อนรุนแรงมาก
แต่นางกลับชอบ!
สองพี่น้องสวี่ซื่อยังถูกเจียงหงหย่วนจับโยนลงบ่อมูล
“ฮ่าฮ่าฮ่า…พวกข้าได้ยินคนในหมู่บ้านเล่าให้ฟังตอนกลับมา! สมน้ำหน้า! เอาให้สตรีไร้ยางอายพวกนี้เหม็นตายไปเลย ชอบพ่นคำสกปรกดีนัก พี่สะใภ้ ตอนนี้คนในหมู่บ้านไม่กล้าว่ากระไรท่านแล้ว เจียงต้าเกอหน้าตาน่ากลัวแต่รู้จักปกป้องภรรยาจริงๆ หากวันหน้าข้าเจอบุรุษที่ดีได้สักครึ่งของเจียงต้าเกอก็พอใจแล้ว!”
“เ้าต้องได้เจอเป็แน่!” หลินหวั่นชิวตอบ นางเป็คนยุคปัจจุบัน ไม่ได้มีแิแบบคนโบราณ ย่อมไม่รู้สึกว่าคำพูดของหวางกุ้ยเซียงมีสิ่งใดไม่เหมาะสม ตรงกันข้าม นางอวยพรให้หวางกุ้ยเซียงอย่างเปิดเผยเสียด้วยซ้ำ
อันที่จริง นางค่อนข้างชอบหญิงสาวนิสัยแบบหวางกุ้ยเซียง ทั้งกล้าหาญและใจดี
“เอาล่ะ รีบกลับเข้าข้างในเถิด เดี๋ยวพวกข้ายังต้องไปบ้านตระกูลจ้าวอีก” หลินหวั่นชิวสังเกตเห็นว่าเจียงหงหย่วนที่เดินนำอยู่ด้านหน้าเริ่มหงุดหงิดรีบพูดกับหวางกุ้ยเซียงว่า “ไว้ข้ามีเวลาค่อยมาคุยด้วย”
“ได้เ้าค่ะพี่สะใภ้ พวกท่านกลับดีๆ…”
“เป็สตรีนี่ยุ่งยากนัก ชักช้า!” เจียงหงหย่วนคว้ามือหลินหวั่นชิวแล้วก้าวเท้ายาวๆ ไปด้านหน้า
ฝีเท้าเขายาว หลินหวั่นชิวต้องวิ่งเหยาะๆ ตาม
มือนางนุ่มนิ่ม แค่ออกแรงก็พร้อมจะโดนบีบหัก หากมือน้อยที่ราวกับหยกเช่นนี้จับเข้าที่ดาบวิเศษของเขา ไม่รู้จะสบายขนาดไหน
เจียงหงหย่วนลูบมือนางไปด้วย ครุ่นคิดเพ้อเจ้อไปด้วย
หลินหวั่นชิวถูกเขาจูงมือวิ่ง ไม่มีเวลามาสังเกตสายตาที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย จดจ่อกับฝีเท้าตัวเอง
เจียงหงหย่วนหันมามองนางเป็ครั้งคราว ภายใต้แสงจันทร์ ภรรยาตัวน้อยถูกเขาจูงมือวิ่งจนหน้าแดงระเรื่อ หน้าอกสั่นกระเพื่อมเป็จังหวะ เหมือนกระต่ายป่าที่วิ่งหนีบนูเา
อยากบีบเหลือเกิน…
“หย่วนเกอ ช้าหน่อย จะถึงบ้านตระกูลจ้าวแล้ว ให้ข้าพักหายใจสักครู่เถิด” เสียงเบานุ่มดุจสายลมแต่เป็ดังตะขอเกี่ยวนับไม่ถ้วนของหลินหวั่นชิวดังขึ้นข้างหู เจียงหงหย่วนผ่อนฝีเท้าลง
“เป็สตรีนี่ช่างยุ่งยาก!”
หลินหวั่นชิวหอบหายใจกลอกตามองบน “เหตุใดถึงแต่งภรรยาหากยุ่งยากนัก?”
เจียงหงหย่วนตอบด้วยความเย้ยหยัน “ไม่แต่งภรรยาแล้วจะมีลูกได้อย่างไร? เ้าจะอ่อนแอเกินไปแล้ว ต้องรีบบำรุงให้ดี มิเช่นนั้นวันหน้าจะคลอดลูกอย่างไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้