เหนียนอีหลานไม่อยากจะเชื่อในการคาดเดานี้
จะเป็พี่รองไปได้อย่างไรเล่า?
พวกเขาเป็ครอบครัวนาง พี่รองต้องช่วยเหลือและปกป้องนางเท่านั้น เหตุใดเขาจะ้าสังหารนาง?
ไม่ว่าอย่างไร เหนียนอีหลานก็คิดไม่ออก นางดิ้นรนขัดขืน ทว่าอากาศที่ไหลเข้าปอดกลับเบาบางลงเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืดมิด ใบหน้าเหนียนอีหลานแดงก่ำ แม้แต่รูม่านตายังเบิกกว้างเหลือกถลน ทว่าสตรีด้านหลังยังคงใช้แรงอุดปากอุดจมูกนางอย่างต่อเนื่อง
“ใหรือ? คุณหนูใหญ่ ท่านอย่าโทษพี่รองเลยเ้าค่ะ แท้จริงแล้ว การทำให้ท่านตายไม่ใช่การตัดสินใจของเขาคนเดียว” เสียงเย็นเยียบของจื่อหลิง ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
ไม่ใช่การตัดสินใจของเขาคนเดียวหรือ? นอกจากพี่รองแล้วยังมีผู้ใดอีก?
ภาพของคนผู้หนึ่งผุดเข้ามาในหัว ทว่าเหนียนอีหลานกลับไม่กล้าเชื่อความคิดนั้น ท่านยาย... นางรักและเอ็นดูข้ามาโดยตลอด ทั้งยังคาดหวังในตัวข้าอย่างมาก เหตุใดท่านยายถึง้าชีวิตของข้าด้วย?
แม้นางอยากจะหลบหนีสักเพียงใด ทว่าใครบางคนกลับไม่ปล่อยให้นางหนีออกไปได้ เสียงของจื่อหลิงที่ด้านหลังยังคงแว่วดังออกมาอย่างต่อเนื่อง “คุณหนูใหญ่ นอกจากคุณชายใหญ่ นายท่าน ฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ยังมีคุณชายรองอีกคน ทุกคนล้วนรับรู้จุดจบของท่านในคืนนี้ หึ มีเพียงการตายของคุณหนูคนเดียวเท่านั้น ถึงจะสร้างคุณงามความดีให้กับตระกูลหนานกงได้!”
คุณงามความดี? คุณงามความดีอันใด?
ไม่ ไร้สาระ เื่นี้มันเลอะเทอะไปหมดแล้ว!
มีเื่ที่เหนียนอีหลานคิดไม่ออกมากมายเกินไป ร่องรอยความสิ้นหวังผุดขึ้นในใจ
พวกเขาทุกคนล้วน้าให้ข้าตาย ข้ายังมีโอกาสอันใดให้รอดไปได้อีก?
ทว่าข้าไม่อยากตาย และข้าไม่อยากตายไปเช่นนี้!
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ั้แ่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่สิ่งที่นางจะควบคุมได้
เหนียนอีหลานจ้องมองราตรีอันว่างเปล่าและมืดมิด นางค่อยๆ เลิกดิ้นรน ราวกับว่าหมดซึ่งเรี่ยวแรง
ความตายห่างจากนางเพียงก้าวเดียว บางทีมีเพียงต้องตายเท่านั้น จึงจะมีโอกาสไปไถ่ถามหนานกงฉี่ ไถ่ถามท่านลุง ไถ่ถามท่านยายว่าเหตุใดถึงต้องทำกับข้าเช่นนี้!
ท่านแม่รู้เื่นี้ด้วยหรือไม่?
ความสิ้นหวังเติบโตขึ้นในใจของเหนียนอีหลานมากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มพูนเหนือความหวาดกลัว จนพัดกลบนางอย่างสิ้นเชิง
เหนียนอีหลานค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง นอนรอความตายที่ย่างกรายเข้ามาอย่างสิ้นหวัง
ทว่าทันใดนั้น สตรีที่อยู่ด้านหลังกลับชะงักไป ชั่วพริบตาต่อมา เหนียนอีหลานที่เหมือนกำลังจะตาย พลันรู้สึกถึงอากาศจำนวนหนึ่งหลั่งไหลเข้ามา ประหนึ่งสายฝนที่ตกท่ามกลางหน้าแล้งอันยาวนาน ในราตรีที่อากาศหนาวเหน็บ เหนียนอีหลานรีบสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ นางสะบัดตัวออกจากฝ่ามือของจื่อหลิง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างหนักหน่วง
นางยังไม่ตาย!
นางยังมีชีวิตอยู่งั้นหรือ?
ในใจของเหนียนอีหลานเกิดประกายแห่งความหวังขึ้นมาอีกครา ทว่าเหตุใด... เห็นได้ชัดว่าจื่อหลิง้าฆ่านาง!
เหนียนอีหลานอยากรู้ว่าเป็เพราะเหตุใด จึงหันหลังกลับไป แต่กลับเห็นเพียงสตรีผู้นั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นโดยมีกริชเล่มหนึ่งปักอยู่บนร่างกายของนาง ปลายคมของกริชทะลุออกมาจากหน้าอก
“กรี๊ด...” เหนียนอีหลานร้องลั่นอย่างใ ร่นถอยหลังออกมาหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว
"คุณหนูใหญ่อยากเรียกให้ผู้อื่นเข้ามาหรือไร?"
ท่ามกลางความมืดมิด เสียงของบุรุษดังขึ้น ในใจของเหนียนอีหลานสั่นไหว นางรู้จักเสียงนี้ ทว่าในความทรงจำของนาง เสียงที่เอื้อนเอ่ยของคนผู้นั้นมิได้ฟังดูเ็าเพียงนี้
เหนียนอีหลานจ้องมองบุรุษที่ยืนอยู่ด้านข้างร่างไร้ิญญาของจื่อหลิง ชุดสีขาวทั้งตัวนั้นดูแตกต่างเด่นชัดในความมืดสลัว
"หลี...ท่านอ๋องหลี" เหนียนอีหลานพึมพำ เขาช่วยนางไว้!
แต่...เพราะเหตุใด?
เหนียนอีหลานอยากจะถาม ทว่าบุรุษผู้นั้นกลับเหลือบมองนางอย่างเฉยเมย ชายหนุ่มยกร่างไร้ิญญาบนพื้นขึ้นโดยไม่บอกกล่าวสิ่งใด เหนียนอีหลานได้แต่เฝ้ามองการกระทำของเขา แต่ไหนแต่ไรมา ตนเองและหลีอ๋องผู้นี้ไม่เคยพูดคุยพบปะกันเท่าใดนัก เหตุใดเขาถึงมาช่วยข้า?
"เื่ในคืนนี้ เ้าก็ทำเป็ว่าไม่เคยเกิดขึ้นเสีย" เสียงของจ้าวเยี่ยนดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ในค่ำคืนอันมืดมิดนี้ น้ำเสียงนั้นฟังดูราบเรียบเ็า ทว่าชัดเจนอย่างยิ่ง
ทำเป็เหมือนไม่เคยเกิดเื่อันใดขึ้นงั้นหรือ? แต่... นางเหลือบมองจื่อหลิง หวนนึกถึงสิ่งที่ตนเองได้รับรู้เมื่อครู่นี้ แม้ยามนี้ในใจนางยังรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าถูกโลกทั้งใบทอดทิ้ง แม้แต่ท่านยายกับพี่รองยังคิดสังหารข้าหรือ?
แท้จริงเป็เพราะเหตุใดกันแน่?
บนใต้หล้าผืนนี้ ข้ายังจะเชื่อใจผู้ใดได้อีก?
เหนียนอีหลานยิ้มเยาะ นางยกยิ้มทั้งน้ำตาอย่างสิ้นหวัง “อีหลานขอบพระทัยท่านอ๋องหลีที่มีพระคุณช่วยชีวิตอีหลาน อีหลานขอทราบได้หรือไม่ว่าเหตุใดท่านอ๋องหลีถึงมาช่วยอีหลานเพคะ?”
สตินึกคิดของอีหลานค่อยๆ กลับมา หลีอ๋องเข้าวังมาในเวลาค่ำมืดเช่นนี้ มิใช่เื่แปลกอันใด ทว่าการที่เขาเข้ามาในตำหนักชีอู๋ หรือในสวนร้อยสัตว์แห่งนี้ต่างหากที่เป็เื่แปลก
จ้าวเยี่ยนชะงักเล็กน้อย ทว่ากลับมิได้เอ่ยพูดสิ่งใดออกมาให้มากความ
เมื่อครู่นี้โชคดีที่เขามาทันเวลา มิเช่นนั้นเกรงว่าการตายของเหนียนอีหลาน คงทำให้คำมั่นสัญญาระหว่างพวกเขากับตระกูลหนานกงต้องแตกร้าวเป็แน่
ทว่าสิ่งที่ตัวเขาได้ยินเมื่อครู่นี้...
หนานกงฉี่กับฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง...้าสังหารเหนียนอีหลานงั้นหรือ?
เพราะเหตุใด?
คนฉลาดเช่นจ้าวเยี่ยนไตร่ตรองเพียงครู่เดียว ในใจพลันคาดเดาออกรางๆ แล้ว ทว่าการคาดเดานั้น กลับมิใช่สิ่งที่เขาอยากจะเชื่อถือสักเท่าใด
“เ้าคอยอยู่ที่นี่ก่อน พรุ่งนี้เช้า เ้าออกไปนอกกระโจม คอยซ่อนตัวอยู่ที่ใดสักแห่ง ข้าจะช่วยให้เ้าออกจากสวนร้อยสัตว์แห่งนี้” จ้าวเยี่ยนเอ่ยปาก เขาปรายตามองเหนียนอีหลาน พลางแบกร่างไร้ิญญาของจื่อหลิง และะโหายลับไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเงาร่างของเขาจึงลับหายไปในยามราตรี
เหนียนอีหลานทรุดตัวลงกับพื้น เผชิญหน้ากับความมืดมิดและความเหงาอีกครา นางครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ทั้งหมด นอนขดตัว สองมือกอดร่างกายของตนเองแน่น
นางนึกไม่ถึงว่า หลีอ๋องจะช่วยนางได้ ยิ่งกว่านั้น เมื่อครู่นี้เขายังให้คำมั่นกับนางอีก
พรุ่งนี้...ข้าจะได้ออกไปจากที่นี่จริงๆ หรือ?
ทว่าต่อให้จะออกไปได้ ท่านลุง พี่รองและท่านยาย หากพวกเขารู้ว่านางยังไม่ตายขึ้นมาจะเป็อย่างไร?
เกิดคำถามมากมายในหัวของเหนียนอีหลานเกี่ยวกับสถานการณ์ในยามนี้ เกี่ยวกับสาเหตุที่พวกเขา้าฆ่านาง เกี่ยวกับเื่ราวหลังจากนี้ของตนว่าจะทำอย่างไร เมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขา ทุกเื่ราว ทุกเหตุการณ์ ช่างดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปเสียหมดจนมิอาจคิดหาสาเหตุของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ทว่าสิ่งเดียวที่นางรู้คือ บนโลกใบนี้ บางทีแม้แต่คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดยังไม่อาจเชื่อใจ
“ฮึก... ฮือๆ...”
อาจเพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาใน่ระยะเวลานี้น่าหดหู่เกินไป ทั้งอาจเพราะความจริงที่พบเจอเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่ผ่านมาโหดร้ายเกินไป เหนียนอีหลานร้องร่ำไห้สะอึกสะอื้นอย่างแ่เบา ร่างกายสั่นเทาทั้งตัวอย่างมิอาจควบคุม
พรุ่งนี้...นางรู้สึกหวาดกลัวการมาถึงของวันพรุ่งนี้อยู่บ้าง
แม้นางจะหนีออกไปจากสวนร้อยสัตว์ได้ ทว่านางจะเผชิญหน้ากับความจริงพวกนั้นได้อย่างไร!?
เสียงร้องไห้คร่ำครวญแ่เบาของหญิงสาวในสวนร้อยสัตว์ ทำให้ค่ำคืนนี้แลดูแปลกไปเล็กน้อย
จ้าวเยี่ยนออกไปจากสวนร้อยสัตว์อย่างเงียบเชียบ เขาที่จัดการร่างไร้ิญญาของจื่อหลิงเรียบร้อยแล้ว จึงกลับไปยังตำหนักฉางเล่อ ยังมิทันกลับถึงห้องของตนเอง พลันเห็นแสงไฟในห้องของฉางไทเฮา จ้าวเยี่ยนชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ในที่สุดจึงตัดสินใจเข้าไป
ยามที่จ้าวเยี่ยนเคาะประตูห้อง ฉางไทเฮากำลังนั่งอยู่บนตั่ง ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท พลางนับลูกประคำในมือ
"เข้ามา"
เสียงของฉางไทเฮาดังออกมาจากห้อง
จ้าวเยี่ยนผลักประตูเข้าไป ครั้นฉางไทเฮาได้ยินเสียงฝีเท้า และได้กลิ่นเืเบาบางลอยโชยในอากาศ จึงย่นคิ้วเล็กน้อย ลืมตาและหันไปมองบุคคลที่เดินเข้ามาหาตนเอง “เกิดเื่ขึ้นงั้นหรือ?”
"พ่ะย่ะค่ะ" จ้าวเยี่ยนตอบรับ พลางคารวะฉางไทเฮา “โชคดีที่เสด็จแม่ทรงบอกให้ลูกไปหาเหนียนอีหลานที่สวนร้อยสัตว์ หากลูกไปช้ากว่านี้อีกนิดเดียว เกรงว่าเหนียนอีหลานคงสิ้นลมไปเสียแล้ว”
มือที่ถือลูกประคำของสตรีในชุดเรียบง่ายพลันหยุดชะงักไปเล็กน้อย
“ผู้ใด?”
ผู้ใด้าชีวิตของเหนียนอีหลาน?