“อะไรกัน? ดวงของหวงเทียนย่ำแย่ขนาดนี้ ดันถูกศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อหมายเลข 11จับได้ ศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อพลังวัตรห่างไกลกับฝานหงเทียบไม่ติดฝานหงสองคนยังไม่แน่ว่าจะเป็คู่ต่อกรของศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อเป็คนที่มีสิทธิ์เข้าชิงสิบอันดับแรกเชียวนะ”
“ดูเหมือนการแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้หวงเทียนจะเดินมาสุดทางแล้ว ไร้วาสนากับ 32 อันดับแรก”
“นั่นก็ไม่แน่ หากหวงเทียนชนะศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อเข้ารอบต่อไปต้องเข้าสิบอันดับแรกได้แน่”
“เ้าพูดเล่นใช่มั้ยศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อเคยสังหารโจรูเาชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบตั้งสองคนในคราวเดียวความสามารถของเขา ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์พลังวัตรขั้นสิบธรรมดาจะเทียบได้เลย”
......
......
เพียงรอบที่ห้าเสวียนเทียนก็เจอเข้ากับผู้มีสิทธิ์เข้าชิงตำแหน่งสิบอันดับแรกแล้วชั่วขณะนั้น ศิษย์นอกทั้งหมดต่างก็ร้องอุทานขึ้นมา การต่อสู้คู่นี้ยังไม่ทันเริ่มทั้งลานก็เดือดพล่านแล้ว
คิ้วของเสวียนเทียนขมวดเล็กน้อย เพิ่งจะรอบที่ห้าก็เจอเข้ากับคู่ต่อสู้ที่มีหวังชิงสิบอันดับแรกแล้วเขาคิดไม่ถึงอยู่บ้าง!
แต่ว่า ต่อให้เจอกับจางหลงหรือหยางติ่งจวินเสวียนเทียนยังไม่กลัวเลย กับตู้เหวินเค่อแน่นอนย่อมยิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไร
เวทีประลองหมายเลขสามอีกแล้ว
เสวียนเทียนมาถึงเวทีประลองหมายเลขสามผู้าุโสำนักนอกประจำเวทีประลองหมายเลขสามพลันตื่นตัวขึ้นมาแม้ว่าเขาจะเป็ยอดฝีมือชั้นเบิกนภา แต่เขาสนใจการแข่งขันของเสวียนเทียนอย่างยิ่ง
คนที่สนใจเวทีประลองในตอนนี้ยังมีเ้าตำหนักของสำนักนอกสิบท่านบนหอสูงด้านหน้าของลานกว้างเสวียนเทียนเป็ที่สนใจของเ้าสำนัก ทำให้เ้าตำหนักทั้งสิบรู้สึกตื่นตะลึง
ในศาลาฟางบนยอดเขาด้านตรงข้ามหลิงซิงเยว่กับผู้เฒ่าผมขาว ยังคงนั่งอยู่ที่นั่นเหมือนเดิมมองลานกว้างบนยอดเขาตรงข้ามจากไกลๆ
คนที่ประหลาดใจที่สุดย่อมเป็ตู้เหวินเค่อ
หมายเลขที่เขาจับได้คือเลข 62 ชัดๆแต่พอออกมาจากปากของผู้าุโหานกลับกลายเป็หมายเลข 467 นี่ทำให้ตู้เหวินเค่อนิ่งอึ้งไป
หมายเลข 62 กับ 467 อันหนึ่งสองหลัก อีกอันสามหลัก เขียนก็ไม่เหมือนกันสักนิดผู้าุโย่อมอ่านผิดไปไม่ได้
แต่ว่า หลังความประหลาดใจของตู้เหวินเค่อผ่านไปสิ่งที่ตามมากลับเป็ความตื่นเต้นยินดี
เขากำลังคิดอยากจับได้เสวียนเทียนอยู่เชียวพอเห็นว่าจับได้หมายเลข 62 ในใจก็อดผิดหวังขึ้นมาไม่ได้ไม่คิดเลยว่าผู้าุโหานราวกับมองเข้าไปเห็นความคิดของเขา สนับสนุนกันขนาดนี้เปลี่ยนหมายเลข 62 กลายเป็หมายเลข 467 เสวียนเทียนเสียอย่างนั้น
“หรือว่าผู้าุโหานไม่พอใจหวงเทียน?หรือว่าศิษย์พี่หยางลอบมีเส้นสายกับผู้าุโหาน?”
ในใจตู้เหวินเค่อคิดใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มออกมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การแข่งขันรอบนี้ การได้เจอกับเสวียนเทียนทำให้เขาตื่นเต้นเป็ที่สุด
ความสามารถของฝานหงในหมู่ศิษย์แถวหน้าพลังวัตรขั้นสิบจัดว่าอยู่ปลายแถวส่วนตัวเขาตู้เหวินเค่อเป็ผู้ที่มีหวังเข้าชิงชัยสิบอันดับแรกความสามารถของทั้งสองอยู่ต่างระดับกันโดยสิ้นเชิง
ต่อให้ฝานหงสองคนร่วมมือกันก็ไม่อยู่ในสายตาของตู้เหวินเค่อเพราะว่าตู้เหวินเค่อเคยสังหารโจรูเาพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบสองคนในคราวเดียวมาแล้ว
ตู้เหวินเค่อบนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่นานก็มาถึงเวทีหมายเลขสาม
เสวียนเทียนประสานกระบี่พูดขึ้น “ศิษย์น้องหวงเทียนศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อโปรดชี้แนะด้วย”
ตู้เหวินเค่อยิ้มน้อยๆ ตอบว่า “ข้าจะช่วยคลายกระดูกให้เ้าแทนศิษย์พี่หยางส่งต่อคำทักทายของศิษย์พี่หยางให้เ้า”
ระหว่างที่ตู้เหวินเค่อพูด พลังก็ทะยานขึ้นไอพลังของเขาฉับพลันก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุดเหนือศีรษะของเขาราวกับว่ามีเงากระบี่เลือนรางเล่มหนึ่งอยู่ ตั้งขึ้นไปบนท้องฟ้าไอพลังประดุจกระบี่
พลังล้นหลามครอบคลุมไปทั่วเวทีประลอง ในอากาศเหมือนกับมีปราณกระบี่วิ่งผ่านบิดวน เคลื่อนไหวอยู่
เพียงแค่บรรยากาศพลังก็มองออกว่าความสามารถของตู้เหวินเค่อสูงกว่าฝานฟงอยู่่ใหญ่
ชิ้ง!
แสงสว่างเย็นเยียบฉายวาบกระบี่ของเสวียนเทียนชักออกจากฝักแล้ว
ตู้เหวินเค่อในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบความสามารถจัดว่าอยู่หัวแถวเสวียนเทียนหากยังไม่ชักกระบี่ใช้เพียงฝักกระบี่เหมือนกับตอนรับมือฝานหงเข้าต่อสู้กับตู้เหวินเค่อนั่นย่อมเป็การดูถูกศัตรูจริงๆ แล้ว
แม้ว่าใช้ฝักกระบี่ก็อาจเอาชนะตู้เหวินเค่อได้แต่ต้องใช้เพลงกระบี่ดับเงาเพลงกระบี่ชั้นนิลเปิดเผยเพลงกระบี่ชั้นนิลของตัวเองเพราะว่าดูถูกคู่ต่อสู้เื่โง่เขลาเช่นนั้นเสวียนเทียนย่อมไม่ทำ
แม้ว่ากระบี่จะออกจากฝักแต่เสวียนเทียนยังคงมีทีท่าสบายอารมณ์ ยิ้มน้อยๆ พลางกล่าวว่า “ศิษย์พี่หยางช่างมีน้ำใจชอบส่งเป้ามีชีวิตพวกนี้มาให้ข้าออกกำลังขยับกระดูกข้าไม่รู้จะขอบคุณเขาอย่างไรดีแล้ว เฮ้อ! ข้าคงต้องไปทักทายเขาด้วยตัวเองตอบแทนเขาให้สาสม!”
ตู้เหวินเค่อสีหน้าพลันเปลี่ยนเป็เขียวคล้ำส่งเสียงประชดออกมา กล่าวว่า “พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก หวงเทียน เพลงกระบี่ที่ข้าฝึกฝนเป็เพลงกระบี่หวนเป็หนึ่งพลังภายในที่ฝึกฝนก็คือวิถีจิตคืนสู่กำเนิด วิถีจิตกับวิถีกระบี่ผสานเข้าด้วยกัน ฝึกฝนจนบรรลุชั้นบรรลุส่วนใหญ่เ้าใช้เพลงหมัดกระทิงดุทำลายเพลงกระบี่หวนเป็หนึ่งของอู๋เหลียวได้ข้าจะดูสิว่าเ้าจะเอาอะไรมาป้องกันเพลงกระบี่หวนเป็หนึ่งของข้า”
ระหว่างที่พูด ร่างของตู้เหวินเค่อก็พุ่งออกมาไกลถึงยี่สิบกว่าเมตรทั้งร่างราวกับเหยี่ยวถลาจับกระต่าย กระบี่หนึ่งแทงออกมา แสงกระบี่ฉายวาบปราณกระบี่สายหนึ่งะเิพุ่งออกมา แทงตรงมาที่ลำคอของเสวียนเทียน
กระบี่นี้ไม่เหมือนกับเพลงกระบี่หวนเป็หนึ่งที่อู๋เหลียวใช้
แสงกระบี่ของอู๋เหลียวจากหนึ่งแบ่งเป็สองสิ่งที่มีมากคือลูกหลอกและความว่องไว
แต่ตู้เหวินเค่อมีเพียงแสงกระบี่สายเดียวพุ่งออกมาทว่ารวดเร็วยิ่งนัก รุนแรงเหนืออื่นใด!
ความเร็วถึงขีดสุดทำให้เป้าหมายไม่อาจหลบหลีกพลังอันรุนแรงทำให้เป้าหมายไม่อาจป้องกันได้
กระบี่นี้ของตู้เหวินเค่อเปรียบกับเพลงกระบี่หวนเป็หนึ่งที่อู๋เหลียวใช้แกร่งมากกว่าสิบเท่า
ขาขวาของเสวียนเทียนฉับพลันก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวสองขาย่อลง ร่างกายก้มโค้งเล็กน้อยเหมือนกับกระทิงดุตัวหนึ่งที่คอยระแวดระวังอย่างที่สุดเมื่อเข้ามาในทุ่งหญ้า
“เป็ท่าตั้งต้นของเพลงหมัดกระทิงดุอีกแล้ว!”
ในหมู่ลูกศิษย์ มีคนส่งเสียงอุทานใขึ้นมาอย่างตื่นตะลึงหรือว่าเสวียนเทียนยังคิดจะใช้เพลงหมัดกระทิงดุวิทยายุทธ์ชั้นทองขั้นกลางรับมือตู้เหวินเค่อ?
นี่มันจะบ้าเกินไปแล้วสิบอู๋เหลียวก็ยังเทียบไม่ได้กับหนึ่งตู้เหวินเค่อ!
“ไม่ใช่ท่อนล่างของหวงเทียนเป็ท่าของเพลงหมัดกระทิงดุ แต่กระบี่ในมือกลับเป็...เพลงกระบี่ถลาลมเพลงกระบี่ชั้นทองขั้นกลาง?”
มีคนร้องใขึ้นมาอีกคนหนึ่งกระบี่หิมะเหมันต์ในมือของเสวียนเทียน หนึ่งกระบี่แทงออกมา ปราณกระบี่บาดตาะเิออกมาจากปลายกระบี่แทงเข้าไปหากระบี่ที่โจมตีมาของตู้เหวินเค่อ
บรรดาลูกศิษย์ตกตะลึงกันอีกครั้ง
“เพลงหมัดกระทิงดุเพลงกระบี่ถลาลม ระดับชั้นล้วนแต่เป็ชั้นทองขั้นกลางนี่หวงเทียนไม่เคยเรียนเพลงกระบี่หรือวิทยายุทธ์ชั้นทองขั้นสูงงั้นหรือ?”
“ศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อเป็ถึงคนดังที่มีหวังจะเข้าชิงชันสิบอันดับแรกในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์พลังวัตรขั้นสิบ ความสามารถนับเป็แนวหน้าหวงเทียนกลับใช้เพลงกระบี่กับวิทยายุทธ์ชั้นทองขั้นกลางรับมือนี่มันจะจองหองเกินไปแล้ว”
......
......
ไม่ต้องพูดถึงความตื่นตะลึงในใจของบรรดาลูกศิษย์เสวียนเทียนกับตู้เหวินเค่อ ความเร็วของกระบี่ที่โจมตีต่างก็เร็วดุจสายฟ้า ใน่ประกายไฟแลบปราณกระบี่ของทั้งสองก็แทงจ่อเข้าหากัน อากาศส่งเสียง ‘ชี่ๆ...’ ออกมา
เคร้ง!
ชั่วพริบตาเสียงกังวานใสก็ดังขึ้นกระบี่ของทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน
ปราณกระบี่ดุจระลอกคลื่นมีปลายกระบี่ของทั้งสองเป็จุดเริ่มต้น แผ่ออกมารอบทิศบนอากาศปรากฏระลอกคลื่นเป็วงกลม
นอกจากปราณกระบี่รุนแรงที่แผ่ออกมาเป็ชั้นๆ แล้วเงาร่างของเสวียนเทียนกับตู้เหวินเค่อคล้ายนิ่งสนิทอยู่กลางอากาศปราณกระบี่สายแล้วสายเล่าะเิพุ่งออกจากตัวกระบี่ไปหาฝ่ายตรงข้าม จากปลายกระบี่ที่ประสานกันแผ่กระจายออกไปรอบด้าน
ผ่านไปชั่วดีดนิ้วมือ เสียงวิ้งก็ดังขึ้นกระบี่ในมือของตู้เหวินเค่องอลงเล็กน้อย แต่พริบตาก็กลับมาตั้งตรงอีกครั้ง
พลังมหาศาลสายหนึ่งดีดสะท้อนมาตู้เหวินเค่อพลิกตลบไปทางด้านหลัง กระเด็นไปไกลสิบเมตร
ในดวงตาของตู้เหวินเค่อฉายแววตื่นตะลึงกระบี่ในมือเขายังคงส่งเสียงวิ้งๆ ไม่หยุดสั่น แขนขวาทั้งแขนของเขาสะท้านจนชา
เสวียนเทียนใช้แข็งสู้แข็งดีดตู้เหวินเค่อกระเด็นออกมาไกลถึงสิบเมตร พลังภายในล้ำลึกนักเทียบกับตู้เหวินเค่อ มีแต่แข็งกว่าไม่มีอ่อนกว่า นี่ทำให้ตู้เหวินเค่อรู้สึกตื่นตะลึงเป็ที่สุด
ศิษย์นอกด้านล่างเวที แต่ละคนเบิกตากว้างตู้เหวินเค่อลำดับที่ 11 เป็คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังของสำนักนอกมีหวังถึงเก้าส่วนจะเข้าไปสู่สิบอันดับแรกแต่กลับโดนกระบี่ของเสวียนเทียนผลักถอยหลังไป?
เสวียนเทียนหนึ่งกระบี่ผลักตู้เหวินเค่อถอยหลังไปแล้วก็ชิงจังหวะลงมือก่อนโจมตีตามเข้าไป
สองขาของเขาตะกุยพื้น ลำตัวโค้งเหมือนกับกระทิงดุตัวหนึ่งพุ่งออกไปข้างหน้าเป็ท่า ‘กระทิงดุพุ่งชน’ของเพลงหมัดกระทิงดุนั่นเอง
ท่อนล่างใช้เพลงหมัดกระทิงดุในมือของเสวียนเทียนกลับใช้ท่าที่สองของเพลงกระบี่ถลาลม ‘คลื่นวายุสามตลบ’
อาศัยแรงส่งของท่ากระทิงดุพุ่งชนกระบี่หิมะเหมันต์ในมือของเสวียนเทียน รวดเร็วปานสายฟ้าแทงไปข้างหน้าพุ่งตรงไปที่หัวใจชองตู้เหวินเค่อ ความเร็วออกตัวของกระทิงดุรวดเร็วอย่างมากฉับพลันก็พุ่งเข้าชนเทียบกับความเร็วยามใช้ศาสตร์เงาพยัคฆ์มีแต่เหนือกว่าไม่มีด้อยกว่ากระบี่นี้แทงออกไป พริบตาก็มาถึงตรงหน้าอกของตู้เหวินเค่อแล้ว
ตู้เหวินเค่อตระหนก สองมือจับกระบี่เป็แนวขวาง ป้องกันหน้าอกของตัวเอง
เคร้ง!
เสียงแหลมใสดังขึ้นกระบี่นี้ของเสวียนเทียนแทงถูกตัวกระบี่ของตู้เหวินเค่อ ถูกกันเอาไว้ได้
แต่ว่า เช่นเดียวกับพลังของสายลมระลอกแล้วระลอกเล่า คลื่นลูกหลังโจมตีเข้ามากระบี่หิมะเหมันต์พลันรั้งกลับไปครึ่งนิ้วแล้วแทงอออกมาข้างหน้าเร็วกว่าเดิม
พลังมหาศาลสายหนึ่งส่งผ่านมาจากตัวกระบี่ตู้เหวินเค่อสะท้านไปทั้งร่าง ถอยหลังไปถึงสามก้าว
คลื่นวายุสามตลบ การโจมตีระลอกหลังมีสามระลอกนี่เพิ่งระลอกแรกเท่านั้น
เสวียนเทียนฉวยโอกาสโจมตีกระบี่หิมะเหมันต์เหมือนกับอสรพิษฉกลิ้นโจมตีต่อเนื่องสามครั้ง
เคร้ง เคร้ง เคร้ง!
เสียงดังกังวานขึ้นสามครั้ง ร่างของตู้เหวินเค่อถอยไปถึงเก้าก้าวห่างจากขอบเวทีไม่ถึงสิบเมตร
“วายุคลั่งกวาดแดนดิน!”
เพลงกระบี่ถลาลม หลักสำคัญก็คือกระบี่ดุจสายลมรวดเร็วดุจสายลม ทรงพลังดุจสายลม เมื่อพัดขึ้นมา ดุจดั่งสายลมคลั่งพัดกวาดแผ่นดินไม่มีที่ใดป้องกันได้
กระบี่หิมะเหมันต์กลายเป็ม่านกระบี่ปกคลุมเต็มฟ้าฟาดฟันไปหาตู้เหวินเค่อ
เพลงกระบี่ถลาลมแม้ว่าจะเป็เพียงเพลงกระบี่ชั้นทองขั้นกลางแต่เมื่อใช้ออกมาจากมือของเสวียนเทียนกลับร้ายกาจเสียยิ่งกว่าเพลงกระบี่ชั้นทองขั้นสูง
ท่าแล้วท่าเล่าของเพลงกระบี่ถลาลมถูกใช้ออกมาพลังภายในของตู้เหวินเค่อด้อยกว่าเสวียนเทียนอยู่นิดหน่อยจึงโดนบีบให้ถอยไปไม่หยุด
ชิ้ง!
ในที่สุดก็มาถึงกระบวนท่าที่สิบเจ็ดแขนที่ชาดิกของตู้เหวินเค่ออ่อนแรง กระบี่หลุดออกจากมือ ถูกเสวียนเทียนโจมตีจนหล่นไป
กระบี่หิมะเหมันต์สว่างวาบแทงตรงไปที่ลำคอของตู้เหวินเค่อ
อ๊าก...!
เสียงร้องด้วยความเ็ปดังขึ้น ตู้เหวินเค่อในมือไร้กระบี่ป้องกันการโจมตีของเสวียนเทียนไม่ได้ อีกทั้งกระบี่ของเสวียนเทียนก็รวดเร็วตู้เหวินเค่อหลบไม่ทันถูกกระบี่แทงเข้าไป
วินาทีสุดท้ายเสวียนเทียนเบี่ยงกระบี่หิมะเหมันต์ออกแทงเข้าไปที่หัวไหล่ของตู้เหวินเค่อ หลังจากนั้นก็ดึงกลับในพริบตาหัวไหล่ของตู้เหวินเค่อเป็รู เืไหลทะลักร่างกายถูกพลังของท่ากระบี่ผลักล้มไปข้างหลัง ร่วงตกเวทีไป
รอบที่ห้า เสวียนเทียนชนะลำดับที่ 11 ตู้เหวินเค่อ เข้าสู่รอบที่หก