“หวังเค่อ รองเ้าตำหนักหวัง ไม่สิ นายท้ายเทพั พวกเรายินดีเป็ศิษย์ท่าน พาพวกเราขึ้นไปด้วย นายท้ายเทพั นายท้ายเทพั!”
ไป๋จินและพวกพ้องมองหวังเค่อถูกเสากระดูกดันตัวส่งขึ้นไปก่อนจะรู้สึกกลัวขึ้นมา
ทำไม ทำไมกัน พวกเราตกลงมาด้วยกันแท้ๆ แล้วทำไมเ้าถึงเป็อิสระ? ส่วนพวกเราถูกขังไว้ที่นี่รอโดนจับกินเมื่อไหร่ก็ไม่รู้?
ฝูงชนส่งเสียงเอะอะ แต่ไหนเลยหวังเค่อจะสนใจ? ก่อนหน้านี้พวกเ้าล้วนคิดจับข้ากิน ยังหวังให้ข้าทำดีตอบแทนอีก? เห็นข้าสมองกลวงหรือไร?
หวังเค่อจากไป ปล่อยให้กลุ่มคนที่เหลือพากันทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง
“ถงอันอัน ครั้งนี้ข้าตายเพราะเ้าแล้ว!” ไป๋จินและพรรคพวกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
ก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนอยู่กันอย่างสุขสบาย ไม่มีผู้ใดรู้ความลับ นอกจากนี้ หากพวกมัน้าออกจากพรรคเทพหมาป่า์ก็ทำได้ทุกเมื่อ แต่เพราะรับปากถงอันอันว่าจะจัดการกับหวังเค่อ สุดท้ายพวกมันกลับลงเอยด้วยการถูกขังอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล
ทำไมพวกเราถึงได้น่าอนาถขนาดนี้!
สุดท้ายผนึกของูเาิญญาก็ยังน่าร้ายกาจเกินไป อสุรกายกระดูกทุ่มกำลังทั้งหมดส่งตัวหวังเค่อขึ้นมา หากก็ยังขาดอีกก้าวหนึ่ง ชั่วขณะที่เสากระดูกแตกกระจาย กระบี่บินของหวังเค่อก็แทงเข้าใส่ผนังหลุมเพื่อประคองตัวไว้
เมื่อมาถึงตรงนี้ หวังเค่อก็ััได้ถึงแรงกดดันน่าหวาดหวั่นสุดเปรียบ คล้ายหมายผลักร่างตนกลับลงไปอีกครั้ง
“ไม่ได้การ ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว จะช่วยคนทั้งทีก็ควรช่วยให้ถึงที่สุดซี่ แล้วข้าควรทำอย่างไร?” หวังเค่อกังวล
ตอนนี้เอง หวังเค่อคล้ายได้ยินเสียงจาก้า
“ศิษย์น้อง ข้าเสียใจเหลือเกิน ถ้าหากข้าเชื่อเ้าก่อนหน้านี้ เ้าก็คงไม่ต้องตาย ข้าขอโทษ! ฮืออออ!”
“ศิษย์พี่รอง อย่าทำเช่นนี้เลย คนตายฟื้นคืนไม่ได้ ท่านอย่าเศร้าใจไปเลย ศิษย์น้องหวังเค่อจะต้องยกโทษให้ท่านแน่!”
“ไม่ได้ ข้ายกโทษให้ตัวเองไม่ได้ ทั้งหมดเป็ความผิดข้า!”
.........
...
......
...
.........
เสียงที่ได้ยินจาก้าทำให้หวังเค่อตาเป็ประกาย
“โฮ้ย ดึงข้าขึ้นไปที รีบดึงข้าขึ้นไปเร็ว!” หวังเค่อส่งเสียงอย่างตื่นเต้น
ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ได้ยินเสียงข้าไหม?
แต่โชคร้าย ด้วยเหตุผลบางประการ เสียงของหวังเค่อเองก็ถูกสะกดไว้ด้วย ศิษย์พี่รองไม่อาจได้ยินเสียงใดแม้แต่น้อย
หวังเค่อกำลังจะทนต่อไปไม่ไหว กระบี่บินเองก็เริ่มหลุดออกจากผนังหลุม
“ไม่ได้การ!” หวังเค่อได้แต่บ่นอย่างสิ้นหวัง
สุดท้ายอสุรกายกระดูกก็ไม่อาจช่วยส่งข้าขึ้นมาจนสุดทาง นี่ข้ากำลังจะร่วงลงไปอีกแล้ว? ลงไปนั่งเล่นไพ่นกกระจอกกับอสุรกายกระดูกทุกวี่วัน? ข้าไม่เอานะ!
“หมับ!”
ฝ่ามือหนึ่งพลันฉวยคว้าข้อมือหวังเค่อไว้
หวังเค่อประหลาดใจ ก่อนตัวมันจะถูกลากดึงออกมาจากหลุม
“ท่านอาจารย์ เป็ท่าน!” หวังเค่อปลื้มปีติ
ใน่วิกฤตเป็ตายนี้เอง เป็เฉินเทียนหยวนที่เห็นตัวหวังเค่อ ก่อนจะยืนอยู่ตรงหน้าปากหลุมแล้วดึงตัวหวังเค่อขึ้นมา
“หวังเค่อ เ้าขึ้นมาได้ยังไง?” เฉินเทียนหยวนเองก็เบิกตาโตด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
คนที่ตกลงไปในหลุมนี้ไม่อาจปีนกลับขึ้นมาได้ ต่อให้เป็ชนชั้นทารกแกนิญญายังไม่สามารถ ไม่อย่างนั้นมารร้ายไร้เทียมทานคงหลบหนีไปนานแล้ว
แล้วหวังเค่อปีนขึ้นมาได้ยังไง? นี่ไม่สมควรเป็ไปได้!
“ศิษย์น้องหวังเค่อ เ้ายังมีชีวิตอยู่ ประเสริฐ ประเสริฐนัก!” เถี่ยหลิวหยุนที่แผลเต็มตัวเร่งรุดมาจับมือหวังเค่อไว้อย่างยินดี
หวังเค่อกวาดสายตามองไปรอบด้าน ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์กลุ่มใหญ่ล้อมถ้ำเอาไว้แล้ว ยังมีมู่หรงลวี่กวงกับคนไม่คุ้นหน้าอีกจำนวนหนึ่ง
“หวังเค่อ ข้ารู้ว่าคนดีมักตายไว ส่วนดาวหายนะแบบเ้าอยู่ได้อีกเป็พันปี!” จางเจิ้งเต้าที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวอย่างยินดี
หวังเค่อกลอกตาใส่จางเจิ้งเต้า เ้าต่างหากดาวหายนะ!
“ท่านอาจารย์ ทำไมพวกท่านทุกคนถึงมาอยู่ที่นี่? แล้วถงอันอันเล่า?” หวังเค่อมองเฉินเทียนหยวน
เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย มู่หรงลวี่กวงกับเถี่ยหลิวหยุนต่างเผยสีหน้าบูดเบี้ยวออกมา
“ก่อนหน้านี้ ไป๋จินได้ปิดผนึกทางเข้าถ้ำและคุกเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่มีแสงสีเล็ดรอดออกไป แต่ว่าการต่อสู้ของข้ากับถงอันอันสั่นะเืผืนดินูเาจนคนจากตำหนักหมาป่าประจิมสังเกตเห็น ศิษย์ตำหนักหมาป่าแห่งอื่นที่เหลือบางส่วนเองก็ตามมาตรวจสอบ ด้านนอกปากทางเข้าถ้ำมีสายลับมารเฝ้าอยู่ตนหนึ่ง พอมันเห็นคนมาตรวจสอบ มันก็รีบเปิดถ้ำเตือนถงอันอันให้รีบหนี ตอนนั้นข้าไหนเลยจะยอมให้ถงอันอันหนีไปได้? สุดท้ายถงอันอันกับสายลับมารต้องะเิอาวุธวิเศษจนาเ็กันทั้งคู่ ตัวข้าโดนคลื่นกระแทกจนกระอักโลหิต พวกมันเลยฉวยโอกาสหลบหนีไป!” เถี่ยหลิวหยุนกล่าวอย่างเจ็บแค้น
“หนี? พวกมันอยู่ในพรรคเทพหมาป่า์ พวกมันหนีไปได้อย่างไร?” หวังเค่อขมวดคิ้ว
มู่หรงลวี่กวงหน้าดำคล้ำ “เป็ข้าประมาทเอง ตอนนั้นข้าได้ยินเสียงเลยรีบพุ่งไปตรวจสอบจนลืมสั่งปิดประตูพรรค ศิษย์เฝ้าประตูเคยเห็นสายลับมารมาก่อน ตัวสายลับก็เป็ศิษย์ตำหนักหมาป่าประจิมที่มันพบหน้ากันบ่อยครั้ง จึงไม่มีผู้ใดสงสัยหรือตรวจสอบกล่องที่มันแบกลงจากพรรคไป ข้าเกรงว่าภายในกล่องคงเป็ถงอันอัน!”
ถึงตัวมู่หรงลวี่กวงจะไม่ได้ดูแลประตูขึ้นเขา แต่คนที่จัดแจงสั่งการศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ที่รับหน้าที่เฝ้าประตูก็คือมัน ผลลัพธ์ครั้งนี้นับว่าทำพลาดครั้งใหญ่
“ถงอันอันหนีไปแล้ว?” หวังเค่อขมวดคิ้ว
ทุกคนล้วนต่างรู้สึกจนใจ
“มู่หรงลวี่กวงส่งคนออกตามหาแล้ว หากคืบหน้าอย่างไรมันจะมารายงานเอง หวังเค่อ เ้าปีนขึ้นมาจากด้านล่างได้อย่างไร? แล้วพวกไป๋จินเล่า?” เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
“จริงด้วย หวังเค่อ เ้าไม่เจอมารร้ายไร้เทียมทานตนนั้นรึ? หรือผนึกด้านล่างจะอ่อนกำลังลง?” เถี่ยหลิวหยุนถามอย่างงุนงง
“เจอสิ!” หวังเค่อพยักหน้า
“หา?” ทุกคนต่างมีสีหน้าจริงจัง
“เ้าเจออะไร?” มู่หรงลวี่กวงถาม
“ข้าเจอมารร้ายไร้เทียมทานถูกขังอยู่ด้านล่างนี่ ข้าคุยกับมันอยู่สักพัก มันบอกว่าสามารถส่งข้าออกมาได้ แล้วก็ส่งข้าออกมา!” หวังเค่ออธิบาย
เฉินเทียนหยวน “…!”
มู่หรงลวี่กวง “…!”
เถี่ยหลิวหยุน “…!”
คิดว่าพวกข้าจะเชื่อหรือเปล่า? เ้าคุยกับมันสักพัก เสร็จแล้วมารร้ายไร้เทียมทานก็ส่งเ้าออกมา? ส่งกับผีน่ะสิ! หลายต่อหลายปี มีคนตั้งเท่าไหร่ร่วงหล่นลงไปแล้วไม่เคยรอดกลับขึ้นมา ขนาดศิษย์ลัทธิมารลงไปยังไม่รอดเลย เ้าที่เป็ศิษย์พรรคธรรมะคุยกับมันไม่กี่คำ มันก็ส่งเ้ากลับออกมา?
“แล้วพวกไป๋จินเล่า?” เถี่ยหลิวหยุนถาม
“มารไร้เทียมทานตนนั้นทั้งว่างเปล่า เปลี่ยวเหงา และหนาวเหน็บ มัน้าคนอยู่เป็เพื่อน มันก็เลยกักตัวพวกนั้นไว้นั่งเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน!” หวังเค่ออธิบาย
เื่แบบนี้หวังเค่อย่อมไม่คิดปิดบังอาจารย์ตัวเอง
หากทุกคนต่างพากันเบิกตามองหวังเค่ออยู่พักใหญ่ ใครมันจะทำใจเชื่อลง?
เ้าล้อข้าเล่นหรือเปล่า? ว่างเปล่า เปลี่ยวเหงา และหนาวเหน็บ?
“ไพ่นกกระจอกคืออะไร?” เฉินเทียนหยวนถามด้วยสีหน้าพิกล
“นี่ขอรับ ข้าบังเอิญมีโต๊ะเล่นไพ่นกกระจอกอยู่พอดี จากนั้นก็…!” หวังเค่อล้วงโต๊ะไพ่นกกระจอกออกมาอธิบายให้ทุกคนฟัง
เฉินเทียนหยวน “…!”
มู่หรงลวี่กวง “…!”
เถี่ยหลิวหยุน “…!”
มารไร้เทียมทานตนนั้น เ้าจะบอกว่ามันรู้สึกว่างเปล่า เปลี่ยวเหงา และหนาวเหน็บ ก็เลยปล่อยคนกลุ่มหนึ่งเอาไว้เป็เพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก? นี่คิดว่าข้าจะเชื่อ?
“หวังเค่อ สมองเ้ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” มู่หรงลวี่กวงถามอย่างไม่เชื่อถือ
“ศิษย์พี่ใหญ่ พูดคุยกันอยู่ดีๆ ไฉนจู่ๆ ท่านก็พูดจาแบบนี้?” หวังเค่อถลึงตา
“เ้าพูดจริงเรอะ? เ้าคุยกับมารร้ายไร้เทียมทาน? เ้าคุยเื่อะไรกัน? คุยยังไงมารไร้เทียมทานถึงได้ยอมปล่อยเ้ามา?” มู่หรงลวี่กวงไม่ยอมเชื่อ
“อืม นอกจากคุยกันแล้ว พวกเรายังเล่นไพ่นกกระจอกกันครู่หนึ่งด้วย! มันอาจจะคิดว่าข้าเป็คนดี ก็เลยส่งข้าออกมา!” หวังเค่ออธิบาย
มู่หรงลวี่กวง “…!”
เ้าเล่นไพ่นกกระจอกกับมารไร้เทียมทานด้วย? แม่งเอ๊ย ยิ่งมายิ่งเหลวไหลเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว
“เอาเถอะ หวังเค่อ เ้ากลับไปพักผ่อนก่อน!” เฉินเทียนหยวนกล่าว
“อ๋อ? ได้ขอรับ!” หวังเค่อพยักหน้ารับ
หวังเค่อเดินออกจากถ้ำไปเพียงลำพังท่ามกลางสายตาแปลกพิกลของทุกคน แน่นอนว่าจางเจิ้งเต้าย่อมต้องตามไปด้วย
เฉินเทียนหยวน มู่หรงลวี่กวง และเถี่ยหลิวหยุนต่างมองหน้ากันไปมาในถ้ำ
“ท่านประมุข หวังเค่อมันพูดจาเหลวไหลชัดๆ เล่นไพ่นกกระจอกกับมารไร้เทียมทานอะไรกัน? มารไร้เทียมทานเห็นมันเป็คนดีก็เลยส่งตัวออกมา ส่วนพวกคนทรยศไป๋จินเก็บไว้เป็เพื่อนเล่นไพ่ นี่จะเป็ไปได้อย่างไร? ท่านเชื่อมันหรือ? ทำไมท่านไม่ถามต่อ?” มู่หรงลวี่กวงพลันถามด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“ช่างเถอะ หวังเค่อบอบช้ำทางอารมณ์มาสักพักแล้ว าแในใจมันใหญ่นัก! ดังนั้น…!” เฉินเทียนหยวนส่ายหน้า
“ใช่แล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์น้องหวังเค่ออกหักช้ำรัก ท่านเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ทำไมท่านถึงได้ตอแยศิษย์น้องหวังเค่อนัก?” เถี่ยหลิวหยุนขมวดคิ้ว
“ข้าเนี่ยนะตามตอแยมัน?” มู่หรงลวี่กวงถลึงตา
“แล้วไม่ใช่รึ? ศิษย์น้องหวังเค่อชอกช้ำระกำใจ ไม่ใช่ท่านยังหาเื่ตอแยมัน? มันยอมแลกชีวิตกับฝูงมารเพื่อช่วยข้า ท่านยังคิดอยากกล่าวหาอะไรมันอีก? มันทำผิดอะไร? ศิษย์น้องหวังปีนป่ายขึ้นมาจากเบื้องล่าง เื่นี้อาจพิสดารไปบ้าง แต่แล้วอย่างไร? ทำไมศิษย์น้องหวังเค่อจะต้องบอกความลับตัวเองให้ท่านรู้ด้วย? ท่านยินดีป่าวประโคมความลับตัวเองให้ธารกำนัลรับรู้หรือไร? ทุกคนจะมีความลับกันบ้างนิดหน่อยไม่ได้เลยหรือ?” เถี่ยหลิวหยุนไม่ยอมลดราวาศอก
“ของแบบนี้เรียกว่าความลับนิดหน่อยรึ?” มู่หรงลวี่กวงถลึงตา
“ทำไมจะไม่ใช่? เฮ้อ หากท่านมีวิชาลับสำหรับหนีเอาตัวรอด ท่านจะป่าวประกาศให้คนอื่นรู้หรือไง? ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านจะเกลียดหวังเค่อแค่เพราะองค์หญิงโยวเยว่ปฏิเสธรักท่านไม่ได้! ข้าขอแนะนำว่าท่านอย่าทำตัวใจดำนักเลย!” เถี่ยหลิวหยุนไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อย
“เ้า เ้าพูดว่าใจดำ! เ้าคิดว่าข้าบาดหมางกับหวังเค่อเพราะองค์หญิงโยวเยว่?” มู่หรงลวี่กวงแค่นเสียง
“เื่นี้เขารู้กันทั้งพรรค จะมาทำเป็โกรธทำไม?” เถี่ยหลิวหยุนกล่าวอย่างดูแคลน
“เอาล่ะ! พูดเื่เหลวไหลกันพอแล้ว!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยอย่างจริงจัง
ทุกคนพากันเงียบปากทันควัน
“เหตุการณ์ไป๋จินครั้งนี้ทำให้ข้าเข้าใจแล้วว่าภายในพรรคเทพหมาป่า์ไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เห็น!” เฉินเทียนหยวนกวาดตามองศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ทั้งหลาย
สีหน้าบรรดาศิษย์ตำหนักหมาป่าประจิมต่างบูดเบี้ยวสุดขีด “ท่านประมุขอภัยด้วย พวกเราคิดไม่ถึงจริงๆ!”
“คิดไม่ถึงรึ? เหอะ ตำหนักหมาป่าประจิมรับผิดชอบเฝ้าจับตาดูสิบหมื่นมหาบรรพตและศิษย์ทั้งหมดในพรรคเทพหมาป่า์ พวกเ้ามีหน้าที่รับผิดชอบใหญ่หลวง แต่กลับพบสายลับจากลัทธิมารแฝงตัวเข้ามาอยู่หลายครั้ง พวกเ้ายังบอกว่าคิดไม่ถึงอีก?” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงเย็น
“ท่านประมุขโปรดอภัยด้วย!” ศิษย์ตำหนักหมาป่าประจิมพากันคุกเข่าลง
“ขนาดตำหนักหมาป่าประจิมยังถูกลัทธิมารแทรกซึมเข้ามา แล้วตัวข้าในฐานะประมุขควรรับผิดชอบอย่างไร? นับแต่นี้ไป ให้ตรวจสอบศิษย์ทุกคนอย่างละเอียด รวมถึงศิษย์ตำหนักหมาป่าประจิมเ้าด้วย ส่งรายงานการตรวจสอบมาให้ข้าอย่างละเอียด แล้วแจ้งเ้าตำหนักหมาป่าประจิมให้รีบกลับมาด้วย เหอะ ตำหนักที่ตัวเองรับผิดชอบเละเทะขนาดนี้ยังจะออกไปทำอะไรข้างนอกพรรคอีก? ในบ้านตัวเองยังเก็บกวาดไม่สะอาด ทำไมถึงออกไปไล่ปราบมารข้างนอก!” เฉินเทียนหยวนแค่นเสียงเย็น
“ทราบ!” เหล่าศิษย์ตำหนักหมาป่าประจิมต่างขานรับ
“มู่หรงลวี่กวง ตำหนักหมาป่าบูรพาภายในเน้นเฝ้าระวังภายนอกเน้นจู่โจม ครั้งนี้เป็เพราะศิษย์เฝ้าประตูหละหลวม ทำให้ถงอันอันหนีรอดไปได้ เ้ารู้ใช่ไหมว่าควรจัดการอยางไร?” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงเย็น
“ขอรับ ศิษย์ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่จะต้องถูกลงโทษแน่นอน!” มู่หรงลวี่กวงขานรับอย่างขมขื่น
“อีกอย่าง ให้เ้าเป็คนรับผิดชอบไล่ล่าสังหารถงอันอัน! ชดเชยความประมาทเลินเล่อของตัวเอง!” เฉินเทียนหยวนสั่งเสียงเข้ม
“ทราบ!” มู่หรงลวี่กวงขานรับอย่างนอบน้อม
“เถี่ยหลิวหยุน เ้าตำหนักหมาป่าทักษิณยังไม่กลับมาอีก? แล้วงานชุมนุมประตูัครั้งนี้…?” เฉินเทียนหยวนมองเถี่ยหลิวหยุน
“ท่านประมุขโปรดวางใจ ข้าจะไปร่วมงานชุมนุมประตูัเอง! ข้าพักรักษาตัวไม่กี่วันก็หายแล้ว ข้ารับรองว่าจะต้องพาตัวศิษย์คุณภาพมากพร์กลับมายังพรรคให้ได้!” เถี่ยหลิวหยุนเอ่ยอย่างนอบน้อม
“อืม!” เฉินเทียนหยวนพยักหน้ารับ
ยอดเขาหยั่งรู้กระบี่
หวังเค่อกลับมายังยอดเขาหยั่งรู้กระบี่ด้วยสีหน้าหดหู่
“ข้าพูดเื่จริง ข้าเล่นไพ่นกกระจอกกับมารไร้เทียมทานตนนั้นจริงๆ ทำไมพวกมันถึงไม่เชื่อข้า?” หวังเค่อทำหน้าไม่ยินยอม
“หวังเค่อ เ้าอย่าโม้อีกเลย! ขนาดข้ายังไม่เชื่อคำพูดเ้า แล้วเ้าคิดว่าพวกมันจะเชื่อหรือ?” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างดูแคลน
“บัดซบ ใครบอกว่าข้าโม้?” หวังเค่อถลึงตาใส่จางเจิ้งเต้า
“จะว่าไป เ้าจะเอายังไงกับบริษัทเสินหวัง? ถ้าหากมีคนแอบอ้างเป็บริษัทเสินหวังจะทำยังไง?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างสงสัย
“ข้าถามท่านอาจารย์มาแล้ว ถ้าหากมีหยกวิถีิญญาก็ไม่มีปัญหา เราจะมีตราประทับทางการที่ไม่มีผู้ใดปลอมแปลงได้!” หวังเค่ออธิบาย
“หยกวิถีิญญา? ตัดใจเสียเถอะ ข้าเคยได้ยินเื่ของชิ้นนี้ แต่ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน แล้วเ้าจะไปหามาจากไหน?” จางเจิ้งเต้าหน้ากังขา
“ไม่เป็ไร ตอนข้าเล่นไพ่นกกระจอกกับมารไร้เทียมทานตนนั้น มันก็ให้หยกวิถีิญญาข้ามาชิ้นหนึ่ง!” หวังเค่อนำศิลาเรืองแสงสีแดงก้อนหนึ่งออกมา
จางเจิ้งเต้าอ้าปากค้างมองดูหยกิญญา ก่อนจะคว้าไปสำรวจดูอย่างละเอียด
“ไม่ใช่เ้าไม่เคยเห็นมาก่อน? แล้วเ้าจะดูไปทำไม?” หวังเค่อกระชากกลับมาพลางถลึงตาใส่
“ของจริง เป็ของจริงได้ยังไง?” จางเจิ้งเต้าเบิกตาอย่างไม่อยากเชื่อ
“เ้าดูออกด้วย? เ้าโกหกนี่ เมื่อกี้เ้าเพิ่งพูดอยู่แหม็บๆ ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนนี้กลับเคยเห็นแล้ว?” หวังเค่อเอ่ยอย่างใ
“เอามาจากไหน เอามาจากไหน?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างตื่นเต้น
“ข้าก็บอกเ้าไปแล้วไง!” หวังเค่อถลึงตาก่อนเก็บหยกวิถีิญญาลงไป
“เ้าเล่นไพ่นกกระจอกได้มา? หวังเค่อ เ้าจะโม้ว่าเล่นไพ่นกกระจอกชนะได้หยกิญญามา? หรือเ้าจะโม้ว่ามารไร้เทียมทานเป็คนให้กันแน่? นี่ นี่ไม่สมเหตุสมผล!” จางเจิ้งเต้าสบถ
