ในป่าที่เงียบสงัดและมืดมน แสงแห่งเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้เผาป่าแถวนั้นทั้งหมดเผยให้เห็นร่างของหลี่หวงที่นอนอยู่บนพื้น ใบหน้าและร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเื เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “เต๋า์..…”
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เริ่มห่อหุ้มร่างของหลี่หวงเพื่อรักษาาแทั่วร่างกายของเขา แผลที่เคยมีค่อย ๆ หายไป ร่างกายของหลี่หวงค่อย ๆ ฟื้นฟู จนกระทั่งเขากลับมาเป็ปกติอีกครั้ง หลี่หวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และบินออกไปทันที
ณ ภาคเหนือของทวีปดารา ทหารจากกองทัพบัลลังก์ทองคำทั้ง 40,000 นายที่ยืนเรียงรายอยู่เป็แถวหน้ากระดาน 2 แถวอย่างสง่างาม ร่างกายของพวกเขาห่อหุ้มไปด้วยชุดเกราะสีทองอร่ามที่ส่องประกายสะท้อนแสงแดด จือหยวน ที่สวมใส่เกราะสีทอง ยืนอยู่ด้านหน้าสุด สายตาของเขาจ้องมองไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ขณะที่แรงกดดันมหาศาลจากสัตว์ปีศาจที่ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาจากทะเลและกระแทกใส่พวกกองทัพบัลลังก์ทองคำ
"แสงสีทองแห่งการพิพากษา!" จือหยวนสั่งการโจมตีในทันที
กองทัพบัลลังก์ทองคำขานรับอย่างพร้อมเพรียง ทหารในแถวแรกยกมือขึ้นและมือของพวกเขาเปล่งประกายออร่าสีทองคำที่รวบรวมพลังออกมาจากร่างกายก่อนจะปลดปล่อยพลังแห่งการทำลายล้างออกไปยังสัตว์ปีศาจทะเลที่กำลังบุกเข้ามาหาพวกเขา
ตูม!
ตูม!
ตูม!
เสียงะเิดังสนั่น แสงสีทองสาดส่องไปทั่วชายฝั่ง เศษซากร่างกายของสัตว์ปีศาจทะเลกระจัดกระจายเป็ชิ้น ๆ และเืของพวกมันสาดกระเซ็นไปทั่วทุกพื้นที่และน้ำทะเลรอบ ๆ ถูกย้อมไปด้วยสีเืแดงฉาน สัตว์ปีศาจทะเลมากกว่า ห้าแสน ตัวถูกสังหารลงในเพียงแค่การโจมตีระลอกแรกเท่านั้น
จือหยวนสั่งการต่อ “แถวสอง สลับขึ้นมาโจมตีต่อ! อย่าปล่อยให้พวกมันเข้ามาใกล้ได้!”
ทันทีที่แถวแรกถอยหลังออกไป แถวที่สองก็ก้าวขึ้นมาแทนที่และเตรียมพร้อมที่จะยิงพลังอีกครั้ง ทว่าในวินาทีนั้นเอง แรงสั่นะเือันมหาศาลก็ก่อตัวขึ้นในทะเล ท้องฟ้ามืดครึ้มลง น้ำทะเลที่เคยสงบนิ่งกลับเริ่มเดือดพล่านก่อนที่สิ่งมีชีวิตอันน่าสะพรึงกลัวจะปรากฏตัวขึ้น
ัทะเลขนาดั์ที่มีระดับการบ่มเพาะถึงขั้นกษัตริย์นักบุญโผล่ขึ้นมาจากน้ำเสียงคำรามของมันดังกึกก้องไปทั่วทุกทิศทางและน้ำทะเลรอบตัวมันปั่นป่วนไปหมด ัตัวนั้นมันได้พุ่งตรงเข้ามาที่ชายฝั่งอย่างรวดเร็วพร้อมกับคลื่นขนาดมหึมาที่ตามมันมาด้วย
จือหยวนยืนอยู่บนชายฝั่ง สายตาของเขาจับจ้องไปยังคลื่นั์ที่กำลังถาโถมเข้ามา เขาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนออกคำสั่ง
“สร้างเกราะทองคำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา!”
ทันใดนั้น พลังิญญาอันมหาศาลก็พุ่งออกจากร่างของทหารกองทัพบัลลังก์ทองคำ แสงทองเจิดจ้าค่อย ๆ แผ่คลุมทั่วร่างกายของพวกเขา และเมื่อออร่าครอบคลุมจนสมบูรณ์ เกราะสีทองอันงดงามที่สร้างจากพลังิญญาก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับโล่ขนาดใหญ่ในมือของทหารทุกนาย จือหยวนประกาศก้องอีกครั้ง
“โล่ราชันทองคำ!”
ขณะนั้นเอง เงามืดก็ได้บดบังท้องฟ้าทั้งหมด สัตว์ทะเลนับล้านตัวเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าอย่างสับสน ก่อนจะพบวัตถุสีทองขนาดั์ที่กำลังตกลงมาจากฟ้า แรงกดดันจากวัตถุนี้ทำให้สัตว์ทะเลระดับกษัตริย์นักบุญถึงกับต้องหันหน้าไปมองด้วยความตึงเครียด และัทะเลนั้นถูกกดทับด้วยพลังของโล่ทองคำจนคลื่นที่มันสร้างแตกสลายไป
ปีศาจทะเลที่มีการบ่มเพาะระดับกษัตริย์นักบุญทั้งหลายต่างรวบรวมพลังเพื่อทำลายวัตถุสีทองนั้น แต่ทันทีที่พวกมันเริ่มรวบรวมพลัง พวกมันก็รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างรอบตัวของพวกมัน ทันใดนั้นหน่วยลับเงาทมิฬก็โผล่ออกมาจากเงาของพวกมันทันที หน่วยลับเงาทมิฬที่แฝงตัวอยู่ในเงาสัตว์ปีศาจทะเลนั้นได้ฉวยโอกาสโจมตีโดยไม่รีรอ พวกเขาแทงดาบเข้าไปในร่างของสัตว์ปีศาจทะเลเ่าั้ แม้การโจมตีนี้จะไม่ได้สร้างอันตรายถึงตาย แต่มันก็ทำให้พวกสัตว์ปีศาจทะเลชะงักได้บ้าง หน่วยลับเงาทมิฬอาศัยความได้เปรียบนี้ถอยกลับไปในเงามืดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ปลากระเบนขนาดั์ที่มีการบ่มเพาะระดับกษัตริย์นักบุญจะฟาดหางขนาดใหญ่เข้าหาพวกเขา
ในจังหวะนั้นเอง จือหยวนพลันยกมือขึ้นและะโ “แสงสีทองแห่งการพิพากษา!”
พลังแสงสีทองเจิดจ้าพุ่งตรงไปยังปลากระเบนตัวนั้น แสงสีทองสาดประกายเป็คลื่นพลังอันแข็งแกร่ง แสงนั้นฟาดฟันเข้าไปที่ร่างของปลากระเบนจนมันกรีดร้องออกมาด้วยความเ็ป และมันเปิดโอกาสให้หน่วยลับเงาทมิฬสามารถถอยออกมาได้อย่างปลอดภัย
เสียงคำรามของสัตว์ปีศาจทะเลดังก้องไปทั่วทั้งชายฝั่ง น้ำทะเลสั่นะเืด้วยความโกลาหล จือหยวนมองไปที่หน่วยลับเงาทมิฬที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จากนั้นเขาหันไปให้สัญญาณแก่กองทัพบัลลังก์ทองคำ แถวที่สองพร้อมโจมตีแล้ว
ขณะเดียวกัน โล่ทองคำขนาดใหญ่ั์ที่ตกลงมาจากฟากฟ้ากระแทกเข้ากับพื้นทะเล บดขยี้สัตว์ปีศาจทะเลทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนั้นทันที และสัตว์ปีศาจทะเลที่พยายามหนีเอาตัวรอดจนกระจายไปทั่ว แต่ไม่ว่าจะพวกมันจะว่ายไปทางไหนก็ต้องพบกับความหายนะเท่านั้น หากพวกมันว่ายมาที่ชายฝั่งก็จะถูกคลื่นพลังของ “แสงสีทองแห่งการพิพากษา!” ของกองทัพบัลลังก์ทองคำบดขยี้จนสิ้นซาก หรือหากเลือกหนีออกไปด้านข้าง ก็จะถูกหน่วยลับเงาทมิฬที่แฝงตัวอยู่ในเงาของพวกมันสังหารอย่างไร้ความปรานี
สัตว์ปีศาจระดับกษัตริย์นักบุญไม่กี่ตัวที่รอดมาได้ต่างหันมามองกันและพวกมันเต็มไปด้วยความโกรธและความกลัว พวกมันรู้ว่าหากกลับไปโดยไม่ได้รับชัยชนะจะทำให้พวกมันต้องเผชิญหน้ากับความตายอันโหดร้ายอย่างแน่นอน ดังนั้น พวกมันจึงตัดสินใจพุ่งเข้าไปโจมตีกองทัพบัลลังก์ทองคำด้วยพลังทั้งหมดที่มี
แต่ก่อนที่พวกมันจะได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ร่างของพวกมันกลับทรุดลงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เืสีดำทะลักออกจากปากและจมูก รอยจุดหลากสีปรากฏขึ้นบนิัของพวกมัน แสดงให้เห็นถึงพิษบางอย่างที่ลามไปทั่วร่างกายของพวกมันแล้ว สัตว์ปีศาจระดับกษัตริย์นักบุญเหล่านี้พยายามใช้พลังิญญาเพื่อขับพิษออก
จือหยวนเห็นโอกาสนี้ เขารวบรวมพลังิญญาเพื่อสร้าง “ดาบทองคำพิชิตฟ้า!”
ดาบสีทอง เรืองแสงสว่างถูกสร้างขึ้นมาในมือของจือหยวน เขารวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่แขนก่อนจะตวัดดาบออกไปอย่างรวดเร็ว ฟิ้ว! คลื่นพลังสีทองขนาดมหึมาถูกส่งออกจากปลายดาบ พุ่งทะยานตรงไปยังสัตว์ปีศาจระดับกษัตริย์นักบุญเ่าั้ คลื่นพลังนั้นเป็ดั่งท่วงทำนองแห่งความตายที่ไร้หนทางหลบหนี
ตูม!
เสียงะเิดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ คลื่นพลังสีทองแผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง ตลอดชายฝั่งถูกย้อมไปด้วยแสงสีทองที่สว่างไสวและควันจากแรงะเิได้ฟุ้งกระจายปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดในทันที
จือหยวนะโขึ้นทันที “ทุกคนระวังตัวให้ดี!!”
ตูมมมมม
ชายฝั่งของทวีปดาราถูกปกคลุมด้วยเสียงะเิและควันที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว ควันที่หนาทึบปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดจนมองไม่เห็นอะไรเบื้องหน้าเลย ขณะที่เสียงคำรามอันโกรธแค้นดังขึ้นจากกลางทะเล
“พวกมนุษย์โสโครก กล้าดีอย่างไรถึงมาสังหารคนของราชวงศ์ั!”
เสียงนี้เป็ของชายผู้หนึ่งในชุดสีเขียวสดใส และห้อยกระดองเต่าขนาดใหญ่ไว้ที่หลัง เขายืนหยัดอยู่ท่ามกลางฝูงสัตว์ปีศาจทะเล
ขณะที่ชายชุดเขียวกำลังจะโจมตีต่อไป หมอกหนาทึบก็เริ่มแผ่กระจายครอบคลุมเขาและสัตว์ปีศาจทะเลใกล้เคียง กลิ่นหอมอ่อนๆ แฝงไปด้วยความอันตรายแพร่กระจายมาพร้อมกับหมอกนั้น หมอกนั้นมันทำให้ร่างกายของชายชุดเขียวเริ่มรู้สึกมึนงง ชายชุดเขียวรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่กดทับและทำให้พลังิญญาเริ่มอ่อนแรงลงไป
ชายชุดเขียวขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่าหมอกนี้มีคุณสมบัติลดพลังการต่อสู้ เขาะโเสียงดังด้วยความโกรธ “เ้าคิดว่าหมอกงี่เง่านี้จะขัดขวางข้าได้งั้นรึ!? ช่างโง่เง่าสมกับเป็มนุษย์ดีจริงๆ”
ชายชุดเขียวรวบรวมพลังและเตรียมใช้พลังิญญาเพื่อปัดเป่าหมอกให้หายไป แต่ทว่าทันใดนั้นเอง ลูกธนูเรืองแสงสายรุ้งก็พุ่งตรงมาที่หัวของเขาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ชายชุดเขียวยกแขนขึ้นรับการโจมตีนั้นได้ทันเวลา แต่ลูกธนูกลับพุ่งทะลุการป้องกันเข้าไปปักที่มือของชายชุดเขียว
ดวงตาของชายชุดเขียวเบิกกว้างด้วยความใ เมื่อเห็นว่ามือของเขาที่ถูกลูกธนูปักเริ่มเปลี่ยนเป็สีรุ้ง พิษที่แผ่จากจุดที่ลูกธนูปักอยู่เริ่มแพร่กระจายไปทั่วแขนเขาอย่างรวดเร็วจากมือไปยังแขน เขาใช้พลังิญญาพยายามจะขับพิษออกจากร่าง แต่ไม่ว่าจะทำเช่นไร พิษนั้นก็ยังคงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว จนไปถึงข้อศอกของชายชุดเขียวแล้ว
เมื่อเห็นว่าวิธีขับพิษไม่ได้ผล ชายชุดเขียวกัดฟันตัดสินใจขั้นเด็ดขาด เขาคำรามอย่างโกรธแค้นพร้อมกับใช้พลังิญญาของตนฟันลงไปที่แขนของตัวเองทันที แขนที่ถูกตัดออกกระเด็นตกลงสู่พื้น ความเ็ปจากการตัดแขนออกมันแผ่กระจายไปทั่วร่าง แต่นั่นมันคือทางเดียวที่ชายชุดเขียวจะรอดพ้นจากพิษได้