เมื่อกล่องไม้สีแดงสดที่สะอาดหมดจดปรากฏต่อหน้าชาวบ้าน มีหรือที่ทุกคนจะไม่เข้าใจว่าเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?
สีหน้าของผู้ดูแลจางที่ยืนอยู่ข้างเ้าหน้าที่พลันแปรเปลี่ยนไปหลายรอบ สายตาที่มองไปยังอวิ๋นโส่วจู่ราวกับ้าจะฆ่าให้ตาย กล่องใบนี้ คือกล่องที่เขาเคยพูดถึงต่อหน้าทุกคน! คือกล่องที่ใช้ใส่ตราประทับ!
แต่เพราะเื่ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวอวิ๋นโส่วจงก่อนหน้านี้ ทำให้ตอนนี้ก่อนจะเปิดกล่อง เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป หากภายในกล่องว่างเปล่า...
ภายใต้คำสั่งของหัวหน้าเ้าหน้าที่ เ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เปิดกล่องออก ภายในกล่องมีตราประทับหินเืไก่สีแดงสดแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามวางอยู่
อวิ๋นโส่วจู่ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก! เขาแทบจะยืนไม่อยู่ สีหน้าซีดเผือด หากไม่ได้เ้าหน้าที่สองคนช่วยพยุงเอาไว้ เขาคงทรุดลงไปกองกับพื้นเป็แน่ “ไม่... เป็ไปได้อย่างไร? ข้า... ข้าฝังกล่องนี้ไว้ในคอกวัวบ้านพี่รองแล้วแท้ๆ!”
จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้แล้วหันไปมองผู้ดูแลจาง “ผู้ดูแลจาง ท่านฟังข้าอธิบายก่อน ข้าทำตามที่ท่านสั่งทุกอย่าง ฝังของสิ่งนี้ไว้ในคอกวัวบ้านอวิ๋นโส่วจงแล้วจริงๆ!”
ผู้ดูแลจางรีบะโเข้าไปปิดปากเขา “เ้าพูดเหลวไหล! เ้าต้องแอบขโมยไปแน่ๆ แต่พอเห็นพวกข้าแจ้งความก็เลยกลัวขึ้นมา จึงใส่ร้ายป้ายสีครอบครัวอวิ๋นโส่วจง!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมรับ อวิ๋นโส่วจู่ก็ยิ่งร้อนใจ จึงกัดเข้าไปที่มือของผู้ดูแลจางอย่างแรง ผู้ดูแลจางร้องลั่นด้วยความเ็ป เขาฉวยโอกาสะโว่า “ท่านนั่นแหละ ท่านเป็คนบอกให้ข้าซ่อนมัน! ตราประทับก็เป็ของที่ท่านให้ข้า ท่านยังสัญญาว่าหลังจากเื่สำเร็จจะให้เงินข้าหนึ่งร้อยตำลึง!”
“จริงสิ วันนั้นท่านแสร้งทำเป็เข้ามาเก็บสมุนไพรในหมู่บ้านเพื่อมาหาข้า!”
ทันทีที่อวิ๋นโส่วจู่ะโจบ ก็มีชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ใช่ๆ ไม่กี่วันก่อน ตอนที่ข้ากำลังทำงานอยู่ที่ไร่ก็เห็นเขามาเก็บสมุนไพรที่หมู่บ้านพวกเรา!”
“ข้าก็เห็น!”
“ข้ายังเอาดอกสายน้ำผึ้ง [1] ที่ตากแห้งแล้วที่บ้านให้เขาดู แต่เขากลับบอกว่าไม่รับซื้อดอกสายน้ำผึ้ง”
“เขาไม่รับซื้อผักกาดน้ำเล็ก [2] ที่บ้านข้าด้วย!”
“ที่แท้ก็ไม่ได้มาเก็บสมุนไพร แต่มาเพื่อทำเื่เลวทราม!”
“เหลวไหล พวกเขาพูดจาเหลวไหล ข้ามาเก็บสมุนไพรจริงๆ ร้านยาจี้เหรินถังของพวกเราเปิดร้านขายยาและโรงหมอ ้าสมุนไพรเป็ธรรมดาอยู่แล้ว!”
ได้ยินดังนั้นผู้ดูแลจางก็หยุดร้องโอดโอย เขาเอามือกุมแผลที่ถูกอวิ๋นโส่วจู่กัดจนเืไหลพลางแก้ตัวอย่างร้อนรน “เขานั่นแหละ เขาเป็คนที่แอบขโมยของไป ตอนนี้ยังมาใส่ร้ายป้ายสีข้าอีก!”
“พอได้แล้ว!” เ้าหน้าที่ทางการตวาดด้วยใบหน้าบึ้งตึง “จะมีความผิดหรือไม่ ต้องรอใต้เท้าสอบสวนแล้วค่อยตัดสิน!”
ร้านยาจี้เหรินถังเป็ของอนุภรรยาของใต้เท้า ก็เท่ากับเป็ของใต้เท้า เขาจะปล่อยให้ชาวบ้านพวกนี้ปรักปรำว่าผู้ดูแลของร้านยาจี้เหรินถังมีความผิดได้อย่างไร!
กล่าวจบก็สั่งให้เ้าหน้าที่ทางการนำตัวอวิ๋นโส่วจู่ขึ้นรถขนนักโทษ อวิ๋นโส่วจู่ใจนฉี่ราดกางเกง กลิ่นฉุนของปัสสาวะพลันฟุ้งกระจายไปทั่ว คุกงั้นหรือ เขาไม่อยากกลับไปที่นั่นอีกแล้วจริงๆ ทว่าครั้งนี้ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนขัดขืนอย่างไรก็ไร้ผล
“ท่านพ่อ... ช่วยข้าด้วย! อวิ๋นโส่วจงใส่ร้ายข้า ข้าฝังของไว้ในคอกวัวบ้านพวกเขาแท้ๆ เหตุใดถึงขุดเจอของเล่นนั่นได้! ของของอวิ๋นเจียว... ท่านแม่ ลูกชายของท่านถูกยัยเด็กอวิ๋นเจียวนั่นใส่ร้าย! ต้องเป็ยัยเด็กนั่นที่แอบสับเปลี่ยนของแน่ๆ!”
“ถุ้ย! ใส่ร้ายพี่ชายตัวเองไม่สำเร็จ พอเื่แดงขึ้นมาก็ยังกล้าพูดว่าพี่ชายเป็คนใส่ร้ายอีก! หน้าไม่อายจริงๆ!”
“ตีไอ้คนหน้าด้านนี่ให้มันตายๆ ไปซะ!”
“ตีเลย ตีมันให้ตาย!”
“ใจมันดำยิ่งกว่าถ่านเสียอีก!”
“ครอบครัวอวิ๋นโส่วจงนี่โชคร้ายแปดชาติ ถึงได้มาเจอกับคนใจดำอำมหิตเช่นนี้!”
คำพูดของอวิ๋นโส่วจู่สร้างความโกรธแค้นให้กับทุกคน พวกเขาจึงพากันหยิบซากวัชพืชที่ถูกถอนกำจัดจากในท้องนาที่หล่นทิ้งตามข้างทางมาปาใส่อวิ๋นโส่วจู่
ชาวบ้านปาเศษหญ้า จนบางส่วนกระเด็นไปโดนพวกเ้าหน้าที่ทางการและผู้ดูแลจาง แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะชาวบ้านมีจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีจำนวนน้อย อีกทั้งยังไม่รู้ว่าใครปา พวกเขาจึงได้แต่เร่งฝีเท้า รีบพาตัวอวิ๋นโส่วจู่ขึ้นรถคุมตัวนักโทษแล้วออกจากหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็ว
อวิ๋นโส่วจู่ถูกจับตัวไปแล้ว บ้านตระกูลอวิ๋นเก่าพลันเงียบสงัดลง ผู้เฒ่าอวิ๋นยืนนิ่งอยู่กลางลานบ้าน ส่วนหลิ่วซื่อก็ยังคงตกตะลึงอยู่ อวิ๋นหลานเอ๋อร์ที่วิ่งตามมาดู รีบวิ่งแจ้นไปที่บ้านของอาจารย์ตั่งเพื่อรายงานข่าวให้อวิ๋นเจียวและคนอื่นๆ ทราบ
ผู้ใหญ่บ้านกับหัวหน้าตระกูลสบตากัน ต่างก็ส่ายหน้าถอนหายใจ นิสัยใจคอของอวิ๋นโส่วจู่เป็เช่นนี้ ก็เพราะเถาซื่อตามใจนั่นแหละ แถมยังมีผู้เฒ่าอวิ๋นคอยให้ท้ายอีก
หัวหน้าตระกูลอวิ๋นถอนหายใจพลางตบไหล่ผู้เฒ่าอวิ๋นเบาๆ “เ้าสาม... เ้าคิดเสียว่าไม่เคยมีลูกชายคนนี้มาก่อนเถิด” กล่าวจบก็เห็นผู้เฒ่าอวิ๋นเบิกตากว้าง ก่อนจะล้มลงไป
หัวหน้าตระกูลอวิ๋นรีบเข้าไปพยุงเขา “เ้าสาม เ้าสาม เ้าเป็อะไรไป?”
ผู้ใหญ่บ้านที่ร้อนใจ จึงะโใส่หลิ่วซื่อที่ยืนนิ่งอยู่ “ยืนเซ่ออยู่ทำไมอีก ยังไม่รีบไปตามหมอมาอีก?”
ไหนเลยจะรู้ว่าอยู่ๆ หลิ่วซื่อจะร้องไห้โฮออกมา “ฮือๆ... ท่านพ่อ เหตุใดท่านถึงโดนพี่รองทำร้ายแบบนี้? ถูกยัยตัวแสบอวิ๋นเจียวทำร้ายแบบนี้? ข้ากับหู่หยาจื่อจะอยู่อย่างไร?”
เมื่อเห็นเช่นนั้นผู้ใหญ่บ้านจึงกระทืบเท้าอย่างแรงแล้วพูดกับหัวหน้าตระกูลอวิ๋นว่า “ลุงหรง ท่านพาผู้เฒ่าอวิ๋นเข้าไปในบ้านก่อน ข้าจะไปตามหมอมาให้” กล่าวจบ เขาก็ไม่กล้าลังเล รีบออกไปทันที
อวิ๋นเจียหรงผู้เป็หัวหน้าตระกูลก็รีบพยุงผู้เฒ่าอวิ๋นเข้าไปในบ้าน
พูดไปแล้วตระกูลอวิ๋นในอดีตเคยเต็มไปด้วยลูกหลานมากมาย แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียงหลิ่วซื่อที่เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญ ไม่เหลือใครอีก
อ้อ ยังมีอีกหนึ่งคน นั่นก็คืออวิ๋นเหมยเอ๋อร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา แต่อวิ๋นเจียหรงในฐานะผู้เฒ่าคนหนึ่งจะไปเรียกหญิงสาวที่เก็บตัวอยู่ในห้องได้อย่างไร?
เขาจัดการพยุงผู้เฒ่าอวิ๋นขึ้นบนเตียง จากนั้นก็ตรงไปที่ห้องครัวเพื่อต้มน้ำ
ไม่นานนัก ผู้ใหญ่บ้านจางก็พาหมอมาถึง หมอตรวจชีพจร กดจุดเหรินจง [3] ตามด้วยป้อนยา ในที่สุดผู้เฒ่าอวิ๋นก็รู้สึกตัวขึ้นมา จากนั้นหมอก็เขียนใบสั่งยา ผู้ใหญ่บ้านจางรีบบอกให้ลูกชายคนที่สามของตนที่ตามมาด้วยให้ตามหมอไปรับยามา
ในชั่วพริบตา ผู้เฒ่าอวิ๋นก็ดูแก่ลงไปกว่าสิบปี เดิมทีเขาเพิ่งจะถึงวัยหกสิบต้นๆ แต่ตอนนี้กลับดูแก่กว่าอวิ๋นเจียหรงพี่ใหญ่ของเขาไปหลายปี
“พี่ใหญ่... โส่วจู่เขา... เขาถูกจับตัวไปแล้ว...” เขามองอวิ๋นเจียหรงด้วยสายตาเลื่อนลอย ดวงตาขุ่นมัวเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
เมื่อเห็นเช่นนั้น อวิ๋นเจียหรงก็โกรธจนพูดไม่ออก แต่นั่นก็เป็น้องชายของเขา เขาจึงอดที่จะสงสารไม่ได้ จึงเอ่ยปลอบว่า “มันจิตใจไม่ซื่อตรง สักวันก็ต้องเกิดเื่แบบนี้ โชคยังดีที่วันนี้พวกเราตัดสินใจเด็ดขาด ขับไล่มันออกจากตระกูล มิฉะนั้นคงไปทำให้เ้าห้าสอบเคอจวี่ไม่ได้แน่!”
อวิ๋นเจียหรงรู้ดีว่าในเวลานี้ มีเพียงการพูดถึงอวิ๋นโส่วหลี่เท่านั้นถึงจะทำให้เขาได้สติ แน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึงอวิ๋นโส่วหลี่ แววตาของผู้เฒ่าอวิ๋นก็เปลี่ยนไป
“ใช่… ใช่ จะทำให้โส่วหลี่เดือดร้อนไม่ได้” จากนั้นเขาก็คว้ามืออวิ๋นเจียหรงพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน “พี่ใหญ่ ข้าขอร้อง ขอให้ท่านปล่อยเถาซื่อไปเถิด ตอนนี้ที่บ้านก็เป็เช่นนี้แล้ว...”
เมื่อได้ยินดังนั้น อวิ๋นเจียหรงก็โกรธจนตัวสั่น “เถาซื่อ เถาซื่อ ที่บ้านเป็เช่นนี้ ไม่ใช่เพราะเถาซื่อหรืออย่างไร! เ้าสาม เ้ามีหัวจิตหัวใจอยู่หรือไม่? ลองคิดดูดีๆ ว่าที่บ้านเ้าเป็แบบนี้เพราะใคร? พวกเราเป็สายตระกูลหลัก แม้จะแยกบ้านออกมา แต่เ้าก็นับว่าเป็สายตระกูลอันดับต้นๆ ที่อยู่ดีกินดีที่สุดในตระกูลอวิ๋น...”
เชิงอรรถ
[1] ดอกสายน้ำผึ้ง (金银花) เป็สมุนไพรที่มีสรรพคุณขจัดความร้อนและขับพิษ กระจายลมร้อน
[2] ผักกาดน้ำเล็ก (车前草) เป็สมุนไพรที่มีสรรพคุณแก้ปัสสาวะขัด แก้อาการอักเสบ รักษาอาการปวดบวม
[3] จุดเหรินจง (人中) จุดฝังเข็มที่อยู่บริเวณร่องเหนือริมฝีปากบนใช้ในการรักษาอาการเป็ลมหมดสติ