“ลูกพี่”
“ลูกพี่กลับมาแล้ว”
เฉาหลิวอยากเอาจดหมายแนะนำตัวบนโต๊ะไปซ่อนเหลือเกิน แต่เคออีสฺยงกลับชิงหยิบไปก่อน
หลอกคนไปขายนั้นไม่ใช่เื่ใหญ่ เพราะถึงอย่างไรเคออีสฺยงเองก็อยู่ในแวดวงนี้ เขาไม่ใช่นักการกุศลจะให้มีศีลธรรมอันสูงส่งก็คงเป็ไปไม่ได้ เขาเพียงควบคุมลูกน้องพวกนี้ไม่ให้ไปพรากชีวิตใคร เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าตัวเองเลวร้ายเกินไปเท่านั้น
ส่วนเื่การหลอกให้ไปเป็แรงงานเถื่อน อย่างมากพวกเถ้าแก่ก็แค่ไม่ให้ค่าแรง แต่ถ้าขอข้าวขอที่พักก็คงมีให้
ไม่ว่าจะเป็ชีวิตใครก็ไม่ง่ายทั้งนั้น พวกเขาที่อยู่วงการนี้ก็ไม่ง่ายเช่นกัน!
เคออีสฺยงแค่เห็นจดหมายแนะนำตัวก็รู้ทันทีว่าทำไมเฉาลิ่วถึงไม่อยากให้เขารู้
“เื่มันผ่านมาตั้งนานแล้ว คิดว่าฉันยังใส่ใจอยู่อีกหรือ”
เคออีสฺยงแค่นหัวเราะ เฉาลิ่วตบปากตัวเอง “เป็ผมที่คิดเล็กคิดน้อยไปเองครับ ถึงได้ไม่เข้าใจความใจกว้างของลูกพี่!”
แน่นอนว่าเคออีสฺยงยังไม่ลืมเซี่ยเสี่ยวหลานไปทั้งหมด
และตอนนี้เขาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับเซี่ยเสี่ยวหลานอีกแล้ว ตอนพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ หลังจากเขาได้เห็นใบหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานปรากฎขึ้นบนจอโทรทัศน์ เคออีสฺยงก็รู้ทันทีว่าตนกับเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางเป็ไปได้อีกต่อไป
สาวสวยที่มาทำธุรกิจในหยางเฉิง เคออีสฺยงนึกว่าอย่างน้อยตนก็มีหน้ามีตาในสถานีรถไฟ อยากผูกมิตรกับอีกฝ่ายอย่างไรก็คงไม่มากจนเกินไป นักเลงกับนักธุรกิจอิสระก็ออกจะเหมาะสมกันดีนี่นา!
แต่สำหรับนักศึกษาสาวสวยจากหัวชิง ทั้งยังได้ปรากฎตัวอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์เช่นนี้ หากเธอยอมคบค้าสมาคมกับนักเลงอย่างเขาสมองเธอต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
เคออีสฺยงไม่รู้สถานการณ์่นี้ของเซี่ยเสี่ยวหลานเลยสักนิด ทว่าตอนนี้เหมือนเฉินซีเหลียงจะกำลังไปได้สวย เขาไม่เพียงเปิดแผงขายส่งเหมือนอดีต แต่ได้ยินว่าเขาจะสร้างโรงงานผลิตเสื้อผ้าของตัวเองอะไรทำนองนั้น ทั้งยังมีคนบอกว่าเฉินซีเหลียงมีเงินเก็บอย่างน้อยเป็หลักล้าน เคออีสฺยงรู้สึกว่าตัวเลขนี้ออกจะมากเกินไป แต่อย่างน้อยก็คงถึงหลักแสน
ั้แ่รู้จักกับเซี่ยเสี่ยวหลาน พ่อค้าขายส่งอย่างเฉินซีเหลียงก็มีการพัฒนาด้านการเงินอย่างก้าวะโ หากเป็เมื่อหนึ่งปีก่อน เฉินซีเหลียงไม่มีทางมีเงินมากมายเช่นนี้
ต่อให้เคออีสฺยงอยากเจอกับเซี่ยเสี่ยวหลานมากแค่ไหนก็คงไม่มีโอกาส ตอนนี้เพื่อประหยัดเวลาเซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่นั่งรถไฟ และเปลี่ยนไปนั่งเครื่องบินแทน ทั้งยังอยู่ที่สนามบินไป๋อวิ๋นของหยางเฉิงเพียง่เวลาสั้นๆ เท่านั้น ก่อนจะนั่งรถต่อไปเผิงเฉิง นั่นจึงทำให้เคออีสฺยงไม่มีโอกาสได้เจอเธอเลยสักครั้ง
พอคิดถึงความขัดแย้งในตอนนั้น เขาคงถูกความงามครอบงำสติจริงๆ
“ควรทำอย่างไรก็ทำตามนั้น อย่าให้มีใครตาย เื่อื่นแล้วแต่พวกนายเถิด”
เคออีสฺยงโยนจดหมายแนะนำทิ้งอย่างเบื่อหน่าย แซ่เซี่ยพบเจอได้บ่อยเหลือเกิน มณฑลอวี้หนานคงมีคนแซ่เซี่ยมากมายสินะ เขาไม่คิดที่จะเชื่อมโยงไปถึงเซี่ยเสี่ยวหลานแม้แต่น้อย
เฉาลิ่วเห็นลูกพี่เหอไม่ใส่ใจ และเขาเองก็เกลียดคนแซ่เซี่ยจับใจ ตกกลางคืนจึงวางยาใส่ไว้ในอาหารของสมาชิกตระกูลเซี่ยทั้งสี่คน แน่นอนว่าคนตระกูลเซี่ยมีนิสัยชอบเอาเปรียบผู้อื่น เมื่อได้รับอาหารฟรีเช่นนี้ย่อมไม่มีทางปฏิเสธ
เพราะที่พักเป็บ้านชั้นเดียวหลังเตี้ย สภาพค่อนข้างแย่ เซี่ยหงปิงจึงถือชามข้าวพลางเร่งเร้าสหายผู้หวังดี
“พี่ชาย ถ้าช่วยพวกเราทำบัตรผ่านแดนได้แล้ว หากฉันเจอพี่รองเมื่อไรจะไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้แน่นอน ตอนนี้เขากำลังทำงานให้กับนักธุรกิจฮ่องกง!”
อยากให้ม้าวิ่งเร็ว แต่กลับไม่ให้ม้ากินหญ้า
แม่เฒ่าเซี่ยเป็คนตระหนี่ จึงไม่อยากเสียเงินจ่ายเงินค่าที่พัก อีกทั้งเซี่ยหงปิงเองก็ขลุกอยู่กับพวกผีพนันด้วยกันจึงค่อนข้างช่างประจบประแจง เขารู้ดีว่าการพูดคำหวานไม่จำเป็ต้องใช้เงิน ดังนั้นเวลานี้จึงพยายามประจบผู้หวังดี
ยาในอาหารยังไม่ออกฤทธิ์ ลูกน้องของเฉาลิ่วจึงนั่งคุยเป็เพื่อนเซี่ยหงปิงไปก่อน
“ออกจากบ้านมาต้องพึ่งพามิตรสหาย ช่วยเหลือกันเป็เื่สมควรแล้ว ไม่ต้องตอบแทนอะไรหรอก”
แม้จะอยากตอบแทนก็คงไม่มีโอกาส ยาออกฤทธิ์เมื่อไร หลังตื่นมาก็ต้องทำงานให้กับผู้ซื้อ ส่วนเด็กสาวคนนั้นไม่รู้ว่าจะขายได้ราคาดีหรือไม่ หน้าตาบ้านๆ ทว่าจุดเด่นคืออายุยังน้อย
เซี่ยหงปิงเริ่มร้อนใจ “จริงๆ นะ พี่รองของฉันติดตามเถ้าแก่ตู้จากฮ่องกง คนที่ส่งข่าวมาบอกว่าเป็คนของเครือเชิงหรง...”
“หงปิง เข้ามานี่!”
แม่เฒ่าเซี่ยะโออกมาจากในห้อง เซี่ยหงปิงจึงรีบวิ่งเข้าห้องทันที
แม่เฒ่าเซี่ยเริ่มบ่น “อย่าพูดจาเหลวไหลให้ใครฟัง”
โง่หรือเปล่า คนเขาช่วยโดยไม่หวังค่าตอบแทนก็ดีอยู่แล้ว ยังจะตื๊อไม่เลิกอีกทำไมกัน แม่เฒ่าเซี่ยยังไม่เคยเห็นเงินที่เซี่ยต้าจวินหามาได้ แต่ก็คิดไปแล้วว่าเงินเ่าั้เป็ของตนทั้งหมด และทำใจลำบากยิ่งนักหากต้องแบ่งให้คนอื่น
มีคนโง่ถึงขนาดช่วยทำบัตรผ่านแดนให้พวกเขาโดยเปล่า ทั้งยังไม่ได้บอกว่าจะเก็บค่าตอบแทน แต่เซี่ยหงปิงดันไปให้คำมั่นสัญญา แม่เฒ่าเซี่ยย่อมรู้สึกร้อนใจ
ลูกน้องของเฉาลิ่วยืนฟังอยู่หน้าประตู สองแม่ลูกยังคงทะเลาะกันไม่เลิก เขาฟังแล้วก็นึกขบขัน
ให้ตายเถิด คนประเภทนี้หากเอาไปขายก็คงไม่จำเป็ต้องรู้สึกผิด ชอบเอาเปรียบผู้อื่นเช่นนี้ สมควรแล้วที่จะโดนหลอก!
ในห้อง เซี่ยหงเซี๋ยเรอออกมาเสียงดัง ก่อนเอ่ย “พ่อ ย่า หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ตอนนี้ทำไมฉันรู้สึกมึนหัวก็ไม่รู้”
หลังเธอพูดจบ อีกสามคนที่เหลือก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน
หวังจินกุ้ยหนังตาหนักอึ้ง เธอหลับตาไม่ทันไรก็ส่งเสียงกรนออกมาทันที
สิบกว่านาทีให้หลัง เฉาลิ่วก็เดินเอามือไพล่หลังเข้ามาภายในบ้าน
“สลบกันหมดแล้วหรือยัง”
“พี่หก หมดสติทุกคนแล้วครับ”
ลูกน้องของเฉาลิ่วเปิดประตู ก่อนจะไล่เตะตัวทีละคน ไม่ตื่น ยาประเภทนี้ฤทธิ์แรงนัก คงไม่ตื่นภายในไม่กี่ชั่วโมงนี้อย่างแน่นอน
ยายแก่ตาเขปากเบี้ยวคือคนที่น่ารังเกียจที่สุด ลูกน้องอยากเตะซ้ำหลายที แต่เห็นว่าอายุมากแล้วเลยกลัวยายแก่จะขาดใจตายเสียก่อน
“พี่หก จะทำอย่างไรกับยายแก่นี่ดีครับ”
“พาไปแถบชานเมือง ทิ้งไว้ที่หมู่บ้านสักแห่งคงไม่อดตายหรอก ส่วนอีกสามคนติดต่อกับผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วยังต้องให้ฉันสอนอีกหรือ”
ลูกน้องหัวเราะร่า ยายแก่ประเภทนี้จับไปทิ้งที่หมู่บ้าน ถึงจะไม่มีจดหมายแนะนำตัวยืนยัน พวกชาวบ้านก็คงมีน้ำใจให้อาหารเธอกินบ้าง กว่าเธอจะหาทางกลับมาที่หยางเฉิงได้ก็คงอีกนาน ถึงอย่างไรพวกคนต่างถิ่นก็ไม่รู้เส้นทางในหยางเฉิง อีกทั้งยายแก่อ่านหนังสือไม่ออก คงหาทางกลับมาที่นี่ไม่เจออย่างแน่นอน
“พี่หกช่างน้ำใจงามนัก หึหึ เมื่อกี้ผมได้ยินผู้ชายคนนี้คุยโว ยายแก่นี่เลยทะเลาะกับเขา สองคนนี้บอกว่าจะไปหาเถ้าแก่ตู้จากฮ่องกงที่เผิงเฉิง เห็นว่าเป็คนของเครือเชิงหรง...”
โม้เก่งเสียยิ่งกว่านักต้มตุ๋นเสียอีก
ตอนแรกเฉาลิ่วกำลังจะด่าลูกน้องว่าหยุดพูดมากแล้วทำงานซะเพราะเวลานี้สมาชิกตระกูลเซี่ยถูกพาขึ้นรถไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นเองเขาก็เพิ่งฉุกคิดได้ว่า ชื่อเครือเชิงหรงนี้ช่างคุ้นหูเหลือเกิน
“เครือเชิงหรงไหน ใช่นักธุรกิจฮ่องกงที่มีประกาศให้รางวัลนำจับหนึ่งล้านหยวนคนนั้นหรือเปล่า ช้าก่อน อย่าเพิ่งเอาตัวพวกมันไป!”
เฉาลิ่วเป็คนทำงานอย่างระมัดระวัง
ที่แก๊งของเคออีสฺยงอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะพวกเขาไม่ไปฆ่าใคร และก็เป็เพราะพวกเขาไม่หาเื่คนที่ไม่สามารถหาเื่ไม่ได้
ตู้เ้าฮุยถูกคนลอบทำร้ายระหว่างเดินทางไปสนามบิน พวกโจรตาย ณ ที่เกิดเหตุหลายคน แต่ก็ยังมีคนที่ยังหลบหนีไปได้ ตำรวจตามจับคนร้ายอยู่นานแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ตู้เ้าฮุยจึงประกาศว่าจะให้รางวัลนำจับเป็การส่วนตัว หากใครจับเป็คนร้ายกลับมาได้ เขาจะตบรางวัลให้อย่างงาม
รางวัลนำจับรวมแล้วมีมูลค่าถึงหลักล้าน นักเลงแก๊งไหนบ้างจะไม่หวั่นไหว อย่าว่าแต่เฉาลิ่วเลย แม้แต่ลูกพี่ใหญ่อย่างเคออีสฺยงก็มีเงินไม่ถึงหลักล้าน เพราะพวกเขาทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
เฉาลิ่วบอกข้อมูลนี้กับเคออีสฺยง “ลูกพี่ ต่อให้เอาคนของเครือเชิงหรงไปขายก็คงไม่มีใครรู้หรอก แต่ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เงินจากเถ้าแก่ตู้มาสักก้อน”
เคออีสฺยงทำสายตาเหมือนกำลังมองคนโง่เง่า “ชาวไร่ต่างถิ่นไม่กี่คนจะมีความเกี่ยวข้องกับเถ้าแก่ฮ่องกงได้อย่างไรกัน ถึงจะรู้จักกันจริงก็คงแค่รู้จักห่างๆ เท่านั้น เถ้าแก่ตู้จะจ่ายเงินแลกตัวคนพวกนี้หรือ”
เคออีสฺยงไม่ค่อยอยากเสี่ยงสักเท่าไร
ให้รางวัลนำจับหนึ่งล้านหยวนกับพวกนักเลงได้ เห็นได้ชัดว่าเถ้าแก่ตู้ผู้นี้คงไม่ธรรมดา เคออีสฺยงได้ยินมาว่าตระกูลตู้จากฮ่องกงเคยเป็แก๊งมาเฟียมาก่อน คิดหากินกับพวกเดียวกันเช่นนี้ เคออีสฺยงกลัวจะเป็การหาเหาใส่หัวแทนน่ะสิ