“ท่านปู่ คุณชายจื่อาเ็สาหัส ช่วยตามหมอมาดูเอาการเขาที” กัวรุ่ยหานกล่าวทั้งน้ำตา
“ปู่เข้าใจแล้ว จอมยุทธน้อยาเ็ข้าต้องรักษาอยู่แล้ว หากไม่ได้เขาช่วยไว้ พวกเราอาจโดนฆ่าร้างเมืองไปแล้ว ขอบคุณจอมยุทธน้อยทั้งสองท่านนี้ด้วย” กัวจื่อหรานหันไปกล่าวกับเฉิงไฉเซียวและลวี่เหริน
“ไม่เป็ไร ข้าเองก็ไม่ชอบพวกมัน ได้ข่าวว่าออกกระทำแต่ความชั่ว จึงได้ร่วมมือด้วย” เฉิงไฉเซียวกล่าว
ภายในเมืองชาวเมืองต่างโห่ร้องให้แก่ทุกคน “ท่านเ้าเมืองจงเจริญ!! จอมยุทธน้อยจงเจริญ!! เฮ! เฮ! เฮ!!”
หลังจบศึกทั้งหมดก็กลับไปที่จวนตระกูลกัวด้วยกัน จื่อต้าหลงนั้นโดนหามด้วยเปล “เ้าสัตว์ประหลาดน้อยนี่ไม่ธรรมดาจริงๆด้วยแฮะ แม้แต่ผู้ฝึกยุทธลมปราณจิตขั้นสิบ มันยังสามารถเอาชนะมาได้ ฮ่าๆๆ มันต้องอย่างนี้สิหากคิดจะเป็จ้าวแห่งยุทธภพ ไม่เสียแรงที่ข้าคอยเป็คู่มือให้” เฉิงไฉเซียวกล่าว สามปีในสำนักปลาทองนั้นพวกเขาปะทะกันแทบทุกวัน จากหนึ่งกระบวนท่า… สิบ… ห้าร้อย…. หนึ่งพันกระบวนท่า! จนในที่สุดก็มาถึงขั้นประลองสามถึงสี่พันกระบวนท่าก็ยังมิรู้ผล ทำให้พวกเขาช่ำชองการสัประยุทธ์มาก เฉิงไฉเซียวค่อนข้างเป็อัจฉริยะที่ต่อสู้ได้เก่งกาจมาก แม้ตัวเขาพลังด้อยกว่าคู่ต่อสู้ก็ยังสามารถเอาชัยจากผู้ที่ลมปราณเหนือกว่าได้ด้วยชั้นเชิงยุทธของเขา
เฉิงไฉเซียวนั้นสู้ผ่านศึกแลกชีวิต มานับร้อยนับพันศึก ในระดับขอบเขตลมปราณเท่ากันเขายังไม่เคยแพ้ใครเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาหมกมุ่นกับการสัประยุทธ์มากเกินไปพลังบ่มเพาะของเขาจึงยังไม่สูงมากนัก หากเขาเอาแต่บ่มเพาะพลังคาดว่าน่าจะบรรลุปราณจิตขั้นสูงสุดไปแล้วก็เป็ได้
ถึงแม้จื่อต้าหลงจะชนะมาได้แต่เขาก็ได้รับาเ็สาหัสเช่นกัน ซ่งเหว่ยหนานนั้นก็ออกศึกมานับร้อยสนาม การปะมือกับเขานับว่าตึงมือจื่อต้าหลงไม่น้อย นี่นับว่าเป็การประลองเป็ตายเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงครั้งแรกของจื่อต้าเลย
เช้าวันถัดมา จื่อต้าหลงตื่นขึ้นมาพบว่าเป็กัวรุ่ยหาน นอนซบอยู่ข้างเตียงเขา เด็กหนุ่มยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ทันใดนั้นหญิงสาวก็ตื่นขึ้นมา
“คุณชายฟื้นแล้ว? ท่านเป็อย่างไรบ้าง?” กัวรุ่ยหานถามอย่างเป็ห่วง
“ข้าไม่เป็อะไรมากแล้ว อาการาเ็อีกไม่นานคงฟื้นคืน เ้านอนเฝ้าข้าตลอดทั้งคืนเลยรึ?” จื่อต้าหลงถามกลับ
“เ้าค่ะ ข้าเป็ห่วงคุณชายมาก เดี๋ยวข้าจะไปเอายาหมอมาให้นะเ้าคะ” กัวรุ่ยหานกล่าวพร้อมกับไปยกน้ำต้มยาสมุนไพรจากในครัวมาให้จื่อต้าหลง เมื่อน้ำต้มยาสมุนไพรมาถึง จื่อต้าหลงก็รีบซดทันที
“อร่อยมาก ยานี่เ้าเป็คนทำหรือ?” จื่อต้าหลงถาม
“ใช่แล้วเ้าค่ะ ทุกเช้าข้ามักทำยาบำรุงร่างกายไว้ให้คนในตระกูลได้กินกัน ทุกคนล้วนชอบน้ำสมุนไพรของข้ากันทั้งนั้น” กัวรุ่ยหานกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“สมแล้วล่ะนะ เ้าต้องเป็ภรรยาที่ดีได้อย่างแน่นอน” จื่อต้าหลงกล่าวหยอกล้อ กัวรุ่ยหานได้ยินดังนั้นนางก็ถึงกับเขินจนตัวบิด… ดูไปดูมาช่างน่ารักยิ่ง
“ยังมียาอีกชนิดนะเ้าคะ มีสรรพคุณรักษาอาการาเ็ภายใน เดี๋ยวข้าจะไปยกมาให้” นางกล่าวจบก็รีบเดินหนีจื่อต้าหลงเพื่อไปเอายามาให้เขากิน
หลังจากได้ยามาแล้วจื่อต้าหลงก็ดื่มลงไปทันที เขาถึงกับบ่นว่าขมมาก ทำเอากัวรุ่ยหานหัวเราะขำ เมื่อเห็นว่าจื่อต้าหลงฟื้นตัวเร็วมาก อาการดีขึ้นแล้ว นางจึงเริ่มหยอกล้อกับเขา
“จริงสิ แล้วพวกกองโจรโลหิตล่ะ?” จื่อต้าหลงถาม
“หลังจากที่พวกท่านสังหารหัวหน้าทั้งสองของมันไป กลุ่มของมันพวกที่าเ็ต่างถูกจับกุมส่งทางการส่วนพวกที่รอดก็แตกกระจายวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางยากที่จะกลับมารวมกลุ่มกันอีกแล้วเ้าค่ะ” กัวรุ่ยหานตอบ
“งั้นรึ เป็เช่นนั้นก็ดีแล้ว” จื่อต้าหลงตอบ นี่นับว่าเป็ครั้งแรกที่เขาฆ่าคนจื่อต้าหลงรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยที่มีคนตายด้วยน้ำมือเขา หากไม่จำเป็จริงๆ เด็กหนุ่มย่อมไม่อยากสังหารใคร แต่ในครั้งนี้เขาจำต้องสังหาร มิฉะนั้นแล้ว… ที่แห่งนี้คงได้กลายเป็เมืองร้างและถูกอาบล้อมด้วยโลหิต
“คืนนี้ท่านปู่จะจัดงานเลี้ยงเพื่อขอบคุณพวกท่าน คุณชายท่านไปไหวมั้ยเ้าคะ?” กัวรุ่ยหานถาม
“แน่นอนสิ ข้าต้องไปด้วยอยู่แล้ว ร่างกายข้า้าสุราเลิศรส ฮ่าๆๆ” จื่อต้าหลงกล่าวพร้อมหัวเราะ
“ในเมื่อเป็เช่นนี้คุณชายพักผ่อนก่อนเถอะเ้าค่ะ ข้าขอตัวไปทำอาหารก่อน” กัวรุ่ยหานกล่าวยิ้มๆ
ยามเย็น ในที่สุดก็ถึงเวลางานฉลอง จื่อต้าหลงเดินออกจากจวนที่พักแล้วไปเข้าร่วมงานฉลอง งานฉลองรอบนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่มากกว่าครั้งไหนๆ ที่จวนเ้าเมืองรายล้อมไปด้วยโต๊ะนับสามสิบโต๊ะ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาราวๆ 200-300 คนเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้จัดมาเพื่อขอบคุณจอมยุทธน้อยทั้งสามที่ได้ช่วยเหลือปกป้องเมืองเอาไว้ พวกเฉิงไฉเซียวและลวี่เหริน ต่างอยู่ตรงโต๊ะเ้าภาพกันแล้ว
จื่อต้าหลงเห็นพวกเขาก็เข้าไปร่วมที่โต๊ะเ้าภาพด้วย เมื่อไปถึงเขาก็โดนต้อนรับอย่างดีจากกัวจื่อหราน
“เชิญๆคุณชายจื่อ ฮ่าๆๆ มาเร็วเข้านั่งลงก่อน” ชายชรากล่าวอย่างอารมณ์ดียิ่ง หลังจากจื่อต้าหลงนั่งลง เฉิงไฉเซียวก็ถามเขาว่า “เป็ไง ดื่มไหวมั้ย?”
“ของแค่นี้เองทำไม่จะไม่ไหว ข้ามาที่นี่เพื่อสุราเท่านั้น ฮ่าๆๆ” จื่อต้าหลงตอบ เขาในตอนนี้อยากดื่มสุราเป็อย่างมาก หลังจากที่อดทนรอมาทั้งวันในที่สุดก็จะได้ดื่มเสียที!!
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมายหลากหลายชนิด แถมด้วยสุราดอกไม้จำนวนมาก จื่อต้าหลงดวงตาเป็ประกาย ทั้งกินทั้งดื่มอย่างเต็มที่ เขาหิวโหยมากหลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ เด็กหนุ่มซัดอาหารไปจนหมดเกลี้ยงโต๊ะ แถมยังขอเพิ่มอีก ทำให้ทุกคนบนโต๊ะถึงกับตกตะลึงในความอยากอาหาร
“ฮ่าๆๆ คุณชายจื่อช่างเจริญอาหารยิ่งนัก” กัวจื่อหรานกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“แน่นอนขอรับท่านปู่ ข้าหิวมากๆเลย” จื่อต้าหลงตอบในขณะที่ปากเคี้ยวอาหารไปด้วย
กัวจื่อหรานได้ยินจื่อต้าหลงเรียกเขาว่าท่านปู่ก็รู้สึกแปลกใจ ชายชราหาได้ถือสาไม่ แถมยังชมชอบเสียอีกที่จื่อต้าหลงเรียกเขาว่าท่านปู่
“ฮ่าๆๆ จื่อน้อยกินให้เยอะๆล่ะ อาหารยังมีอีกเพียบ” กัวจื่อหรานกล่าวอย่างใจดีใบหน้าของชายชรามีรอยยิ้มน่ารักประดับไว้ ทำให้เขาดูเหมือนคุณปู่ใจดีไม่มีมาดเคร่งขรึมของเ้าเมืองดอกไม้ที่เป็ถึงผู้ฝึกยุทธลมปราณจิตขั้นแปดผู้ยิ่งใหญ่เลย
“ฮ่าๆๆ ย่อมได้ท่านปู่ถ้างั้นข้าไม่เกรงใจละนะ” จื่อต้าหลงกล่าวจบก็ซัดอาหารลงท้องไปอีกหลายจาน จนในที่สุดเขาก็กินไม่ไหว หันมาดื่มสุราแทน การดื่มสุรานี้เป็ไปอย่างสนุกสนาน เพราะบนโต๊ะเ้าภาพ มีทั้งเฉิงไฉเซียว ลวี่เหริน ทั้งยังมีกลุ่มสี่สาวตระกูลกัวนั่งเป็เพื่อนอีก
หลังจากที่งานเลี้ยงเลิกรา ทว่าจื่อต้าหลงยังไม่เลิก เขาชวนกัวจื่อหรานไปดื่มต่อบนหลังคา ชายชราเองก็ไม่ปฏิเสธ กลับยินดียิ่ง เมื่อทั้งสองไปถึงบนหลังคาพวกเขาก็นั่งลง
“รู้หรือไม่ที่ตรงนี้เหมาะแก่การดื่มสุรายามค่ำคืนที่สุดแล้ว” กัวจื่อหรานกล่าวขึ้นมา
“แน่นอนว่าข้าเห็นด้วย ท่านปู่ก็ดื่มเก่งยิ่งนัก ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็สิงห์สุราขนาดนี้ ฮ่าๆๆ” จื่อต้าหลงกล่าว ในงานเลี้ยงเด็กหนุ่มเห็นชายชราดื่มสุราไปไม่น้อยกว่าตนเลย
“แน่นอน ตอนสมัยข้าหนุ่มๆ ข้าถือว่าเป็นักดื่มตัวยงเชียวล่ะ!” กัวจื่อหรานกล่าวอย่างภาคภูมิ สำหรับบุรุษแล้วการดวลสุรากับสหายนั้น นับว่าเป็การต่อสู้ชนิดหนึ่งหากสามารถคว่ำอีกฝ่ายคาจอกเหล้าได้ นั่นนับว่าเป็ยอดฝีมือแล้ว!
