ในเวลาค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงอืมอืมอ๊ะอ๊ะดังมาจากห้องๆ หนึ่ง เสียงนั้นคลุมเครือเป็อย่างยิ่ง แม้กระทั่งจันทราได้ยินแล้วก็ยังหน้าแดงด้วยความเอียงอาย และอดไม่ได้ที่จะปิดคลุมหน้าตนเอง
“ท่านพี่ต้าหลิน” หลังจากนั้นครู่ใหญ่ก็มีน้ำเสียงของหญิงสาวนางหนึ่งดังออกมาจากข้างใน "ท่าน… ยังรักข้าอยู่หรือไม่เ้าคะ? "
ชายผู้นั้นคำรามเสียงต่ำ จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย ครั้นได้ยินคำพูดของหญิงสาว เขาก็เอ่ยอย่างอ่อนโยน "ไฉ่เวย พวกเราเป็คู่รักที่เล่นด้วยกันมาั้แ่เด็ก และหมั้นหมายกันมานานแล้ว ในสายตาของข้า มีเพียงเ้าเท่านั้นที่เป็ภรรยาของข้า ข้ารักเ้าอย่างแน่นอน การยกเลิกการหมั้นหมายในครั้งนี้เป็สิ่งที่เลือกไม่ได้จริงๆ หลิงหูเตี๋ยข่มขู่ข้า กล่าวว่าหากไม่ยกเลิกการหมั้นหมายกับเ้า ตระกูลของพวกข้าจะต้องเดือดร้อน เ้าย่อมรู้ดี ข้ามุ่งหมายปรารถนาในหนทางชีวิตของการเป็ขุนนาง ยังต้องไปเข้าร่วมการสอบของทางการ ดังนั้นข้าจึง้ายกเลิกการหมั้นหมายเสียก่อน รอให้ข้าสอบได้ตำแหน่งเคอจวี่ ได้เป็ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ค่อยมาแต่งเ้าเป็ภรรยา"
“แล้วเหตุใดท่านถึงได้หมั้นหมายกับหลิงหูเตี๋ย? ท่านอย่าได้กล่าวปฏิเสธเลย ถึงแม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้ประกาศออกไป แต่ว่าผู้คนในหมู่บ้านล้วนก็รู้ว่าพวกท่านหมั้นหมายกันเป็การส่วนตัวแล้ว เพียงแต่เพราะอยู่ใน่ไว้ทุกข์ ไม่อาจจัดเื่มงคลได้ ดังนั้นจึงได้ปิดบัง ข้ายังรู้ด้วยว่ารอให้หมด่ไว้ทุกข์ก่อน พวกท่านก็จะแต่งงานกัน ถ้าหากในใจท่านมีข้า เหตุใดถึง… ในท้องของข้ายังมีลูกของท่านอยู่นะ! ท่านยังบอกว่าลูกเป็ของผู้อื่น ถ้าหากลูกรู้ว่าท่านกล่าวว่าเขาเช่นนี้ เช่นนั้นคงจะเสียใจมาก”
“ไฉ่เวย ข้าถูกผู้อื่นหลอกลวง ข้านึกไม่ถึงว่าหลิงหูเตี๋ยจะใส่ร้ายเ้าแบบนี้ คำพูดเ่าั้ล้วนเป็นางที่แพร่ออกไป ข้าจริงใจต่อเ้า จะกล่าวว่าเ้าเช่นนั้นได้อย่างไร? แน่นอนว่าข้ารู้ว่าเด็กเป็ลูกของพวกเรา เ้าอดทนอีกสักหน่อย หาสักสถานที่แล้วให้กำเนิดบุตร ข้าจะรับผิดชอบเ้าเอง”
“ข้าให้กำเนิดบุตรแล้ว ท่านไม่้าพวกข้าแล้วข้าจะทำอย่างไร? ”
“ไม่จริง ข้าจะจัดหาที่อยู่ให้พวกเ้าสองคน ต่อจากนี้ไปข้าจะไปหาเ้าผู้เดียวเท่านั้น และหลิงหูเตี๋ยก็จะเป็เพียงนามจอมปลอมบังหน้า”
“หลิงหูเตี๋ยบอกว่า ระหว่างพวกท่านมีความสัมพันธ์กันมานานแล้ว ก่อนที่พวกเรายังจะยกเลิกการหมั้นหมายเสียอีก… ฮือฮือ… ข้ารักท่านอย่างสุดซึ้ง แต่ท่านกลับไร้ความเมตตากับข้าเหลือเกิน”
“อย่าร้อง… นั่นเป็เพราะนาง… ที่ล่อลวงข้า วันนั้นข้าอารมณ์ไม่ดี และดื่มมากเกินไป นางเปลื้องเสื้อผ้าออกแล้วปีนขึ้นเตียงข้า ข้าที่เป็เพียงบุรุษผู้หนึ่ง...”
โครม! เสียงเสียดแก้วหูดังเข้ามาจากหน้าประตู จากนั้นแสงสว่างจากไฟนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู
เงาร่างอ้วนเงาหนึ่งพุ่งเข้าไปหาพวกเขา ก่อนจะทุบตีหลิงไฉ่เวยบนเตียงอย่างบ้าคลั่ง "นางหญิงชั่ว กล้าดีอย่างไรมาล่อลวงคู่หมั้นหมายของหูเตี๋ยพวกข้า เหตุใดเ้าถึงได้ต่ำช้าเช่นนี้? "
ในขณะนี้ ชายหญิงที่เปลือยกายนอนอยู่บนเตียง ห่อตนเองไว้ในผ้านวม เมื่อพวกเขาเห็นคบเพลิงที่หน้าประตู ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงลางไม่ดีแล้ว
หญิงร่างอ้วนที่วิ่งเข้ามาก็คือถงซื่อแม่ของหลิงหูเตี๋ย ครั้นถงซื่อเห็นหลิงไฉ่เวยและจวงต้าหลินทำเื่ที่ไร้ยางอายที่นี่ ในใจก็โกรธแค้นจนทนไม่ไหว
มีคนยี่สิบกว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตู มีทั้งชายและหญิง ยังมีหัวหน้าวงศ์ตระกูลของสกุลหลิงและผู้าุโทุกท่านอีก ในเวลานี้ผู้นำตระกูลหลิงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แผดเสียงอย่างโกรธเกรี้ยวเดือดดาล "เ้าพวกไร้ยางอาย เหตุใดตระกูลหลิงของพวกเราถึงได้มีคนเช่นพวกเ้าที่กระทำเื่ผิดศีลธรรมเช่นนี้ พวกเ้าทำให้เกียรติของสกุลหลิงเสื่อมเสียอย่างสิ้นเชิง ใครก็ได้ ลากพวกเขาออกไป"
ชายสองคนพุ่งเข้าไป
หลิงไฉ่เวยถูกถงซื่อทุบตีอย่างโเี้ บนใบหน้ายังมีรอยข่วนอยู่หลายรอย ตามนิสัยเมื่อก่อนของนาง หากเป็ในยามปกติเวลานี้นางคงจะทั้งะโทั้งกรีดร้องไปนานแล้ว แต่ทว่าวันนี้นางอดกลั้นไม่เอ่ยออกมา ไม่มีเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนา แต่กลับหลบซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของจวงต้าหลินอย่างอ่อนแอ นางหลบการเคลื่อนไหวของถงซื่อไปพลาง เอ่ยกับถงซื่อไปพลาง “อาสะใภ้ ท่านตีข้าได้ แต่อย่าได้ทำร้ายลูกของข้ากับพี่ต้าหลินเลยเ้าค่ะ เด็กบริสุทธิ์ไม่มีความผิด ข้าไม่้าสิ่งใด และจะไม่มากวนใจพี่ต้าหลินอีก ข้าเพียงแค่้าให้กำเนิดบุตรให้เขาเ้าค่ะ”
ไม่ว่าจะเป็บุรุษในยุคสมัยใด ล้วนมีความนิยมชายเป็ใหญ่อยู่ในตัว ต้องปฏิบัติอย่างอ่อนโยนต่อสตรีที่อ่อนแอกว่า ถ้าหากในเวลานี้หลิงไฉ่เวยะโและกรีดร้องเสียงดัง จวงต้าหลินก็จะแสร้งว่าตนเองบริสุทธิ์ในทันที และจะไม่รู้สึกสงสารนางสักครึ่งเดียว ทว่าหลิงไฉ่เวยทำตัว 'อ่อนแอ' เช่นนี้ ความเป็ผู้ชายในเนื้อแท้ของจวงต้าหลินก็ปรากฏออกมา เขาตระกองกอดหลิงไฉ่เวยไว้ บดบังกรงเล็บของถงซื่อ และเอ่ยกับถงซื่อว่า "ท่านอาสะใภ้มีสิ่งใดได้โปรดลงมาที่ข้า เดิมทีข้าและไฉ่เวยก็เป็คู่หมั้นคู่หมายกัน ท่านจะทำร้ายนางแบบนี้ไม่ได้"
“ไอ้คนสารเลว เ้าพูดว่าอันใดนะ? เ้ากับนางสารเลวนี่ถอนหมั้นกันแล้ว หูเตี๋ยของข้าต่างหากถึงจะเป็คู่หมั้นของเ้า” ถงซื่อแผดเสียงดังก้อง นางคว้าดึงผมของจวงต้าหลินไว้หนึ่งกำมือ นางมีรูปร่างอ้วนและแรงกำลังที่เยอะ นางออกแรงฉุดลากจวงต้าหลินลงมาข้างล่างเตียง จะต้องรู้ว่าทั้งจวงต้าหลินและหลิงไฉ่เวยล้วนไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า หากถูกลากออกไปในเวลานี้ ต่อไปภายหลังก็อย่าได้คิดจะพบเจอหน้าผู้คนอีกเลย
“แม่ของหูเตี๋ย เ้าออกมาก่อน” ผู้นำตระกูลหลิงทนดูไม่ไหว ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรผิด การกระทำของถงซื่อในเวลานี้ก็ออกจะเกินไปหน่อย
ถงซื่อในเวลานี้กำลังบ้าคลั่ง ในใจโกรธเป็อย่างยิ่ง ไหนเลยจะได้ยินคำพูดของผู้นำตระกูลหลิงกัน? นางตีพวกเขาทั้งสองคนพักใหญ่ๆ แม้แต่ชายสองคนที่เดินเข้าไปก็ยังห้ามเอาไว้ไม่อยู่
ชายสองคนที่เพิ่งเดินเข้าไปนั้นล้วนเป็ชายวัยสามสิบสี่สิบปี ดูตามลำดับเครือญาติแล้ว หลิงไฉ่เวยจะต้องเรียกพวกเขาว่าท่านลุง เพียงแต่ว่าพวกเขาล้วนได้ให้กำเนิดเครือญาติมาแล้วห้ารุ่น ความสัมพันธ์ทางสายเืในอดีตได้เบาบางลงแล้ว
จากการตีอยู่นานสองนานของถงซื่อ หลิงไฉ่เวยถูกจับตัวออกมาแล้วหลายครั้ง ชายทั้งสองคนนั้นเห็นร่างที่ขาวราวกับหิมะของหลิงไฉ่เวยด้วยตาของพวกเขาเอง
ดวงตาของคนทั้งคู่เป็สีแดงด้วยความอิจฉาตาร้อน อดไม่ได้ที่จะริษยาจวงต้าหลินเ้าเด็กหนุ่มน่ารังเกียจผู้นั้น พวกเขาได้ยินในสิ่งที่จวงต้าหลินและหลิงไฉ่เวยเอ่ยเมื่อสักครู่แล้ว และพวกเขาได้รู้ว่าจวงต้าหลินไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์กับหลิงไฉ่เวยเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์กับหลิงหูเตี๋ยอีกด้วย เ้าเด็กผู้นี้ดูอบอุ่นอ่อนโยน ช่างมีเสน่ห์เป็ที่ชื่นชอบจากหญิงงามมากล้นเสียเหลือเกิน สตรีสองคนนี้ล้วนเป็่วัยบุปผาเบ่งบาน หน้าตาไม่เลว เขาล้วนได้ััพวกนางทั้งสองคนอย่างลึกซึ้งแล้ว นี่เป็เื่ดีที่ชายคนอื่นคิดไม่ถึงในชีวิต ชายทั้งสองอดที่จะคิดไม่ได้ ดูเหมือนว่าต้องให้เด็กหนุ่มที่บ้านของตนเล่าเรียนหนังสือบ้างเสียแล้ว
"พอได้แล้ว" ผู้นำตระกูลหลิงโกรธอย่างถึงที่สุด และะโบอกคนข้างนอก "พวกเ้าไปเรียกคนในสกุลจวงและสกุลของหลิงออกมาให้หมด"
“เ้าค่ะ” คราวนี้เป็หญิงชราสองคนที่ชอบเื่สนุกที่อาสาไป พวกนางอยากเห็นแม่ของจวงต้าหลินที่หยิ่งยโสมองไม่เห็นสิ่งใดอยู่ในสายตาผู้นั้นกับใบหน้าที่น่ารังเกียจมืดครื้มของหวังซื่อเสียจริงๆ
ในกลุ่มฝูงชน พวกชาวบ้านต่างพากันวิจารณ์เสียงเซ็งแซ่ มีคนเอ่ยถามว่า “ผู้ใดเป็คนบอกเื่นี้? ”
"ก็ไม่ใช่ผู้ใดบอกเื่นี้ เป็เสี่ยวโก่วจื่อในหมู่บ้านบอกว่ามีเสียงดังมาจากในบ้านร้างหลังนี้ ดูเหมือนว่ามีหัวขโมยอยู่ในหมู่บ้าน ผู้นำตระกูลจึงรีบพาเหล่าพวกชายชาตรีร่างกำยำมาจับขโมย หญิงออกเรือนเ่าั้มาด้วยความสมัครใจ เ้าก็รู้จักผู้หญิงที่ว่างงานเบื่อหน่ายตลอดทั้งวัน ชื่นชอบเื่สนุกสนานเป็ที่สุด แม่ของหูเตี๋ยปกติแล้วจะเป็คนที่มีปัญหามากที่สุด”
"ฮ่า… คาดไม่ถึงว่าจะยังมีงิ้วดีๆ แบบนี้ เกรงแต่ว่าแม่ของหูเตี๋ยแม้แต่ในความฝันก็คิดไม่ถึงเื่เช่นนี้กระมัง? " คนผู้หนึ่งหัวเราะเย้ยหยัน
"เอาล่ะ อย่าพูดอันใดอีกเลย เื่เมื่อคราวที่แล้วก็ทำให้ท่านผู้นำตระกูลโกรธจนล้มป่วย ครั้งนี้เกรงว่าจะ… ถึงอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา ดังนั้นอย่าสนใจเื่ของเขาเลย"
“คราวที่แล้วถ้าหากไม่ใช่เพราะหลิงไฉ่เวยของครอบครัวนั้น เื่เช่นนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นในหมู่บ้านของพวกเรา ตอนนี้หมู่บ้านละแวกใกล้เคียงล้วนหัวเราะเยาะพวกเรา ช่างน่าขายหน้าจริงๆ ”
ผ่านไปไม่นานนัก เสียงก่นด่าก็ดังมาจากระยะไกลๆ เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อทุกคนได้ยิน จึงรีบร้อนหลบออกมาให้ไกลหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะได้ไม่ต้องทำให้ตนเองได้รับาเ็
“คนแซ่หลิง ไฉ่เวยของพวกเ้าไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกับต้าหลินของข้ามานานแล้ว เหตุใดถึงยังตามรังควานต้าหลินบ้านของพวกข้าอีก? รองเท้าเก่าที่ผุพัง [1] ทั้งคู่นั้นของบ้านพวกเ้า ผู้ใด้าที่จะสวมก็สวมไป แต่อย่าได้ก่อกวนใจของต้าหลินบ้านข้าอีก มิเช่นนั้นข้าจะไม่สนใจว่านางจะท้องใหญ่เพียงใด จะทุบตีต้นตอของเื่เลวร้ายนี่ในท้องของเ้าให้ตายก่อน” คนที่พูดเห็นได้ชัดว่าเป็ถงซื่อแม่ของจวงต้าหลิน
“คนแซ่หู เ้าอย่าคิดว่าข้าจะกลัวเ้า ความบริสุทธิ์ของบุตรสาวข้าเป็จวงต้าหลินบ้านพวกเ้าที่ทำลายมัน คิดว่าจวงต้าหลินบ้านของเ้าจะสามารถเป็ขุนนางได้จริงๆ หรือ! ถ้าหากจะสอบผ่านจริงๆ จะเป็ไปได้อย่างไรที่จะต้องสอบติดต่อกันหลายปีขนาดนี้ แม้แต่สอบถงเซิง [2] ก็ยังสอบไม่ผ่านมิใช่หรือ? เมื่อก่อนเป็เพราะข้าไว้หน้าเ้า ไม่อยากหักหน้ากัน ตอนนี้เ้าไม่อยากให้ข้ามีความเป็อยู่ที่ดี ข้าก็จะไม่ให้เ้ามีชีวิตที่ดีเช่นกัน วันนี้เ้าต้องอธิบายให้ข้าฟังอย่างชัดเจน บุตรสาวที่แสนดีของข้า ถูกต้าหลินบ้านเ้าทำให้เสียหายแล้ว”
“ผู้นำตระกูล ท่านช่วยต้าหลินของพวกข้าตัดสิน หลิงไฉ่เวยหญิงสารเลวไร้ยางอายนั่น คอยตามกวนใจต้าหลินพวกข้าไม่ปล่อย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนเป็พยานได้ ต้าหลินของพวกข้าเป็เด็กดี เพียงแต่ใจอ่อน จึงถูกนางหลอกเอาเช่นนี้ ตอนนี้ทำอย่างไรได้บ้าง? คนสารเลวนั่นคิดจะฆ่าต้าหลินของบ้านพวกข้าแล้ว! "
ถงซื่อได้ยินว่าหูซื่อและหวังซื่อล้วนมากันแล้ว นางจึงหยุดตีหลิงไฉ่เวย และวิ่งออกไปตะลุมบอนตีกับหวังซื่อและหูซื่อ
"ข้าเรียกเ้าว่าอาสะใภ้ แต่นี่คือวิธีที่เ้าปฏิบัติต่อข้าหรือ หูเตี๋ยบ้านข้าและต้าหลินหมั้นหมายกันแล้ว ไฉ่เวยของพวกเ้ายังกล้าที่จะมาตามรังควานอีก คิดว่าข้าเป็หญิงชรากินมังสวิรัติ [3] จริงๆ ใช่หรือไม่? แล้วยังมีเ้า… สกุลจวง เ้าหมายความว่าอย่างไร? พวกเ้ามีหูเตี๋ยของพวกข้าแล้วยังไม่พอ ยังจะติดต่อหลิงไฉ่เวยอีก สกุลจวงของพวกเ้าคิดอยากจะแต่งภรรยาพร้อมกันสองคนกระมัง! ฝันไปเถิด! "
“เ้ากล่าวให้ถูก ต้าหลินกับไฉ่เวยของพวกข้าหมั้นหมายกันเมื่อนานมาแล้ว พวกเขาทั้งสองคนขาดเพียงแค่ขั้นเดียวก็แต่งงานแล้ว หากไม่ใช่เพราะหูเตี๋ยแทรกเข้ามา ยั่วยวนต้าหลิน ก็คงไม่ทำให้ต้าหลินทอดทิ้งไฉ่เวยไป ข้ายังไม่ได้ไปสะสางบัญชีกับบ้านพวกเ้า พวกเ้ายังกล้ามาหาเื่หญิงชราอย่างข้า หากต้องตายก็ตายด้วยกัน คิดว่าหญิงชราอย่างข้ากลัวพวกเ้าหรือ? ”
สตรีสองนางหวังซื่อและถงซื่อรีบร้อนพุ่งเข้ามา หลิงซงนำบุตรชายและลูกสะใภ้กลุ่มหนึ่งอยู่ข้างหลัง บุรุษจากบ้านของหลิงหูเตี๋ยก็มาอย่างล่าช้าเช่นกัน
ครั้นผู้นำตระกูลหลิงและเหล่าผู้าุโเห็นสถานการณ์ที่วุ่นวายนี้ ทันใดนั้นริ้วรอยยับย่นก็เพิ่มขึ้นอีกหลายรอย ในขณะนี้ บุรุษและสตรีในห้องก็ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
"ท่านพี่ต้าหลิน..." หลิงหูเตี๋ยเห็นจวงต้าหลินและหลิงไฉ่เวย รอบดวงตาก็เป็สีแดงก่ำ ดูราวกับว่าเศร้าโศกเสียใจเป็อย่างยิ่ง "เพราะเหตุใด... เพราะเหตุใดถึงทำกับข้าเช่นนี้"
จวงต้าหลินมองไปที่หลิงหูเตี๋ยที่ซึ่งอ่อนแออยู่ตรงหน้าเขา และมองไปที่หลิงไฉ่เวยที่ซึ่งอ่อนแอกว่าอยู่ตรงข้างกาย เมื่อก่อนหลิงไฉ่เวย เคยดื้อรั้นและเอาแต่ใจ แต่ไม่นานมานี้ได้รับการกำราบแล้ว นางก็โอนอ่อนลงมากแล้ว นางดูผอมลงไม่น้อย ดังนั้นยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเป็ห่วงเป็ใยเพิ่มมากขึ้น อีกประการหนึ่ง ในท้องของนางยังมีลูกของเขา ตอนที่เขาแสดงความรักกับนางเมื่อสักครู่ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเด็กกำลังเคลื่อนไหว สตรีสองนางนี้ล้วนแล้วแต่หลงใหลในตัวเขาทั้งคู่ อีกทั้งเขาได้ััพวกนางทั้งหมดแล้ว นี่ช่าง...ยากที่จะจัดการจริงๆ
ความวุ่นวายและการถกเถียงที่ยืดเยื้อยาวนานในหมู่บ้านไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับสนิทของครอบครัวของหลิงมู่เอ๋อร์ ในคืนนั้น คนอื่นๆ ในหมู่บ้านต่างเอะอะโวยวายตลอดทั้งคืน แต่ครอบครัวของพวกเขากลับนอนหลับกันอย่างเต็มอิ่ม และเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปในเมืองแต่เช้าตรู่ คราวนี้พวกเขาเข้าไปดูการตกแต่งในร้าน หากไม่เกิดข้อผิดพลาดอันใดขึ้น ขั้นต่อไปก็สามารถจัดซื้อเครื่องเรือนที่ขาดเหลือ จากนั้นต้องจัดการตระเตรียมสำหรับเื่การเปิดกิจการได้แล้ว
เชิงอรรถ
[1] รองเท้าเก่าที่ผุพัง(破鞋)หมายถึง ความหมายเดิมสื่อถึงผู้หญิงที่ทำอาชีพโสเภณี ต่อมาได้ใช้เปรียบเทียบกับผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ทางเพศอย่างผิดศีลธรรมกับชายอื่น
[2] ถงเซิง (童生) หมายถึง การสอบถงเซิงเป็การสอบในระดับท้องถิ่นซึ่งแบ่งออกเป็ 3 ระดับ คือ การสอบระดับอำเภอ การสอบระดับมณฑล และการสอบซึ่งจัดโดยขุนนางที่ราชสำนักมอบหมายหน้าที่มาโดยตรง หากผู้เข้าสอบผ่านระดับนี้ก็จะได้รับเลือกเป็ "เซิงหยวน" (บัณฑิตระดับอำเภอ) หรือมักเรียกกันทั่วไปว่า "ซิ่วไฉ" (秀才)
[3] กินมังสวิรัติ (吃素) หมายถึง แปลตรงตัวคือกินผัก ไม่กินเนื้อ ความหมายแฝง อ่อนแอ ไม่มีความสามารถ สามารถรังแกได้