ไม่นานซูอินก็พบว่า การย้ายทะเบียนบ้านไม่ง่ายขนาดนั้น
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สถานีตำรวจ แต่อยู่ที่สองสามีภรรยาตระกูลหลิง
เมื่อเกิดเื่วุ่นวายจนถึงขั้นนี้ เธอก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่ตระกูลหลิงอีก หลังจากพาสองสามีตระกูลซูออกมาเรียกแท็กซี่ที่หน้าปากทาง พวกเขาสามคนก็เดินทางไปยังสถานีตำรวจ
คราวก่อนมีการลงบันทึกประจำวันไว้ ซูอินเป็คนสวย พูดจาไพเราะ ความน่าประทับใจที่เธอทิ้งไว้ที่สำนักงานตำรวจถือว่าไม่เลว โดยเฉพาะสาวน้อยที่เพิ่งถูกส่งมาประจำการได้ไม่นาน ต่างก็ชื่นชอบเธอทั้งนั้น สาวๆ เ่าั้เป็เ้าหน้าที่ด้านทะเบียนบ้าน จึงต้อนรับพวกเธอด้วยความอบอุ่น
เมื่อมาถึงที่นี่ ทุกอย่างราบรื่นมาก
จนกระทั่งเ้าหน้าที่ดูบัตรประชาชนของเธอ
“ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องมีผู้ปกครองยื่นเื่ให้…”
ในใจของซูอินเต้นตึกตัก เมื่อจัดการความรู้สึกได้แล้วจึงเล่าสถานการณ์ของตัวเอง เธอได้รับแววตาที่มองมาอย่างประหลาดใจและเห็นใจ ก่อนจะได้รับคำตอบในเชิงลึกมากมาย
กฎระเบียบยุ่งยากต่างๆ ทำให้ซูอินตาลาย แท้ที่จริงเื่นี้มันง่ายมาก
หากพลเมืองมิได้เป็ผู้ยินยอมเอง ไม่ว่าจะเป็หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลใดก็ไม่สามารถแตะต้องทะเบียนบ้าน สำหรับผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ สิทธิ์ในการปกครองจะอยู่ในมือของผู้ปกครอง รวมถึงอำนาจนี้ก็อยู่ในมือของผู้ปกครองด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิง
พัง!
ซูอินถามสองสามีภรรยาตระกูลซู จึงได้รู้ว่าตอนที่ตระกูลหลิงไปรับบุตรสาวที่บ้านนอก เอกสารที่รับรองโดยคณะกรรมการหมู่บ้านถูกจัดเรียงไว้แล้วตามขั้นตอน ทำให้การย้ายทะเบียนบ้านของพวกเขาเสร็จสมบูรณ์ตามมาตรฐานทุกอย่าง
ตอนนี้แม้แต่เงินทุนที่จะใช้เจรจากับตระกูลหลิงก็แทบไม่มี
ยามนี้ไร้ซึ่งความภูมิใจและความทะเยอทะยานที่ได้ออกจากตระกูลหลิง จู่ๆ ซูอินรู้สึกว่าไม่สามารถพูดได้เต็มปาก
ทว่าเธอเป็คนใจกว้าง
ไม่นานก็คิดออก
จะเกิดอะไรขึ้นหากตระกูลหลิงยังถือทะเบียนบ้านของเธอ จะเอาเธอไปขายหรือ
หากจะยืดเวลาไปจนถึงตอนที่เธออายุสิบแปดก็คงไม่ใช่เื่ใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นเธอก็แค่ยื่นเื่และไม่ต้องสนใจตระกูลหลิงอีก
ดังนั้นก็ตัดสินใจอย่างมีความสุขแบบนี้ก็แล้วกัน
หลังจากที่คิดได้ เธอจึงขอบคุณพี่สาวที่ดูแลงานทะเบียน จากนั้นออกมาจากสถานีตำรวจด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
“อินอิน ต่อจากนี้ลูก…”
สีหน้าของเมิ่งเถียนเฟินลังเลเล็กน้อย “อยากกลับไปกับพวกเราไหม”
“กลับไปหรือคะ”
เธอยุ่งกับการสอบและหาเงินจึงไม่ได้นึกถึงเื่นี้ เมื่อถูกถามทำให้ชะงักไปครู่หนึ่ง
แต่ก็ใช่ว่าเธอไม่ได้เตรียมใจไว้ ตอนที่ปฏิเสธตระกูลหลิงเื่การเลี้ยงดู เธอก็คิดแล้วว่าสักวันต้องเป็เช่นนี้
ตอนเด็กๆ เธอถูกคุณปู่คุณย่าเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านนอก สำหรับเธอการอยู่ในชนบทจึงไม่ใช่เื่แปลก การกลับไปอยู่ที่นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าอึดอัด แต่ตอนนี้เธอยังมีเื่ที่ต้องจัดการ
“พวกคุณรีบมากันั้แ่เช้า ตอนนี้คงยังไม่ได้กินอะไร คงหิวแล้วแน่ๆ ตรงนั้นมีร้านอาหาร รสชาติไม่เลว พวกเรากินไปคุยกันไปดีไหมคะ”
สถานีตำรวจตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินไปข้างหน้าก็จะเจอถนนที่เป็เขตการค้า
ซูอินอยากเลี้ยงข้าวสองสามีภรรยาสักครั้ง เพราะในตอนนี้เธอไม่ได้ขัดสนเื่เงิน อีกทั้งยังได้เงินเหล่านี้มาค่อนข้างง่าย การที่เธอหาเงินมาก็เพื่อใช้จ่าย แค่อาหารมื้อเดียว ต่อให้เป็เมนูแพงที่สุดเธอก็มีปัญญาจ่าย
แต่เมื่อพิจารณาจากความสามารถที่สองสามีภรรยาพอจะรับไหว เธอจึงเลือกร้านอาหารที่ราคาไม่แพงมากนัก
สองสามีภรรยาตระกูลซูเป็เพียงคนบ้านนอกซื่อๆ เกิดมาในยุคที่จำเป็ต้องทำไร่ทำนาหาเลี้ยงชีพ เคยชินกับการประหยัดมาั้แ่เด็ก นานๆ ครั้งถึงจะเข้าเมืองและซื้อมันเผากับโร่วเจียหมัว[1] พวกเขาคิดเยอะเื่การใช้จ่าย จึงไม่เคยเข้ามากินอาหารในเมือง
เื่ยากจนก็ส่วนเื่ยากจน สองสามีภรรยาตระกูลหลิงรักลูกมาก พวกเขารู้ว่าบุตรสาวใช้ชีวิตอยู่ในเมืองั้แ่เด็ก สภาพครอบครัวก็ดี คงคุ้นชินกับการกินข้าวในร้านอาหารใหญ่ๆ แม้จะลำบากเื่เงิน แต่พวกเขาก็ไม่คิดปฏิเสธ แค่รู้สึกตุ๊มๆ ต่อมๆ ในใจ ขอเพียงเธออย่าเลือกร้านอาหารที่หรูหราเกินไปก็พอ
เมื่อเลี้ยวโค้งมาและเห็นร้านอาหารที่บุตรสาวเลือก พวกเขาก็คลายความกังวล
ร้านอาหารนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตอนนี้เป็เวลาเที่ยงจึงมีคนมากมาย ลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านสวมเสื้อผ้าธรรมดา ไม่เหมือนสองสามีภรรยาตระกูลหลิงที่ใครเห็นต่างก็รู้ว่าเป็ชนชั้นสูง
ซูเจี้ยนจวินล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อให้มั่นใจว่ามีปัญญาจ่าย ก่อนจะค่อยๆ หันไปพยักหน้าให้เมิ่งเถียนเฟิน
ซูอินสังเกตเห็นท่าทีของทั้งคู่ ครุ่นคิดครู่หนึ่งก็เข้าใจความหมาย ในใจรู้สึกปลื้มไม่น้อย คนเราไม่สามารถตัดสินกันได้จากหน้าตา สองสามีภรรยาพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาไม่ได้แย่เหมือนที่หลิงเมิ่งกล่าวหาในชาติก่อน
เมื่อตรงเข้าไปด้านใน เธอบอกกับหน้าเคาน์เตอร์ว่า้าห้องส่วนตัว
ห้องส่วนตัวอยู่ที่ชั้นสอง พื้นที่ด้านในไม่ใหญ่มาก แต่สะอาดและเป็ส่วนตัว
หลังจากที่นั่งลง สองสามีภรรยาให้เธอสั่งอาหาร ซูอินไม่คิดเกรงใจ ร้านอาหารนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากบ้านที่ซูอินเคยอยู่ ตอนนั้นสถานะของตระกูลหลิงยังไม่ดีพอที่จะจ้างแม่บ้าน อู๋อู๋เกรงว่าหากทำอาหารอาจทำให้มือของเธอาเ็ บางครั้งจึงสั่งอาหารจากที่นี่นำกลับบ้าน
จากการได้กินอาหารร้านนี้มาหลายปี เธอรู้ดีว่ารสชาติอร่อย ควรสั่งอะไรดี
ตอนแรกเธอคิดว่าจะสั่งอาหารเพียงสองสามอย่าง แค่กินอิ่มก็พอ แต่เมื่อเงยหน้าเห็นตารางการสั่งอาหารขั้นต่ำในห้องรับประทานอาหารส่วนตัว เธอล้มเลิกความคิดนั้นทันที
เธอสั่งของอร่อยทุกอย่าง จึงง่ายที่จะไปถึงราคาอาหารขั้นต่ำ หลังจากครุ่นคิดอย่างดี เธอก็สั่งเบียร์ให้ซูเจี้ยนจวิน บริกรที่แสดงท่าทีอ่อนน้อมในตอนแรกแสดงสีหน้ามีความสุขรีบรินชาให้พวกเขาอย่างกระตือรือร้น
สองสามีภรรยาตระกูลซูมีท่าทีเคร่งขรึม แต่ไม่นานก็คิดได้ ั้แ่คลอดก็ไม่เคยเลี้ยงดูบุตรสาวคนนี้ แค่อาหารมื้อเดียว ฟุ่มเฟือยสักหน่อยคงไม่เป็อะไร หากกินไม่หมดพวกเขาก็แค่ห่อกลับ
เมื่อหันมาสบตากันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สีหน้าของสองสามีภรรยาก็สงบลง
บริกรออกจากห้องลงไปสั่งอาหารด้านล่างอย่างมีความสุข ก่อนที่ซูอินจะปิดประตูอย่างแ่า
“หนูสั่งอาหารทุกอย่างบนป้ายเมนู พวกคุณลองกินดูนะคะ หากรู้สึกว่าอร่อย ก่อนกลับก็สั่งห่อกลับไปให้…น้องชาย และคนอื่นๆ ได้ลองชิม”
เธอเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ “ส่วนเื่ค่าอาหารพวกคุณไม่ต้องกังวล หนูมีเงิน มื้อนี้หนูจ่ายเอง”
เมื่อซูอินพูดจบ เมิ่งเถียนเฟินแสดงสีหน้าไม่เห็นด้วย “จะให้เด็กอย่างหนูจ่ายเงินได้ยังไง อินอินวางใจเถอะ พวกเรามีเงิน เข้าเมืองมาครั้งนี้ พวกเรานำเงินติดตัวมาด้วย”
จากมุมมองของซูอิน อีกฝ่ายอุ้มท้องเธอมาถึงสิบเดือน บุญคุณนี้แค่เลี้ยงข้าวสักมื้อไม่ใช่เื่ใหญ่
แต่การที่เธอ้าเลี้ยงข้าวมื้อนี้ก็เป็ส่วนหนึ่ง การที่อีกฝ่ายจะยอมรับด้วยความสบายใจก็เป็อีกเื่หนึ่ง ตอนนี้เมิ่งเถียนเฟินกำลังจะแย่งจ่ายเงิน ต่อให้สิ่งที่พูดไปก็เพื่อ้าให้เธอสบายใจ แต่อย่างน้อยทัศนคติที่แสดงออกมาทำให้เธอสบายใจมาก
“เอาละ หยุดพูดเื่นี้กันก่อน”
เมื่อนั่งลงเธอสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“เมื่อครู่ที่ตระกูลหลิง มีเื่แปลกๆ ระหว่างพวกคุณหรือเปล่า”
คำพูดของเธอทำให้สองสามีภรรยาตระกูลหลิงมีท่าทีเคร่งขรึม โดยเฉพาะเมิ่งเถียนเฟิน ั้แ่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิง ในหัวก็เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เธออดทนจนมาถึงตอนนี้ เมื่อบทสนทนาถูกกระตุ้น คำถามเ่าั้ก็รัวออกมาเหมือนปืนกล
“ก่อนสอบลูกไปทำงานด้วยหรือ อีกทั้งระยะนี้ก็ไม่ได้อยู่ในตระกูลหลิง ทำไมเมิ่งเมิ่งต้องทำร้ายลูก รวมถึงเมื่อครู่ที่อู๋อู๋พูดเื่การช่วยเหลือ ลูกช่วยอะไรพวกเขาไว้”
ดีจริงๆ เหมือนกับว่าเธอจับประเด็นสำคัญได้ทั้งหมด
----------------------------------------------------------------------
[1] โร่วเจียหมัว หมายถึง อาหารสตรีตฟู้ดของจีน ด้านในเป็เนื้อสับที่ถูกปรุงรส ยัดเข้าไปในแป้งสีขาว มีลักษณะคล้ายแฮมเบอร์เกอร์