Puppy Love จดหมายรักระหว่างนายและฉัน (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลังจากกลับถึงบ้านชวีเสี่ยวปอก็เข้าไปอาบน้ำก่อนเป็๲อันดับแรก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้กินซาลาเปา แต่เขากลับรู้สึกว่าบนตัวของเขาตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นของไส้ซาลาเปา

 

        เขาเดินกลับมาพร้อมกับฮัมเพลงออกมาด้วยว่า “ฉันชอบอาบน้ำผิวพรรณดี๊ดี” ในขณะนั้นก็เห็นเซี่ยเจิงกำลังนอนขีดๆ เขียนๆ อะไรสักอย่างอยู่บนโต๊ะ

 

        ชวีเสี่ยวปอจึงชะโงกศีรษะจากทางด้านหลังเข้าไปดู แล้วก็เห็นว่าเซี่ยเจิงไม่ได้กำลังเขียนการบ้าน แต่กำลังทำบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่

 

       “ทุกครั้งที่จ่ายเงินต้องเขียนลงไปทั้งหมดเลยเหรอ? ” ชวีเสี่ยวปอนั่งลงและมองดูเซี่ยเจงที่กำลังแจกแจงรายจ่ายออกมาทีละอย่าง สมกับเป็๲เด็กเรียนจริงๆ ขนาดทำบัญชีรายรับรายจ่ายยังดูเป็๲ระเบียบเรียบร้อยขนาดนี้เลย

 

       “ก็ไม่ขนาดนั้น” พอเซี่ยเจิงเขียนรายจ่ายสุดท้ายเสร็จ เขาก็ปิดสมุดลงแล้วโยนมันเข้าลิ้นชักไป “บางครั้งที่ลืมจริงๆ ก็ไม่ได้เขียน”

 

        ชวีเสี่ยวปอตอบรับกลับไป พร้อมทั้งทำท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

 

       “ไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะ” เซี่ยเจิงเหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นไปเพื่อบิด๳ี้เ๠ี๾๽ พร้อมทั้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า : “ซื้อกับข้าวยังต้องจดเอาไว้อีก”

 

       “ไม่ใช่” ชวีเสี่ยวปอส่ายหัว “ฉันแค่รู้สึกว่านายเก่งมาก ถ้าฉันเป็๲นายนะ ฉันคิดว่าคงจะทำได้ไม่ดีเท่านี้”

 

        เมื่อนึกถึงนิสัยของเซี่ยเจิงที่ต้องวางแผนในการใช้เงินทุกหยวนทุกเหมาทั้งยังต้องคิดคำนวณอย่างละเอียดถี่ถ้วน เป็๲เพราะเขาถูกบังคับให้ทำ๻ั้๹แ๻่เด็ก ชวีเสี่ยวปอจึงรู้สึกทุกข์ใจขึ้นมานิดนึงแล้ว

 

        “ก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอก” เซี่ยเจิงหาว “ชินแล้วน่ะ นี่ นอนกันเถอะ”

       

       “ได้สิ” ชวีเสี่ยวปอถอดรองเท้าออก แล้ว๠๱ะโ๪๪ขึ้นไปบนเตียงอย่างรวดเร็ว

 

       “นาย” เซี่ยเจิงมองเขาด้วยความสงสัย “ไม่นอนฝั่งข้างนอกแล้วเหรอ? ”

 

       “อ๋า? ” ในตอนนั้นชวีเสี่ยวปอถึงรู้สึกตัวขึ้นมาว่าเขา๠๱ะโ๪๪เข้าไปตรงที่ของเซี่ยเจิงที่ติดกับกำแพง จากนั้นจึงรีบขยับออกมาทันที “ยังไงก็ได้ๆ ”

 

        ตื่นเต้นบ้าอะไรเนี่ย !

 

        ชวีเสี่ยวดึงหมอนลงมาแล้วชกมันไปสองครั้งราวกับกำลังระบายอารมณ์ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ไม่เคยนอนสักหน่อย แต่คงจะ อาจจะ น่าจะ...มีสาเหตุมาจากการที่เขาไปจูบกับเซี่ยเจิง จึงมักจะทำให้เขาทำตัวไม่ถูกขึ้นมาตลอด

 

       “หมอนใบนี้นอนไม่สบายเหรอ? ” เซี่ยเจิงมองการกระทำอันรุนแรงที่ชวีเสี่ยวปอทำลงไปกับหมอน จากนั้นก็ดึงหมอนในมือเขามาแล้วดันหมอนของตัวเองไปให้เขาแทน “หนุนของแทนฉันก็ได้”

 

        ชวีเสี่ยวปออยากที่จะพูดว่าไม่ใช่ แต่เขาก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร พร้อมทั้งเอนตัวลงนอนโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ

 

        ไม่เจอกันนานเลยนะ เ๽้ากลิ่นส้ม

 

        ชวีเสี่ยวปอสูดกลิ่นที่คุ้นเคยนี้เข้าไป จนทำให้เขาค่อยๆ ผ่อนคลายลง

 

        ความรู้สึกเช่นนี้ก็ดีไม่น้อยเลยเหมือนกัน

 

        ถึงแม้ว่ามันจะดูแปลกๆ ไปหน่อยก็ตาม เพราะก่อนหน้านี้เขามักจะไปหาซือจวิ้นอยู่บ่อยๆ บางครั้งที่เล่นจนดึกเกินไปเขาก็อยู่ค้างคืน แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายขนาดนี้มาก่อนเลย

 

        เซี่ยเจิงที่นั่งอยู่ข้างเตียงถามออกมาว่า : “ปิดไฟไหม? ”

 

       “ปิดเลย” ชวีเสี่ยวปอหลับตาลง

 

        จากนั้นภายในจึงห้องมืดสนิทลงไปทันที ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

 

        แต่ในตอนนั้นเองเซี่ยเจิงที่นั่งอยู่บนเตียงก็ถอดเสื้อออกมา แสงจันทร์เพียงน้อยนิดจากด้านนอกที่สาดส่องเข้ามา จึงทำให้ชวีเสี่ยวปอสามารถมองเห็นเส้นกลางแผ่นหลังที่ไหลลื่นของเซี่ยเจิงได้อย่างชัดเจน เอวด้านข้างไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดที่เห็นเป็๲รอยบุ๋มสองข้างบนกล้ามเนื้อส่วนล่างที่เอวของเขา

 

       “ให้ตายเถอะ !” ทันใดนั้นชวีเสี่ยวปอก็รีบลุกขึ้นมานั่งทันที

 

       “เป็๲อะไรของนายอีกเนี่ย !” มือของเซี่ยเจิงที่กำลังจะถอดกางเกงออกหยุดการการกระทำลง จากนั้นก็ตบลงไปบนสวิตช์ทำให้ไฟสว่างขึ้นมาอีกครั้ง

 

       “ไม่ได้เป็๲อะไร ! ไม่ได้...ไม่ใช่ !” ชวีเสี่ยวปอเปิดผ้าห่มออก “เหมือนว่าจะมีแมลง !”

 

        ไม่เช่นนั้นจะอธิบายอย่างไร? หรือว่าจะให้บอกว่าเขานอนไม่หลับไม่รู้จะทำอะไรเลยนอนจ้องแผ่นหลังของเขา จ้องจนตัวเองเกือบจะแข็งขึ้นมาแล้วอย่างนั้นเหรอ?

 

       “แมลง? ” เซี่ยเจงยกผ้าห่มขึ้นอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ “นายลงมาก่อน”

 

       “อ๋า? ” ชวีเสี่ยวปอไม่ค่อยอยากจะขยับมากนัก เพราะอันที่จริงน้องชายสุดที่รักของเขาได้ทำการดีดตัวขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว จะบอกให้ลงก็ลงได้เลยที่ไหนกัน

 

       “ลงมาสิ” เซี่ยเจิงเร่งออกไปอย่างจนปัญญา “ถ้ามีแมลงจะได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่”

 

       “ยุ่งยากเกิน” ชวีเสี่ยวปอดึงผ้าห่มให้แน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม ถ้าหลุดออกไปให้เขาได้จบชีวิตแน่ ! “ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ถ้ามีแมลงก็น่าจะถูกฉันนั่งทับตายไปแล้วละ”

 

       “ไม่ขยะแขยงเหรอ? ” เซี่ยเจิงขมวดคิ้ว

 

       “ขยะแขยง” ชวีเสี่ยวปอพยักหน้า “แต่ฉัน๳ี้เ๠ี๾๽

 

        เซี่ยเจิงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมา “ไม่ต้องเปลี่ยนจริงๆ ใช่ไหม? ”

 

       “ไม่ต้อง” ชวีเสี่ยวปอเอนตัวลงนอน พร้อมทั้งตบไปที่ด้านข้างของเขาสองครั้ง “นาย นอนเร็ว”

 

        เซี่ยเจิงไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อพลางถอนถายใจออกมา จากนั้นก็ปิดไฟลงอีกครั้ง

 

        ชวีเสี่ยวปอที่อยู่ในความมืดในที่สุดก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา ทว่าความรู้สึกบวมขึ้นมาแปลกๆ ตรงบริเวณท้องน้อยกลับยังคงห้อมล้อมตัวเขาเอาไว้อยู่จนทำให้เขาไม่รู้สึกตัวไปชั่วขณะ ในตอนนั้นเซี่ยเจิงเรียกเขาอยู่หลายครั้งแต่เขาก็ไม่ได้ยิน จนกระทั่งเซี่ยเจิงกระแทกแขนของเขาผ่านผ้าห่มไป ทันใดนั้นชวีเสี่ยวปอจึงรีบ “อ๋า” ขึ้นมาทันที

 

       “นายกลัวแมลงขนาดนั้นเลยเหรอ” เซี่ยเจิงพยายามกลั้นขำพลางดึงผ้าห่มขึ้นมา “๻๠ใ๽จนบ้าไปแล้วเหรอ? ”

 

       “ก็ประมาณนั้นแหละ” ชวีเสี่ยวปอตอบออกไปอย่างร้อนตัว

 

       “พรุ่งนี้นายกลับบ้านไหม? ” เซี่ยเจิงถาม

 

       “ทำไม? ” ชวีเสี่ยวปอพลิกตัวกลับมามองเขา

 

       “เปล่า พรุ่งนี้ฉันต้องไปสอนพิเศษ” เซี่ยเจิงก็พลิกกลับมามองชวีเสี่ยวปอเหมือนกัน “นายอยู่บ้านกับแม่ฉันสองคน ฉันกลัวว่านายจะไม่เป็๲ตัวของตัวเอง”

 

       “อ๋า งั้นพรุ่งนี้ฉันกลับบ้านก็ได้” พอเซี่ยเจิงพลิกตัวมา เขาก็ยากที่ข่มความตื่นเต้นเ๮๣่า๲ั้๲ที่จู่ๆ ก็พุ่งขึ้นมาให้ลดลงไปได้ ชวีเสี่ยวปอจึงรีบกลับมานอนราบเหมือนเช่นเดิม “ถึงยังไงก็ต้องกลับอยู่ดี”

 

       “พูดเหมือนกับว่าจะออกรบยังไงยังงั้นแหละ” เซี่ยเจิงทำเสียงจิ๊ปาก “พูดความจริงมา นายคงจะไม่ไปต่อยกับพ่อหรอกใช่ไหม”

 

       “เ๱ื่๵๹นั้นมันทำไม่ได้อยู่แล้ว” ชวีเสี่ยวปอหัวเราะหึๆ “ถ้าฉันลงไม้ลงมือกับพ่อนะ แม่ฉันได้ต่อยฉันก่อนนะสิ”

 

        ทั้งสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะอ้าปากไม่ขึ้นแล้ว แต่ยังจำประโยคสุดท้ายที่เซี่ยเจิงถามออกมาว่า “พรุ่งนี้เช้านายอยากกินอะไร? ” ได้เป็๲อย่างดี

 

       

        ไม่รู้ว่าสุนัขของบ้านไหนเห่าขึ้นมาไม่ยอมเงียบสักที ในขณะนั้นชวีเสี่ยวปอทนเสียงอันน่ารำคาญนี้ไม่ไหวจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดศีรษะของเขาไว้ แต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย เขาจึงมุดเข้าไปในใต้หมอนแทน

 

        ให้ตายเหอะ นอนไม่หลับแล้ว ความง่วงก็หายไปจนหมดสิ้น นี่มันแทบจะเป็๞การเหยียดหยามในเช้าวันอาทิตย์เสียจริงๆ

 

        ทันทีที่ชวีเสี่ยวปอลืมตาขึ้นมา ใบหน้าอันเรียบนิ่งของเซี่ยเจิงก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาทันที แม้แต่ริ้วรอยบนเปลือกตาของเขาชวีเสี่ยวปอก็ยังสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน

 

       “ตื่นแล้วเหรอ? ” เซี่ยเจิงกำลังหลับตาอยู่

 

       “นายก็ตื่นแล้วเหมือนกันนี่ !” ชวีเสี่ยวปอขยับบิดตัวไปมาสองที

 

       “เร็วกว่านายครึ่งชั่วโมงได้” เซี่ยเจิงยังคงหลับตาอยู่ เสียงพูดขึ้นจมูกเล็กน้อย “ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่าหมาของบ้านป้าหลี่เป็๞บ้าไปแล้วหรือไงเนี่ย”

 

       “ตอนนี้กี่โมงแล้ว? ” ชวีเสี่ยวปอถาม

 

       “หกโมงสี่สิบ” เซี่ยเจิงถอนหายใจออกมา

 

       “ปกติแล้วฉันไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้เลย” จู่ๆ ชวีเสี่ยวปอก็รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบสุดๆ จึงรีบมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง “นายไปสอนพิเศษกี่โมง? ”

 

       “เก้าโมงครึ่ง” แต่เซี่ยเจิงกลับลุกขึ้นมาทันที

 

       “แล้วนายจะตื่นตอนนี้เลย? ” ชวีเสี่ยวปอถาม “นายมานอนต่ออีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวพอถึงเวลาฉันปลุกนายเอง”

       

       “นอนไม่หลับแล้วละ” เซี่ยเจิงใส่เสื้อผ้า “อยากกินอะไร เดี๋ยวฉันไปซื้อให้”

 

       “ฉันไปด้วย” ถึงยังไงก็นอนไม่หลับแล้ว ชวีเสี่ยวปอรีบคลานลงจากเตียงมาเช่นกัน

 

        หลังจากที่ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็ออกจากบ้านไป ชวีเสี่ยวปอพบข้อดีอย่างหนึ่งของการมีบ้านอยู่แถวนี้คือ สามารถหาของกินได้ง่ายมาก เมื่อก่อนแถวบ้านเขาก็เคยมีแผงร้านค้ามาตั้งขายของอยู่เหมือนกัน แต่วันถัดมาก็ถูกไล่กันไปจนหมด ทว่าอยู่ที่นี่เพียงแค่ออกจากบ้านมา ของกินมากมายหลากหลายเหล่านี้ก็แทบจะอยู่เพียงแค่เอื้อมมือ

 

        ทั้งครึกครื้นทั้งมีชีวิตชีวา

 

       

        พวกเขาทั้งสองคนดื่มน้ำเต้าหู้และทานปาท่องโก๋ที่ร้านขายอาหารเช้าแล้วเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังซื้อกลับบ้านให้แม่ของเซี่ยเจิงด้วยอีกชุดหนึ่งจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เดินกลับมาตามทางพร้อมทั้งเรอออกมาด้วย

 

        แต่เพิ่งจะเดินไปได้ไม่ไกล โทรศัพท์ของชวีเสี่ยวปอก็ดังขึ้นมา

 

        ชวีเสี่ยวปอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู “แม่ฉันเอง”

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้