ทั้งสามต่างเร่งรีบขึ้นรถมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลอย่างฉับไว หยางเฉินโทรรายงานป้าหวังว่าทุกคนปลอดภัยดีป้าหวังได้ยินดังนั้นก็ยินดีอย่างยิ่ง บอกให้ทุกคนรีบกลับโรงพยาบาลโดยเร็ว
โม่เชี่ยนนีเซ้าซี้หยางเฉินให้เล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าหลินรั่วซีจะทำเป็ไม่สนใจ แต่เธอก็เหลือบมองหยางเฉินบ่อยครั้งเห็นได้ชัดว่าเธอเองก็อยากรู้เื่นี้ด้วยเช่นกัน
ในความเป็จริงเธอค่อยๆ เริ่มมองสามีของเธอต่างไปจากเดิม จากแรกเริ่มที่ขยะแขยงแล้วก็เปลี่ยนเป็เฉยเมย จากนั้นก็เริ่มที่จะสนใจในตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ที่ผ่านมานี่เป็ครั้งแรกที่หลินรั่วซีอยากรู้จักชายคนนี้ให้มากขึ้นแต่ในเื่การรักใคร่นั้นยังคงอีกยาวไกล
หยางเฉินเพียงโกหกโม่เชี่ยนนีว่าเขาได้โทรแจ้งกองกำลังพิเศษมาก่อนแล้ว ถ้าหากพวกแก๊งลักพาตัวไม่รีบออกไปพวกมันจะต้องถูกจับกุมทั้งหมด เขาเล่าว่าหลินคุนโกหกพวกมันว่าไม่มีกองกำลังพิเศษอยู่ในละแวกนี้พวกมันจึงคิดว่าหลินคุนหักหลังแล้วจึงทำร้ายร่างกายพร้อมหอบเงินหนีไป
เื่หลอกลวงที่แม้แต่เด็กอนุบาลก็ยังรู้พรรค์นี้โม่เชี่ยนนีได้ฟังแล้วถึงกับปวดหัว และต้องยอมแพ้ ไม่เซ้าซี้หยางเฉินอีกอันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉินบุกเข้ามาช่วยพวกเธออย่างเด็ดเดี่ยวแน่นอนว่าพวกเธอต้องไม่ยอมปล่อยหยางเฉินในลักษณะนี้
หลินรั่วซีไม่ได้ถามอะไรเพียงเอ่ยถามคำถามเดียวว่า "นายพูดภาษาอะไรกับพวกนั้น"
"อ้อ...ภาษาเวียดนามน่ะ" หยางเฉินตอบตรงๆ
โม่เชี่ยนนีมองหยางเฉินอย่างแปลก ๆ
"นายรู้ภาษาอังกฤษฝรั่งเศส อิตาลี่ สเปน เยอรมัน ญี่ปุ่นและยังรู้ภาษาเวียดนามด้วยงั้นหรือ"
"มันแปลกหรือยังไงอันที่จริง ผมรู้ภาษาไทยด้วย สองภาษานี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน"หยางเฉินพูดขึ้นอย่างไม่อาย
หลินรั่วซีรู้สึกแปลกๆชายคนนี้อาจเป็อัจฉริยะ แต่เมื่อใคร่ครวญให้ดีแล้ว เธอก็เอะใจอะไรบางอย่าง
"นายเรียนภาษาเวียดนามทำไม"
หยางเฉินยิ้มตอบว่า
"คุณภรรยาครับคุณไม่เคยได้ยินมาก่อนงั้นหรือ ที่เวียดนามมีสโลแกนว่า เสียสละหญิงงามเพิ่มพูนเศรษฐกิจ สาวเวียดนามนั้นไม่เลวเลยทั้งถูกและยอดเยี่ยม ภาษาเวียดนามเองก็ได้มาจากตอนนี้ผมไปเที่ยวมาไม่กี่ครั้ง
"..."
หลังจากส่งหลินรั่วซีที่โรงพยาบาลหยางเฉินก็ปล่อยป้าหวัง และโม่เชี่ยนนีจัดการส่วนที่เหลือต่อโชคดีที่ไม่มีใครแจ้งตำรวจ ไม่เช่นนั้นปัญหาต้องตามมาอีกแน่ๆ
หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วหยางเฉินก็ต่อสายถึงบุคคลหนึ่ง
"ฮัลโหลคุณหยางครับ คนที่คุณให้เราจับกุมนั้นตอนนี้พร้อมให้คุณจัดการได้ทุกเมื่อ"
"อยู่ที่บ้านเฉิน...อ่อไม่สิตอนนี้ต้องเรียกว่าบ้านจางใช่ไหม"
จางหู่หัวเราะขึ้นกล่าวว่า"ต้องขอบคุณคุณหยางและคุณเฉียงเวยสำหรับความช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นจางหู่ผู้นี้คงไม่มีวันนี้"
"จางหู่ฉันกำลังไปแต่ก่อนหน้าที่ฉันจะไปถึง นายสั่งสอนมันให้ฉันหน่อยแต่จำไว้อย่าให้ถึงตายเป็อันขาด ด้วยศาสตร์แห่งการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมฉันจะทำให้มันไม่กล้าไประรานคนอื่นอีกเลย"
"ครับคุณหยางปล่อยให้เป็หน้าที่ของผมเอง" จางหู่ตอบด้วยความหนักแน่น
หลังจากวางสายหยางเฉินก็มุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลเฉินหยางเฉินให้จางหู่เป็คนจัดการแทนเพราะไม่อยากให้หลินคุนต้องตายถึงแม้ว่าหลินรั่วซีจะผิดหวังในตัวพ่อขนาดไหน แค่ถ้าเขาฆ่าพ่อของเธอไปล่ะก็เธออาจไม่ยกโทษให้เขาอีกเลย
ความสัมพันธ์ของคนนั้นยากที่จะเข้าใจเช่นหยางเฉินและหลินรั่วซี ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันพวกเขายังเป็คนแปลกหน้าต่อกันแต่ตอนนี้พวกเขาต่างเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
ไม่นานนักหยางเฉินก็มาถึงบริเวณที่จอดรถในที่ห่างไกลเช่นเดิมเขาเดินด้วยเท้าไปยังบ้านตระกูลเฉินกว่าครึ่งชั่วโมง และเมื่อถึงหน้าประตูบ้านบอดี้การ์ดต่างโค้งคำนับหยางเฉินอย่างรวดเร็วหยางเฉินเห็นความหวาดกลัวอยู่ในแววตาพวกมันดูเหมือนว่าพวกมันยังจำเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นได้ดี
"คุณหยาง"เสียงที่คุ้นเคยดังลอดออกมาจากประตูข้างกายมีลูกน้องห้าคนเดินตามมา เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นาฬิกาโรเล็กซ์ดูคล้ายกับบิ๊กบอส
"ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไปได้สวยนะนายดูเหมือนบิ๊กบอสจริงๆ" หยางเฉินพูดติดตลก
จางหู่ได้ยินดังนั้นก็หน้าแดงคล้ายหญิงสาวก่อนรีบพูดว่า
"เพราะคำแนะนำจากคุณเฉียงเวยน่ะครับผมเป็คนกักขฬะ ผมกับลูกน้องต่างก็เป็พี่น้องร่วมสาบานผมไม่เข้าใจเื่ราวพวกนั้นหรอกครับ"
หยางเฉินถามด้วยความสงสัยว่า"นายกับเฉียงเวยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันงั้นเหรอ?"
จางหู่จ้องมองหยางเฉินแล้วก็หัวเราะอย่างสบายๆ พลางกล่าวว่า
"ผมรู้ว่าคุณหยางกังวลเื่อะไรแต่ไม่ต้องห่วงครับ คนจากพันธมิตรตะวันตกต่างไม่ชอบขี้หน้าผมและความสัมพันธ์ของผมกับคุณเฉียงก็เป็ความลับมากๆและซีถูิซื่อก็เพิ่งนัดผมทานข้าวมาเมื่อวานนี้เองทั้งยังขอบคุณผมด้วยที่ช่วยล้มเฉินเต๋อไห่"
"หืม...ซีถูิซื่อไม่สงสัยอะไรเลยเหรอ"หยางเฉินไม่เชื่อว่าหัวหน้าใหญ่ของวงการใต้ดินจะเป็คนโง่เง่า
"คุณเฉียงเวยเตรียมการมาอย่างดีเลยล่ะครับ แก๊งหนามแดงของเธอและลูกน้องของผมปะทะกันอยู่หลายครั้ง และสุดท้ายชัยชนะก็ตกเป็ของผมคุณเฉียงกับผมยังปรึกษาหารือกันอยู่บ่อยครั้งอย่างไรก็ตามหลังจากที่เสียสละพวกที่ไม่ซื่อสัตย์แล้ว ซีถูิซื่อก็เชิญผมเข้าร่วมเป็ผู้าุโของพรรค"
"แต่นายก็อย่าประมาทเด็ดขาดเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ" หยางเฉินคิดว่าเื่ที่เกิดขึ้นคงไม่ง่ายดายเขาเพียงเอ่ยคำแนะนำ
จางหู่พยักหน้าแต่เขาก็มั่นใจในตัวหยางเฉินเป็อย่างมาก แม้เหตุการณ์จะเลวร้ายจนถึงขีดสุด หยางเฉินก็สามารถจัดการผีร้ายไปได้อย่างง่ายดาย
หยางเฉินเข้าใจความคิดของจางหู่แต่เขาก็คร้านจะเอ่ยออกมา เขาไม่อยากเสียความสงบสุขนี้ไปสักเท่าไหร่
"แล้วหลินคุนล่ะ"หยางเฉินเอ่ยถาม
ถึงตอนนี้จางหู่ถึงค่อยรู้จักชื่อของชายที่จับกุมมาเขาชี้ไปที่โรงรถพลางกล่าวว่า
"ข้างในนั้นครับน้องสาวผมจางอิง อาสาจัดการมันผู้นั้นเอง"
"น้องสาว?"หยางเฉินนึกถึงคำถามโง่ๆ ที่เธอเอ่ยกับเขาว่า ''ทำไมไม่หนีไป''ในคืนนั้น ดูเหมือนว่าเมื่อพี่ชายมีอำนาจมากขึ้นตัวเธอเองก็พลอยสบายไปด้วย
จางหู่ยิ้มกล่าวว่า"คุณหยางอาจไม่รู้ น้องสาวของผมรู้วิธีจัดการกับทาสของเธอยิ่งนักทันทีที่ได้ยินคำว่า ''อย่าให้ถึงตาย''เธอก็รีบอาสาทันที"
หยางเฉินเชื่อคำพูดของจางหู่เพราะว่าเขาจำได้ว่าเธอถูกทารุณอย่างโหดร้ายโดย เฉินเฟิงนั่นอาจทำให้เธอมีความผิดปกติบางอย่างจึงทำให้จิตใต้สำนึกของเธอรู้สึกอยากทำแบบเดียวกัน
จางหู่นำทางหยางเฉินเข้าไปถึงโรงรถเขาได้ยินเสียงร้องของหลินคุนลั่นมาแต่ไกล น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเ็ปรวดร้าว
ภายในโรงรถนั้นมีแสงไฟสลัวกลิ่นเหม็นไหม้โชยมา สภาพข้างในเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าเก็บ
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปภาพที่เห็นทำให้หยางเฉินถึงกับพูดไม่ออก ไม่เพียงแค่หยางเฉินแม้แต่จางหู่และลูกน้องก็เป็ไปด้วย
ในพื้นที่ว่างเปล่าเสื้อผ้าหลินคุนวางกระจายอยู่โดยรอบ แม้แต่กางเกงในจากปริมาณแอลกอฮอล์ที่หลินคุนได้รับนั้นทำให้เขาบวมฉุมือและขาทั้งสองข้างต่างถูกมัดไว้ด้วยกัน ทำได้เพียงขยับพุงไปมาคล้ายหนอน
เพียงแค่นี้ย่อมไม่ทำให้พวกหยางเฉินตกตะลึงข้างหลังของหลินคุนยังมีชายรูปร่างผอมแห้งคนหนึ่ง เขาเปลือยกายล่อนจ้อน่เอวขยับไปมาเข้าจังหวะกับบั้นท้ายของหลินคุนปลดปล่อยเสียงอันแหบแห้งอย่างมีความสุข
หลินคุนกำลังถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยผู้ชายไม่แปลกใจเลยที่มันร้องะโออกมาด้วยความเ็ป มันเคยทำคนอื่นเป็ของเล่นแต่วันนี้กลับเป็ของเล่นเสียเอง
"ท่านหยางพี่ชาย เป็อย่างไรบ้างคะ ผลงานของฉันนั้นไม่เลวเลยใช่ไหมคะ"เสียงของจางอิงจู่ๆ ก็ดังขึ้นจากมุมหนึ่งของโรงรถเธอเดินมาหาหยางเฉินพร้อมรอยยิ้มและสีหน้าเทิดทูน
"อิง...นี่มันออกจะโหดร้ายไปสักหน่อยหรือเปล่า"จางหู่รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ
จางอิงยิ้มอย่างเย้ยหยันกล่าวว่า
"สำหรับคนที่ทำให้ท่านหยางโกรธแค่นี้ยังถือว่าน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ถ้าท่านไม่บอกว่าอย่าให้ถึงตายล่ะก็ฉันจะเอาให้หนักกว่านี้ด้วยซ้ำ" เธอพูดพลางเหลือบมองหยางเฉินอย่างเร่าร้อน
แน่นอนว่าหยางเฉินไม่กล้าสบตากับหญิงสาวนางนี้เขายิ้มอย่างไม่ยินดียินร้าย เหลือบมองไปยังสายตาที่อาจทำให้ตัวผู้หลงผิดและทันใดนั้นเขาก็สังเกตชายหนุ่มที่กำลังกระทำชำเราหลินคุนอยู่
ชายคนนี้ช่างดูคุ้นหน้ายิ่งนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้