นอกด่านหู่เหลา
ทหารซ่งแปดแสนนายปักหลักอยู่นอกด่าน ขณะนี้ทุกคนกำลังรวมตัวกันเพื่อกินอาหารเช้า
“ไม่ถูกๆ เกิดสิ่งใดขึ้น? จดหมายฉบับนี้มิใช่น้องสาวของข้าเป็ผู้ส่ง” ทหารที่มีรอยบากบนใบหน้า กล่าวอย่างแปลกใจ
“เ้าหน้าบาก มีสิ่งใดเกิดขึ้น?” ทหารรอบๆ ถามด้วยความสงสัย
ทหารที่มีรอยบากบนใบหน้าผู้นั้น กำจดหมายในมือแน่น ั์ตา เบิกกว้างและเต็มไปด้วยความสับสน
ทหารทั้งหลายที่อยู่ด้านข้าง ล้อมวงเข้าไปดูจดหมาย
“เ้าหน้าบาก สิ่งที่เขียนในจดหมายฉบับนี้ มิใช่ว่าเป็เื่ดีหรอกหรือ? น้องสาวเ้าส่งข้อความมาว่า ทุกอย่างที่บ้านเรียบร้อยดี เ้าไม่จำเป็ต้องกังวล” ทหารกลุ่มนั้นถาม
ชายหน้าบากสีหน้าไม่สู้ดี “ไม่ๆ น้องสาวไม่เคยเรียกข้าว่าพี่ชาย”
"หา?" ทุกคนมีท่าทีงุนงง
“พวกเราเป็ฝาแฝดกัน นางมักจะเรียกข้าว่าน้องชาย หรือไม่ก็เรียกชื่อตรงๆ ไม่เคยใช้คำพูดสุภาพเช่นนี้มาก่อน เรียกข้าว่าพี่ชาย เหตุใดถึงเรียกข้าว่าพี่ชาย? นี่... นี่คล้ายมิใช่น้องสาวของข้าเป็ผู้ส่งมา” ชายหน้าบากกล่าวอย่างกังขา
“เ้าหน้าบาก เ้าคิดมากเกินไปแล้ว!” ทุกคนหัวเราะออกมา
แต่ชายหน้าบากยังคงคิดมาก มีเพียงเขาเท่านั้น ที่รู้ว่าน้องสาวไม่มีทางเรียกเขาว่าพี่ชายเด็ดขาด แต่...
“เอ๋?” ทันใดนั้น ชายอีกคนก็ร้องด้วยความใ
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ทุกคนมองมาทางเขา
“เ้าหน้าบาก จดหมายฉบับนั้นเป็ของข้า เ้าหยิบไปผิดหรือไม่? อา... ไม่ถูก จดหมายของข้าอยู่นี่ แล้วเหตุใด...” ทหารหัวโล้นพูดด้วยความประหลาดใจ
“เ้าโล้น พูดอะไรของเ้าน่ะ?” ทุกคนมองไปยังชายหัวล้านทันที
ชายหัวโล้นหยิบจดหมายออกมา หลังจากเปิดออก ทุกคนก็เข้าไปดูพร้อมกัน จึงเห็นว่าจดหมายของเ้าหน้าบากและเ้าโล้นนั้น เหมือนกันทุกประการ ทุกคำ ทุกตัวอักษร ล้วนเป็เช่นเดียวกันหมด แม้กระทั่งลายมือ...
ผู้คนโดยรอบเงียบสนิท แม้แต่คนที่กำลังกินข้าว ก็ยังหยุดลง
“มันเป็ของปลอม! น้องสาวข้าไม่ได้เขียนขึ้นมาเองแน่ มีคนปลอมมันขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?” เ้าหน้าบากหน้าเปลี่ยนสีทันที
ทุกคนล้วนผ่านความเป็ความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ย่อมมิใช่คนไร้สมอง
“ท่านแม่ทัพบอกว่า ให้เราติดต่อกับครอบครัวทางจดหมายได้ แต่ทำไมจดหมายถึงได้เป็ของปลอมล่ะ? เป็ไปไม่ได้ นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น” เ้าโล้นกล่าวอย่างตื่นตระหนก
“บางที หรือว่านี่อาจเป็หนึ่งในแผนการของกู่ไห่?” ทหารคนหนึ่งพูดเสียงเบา
“พูดบ้าบออันใด? ท่านแม่ทัพบอกว่า เขาได้แจ้งให้ครอบครัวของพวกเราทราบแล้ว นั่นต้องเป็จดหมายที่ส่งมาจากคนในบ้านของเราแน่นอน จะเป็อุบายไปได้อย่างไร? เว้นแต่ ครอบครัวของข้าจะถูกกู่ไห่ลักพาตัวไป? ถ้ามิใช่ แล้วเหตุใดจดหมายจากบ้านข้า ถึงได้เป็ของปลอม” เ้าโล้นพลันะโด้วยความโกรธ
เสียงะโ ดึงดูดความสนใจจากทหารที่อยู่โดยรอบมากขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ข่าวจดหมายปลอม ก็แพร่ออกไปทันที เนื่องจากเป็สิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ จึงกระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้ทหารทั้งหลายเริ่มตรวจสอบจดหมายจากครอบครัวของตัวเอง
"อ๋า! ของข้า... ของข้าก็เป็ของปลอมเช่นกันหรือ?”
“ของข้าเป็ของจริง แต่… แต่…”
ข่าวนี้ราวกับคลื่นซัด ถาโถมไปทั่วค่าย ภายในเวลาสั้นๆ ทหารแปดแสนนาย ก็เริ่มตั้งคำถามถึงความถูกต้องของจดหมายตน
...
เมืองหลวงซ่งเฉิง
กู่ไห่ยืนอยู่ชั้นบนของจวนสกุลเถียน มองไปทางทิศเหนือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยมีกู่ฮั่นยืนอยู่ด้านหลัง
“พ่อบุญธรรม การต่อสู้ครั้งสุดท้าย น่าจะเกิดขึ้นภายในสองวันนี้” กู่ฮั่นถอนหายใจ
กู่ไห่พยักหน้าและกล่าวว่า “น่าจะเร็วๆนี้ ขวัญกำลังใจของกองทัพ จะแหลกสลายหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้! ที่ข้าให้เ้าจัดการแก้ไขจดหมายของครอบครัวทหารซ่ง มีปัญหาใดหรือไม่?”
“พ่อบุญธรรมไม่ต้องห่วงขอรับ ครานี้ เกาเซียนจือยกหินทุ่มเท้าตัวเองแล้ว ่ก่อนหน้านี้ เราได้ส่งพ่อค้าไปก่อความเดือดร้อน
เพื่อแสดงว่าตนมีคุณธรรมสูงส่ง เกาเซียนจือจึงอนุญาตให้พวกเขานำจดหมายจากครอบครัวทหารมาส่งต่อไปได้ เพื่อแสดงถึงคุณธรรม? คิดว่าทำแบบนี้แล้ว มีคุณธรรมหรือ?
ฮ่าๆ พ่อบุญธรรม ข้าส่งข่าวไปแนวหน้า บอกให้สุ่มเลือกจดหมายแปดร้อยฉบับมาปรับแก้ แต่ก็ให้แก้ไขเพียงเล็กน้อยเท่านั้นขอรับ!” กู่ฮั่นกล่าว
“แก้ไขเล็กน้อยก็พอ ในบรรดาแปดร้อยฉบับนั้น แค่พบว่าปลอมสิบฉบับ ก็สร้างความโกลาหลได้แล้ว จดหมายปลอมสิบฉบับนี้ จะทำให้ค้นพบอีกแปดร้อยฉบับที่เหลืออย่างรวดเร็ว” กู่ไห่กล่าว พร้อมยิ้มน้อยๆ
“แต่พวกนั้นมีทหารแปดแสนนายนะขอรับ คนแปดร้อยคน กับแปดแสนคนนั้น ต่างกันเป็พันเท่าเชียวนะขอรับ!”
“ประกายไฟเล็กๆ ก็จุดไฟได้! เป็ของจริงแล้วอย่างไร? ใครสามารถพิสูจน์ได้? เป็ธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อความแคลงใจก่อตัว ก็เป็เื่ยากที่จะทำให้กลับมาเชื่อใจอีกครั้ง
จดหมายปลอมปรากฏขึ้นรอบตัว จดหมายในมือตน ไฉนจะกล้าเชื่อว่าเป็ของจริงได้อีก หากพบจุดที่น่าสงสัยบางอย่างในจดหมายเข้า ถึงตอนนั้น แม้แต่จดหมายจริงก็อาจกลายเป็ของปลอม และจดหมายปลอมก็จะเพิ่มขึ้นเป็ทบทวี จากนั้นความรู้สึกไม่สบายใจก็จะแพร่กระจายไปเรื่อยๆ! หึ!”
...
กระโจมแม่ทัพ ภายในค่ายของเกาเซียนจือ
เกาเซียนจือพาหลินชงและกลุ่มทหาร เดินทางออกจากเมืองซ่งเฉิง และกลับมาอย่างเร่งรีบ ยังไม่ทันได้พักผ่อน ก็ได้ยินเื่ที่องค์รัชทายาทซ่งสั่งปะาชีวิตทหารเฉิน ซึ่งมาสวามิภักดิ์หนึ่งร้อยแปดสิบหกคน
“กู่ไห่เคยกล่าวไว้ว่า โอบสามเปิดหนึ่ง นี่เป็การให้ทางหนีแก่พวกเขา ทำให้มีความหวัง และเกิดความปั่นป่วน แต่พระองค์... พระองค์ได้ปิดเส้นทาง 'หนึ่ง' ที่เหลือนั่น ด้วยการสังหารคนที่หลบหนีมา
พระองค์มิได้สังหารเพียงคนทรยศร้อยกว่าคนเท่านั้น แต่ยังได้กำจัดความหวังของพวกเขา ทำลายทางรอดของทหารเฉิน หากปราศจากความหวังในการหลบหนี และหนทางรอด พวกเขาทั้งหมดจะต่อสู้โดยเอาชีวิตเข้าแลก
แม้แต่ทหารชั้นยอด ก็ไม่สามารถเอาชนะศัตรูที่สู้จนตัวตายเหล่านี้ได้! น่าเสียดายที่ข้ากลับช้าไปสองวัน... แค่สองวัน.. ฮาๆ!” เกาเซียนจือหัวเราะอย่างขมขื่น
องค์รัชทายาทซ่งสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ที่เข้าใจเื่ราว
“เ้าสายลับโง่เง่ากลุ่มนั้น ส่งรายงานบ้าบออันใดกลับมาให้ข้า!” พระพักตร์องค์รัชทายาทซีดเผือด
“ไม่เป็ไรพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท พระองค์อย่าทรงโทษตัวเอง กู่ไห่ผู้นี้มีความสามารถอย่างแท้จริง ั้แ่เขาควบคุมกองทัพเฉิน เราก็มีแต่เื่ไม่หยุดหย่อน รีบจบาโดยเร็วที่สุดเถิดพ่ะย่ะค่ะ
กระหม่อมกังวล ว่าจะเกิดเื่ร้ายขึ้นมาอีก ต้องรีบทำการบุกโจมตีโดยด่วน ทำลายด่านหู่เหลา จัดการกู่ไห่ ทุกอย่างก็คลี่คลายแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เกาเซียนจือปลอบใจ
“ใช่ จัดการกู่ไห่ ข้าอยากจะสับมันเป็พันๆ ชิ้น!” องค์รัชทายาทเอ่ยอย่างคั่งแค้น
สำหรับเื่ของบุตรชายนั้น เวลานี้องค์รัชทายาทซ่งทำได้เพียงเก็บกลั้นไว้ในใจ เมื่อเห็นท่าทางของหลินชงและพรรคพวก ก็สามารถเดาได้ว่าบุตรชายตนคงจะมอดม้วยแล้ว
“บุตรข้า ข้าจะล้างแค้นให้เ้าอย่างแน่นอน!” องค์รัชทายาทนึกอย่างเดือดดาล
“รายงาน! ท่านแม่ทัพ ไม่ดีแล้วขอรับ ทหารกำลังทำการประท้วง... ประท้วงอีกแล้วขอรับ คราวนี้มีคนมากกว่าเดิมอีกขอรับ ท่านแม่ทัพ!” ทันใดนั้น ทหารผู้หนึ่งก็พุ่งเข้ามาในกระโจมทันที
"อะไรนะ?" องค์รัชทายาทสีหน้าย่ำแย่ ร้องเสียงดังอย่างตระหนก
เกิดการประท้วง? ประท้วงอีกแล้ว? กู่ไห่ผู้นี้เป็สัตว์ประหลาดหรืออย่างไร? พึ่งผ่านไปไม่นาน ทหารชั้นยอดแปดแสนคนกลับมารวมตัวกัน เพื่อประท้วงอีกครั้ง? นี่มันการต่อสู้แบบใดกัน?
ม่านตาของเกาเซียนจือหดแคบลง “กู่ไห่ ข้ารู้แล้ว! เข้าใจแล้ว! จะเป็การดีที่สุด หากข้าสั่งการทหารแปดแสนคนนี้ ให้โจมตีขั้นเด็ดขาดโดยเร็ว มิเช่นนั้น หากให้เวลาเ้ามากไปกว่านี้ กองทัพของข้าคงจะแตกพ่ายเป็แน่”
"เกิดสิ่งใดขึ้นหรือ?" หลินชงถามทหารผู้นั้น
“เหล่าทหารพบว่าจดหมายจากครอบครัวพวกเขา ทั้งหมดเป็ของปลอมขอรับ!” ใบหน้าของทหารผู้นั้น ปรากฏแววยุ่งยากใจ
“จดหมายจากครอบครัว? จดหมายจากที่บ้าน? พ่อค้า! ข้าประมาทเกินไป... ข้ารู้! แผนของกู่ไห่คงมิง่ายดายเช่นนี้ แท้จริงแล้ว ยังมีแผนร้ายซ่อนอยู่อีก ข้าควรจัดการขั้นเด็ดขาด สังหารพ่อค้ากลุ่มนั้นเสียั้แ่แรก” เกาเซียนจือตื่นตระหนก เมื่อเข้าใจทุกอย่าง
แกร๊ง!
เสียงอื้ออึงที่เต็มไปด้วยความคับแค้น ดังขึ้นด้านนอก พร้อมเสียงสบถสาปแช่ง ยิ่งกว่านั้น คราวนี้ เสียงเอ็ดอึงเ่าั้ คล้ายจะเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
องค์รัชทายาทซ่งยืนในกระโจมใหญ่ อย่างอกสั่นขวัญแขวน
เกาเซียนจือตากระตุก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และพูดว่า "มาเถอะ ออกไปข้างนอกกัน!"
...
ด่านหู่เหลา บนกำแพงเมือง
กู่ฉินซึ่งมีเส้นผมขาวโพลน ยืนพิงกำแพง ั์ตาทั้งสองข้างจับจ้องไปทางทิศใต้
เื้ัเขา คือเฉินเหลี่ยงอี้และเฉินเทียนซาน
“ท่านแม่ทัพ กองกำลังได้จัดระเบียบใหม่ทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อไป? เราเพิ่งได้รับรายงาน ว่าเกาเซียนจือกลับมาถึงค่ายแล้ว และกำลังจัดเตรียมทหารแปดแสนคน เพื่อเริ่มาตัดสินในเร็วๆ นี้” ใบหน้าของเฉินเหลี่ยงอี้ เจือไว้ด้วยความกังวล
“ไม่ต้องกังวล พ่อบุญธรรมได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว แม้ว่าเกาเซียนจือจะกลับมา ก็ไร้ประโยชน์ เพียงทำตามแผนของพ่อบุญธรรมก็พอแล้ว ทหารแปดแสนคน ไม่นานก็แตกพ่าย!” กู่ฉินยิ้มบางๆ
"หา? การเตรียมการของกู่ไห่? เตรียมอันใดกัน?” เฉินเหลี่ยงอี้ถามทันที
ทว่า กู่ฉินกลับมิได้อธิบาย ยังคงจ้องตรงไปทางทิศใต้
เฉินเหลี่ยงอี้ขมวดคิ้วอยู่ด้านข้าง กล่าวว่า “ข้าจำได้แล้ว เมื่อสามวันก่อน ท่านส่งคนราวสี่สิบคนออกไปนอกด่าน พวกเขาเป็คนตระกูลกู่หรือ? เป็คนสนิทของท่านเช่นนั้นหรือ? สี่สิบคนนี้ เหตุใดจึงส่งออกไปนอกด่าน? ทั้งยังมิใช่ผู้ฝึกตนระดับสูงอีก”
กู่ฉินยกยิ้ม และกล่าวว่า “พวกเขา? กลายเป็โจรูเาไปแล้ว! เมื่อกลับมา พวกเขาจะจุดพลุเพื่อส่งสัญญาณ”
“โจรูเา?” เฉินเหลี่ยงอี้ และเฉินเทียนซานมีสีหน้าว่างเปล่า
...
ค่ายของเกาเซียนจือ
มีการสืบสวนครั้งใหญ่ เพื่อตรวจสอบจดหมายจากครอบครัวทหารแปดแสนคน เกาเซียนจือต้องใช้ทั้งบารมี และความพยายามอย่างมาก ในที่สุด ก็ได้เื่ หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน
บนลานกว้างในค่าย
เกาเซียนจือ องค์รัชทายาทซ่ง หลินชงและคนอื่นๆ ยืนอยู่บนแท่นยกพื้น ด้านล่างมีทหารแปดแสนคน แต่ละคนมีดวงตาแดงก่ำ แม้ว่าบางคนจะสงบนิ่ง แต่ส่วนมากยังคงมีท่าทางกระสับกระส่าย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความน่าเชื่อถือของท่านแม่ทัพเกา ทำให้พวกเขาเงียบลง และมองไปยังเกาเซียนจือ
“ทหารทุกคน ข้ากลับมาแล้ว เื่ของพวกเ้าเมื่อวานนี้ ข้าได้ตรวจสอบเป็ที่แน่ชัดแล้ว ข้าเข้าใจ ว่าตอนนี้พวกเ้ากำลังสับสน และไม่สบายใจ แต่ก็ต้องชี้แจงว่าทั้งหมดนี้เป็อุบายของกู่ไห่ ข้าขอบคุณทุกคนมาก ที่ยินดีฟังคำชี้แจงจากข้า
จดหมายฉบับแรกๆ ที่พบว่ามีปัญหานั้น เห็นได้ชัด ว่ามาจากกลุ่มพ่อค้า ซึ่งเคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็คนของกู่ไห่ และได้ทำการปลอมแปลงจดหมายของพวกเ้า จุดประสงค์คือใช้ความสับสนของพวกเ้าสร้างความโกลาหลภายในค่ายทหาร!”
เกาเซียนจือกล่าวเสียงดังชัดเจน
“จดหมายของพวกเขามาจากพ่อค้า แต่จดหมายของข้าถูกส่งมาจากทหาร เหตุใดจึงเป็ของปลอมเช่นกัน” มีคนะโถาม
ผู้คนที่อยู่ด้านล่าง กำลังพากันเดือดดาล
"ถามได้ดี!" เกาเซียนจือตอบ ขัดจังหวะเหล่าทหาร
เกาเซียนจือจ้องมองไปทางนั้น และถามกลับ “เ้าแน่ใจหรือว่าจดหมายของเ้าเป็ของปลอม? มิใช่ครอบครัวของเ้าเขียนขึ้น? เหตุใดถึงแน่ใจนัก ว่าเป็ของปลอม? ข้าเดาว่า เป็เพราะเ้าเห็นว่าจดหมายของคนอื่นเป็ของปลอม ดังนั้นจึงเกิดความสงสัยขึ้นใช่หรือไม่?”
"เอ๋! ข้า…" ทหารผู้นั้นเมื่อถูกถาม ก็ขมวดคิ้วทันที ดูเหมือนว่าจะเป็เช่นนั้นจริงๆ
“นั่นเป็จดหมายจากครอบครัวเ้าจริงๆ เ้าเพียงแค่สงสัย ไม่มั่นใจเท่านั้น อย่าเห็นผู้อื่นว่าอย่างไร ก็ว่าตามเขา” เกาเซียนจือกล่าว
“ข้า...” คนผู้นั้นขมวดคิ้ว รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที
ที่ท่านแม่ทัพกล่าว ก็คล้ายจะเป็เช่นนั้นจริง แต่...
เกาเซียนจือมองไปรอบๆ พลางเอ่ย “ทหารทุกคน นี่เป็เพราะข้าประมาท ไม่ควรให้โอกาสพ่อค้าเ่าั้ ข้า เกาเซียนจือ ขอรับรองกับทุกคน ว่าครอบครัวของพวกเ้าจะต้องปลอดภัย ไม่มีอันตรายใดๆ กล้ำกรายแน่นอน จะไม่มีผู้ใดสามารถทำร้ายพวกเขาได้ แม้แต่ปลายก้อย!”
ทหารทั้งหมดจ้องเกาเซียนจือ ด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ข้ารู้ว่าพวกเ้าอยากกลับบ้าน ตอนนี้หากอยากกลับก็กลับไปได้เลย ข้าเข้าใจ! แต่ชัยชนะอยู่ตรงหน้านี่แล้ว พวกเ้าเห็นหรือไม่? ห่างไปสิบลี้ ก็เป็ด่านหู่เหลาแล้ว ขอเพียงเราทำลายด่านนี้ได้ ทุกอย่างก็จบ เราอยู่ห่างความสำเร็จเพียงก้าวเดียว พวกเ้าอยากจะหยุดอยู่แค่นี้หรือ?”
“เพียงเพราะแผนการของกู่ไห่ พวกเ้าก็ยอมแพ้แล้ว เลือกที่จะกลับบ้าน กลายเป็ทหารหนีทัพซึ่งขี้ขลาดตาขาว เช่นนั้น เมื่อกลับไปถึงบ้าน จะสู้หน้าพ่อแม่ภรรยาและลูกเ้าได้อย่างไร? ไม่รู้สึกอายหรือไร?” เกาเซียนจือเอ่ยถามเสียงก้อง
"เรา..." ทหารหลายคนมีสีหน้าละอายใจ
“ข้าขอรับรองกับทุกคน ว่าเมื่อเราทำลายด่านเรียบร้อยแล้ว ข้าจะแบ่งกลุ่มพวกเ้าเป็ชุดๆ เพื่อกลับบ้านไปเจอครอบครัว ขอเพียงทำลายด่านนี้ลงได้ ทุกอย่างก็จบ! ขอเพียงพิชิตด่านหู่เหลาได้!” เกาเซียนจือะโเสียงดัง
ทหารหลายคนแม้จิตใจจะสับสนร้อนรน แต่ยังคงกำหมัดแน่น
เกาเซียนจือมองเหล่าทหาร และลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เป็เื่ดีที่เขายังมีความหน้าเชื่อถืออยู่ จึงสามารถโน้มน้าวเหล่าทหารได้ มิเช่นนั้นคงวุ่นวายแน่
“ทุกคน ข้าขอชี้แจงอีกครั้ง ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็ส่วนหนึ่งในแผนการของกู่ไห่ แผ่นดินของเราสงบสุขดี ไม่มีผู้ใดกล้ารังแกครอบครัวพวกเ้า
แม้แต่พระราชนัดดา ก็ไม่อาจพ้นผิด ส่วนที่เหลือ ข้าจะไม่พูดให้มากความ หลินชงจะมาบอกทุกคนด้วยตัวเอง! ทุกคนคงรู้จักนายกองหลินชงดี เมื่อไม่นานมานี้ พวกเ้าหลายคนเคยเข้าร่วมกับเขาเพื่อขอร้องข้า!” เกาเซียนจือกล่าวอีก
ทหารทุกคนมองหลินชง และทหารคนอื่นๆ ที่เดินทางไปเมืองซ่งเฉิง
หลินชงเดินไปด้านหน้า ผงกศีรษะ และกล่าวว่า “พี่น้องทุกคน ท่านแม่ทัพเป็คนเช่นไร ถึงตอนนี้ พวกเ้ายังไม่กระจ่างหรือ? ท่านแม่ทัพมีวาจาสัตย์ พูดคำไหนเป็คำนั้น
นอกจากนี้ฮ่องเต้ยังออกพระราชกฤษฎีกา ประกาศไปทั่วทุกแห่ง ผู้ใดก็ตามที่กล้ารังแกครอบครัวทหาร จะถูกลงโทษอย่างหนัก! ท่านแม่ทัพเป็คนรักษาคำพูด!
ขอบคุณพี่น้อง ที่ช่วยข้าคุกเข้าขอร้องก่อนหน้านี้ สิ่งที่ข้า้าจะพูดกับทุกคน ก็คือ คำพูดของท่านแม่ทัพ มั่นคงดุจขุนเขา เป็ดั่งที่ท่านกล่าวไว้ พระราชนัดดาซ่งเจิ้งซีถูกปะาต่อหน้าข้า เขาถูกปะาชีวิตจริงๆ พี่น้องหลายคนที่นี่เป็พยานได้!”
“พระราชนัดดาถูกปะาจริงๆ หรือ?”
“ปะาชีวิตแล้วจริงหรือ?”
“สามารถปะาพระราชนัดดาได้ เช่นนั้นผู้ใดจะได้รับการละเว้นอีกเล่า? คำพูดของท่านแม่ทัพเป็จริง!”
“เรามิควรไม่เชื่อใจท่านแม่ทัพ!”
“อย่าไปสนใจแผนการของกู่ไห่ ข้าเชื่อท่านแม่ทัพ!”
“ถ้าสามารถปะาพระราชนัดดาได้ เช่นนั้นคำพูดของท่านแม่ทัพก็มิใช่เื่โกหก!”
“ในเมื่อปะาพระราชนัดดาได้จริง ไม่ว่าท่านแม่ทัพจะพูดสิ่งใดข้าก็จะเชื่อ!”
ทุกคนด้านล่างกำลังฮึกเหิม
เหล่าทหารต่างเชื่อว่า หลินชงไม่โกหกแน่ ตอนนั้น หลังจากที่ครอบครัวเขาถูกซ่งเจิ้งซีสังหาร เขาเป็ผู้นำการประท้วง ซึ่งนับว่าเสี่ยงต่อชีวิต ถ้าอีกฝ่ายยังไม่ตาย เขาคงไม่พูดอย่างมั่นใจเช่นนี้
ท่านแม่ทัพปะาซ่งเจิ้งซีไปแล้ว พวกเขายังต้องกังวลอะไรอีก?
หลินชงกลับมายืนอยู่ด้านข้าง ขณะที่เกาเซียนจือถอนหายใจยาว ในที่สุด ก็สามารถดึงหัวใจทหารกลับคืนมาได้ ความตายของพระราชนัดดาเพียงพระองค์เดียว ทำให้ได้ใจทหารแปดแสนคน ทั้งหมดนี้ล้วนคุ้มค่า
เกาเซียนจือเข้าใจชัดเจน ว่าเมื่อทหารแปดแสนคนก่อความวุ่นวายในค่าย จะนำไปสู่สถานการณ์ที่น่ากลัวเพียงใด
“ดี ตอนนี้เราควรตีเหล็กตอนร้อน หลังจากกินอาหารเสร็จ ให้รีบมารวมตัวกันทันที เราจะโจมตีด่านหู่เหลา!” เกาเซียนจือะโเสียงดัง
“เฮ้!” ทหารทุกคนส่งเสียงร้องลั่น
"อะไร? เร็วเช่นนี้เลยหรือ? ท่านแม่ทัพ ท่านพึ่งกลับมา ยังไม่ทันได้พักผ่อนมิใช่หรือ? พักผ่อนสักคืนก่อนไม่ดีกว่าหรือ แล้วค่อยจัดทัพโจมตีด่านหู่เหลาอีกครั้ง” องค์รัชทายาทกล่าวด้วยความประหลาดใจ
เกาเซียนจือรีบออกจากเมืองหลวง กลับมาที่นี่โดยไม่หยุดพัก ทำให้ดูซีดเซียวยิ่ง นอกจากนี้ เมื่อวานยังต้องตรวจสอบสาเหตุเื้ัการประท้วง มิได้หยุดหย่อน จึงไม่ได้พักผ่อนดีนัก ในสภาพที่อ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจเช่นนี้ ยังคิดจะเปิดศึกตัดสินอีก?
“ไม่ ข้ากำลังต่อสู้กับกู่ไห่ แผนการของกู่ไห่นั้นร้ายกาจยิ่ง ทั้งยังโจมตีระลอกแล้วระรอกเล่า ทำให้เกิดความปั่นป่วนสับสน ดังนั้นเราต้องรวดเร็ว ว่องไวกว่าแผนการต่อไปของเขา จำเป็ต้องทำให้เร็วที่สุด! มิฉะนั้นผลที่ตามมาคงมิพ้นหายนะ!” เกาเซียนจือยิ้มขื่น
ั้แ่รู้ว่ากู่ไห่เป็ผู้บัญชาการกองทัพเฉิน เขาก็ตระหนักแล้ว ว่าจะเกิดปัญหาไม่จบไม่สิ้น อย่างไรก็ตาม เกาเซียนจือก็ไม่คิดว่าภายในระยะเวลาสั้นๆ ปัญหาวุ่นวายเหล่านี้ เกือบจะทำให้ตนเป็บ้า
ดังนั้น จึงไม่อาจรั้งรอได้อีก จำเป็เร่งมือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้! หลังกินอาหารเสร็จ ก็จะเริ่มต้นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ภายใน่เวลาพักรับประทานอาหารนี้ คงมิอาจเกิดเื่ใดขึ้นได้อีก ใช่หรือไม่?
"อา! ดูเร็ว! นั่นคือพระราชนัดดามิใช่หรือ?”
"อะไร? เ้าตาฝาดไปแล้ว ท่านแม่ทัพบอกว่าเขาถูกปะาชีวิตไปแล้วนี่!”
“ใช่!... ต้องไม่ใช่พระราชนัดดาแน่ หลินชงไม่มีทางโกหกเรา ใช่หรือไม่?”
“เป็ไปไม่ได้ ที่ท่านแม่ทัพจะโกหกเรา!”
“แต่... แต่ข้าเคยเห็นเขาที่เมืองหลวงซ่งเฉิง นี่คือพระราชนัดดาแน่นอน ข้ามั่นใจ!”
ขวัญกำลังใจทหารที่พึ่งคืนกลับมา เริ่มระส่ำระสายทันที
นั่นเป็เพราะบนเนินเขาที่ห่างออกไป มีชายคนหนึ่งกำลังวิ่งลงมา ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าฉีกขาด
หากเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นในอดีต ทหารคงฆ่าหรือไม่ก็จับเขาข้อหาบุกรุกไปแล้ว
แต่ในขณะนี้ ทหารที่อยู่ใกล้ๆ กลับเบิกตาโต สีหน้าปรากฏความไม่เข้าใจ ทั้งยังเปิดทางให้ชายคนนั้นเดินเข้ามา
เหตุเพราะ ชายท่าทางอ่อนล้าผู้นี้ หาใช่ใครอื่น เขาคือพระราชนัดดาที่ทุกคนเชื่อว่าตายไปแล้วนั่นเอง!
เป็ไปได้อย่างไร? เป็ไปได้อย่างไรกัน?
ขวัญกำลังใจทหารที่พึ่งฟื้นคืน พลันพังทลาย ราวกับถูกคลื่นซัดสาด เสียงต่างๆ ในค่าย หายไปสิ้น
ซ่งเจิ้งซี?
ไม่ได้ถูกท่านแม่ทัพปะาไปแล้วหรอกหรือ? เป็เขาไปได้อย่างไร?
การเปลี่ยนแปลงของทหารแปดแสนนาย ดึงดูดความสนใจของคนบนแท่นทันที
หลินชงหันหน้าไปมอง ทันทีที่เห็นซ่งเจิ้งซี ทั้งร่างก็เริ่มสั่นสะท้าน
“เป็ไปไม่ได้... เป็ไปไม่ได้!” ตาของหลินชงเบิกกว้างแทบหลุดออกจากเบ้า ร้องะโอย่างตื่นตระหนกออกมาไม่หยุด
ซ่งเจิ้งซี? แม้จะกลายเป็เถ้า หลินชงก็ยังจำได้ เขาไม่ได้ถูกตัดหัวไปแล้วหรือ? จะเป็เขาไปได้อย่างไร?
"หา?" องค์รัชทายาท ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
หลายวันมานี้ ในใจขององค์รัชทายาท เต็มไปด้วยความคั่งแค้น เขาเกลียดกู่ไห่ เกาเซียนจือ และหลินชง บุตรชายสุดที่รักของเขาถูกปะาชีวิต แต่เขากลับไม่อาจทำอะไร เพื่อช่วยบุตรชายได้เลย
หาก์ยินดีคืนบุตรชายให้เขา เขาจะยอมสละอายุขัยสิบปีของตนด้วยความเต็มใจ แต่ทั้งหมดนี้ มันเป็ไปไม่ได้...
... แต่บัดนี้ ซ่งเจิ้งซีกลับปรากฏตัวขึ้น
องค์รัชทายาทขยี้ตา นี่เป็เื่จริงหรือ? นั่นคือบุตรชายของข้าจริงหรือ? เขายังมีชีวิตอยู่?
พอเกาเซียนจือเห็นซ่งเจิ้งซี ั์ตาพลันปรากฏแววประหลาดใจยิ่ง “เป็ไปไม่ได้ จะเป็ไปได้อย่างไรกัน? จะมีคนที่คล้ายกันเช่นนี้ได้อย่างไร? กู่ไห่หาคนที่คล้ายกันเช่นนี้มาจากที่ใดกัน?”
แต่เมื่อซ่งเจิ้งซีผู้บอบช้ำ มองเห็นองค์รัชทายาท ก็วิ่งเข้ามาหา
“เสด็จพ่อ ในที่สุดลูกก็หาท่านพบ ลูกเกือบตายด้วยเงื้อมมือของโจรูเาแล้ว รีบไปจับพวกมันเร็วพ่ะย่ะค่ะ พวกมัน้าฆ่าลูก!” ซ่งเจิ้งซีคร่ำครวญเสียงดังลั่น
องค์รัชทายาทและเกาเซียนจือ พลันสั่นสะท้าน มือและเท้าเย็นเฉียบขึ้นมาทันที เหงื่อเย็นๆ ไหลโซมกาย
ซ่งเจิ้งซีจริงหรือ?
แต่ในตอนนี้ เหล่าทหารที่พึ่งกลับมาฮึกเหิม มองเกาเซียนจือด้วยสีหน้าว่างเปล่าทันที
ใบหน้าว่างเปล่าของทหารแปดแสนคนนั้น ตอบทุกอย่างแล้ว ความเชื่อใจที่พวกเขามีให้เกาเซียนจือ... สูญหายไปสิ้น!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้