ไม่กล่าวชมมิได้ว่าช่างตีเหล็กของสำนักเทียนกง มีจินตนาการเป็เลิศ
อัสนีกับเปลวเพลิงเดิมทีก็มีจุดเด่นด้านความยืดหยุ่นกับความรุนแรงอยู่แล้ว แต่เมื่อใช้อักขระกับศาสตร์วิชาจัดการ กลับสามารถหลอมรวมมันให้อยู่ในของสิ่งเดียวกันได้ ถ้าสมดุลถูกทำลายก็จะเกิดะเิที่มีพลังทำลายล้างอันทรงพลังออกมา
อาเจ๋อมองด้วยใบหน้าหลงใหล ในสายตาเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ
เหมาปู้เอ้อรู้สึกตกตะลึง จากนั้นหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “นี่ก็คือวิธีการสร้างเซียนยุทธ์ของสำนักเทียนกงหรือ? ช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก!”
หากไม่นับเื่สถานะกับความาุโ ในฐานะที่เป็ปรมาจารย์สร้างอาวุธที่มีประสบการณ์อันโชกโชน เหมาปู้เอ้อตั้งเงื่อนไขด้านศาสตร์วิชาเข้มงวดมาก
ทว่าจากความดูถูกในเริ่มแรก เริ่มเปลี่ยนเป็ความสนใจ จนมาถึงตอนนี้ต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง เหมาปู้เอ้อตกตะลึงกับฝีมือของจั๋วอวิ๋นเซียน...หรือต้องกล่าวว่าตกตะลึงกับศาสตร์วิชาของสำนักเทียนกงเสียมากกว่า
ใช้ลูกปัดเก็บิญญาเป็รากฐาน ใช้อักขระเป็เส้นชีพจร รวมกับฝีมือการสร้างอาวุธ การเปลี่ยนแปลงของค่ายกล ความอัศจรรย์ของกลไก จนท้ายที่สุดสร้างเป็อาวุธทำลายล้างที่ทรงพลัง นี่ก็คือ ‘ยุทธภัณฑ์วิถีเซียน’
ศาสตร์วิชาเช่นนี้มิอาจเรียกว่าศาสตร์วิชาแล้ว แต่มันคือศิลปะ
……
“นายน้อย ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่?”
ฉินตงหวู่เห็นจั๋วอวิ๋นเซียนสีหน้าซีดขาวและเหงื่อไหลท่วมตัว นางจึงอดเผยสีหน้ากังวลออกมามิได้ นางรู้สภาพร่างกายของจั๋วอวิ๋นเซียนดี เขาทำงานหนักเกินไปมิไหว
“มิเป็ไร พี่ฉินวางใจเถอะ”
จั๋วอวิ๋นเซียนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นเขาตรวจสอบของที่สร้างขึ้นมา แล้วจึงพยักหน้าด้วยความพอใจ
สามปีมานี้นอกจากหลอมิญญาอัสนีแล้ว เขาแทบจะใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับมรดกสืบทอดของสำนักเทียนกง
หยกสืบทอดเก็บรักษาศาสตร์วิชาที่แตกต่างกันเอาไว้เจ็ดสิบเจ็ดชนิด มีทั้งอักขระ ค่ายกล สร้างอาวุธ กลไก ยังรวมไปถึงปรุงโอสถอีกด้วย...ยังมีเซียนยุทธ์บางชนิดที่มีพลังน่ากลัวยิ่งกว่าลูกปัดเพลิงอัสนีเสียอีก!
น่าเสียดายที่จั๋วอวิ๋นเซียนมีความรู้ครึ่งๆ กลางๆ ไม่เคยเรียนห้าศาสตร์วิถีเซียนอย่างจริงจัง จึงมิอาจเข้าใจหลักการและการตั้งค่าของศาสตร์วิชามากมาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเื่สร้างเลย
‘ะเิเพลิงอัสนี’ นับว่าเป็เซียนยุทธ์ชนิดหนึ่งที่จั๋วอวิ๋นเซียนคุ้นเคยมากที่สุด ไม่เพียงสืบทอดศาสตร์วิชาของสำนักเทียนกง ยังมีประสบการณ์ที่ได้รับจากลุงเยี่ยนอีกด้วย มิเช่นนั้นจากประสบการณ์ของเขาเอง คงไม่มีทางสร้างขั้นแรกเสร็จอย่างง่ายดายเยี่ยงนี้
เช่นนั้นขั้นตอนต่อไปก็คือเอาลูกปัดเก็บิญญาที่สร้างเสร็จแล้วหลอมกลั่นรอบที่สอง กลั่นเพิ่มความบริสุทธิ์ ทำให้พลังของมันเสถียร
……
จั๋วอวิ๋นเซียนนำลูกปัดเก็บิญญาใส่เข้าไปในเตาหลอมเพลิงิญญา จากนั้นหยิบพู่กันออกมา เขาสร้างไปด้วยตรวจสอบไปด้วยและจดบันทึกไปด้วย ขั้นตอนทั้งหมดพิถีพิถันมาก
“ตูม...”
ทันใดนั้นในเตาเกิดะเิขึ้นมา เสียงดังะเืฟ้าดินราวกับถูกฟ้าผ่า
เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ จั๋วอวิ๋นเซียนเหมือนคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงมิได้ประหลาดใจ ยังคงก้มหน้าจดบันทึก ั้แ่การควบคุมเพลิงจนถึงระยะเวลา จากนั้นลำดับขั้นตอนการทำ...ทุกตัวอักษรล้วนเป็ผลลัพธ์จากการทดลองจริง จึงไม่มีเื่เท็จแม้แต่น้อย
จั๋วอวิ๋นเซียนไม่เป็ไร แต่ฉินตงหวู่กับศิษย์อาจารย์เหมาปู้เอ้อใไม่น้อย เดิมทีพวกเขาคิดว่าทุกอย่างราบรื่นดี ต้องสำเร็จเป็แน่ คิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดจะล้มเหลว
นอกจากนี้ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนในเขตเหนือของเมืองซานเซียน พวกเขาถูกเสียงดังจากหอตำราหลางฮ้วนปลุกเช่นกัน พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายในเกาะซานเซียน
ทว่าเมื่อผู้บำเพ็ญเซียนมากมายเตรียมเข้าไปตรวจสอบหอหลางฮ้วน กลับถูกองครักษ์ของจวนเ้าเมืองขวางทางเอาไว้ อีกทั้งยังถูกเตือน...ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้หอตำราหลางฮ้วนในระยะร้อยจั้ง มิเช่นนั้นจะถูกขับไล่ออกจากเมืองซานเซียน
ไม่มีผู้ใดกล้ามองข้ามคำเตือนของจวนเ้าเมือง ผู้คนไม่น้อยจึงทยอยกลับไป มีเพียงผู้บำเพ็ญเซียนที่ชอบเื่คึกคักบางส่วนคอยสังเกตการณ์อยู่ไกลๆ และรอฟังข่าวจากภายใน
……
“เ้าหอไป๋เฮ่อ เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?”
อาเจ๋อยากจะสงบอารมณ์จึงรีบวิ่งไปถามสถานการณ์กับจั๋วอวิ๋นเซียน
แม้แต่เหมาปู้เอ้อก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางมึนงง
“ล้มเหลวแล้ว”
จั๋วอวิ๋นเซียนตอบพลางจดบันทึกไปด้วยโดยไม่เงยหน้ามอง
“ละ...ล้มเหลวหรือ?”
น้ำเสียงของอาเจ๋อสูงขึ้นทันที “เป็แบบนี้ไปได้อย่างไร?”
จั๋วอวิ๋นเซียนเงยหน้ามองศิษย์อาจารย์สองคน “ล้มเหลวแล้วอย่างไร พลังเพลิงอัสนีเดิมทีก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว เมื่อถูกกระตุ้นด้วยพลังจากภายนอกจึงทำให้ง่ายต่อการะเิ ข้าเพิ่งสร้างครั้งแรก ยังควบคุมรายละเอียดได้ไม่ดีนัก ล้มเหลวก็เป็เื่ปกติมิใช่หรือ?”
“……”
เหมาปู้เอ้อกับอาเจ๋ออ้าปากค้าง ไม่รู้ควรตอบอย่างไร
เป็อย่างที่จั๋วอวิ๋นเซียนว่ามา ไม่ว่าสร้างอาวุธหรือสมบัติวิเศษ การตั้งค่ายกล ปรุงโอสถ ล้วนอาจจะล้มเหลวได้ เพียงแต่ฝีมือที่จั๋วอวิ๋นเซียนแสดงออกมาน่าตกตะลึงเกินไป จึงทำให้ศิษย์อาจารย์สองคนนี้คิดว่าจั๋วอวิ๋นเซียนไม่มีทางล้มเหลว
ช้าก่อน นี่ยังมิใช่จุดสำคัญ! เมื่อครู่เขาว่าอะไรนะ? ครั้งแรกหรือ...ไป๋เฮ่อบอกว่าเพิ่งสร้างเซียนยุทธ์เป็ครั้งแรกหรือ? อีกทั้งยังฟังดูสมเหตุสมผลมาก!
ศิษย์อาจารย์เหมาปู้เอ้อรู้สึกจิตใจสั่นสะท้าน พวกเขาคิดว่าตัวเองนอนไม่พอหรืออย่างไร? อีกฝ่ายบอกว่าเพิ่งเคยสร้างเซียนยุทธ์เป็ครั้งแรก แต่ฝีมือกลับชำนาญเช่นนี้? อีกทั้งยังดูเหมือนมีประสบการณ์โชกโชน?
ที่สำคัญที่สุดก็คือเพิ่งสร้างเซียนยุทธ์เป็ครั้งแรกก็สร้างะเิเพลิงอัสนีแล้ว ไม่กลัวถูกะเิตายหรือ!
เอาเถอะ เหมาปู้เอ้อกับอาเจ๋อไม่รู้ว่าควรเผชิญหน้ากับจั๋วอวิ๋นเซียนด้วยความรู้สึกอย่างไร เพียงถอยหลังไปอย่างเงียบๆ จะได้มิถูกะเิตาย
……
“ทดลองต่อไป!”
จั๋วอวิ๋นเซียนสร้างลูกปัดเก็บิญญาอีกหลายลูก จากนั้นโยนเข้าไปในเตาหลอมทีละลูก
……
“ตูม...”
“บึม...”
“ตูมๆๆ...”
……
จั๋วอวิ๋นเซียนทำะเิครั้งแล้วครั้งเล่า จนผู้คนบริเวณนั้นหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม และทำให้เหมาปู้เอ้อโมโห ถึงอย่างไรการสิ้นเปลืองวัตถุดิบมากมายเพียงนี้ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเอามาจากหอเทียนปินของเขา หากไม่เจ็บใจคงจะแปลก
“ไอ้หนูไป๋เฮ่อ เ้า...เ้าสร้างเป็หรือไม่?”
“เป็สิ”
“แล้วเหตุใดยังะเิอยู่อีก?”
“ไม่เช่นนั้นเ้ามาทำเองสิ?”
“ข้า...ข้า...”
เหมาปู้เอ้อทนไม่ไหวต้องก่นด่าอยู่ในใจ หากข้าทำเป็ยังต้องให้เ้ามาแสดงอำนาจตรงนี้อยู่อีกหรือ!
……
“ตูม...”
“ตูม! ตูม! ตูม!”
เสียงดังะเืฟ้าดิน ราวกับฟ้าผ่าฟ้าร้อง เขตตอนเหนือของเมืองซานเซียนในตอนนี้มิใช่สถานที่เงียบสงบอีกต่อไป
มีผู้บำเพ็ญเซียนไม่น้อยที่กำลังปิดด่านฝึกตนอยู่ เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่น พวกเขาคิดว่าเมืองซานเซียนถูกคนโจมตีจึงใจนเกือบธาตุไฟเข้าแทรก!
ทว่าต่อมาเมื่อได้ยินว่าเป็เพราะเ้าหอหลางฮ้วนกำลังสร้างของบางอย่างอยู่ พวกเขาก็โมโหจนกระอักเืออกมา! มารดามันเถอะจะให้คนอื่นได้ฝึกฝนหรือไม่?
……
ข่าวเหล่านี้รายงานไปถึงเ้าเมืองหวู่อันถงอย่างรวดเร็ว
ความจริงแล้วหวู่อันถงจับตามองทุกการเคลื่อนไหวของจั๋วอวิ๋นเซียนอย่างใกล้ชิดจึงปวดศีรษะไม่น้อย
เด็กคนนี้หาเื่มากเกินไป หากรู้แต่แรกคงให้เขาไปอยู่นอกเมืองเพื่อความเงียบสงบ
ทว่าเมื่อลองคิดอีกมุมหนึ่ง หากปล่อยให้อยู่นอกเมือง หวู่อันถงก็ไม่วางใจ! มิใช่เพราะกลัวจั๋วอวิ๋นเซียนหนี แต่กลัวว่าเขาจะทำให้ผู้คนโมโห อาจจะถูกคนลอบสังหารได้!
มิได้การแล้ว เขาต้องไปบอกจั๋วอวิ๋นเซียนด้วยตัวเอง ให้อีกฝ่ายเงียบลงหน่อย
เมื่อคิดได้เช่นนี้หวู่อันถงรีบเดินไปทางหอหลางฮ้วน
