หมัดยังไม่ทันจะซัดลงมา พลังกดดันอันรุนแรงที่แผ่ออกก็ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เป็ถึงผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางที่มีขดพลังิญญาถึงห้าแห่งต้องรู้สึกหวาดกลัวกับแรงกดดันอันมหาศาลนี้!
แย่แล้ว!
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใ พลังเช่นนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะได้หรือไม่ ยิ่งเป็หวงเหล่ยยิ่งไม่มีทางรับมือได้แน่!
ไม่มีเวลาให้คิดมากแล้ว!
ขดพลังิญญาทั้งห้าแห่งในกายเริ่มไหลเวียนอย่างรวดเร็ว พร้อมชุดคลุมยาวสีเงินขาวที่โบกสะบัด!
“หวงเหล่ย ถอยออกไป!” เขาะโพร้อมก้าวเท้าออกไปด้วย ร่างสูงใหญ่พุ่งขึ้นไปในอากาศ พุ่งตรงไปยังหมัดที่ซัดลงมาของฉินหรูเยียน แล้วซัดฝ่ามือออกไป!
วิชาิญญาระดับเหลืองขั้นกลาง ‘ฝ่ามือเปิดแผ่นศิลาทองคำ’!
ดวงตาสีดำสนิทดั่งอัญมณีสีดำของฉินหรูเยียนฉายแววเย็นะเืออกมา ปากเปล่งเสียงออกมาเบาๆ “แหลกไปเสีย!” แล้วหมัดก็พุ่งทะลวงอากาศ ซัดลงมาอย่างแรง!
“เปรี้ยง! แกร๊ก!”
หมัดพุ่งทะลวงอากาศลงมาราวกับขวานขนาดั์ สับลงมาอย่างหนักหน่วงใส่ฝ่ามือพลังิญญาขนาดใหญ่ของวิชาเปิดแผ่นศิลาทองคำที่หม่าิหย่วนปลดปล่อย ฝ่ามือพลังิญญาขนาดใหญ่นั้นสามารถต้านทานได้แค่เพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น ก่อนจะแตกกระจายเป็เสี่ยงๆ!
หมัดกระแทกใส่มือพลังิญญาขนาดใหญ่จนแตกกระจาย พุ่งตรงไปยังร่างสูงใหญ่ของหม่าิหย่วนที่กำลังถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง!
หม่าิหย่วนใ!
รีบกำมือซ้ายเป็กำปั้น ซัดไปยังหมัดที่พุ่งลงมา!
เปรี้ยง! กำปั้นของทั้งคู่ปะทะกัน เกิดลมหมุนกระจัดกระจายออกมาอย่างรุนแรง จนร่างสูงใหญ่ของหม่าิหย่วนร่วงลงมากระแทกอย่างแรง! แกร๊กๆๆ ตัวเขาล่าถอยหลังออกไปถึงสามก้าว เหยียบแผ่นหินแกรนิตสามแผ่นจนแตกเป็เสี่ยงๆ! แขนซ้ายสั่นเล็กน้อย
ยังไม่ทันจะได้ฟื้นจากอาการใ!
ร่างอันงดงามของฉินหรูเยียนก็ร่อนลงพื้นอย่างแรง ก่อนจะก้าวเท้าเรียวงามออกมา แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวพลันปรากฏขึ้นต่อหน้าหม่าิหย่วน กำปั้นที่ดูงดงามซัดออกมาอีกครั้ง!
หมัดที่ดูธรรมดา ไม่ได้ถูกแต่งแต้มหรือมีสีสันใดๆ กลับกลายเป็กำปั้นอันงดงามที่ห่อหุ้มด้วยพลังปราณบริสุทธิ์ผุดผ่อง คมกว่าใบมีดชั้นเลิศไหนๆ
“ฟิ่ว!”
เมื่อหมัดแหวกผ่านสายลม อากาศบนทางเดินขึ้นเขานี้ก็สั่นะเื ส่งเสียงหวีดหวิวเบาๆ ออกมา!
หม่าิหย่วนรับรู้ถึงความรุนแรงของพลังหมัดของอีกฝ่ายเป็อย่างดี หมัดนี้ดูเผินๆ อาจดูไม่รุนแรงเท่าหมัดก่อนหน้า แต่กลับแฝงความเข้มข้นของพลังเอาไว้มากกว่า หม่าิหย่วนเริ่มตะลึงลาน ไม่กล้ารับหมัดนี้ตรงๆ!
เขาไม่สนใจท่าทางที่น่าอับอายของตัวเองอีกต่อไป กลิ้งตัวหลบไปกับพื้น ราวกับลาที่เกลือกกลิ้งโคลนเพื่อหลบหมัดนี้!
“เปรี้ยง!” กำปั้นที่ห่อหุ้มด้วยพลังิญญานี้ก็กระแทกกับหินตรงูเาข้างทาง จนเกิดเป็หลุมขนาดใหญ่เท่าแอ่งกระทะ! หินแตกกระจาย เศษดินเศษทรายร่วงหล่นลงมานับไม่ถ้วน!
ฉินหรูเยียนที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่โลกบำเพ็ญเพียรและยังมีประสบการณ์การต่อสู้ที่ค่อนข้างน้อย ย่อมคาดไม่ถึงว่าผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางจะสามารถหลบหลีกได้ด้วยวิธีนี้!
ในขณะที่หยุดชะงักไปเล็กน้อย อีกฝ่ายที่หลบหลีกอย่างน่าอับอาย “ชิ้ง” ก็ชักดาบที่เปล่งแสงพลังิญญาออกมา!
เป็ดาบที่ยาวสองฉื่อแปดชุ่น ด้านล่างเรียวเล็ก ้ากว้าง ด้ามประดับด้วยหยกสีน้ำเงินสามเม็ด เปล่งประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงแดด!
อาวุธมาตรฐานของศิษย์ชั้นนอกอันเป็ที่นิยมมากที่สุดของสำนักดาบิญญาเมฆา ‘ดาบหยกคราม’ อันเป็อาวุธิญญาระดับล่าง!
เมื่อก้าวเข้าสู่ชั้นผู้ใช้พลังิญญา โดยทั่วไปย่อมไม่ใช้อาวุธที่อยู่ในระดับนักยุทธ์อีกต่อไป แต่จะใช้อาวุธิญญาแทน อาวุธิญญาจะแบ่งออกเป็สี่ระดับ ระดับล่าง ระดับกลาง ระดับสูง และระดับสูงสุด!
เหนือกว่าอาวุธิญญาขึ้นไป ก็จะยังมีอาวุธล้ำลึกและอาวุธพรต เหนือกว่าอาวุธพรตขึ้นไป ว่ากันว่ายังมีอาวุธ์อีก! และทั้งหมดล้วนแบ่งออกเป็สี่ระดับเช่นกัน!
เพียงแต่อาวุธ์ในอาณาจักรซินโยวนี้กลายเป็แค่เพียงเื่เล่าไปแล้ว แม้แต่อาวุธพรตยังมีแค่เพียงสามชิ้นในสำนักดาบิญญาเมฆา และยังเป็สิ่งที่เหล่าบรรพชนทิ้งเอาไว้!
หนึ่งในนั้นคือ ‘ดาบปราบมารเจ็ดดาราฟ้าแดง’ ที่เ้าสำนักสืบทอดต่อๆ กันมา ใน่ที่รุ่งเรืองที่สุด มันคืออาวุธพรตระดับสูงสุด ว่ากันว่าในดาบนี้ได้บรรจุวิชาดาบระดับ์ขั้นล่างไว้สองวิชาด้วย แต่หลังจากผ่านไปหลายพันปี ดาบปราบมารเจ็ดดาราฟ้าแดงที่ผ่านการต่อสู้ในศึกใหญ่มาแล้วหลายครั้ง และได้รับความเสียหายมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน มีเ้าสำนักสามท่านเสียชีวิตในศึกใหญ่ด้วยน้ำมือพวกปีศาจและศัตรูจากภายนอก ไม่เพียงแต่ระดับจะลดลงมา ที่สำคัญที่สุดอย่างวิชาดาบทั้งสองวิชานั้นก็พลอยสูญหายไปด้วย!
ในปัจจุบันอาวุธพรตระดับกลางนี้ เป็เพียงสัญลักษณ์บ่งบอกถึงฐานะเ้าสำนักมากกว่าจะเป็อาวุธใช้ปราบปีศาจ!
ส่วนอีกสองชิ้นยังหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมไม่ได้ ใน่หลายพันปีที่ผ่านมา จึงถูกปิดผนึกเอาไว้ที่ ‘หอสมบัติ’ ในเสี่ยวหลิงเจี้ย!
ทุกวันนี้เหล่าผู้าุโสูงสุดของสำนักดาบิญญาเมฆา รวมถึงเ้าสำนักฉินว่านซาน มักใช้อาวุธล้ำลึกระดับสูงสุดในการต่อสู้กับศัตรูจากภายนอกแทน!
ในฐานะหนึ่งในห้าสำนักใหญ่ของอาณาจักรซินโยว และเป็สำนักดาบิญญาเมฆาที่มีชื่อเสียงด้านดาบ อาวุธิญญาที่ศิษย์ของสำนักนิยมใช้มากที่สุดก็คือดาบิญญาต่างๆ!
ไม่ว่าจะเป็ผู้ใช้พลังิญญา หรือปรมาจารย์ิญญา ต่างก็มีสิทธิ์ใช้แค่อาวุธิญญาเท่านั้น ส่วนอาวุธล้ำลึกนั้น แม้แต่มหาปรมาจารย์ิญญาขั้นต้นมากกว่าครึ่งยังไม่มีใช้เลยด้วยซ้ำไป!
ใช่ว่าสำนักดาบิญญาเมฆาใจแคบแต่อย่างใด แต่เป็เพราะอาวุธล้ำลึกนั้นกินพลังิญญาจำนวนมาก จนทำให้มหาปรมาจารย์ิญญาขั้นต้นไม่สามารถใช้อาวุธล้ำลึกหลายครั้ง!
แทนที่จะใช้แค่หนึ่งหรือสองกระบวนท่าแล้วพลังิญญาในกายหมด สู้เลือกใช้อาวุธิญญาระดับสูงสุดแทนจะเป็การดีกว่า!
ศิษย์สำนักชั้นนอกเกือบเก้าส่วนจะมีพลังอยู่ในระดับผู้ใช้พลังิญญา อีกทั้งดาบหยกครามยังมีรูปร่างที่งดงามและขนาดเล็กเหมาะมือ จึงเป็ที่นิยมของศิษย์ที่มีพลังอยู่ในระดับผู้ใช้พลังิญญา ด้วยเหตุนี้ ดาบเล่มนี้จึงเป็ที่นิยมมากในบรรดาศิษย์สำนักชั้นนอก
อย่าว่าแต่ครึ่งหนึ่งเลย อย่างน้อยหนึ่งในสามของบรรดาศิษย์ต่างก็รู้สึกเป็เกียรติที่ได้อาวุธิญญาระดับล่างชิ้นนี้! ด้วยเหตุนี้ดาบหยกครามจึงกลายเป็เหมือนอุปกรณ์มาตรฐานของศิษย์สำนักชั้นนอก!
ทางด้านฉินหรูเยียนก็รีบถอยหลังออกมา เพื่อหลบเลี่ยงหินทรายที่ร่วงหล่นระนาว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถึงขนาดชักดาบหยกครามที่เป็อาวุธิญญาออกมา ดวงตาอันงดงามทั้งสองข้างฉายแววเฉียบคมทันที ะโเสียงดัง “การต่อสู้กันระหว่างศิษย์ร่วมสำนัก ยังไม่มีการประกาศท้าประลองอย่างเป็ทางการ แต่เ้ากลับใช้อาวุธิญญา รนหาที่ตายชัดๆ!”
“นังหญิงบ้า ใครกันเป็ศิษย์ร่วมสำนักกับเ้า!” แม้ว่าจะกลิ้งตัวหลบหมัดหนักของอีกฝ่ายได้ แต่หินทรายที่ร่วงกราวลงมา หม่าิหย่วนไม่สามารถหลบได้ทั้งหมด ทำให้ชุดสีเงินขาวของเขาเปื้อนเศษดินเศษทรายจนกลายเป็สีเหลืองสกปรก
หม่าิหย่วนแม้จะอยู่ในสภาพสะบักสะบอมอดรนทนไม่ไหว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สวมชุดศิษย์สำนักชั้นนอกและไม่มีเครื่องหมายใดๆ ด้วยแล้ว สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นางไม่ใช่คนในสำนักดาบิญญาเมฆา จึงโกรธจนปากสั่น ไม่หยุดต่อว่า “กล้าดีอย่างไรเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในสำนักดาบิญญาเมฆาของเรา คิดว่าตัวเองเป็ขุนพล์มีสามตาหรืออย่างไร ถึงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ รนหาที่ตายโดยแท้!”
นังหญิงบ้า?
ฉินหรูเยียนที่สวมชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อนพริ้วไสว ผมสีดำยาวสลวยซึ่งมัดรวบไว้ด้านหลังโบกสะบัดราวกับแส้ปัด!
พลังทั่วกายของนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
พลังิญญาจำนวนมหาศาลบนทางเดินขึ้นเขาเกิดการไหลเวียนอย่างรุนแรง!
แสงสีแดงพุ่งขึ้นเหนือศีรษะของฉินหรูเยียน ชั่วขณะต่อมา “แอร๊กๆ” เสียงร้องของหงส์เพลิงดังก้องกังวานไปทั่ว! ตั้งเมื่อไรไม่รู้ที่มีนกตัวน้อยๆ รูปร่างองอาจสง่างามซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงเผยโฉมให้เห็น!
ไม่สิ หากจะพูดให้ถูก มันเป็ลูกเจี๊ยบตัวเล็กๆ ที่ดูสง่างามอย่างยิ่ง กระนั้นลูกเจี๊ยบตัวนี้ก็ดูทรงพลัง ทั้งตัวของมันห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงสว่างไสว!
เมื่อลูกเจี๊ยบตัวเล็กที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงนี้ปรากฏตัวขึ้น พลังอันน่าเกรงขามที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และเป็นิรันดร์ ราวกับแผ่ซ่านไปทั่วทุกหนแห่ง แผ่ขยายไปทั่วพื้นที่ในระยะห้าลี้โดยรอบทางเดินขึ้นเขา โดยมีฉินหรูเยียนเป็จุดศูนย์กลาง บรรดาศิษย์สำนักชั้นนอกต่างก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด แม้แต่จะหายใจยังลำบากนัก!
แม้แต่สัตว์ิญญาต่างๆ ที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสัตว์ิญญาซึ่งอยู่ห่างออกไปถึงหลายสิบลี้ ต่างพากันตื่นกลัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน สัตว์ิญญาพากันวิ่งหนีเตลิดกันไปคนละทิศทาง บ้างก็เอาหัวซุกไว้ใต้ลำตัว สั่นเทาอย่างรุนแรง
ในขณะที่นกิญญาสิบกว่าตัวที่กำลังเดินบนพื้นดินอยู่ข้างนอก ต่างก็พากันเงยหน้าร้องอย่างตื่นเต้นพร้อมกัน แกว๊กๆๆ ชั่วขณะต่อมาก็พากันโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า อีกหลายตัวที่ตอนแรกกำลังหลับตาอยู่ในกรง พลันเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที กระแทกกรงที่ทำมาจากเหล็กิญญาจนเกิดเสียงดัง!
เซียวหลิงอวิ๋นััได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่ส่งมาจากหงส์เพลิงน้อยตัวนั้น สายตาเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย หญิงสาวคนนี้เล่นแรงเกินไปแล้ว ใจคอกะโจมตีครั้งเดียว ะเิร่างคนผู้นั้นให้กลายเป็เศษเนื้อเลยหรือ!
