“เซวียนเซวียน แม่สามีของพวกเราจู้จี้จุกจิกยิ่งนัก หากเ้าให้ของขวัญราคาเบาไป นางต้องหาเื่ตำหนิเ้าแน่” บ้านเดิมของซย่าตงชิงมิได้ร่ำรวย ตอนที่นางแต่งเข้ามาบ้านซย่าจึงโดนกดขี่ไม่น้อย สะใภ้คนโปรดของแม่สามีคือเฉินซื่อ ยิ่งเฉินซื่อพยายามจนให้กำเนิดลูกชายถึงสามคน แม่สามีก็ยิ่งเอาใจเฉินซื่อมากขึ้นไปอีก
“เฮ้อ ข้ามิคิดเลยว่าแม่สามีของพวกเราจะรักและเอ็นดูเป่าจูเช่นนี้ หากปิ่นปักผมอันนั้นคือของข้า ข้าจะให้นางแน่” ภายนอกจิ่นเซวียนอาจจะคล้อยตาม แต่ในใจของนางกำลังยิ้มเยาะ นางมิให้กำไลทองเส้นนั้นกับพวกเฉียวซื่อแล้ว
“พี่ตงชิง ข้าเตรียมปิ่นปักผมที่เพิ่งวางขายที่ร้านเครื่องประดับถงซินมาให้ท่าน พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้สาม พี่สี่และเป่าจูคนละอัน ท่านเลือกแบบที่ชอบก่อนเลยเ้าค่ะ”
จิ่นเซวียนเปิดกล่องเล็กๆ ที่ใส่ปิ่นปักผมเอาไว้แล้วหยิบออกมาให้ซย่าตงชิงเลือก คราแรกซย่าตงชิงคิดว่าปิ่นพวกนั้นจิ่นเซวียนจะนำมาใช้เอง เมื่อบอกให้นางเลือก นางเลยใ
“ข้าชอบปิ่นฝังทับทิมอันนี้ ข้าเอาอันนี้ก็แล้วกัน” ซย่าตงชิงชอบปิ่นฝังทับทิบั้แ่แรกเห็น ที่จริงอัญมณีพวกนี้มิได้ราคาแพง มันเป็เพียงเครื่องประดับเท่านั้น
“จริงสิ กำไลเงินนี้สำหรับหยวนหยวน ส่วนอาฉีกับพี่สอง ข้าคิดว่าจะให้ผ้าพับหนึ่งผืน ท่านจะได้เอาไปทำอาภรณ์ให้พวกเขาเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเอ่ยแล้วหยิบผ้าที่จะให้ออกมา
ซย่าตงชิงตื่นเต้นยิ่งนัก ผ้าพวกนั้นคือผ้าต่วนอย่างดี
เมื่อครู่จิ่นเซวียนบอกว่าให้พวกเขาหนึ่งพับ นางคิดว่าตนเองฟังผิดไป
“เซวียนเซวียน แล้วพวกพี่ใหญ่กับพี่สามเล่า?”
“ผู้ชายในครอบครัวพี่ใหญ่เป็ผ้าหนึ่งพับ ส่วนพี่สะใภ้ใหญ่ให้ปิ่นปักผมหนึ่งอัน ครอบครัวของพี่สามและพี่สะใภ้สามก็ให้เหมือนกันเ้าค่ะ”
จิ่นเซวียนจัดเรียงของขวัญที่จะให้ออกมา
“เซวียนเซวียน ข้าเอาผ้าสีขาวได้หรือไม่?” ซย่าตงชิงอยากได้สีขาว นางจะได้ทำชุดให้ตนเองด้วย
“ได้เ้าค่ะ” จิ่นเซวียนมิสนใจคนพวกนั้น นางตามใจซย่าตงชิง
“เซวียนเซวียน ของขวัญพ่อสามีกับแม่สามีคือผ้าต่วนลายพับนั้นหรือ?” ซย่าตงชิงมิใช่คนโง่ ทั้งๆ ที่กำไลทองเส้นนั้นถูกวางรวมกับของขวัญของพวกเขา แต่เวลานี้จิ่นเซวียนกลับเอาไปวางไว้ในกล่องเงินสินสมรส เห็นได้ชัดว่านางมิอยากให้เฉียวซื่อ
“เ้าค่ะ ผ้าพับนี้ใช้ได้ทั้งชายและหญิง เหมาะสำหรับทำเสื้อผ้าของท่านพ่อท่านแม่เ้าค่ะ” จิ่นเซวียนตอบรับ และให้ซย่าตงชิงช่วยนางยกของขวัญออกไปวางบนโต๊ะหินนอกเรือน
ส่วนเงินสินสมรสกับกำไลทอง นางจะเอาไปเก็บไว้ที่เรือนหอของพวกเขา
“ภรรยา เ้าจะให้ของพวกนี้ทั้งหมดเลยหรือ?” ขณะที่จิ่นเซวียนถือกล่องเล็กๆ เดินเข้ามา ซ่งจื่อเฉินก็ยังรอนางอยู่ข้างใน มิได้ออกจากเรือนไปก่อน
“ใช่แล้ว สามี พวกเราเข้าห้องกันก่อนเถิด” จิ่นเซวียนบอกให้ซ่งจื่อเฉินเข้าห้องมากับนาง
หลังเข้าห้องมาแล้ว นางเปิดกล่องเล็กๆ นำเงินสินสมรสออกมาแล้วส่งให้ซ่งจื่อเฉิน “สามี นี่คือเงินของพวกเรา ท่านเก็บไว้เถิด จะได้เอาไปซื้อยาในคราต่อไป”
“ของของเ้า เ้าควรเก็บไว้เอง” จิ่นเซวียนมอบเงินให้ซ่งจื่อเฉิน เขาประทับใจในตัวนางยิ่งนัก ตัวเขามีดีอย่างไร นางถึงดีกับเขาถึงเพียงนี้
“สามี ข้ากลัวเก็บไว้แล้วท่านแม่จะมายึดไป ท่านเก็บเอาไว้ย่อมปลอดภัยกว่า” ใบหน้างดงามของจิ่นเซวียนแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มบาง ซ่งจื่อเฉินมองดูอย่างเหม่อลอย ยิ่งใกล้ชิดนางมากเท่าใด ใจของเขาก็ยิ่งเต้นเร็วขึ้นเท่านั้น
“สามีไร้ประโยชน์ เ้าเลยมิได้รับความเป็ธรรรม” จู่ๆ ซ่งจื่อเฉินก็คิดว่าตนเองมิเหมาะสมกับจิ่นเซวียน นางดีถึงเพียงนี้แต่เขากลับเป็คนพิการ
“สามี ข้ามิลำบากใจเลยสักนิด ข้ายินดีแต่งกับท่านเอง เมื่อครู่มีบางคำมิควรพูดต่อหน้าท่านแม่ แต่ข้ามั่นใจว่าจะรักษาขาท่านได้ภายในสามเดือน”
จิ่นเซวียนวางถุงเงินลงบนโต๊ะ นางนั่งยองข้างกายของซ่งจื่อเฉินและจับมือเขาเอาไว้อย่างอ่อนโยน
นางยอมรับว่านางเห็นแก่ตัวที่เอาซ่งจื่อเฉินมาเป็ตัวแทนของพี่จื่อเฟิง แต่นางเชื่อว่านี่คือโชคชะตา ชาติก่อนนางมิอาจอยู่กับพี่จื่อเฟิงได้ ชาตินี้์เห็นใจพานางมาพบกับซ่งจื่อเฉิน
“หมอที่มีชื่อเสียงหลายท่านบอกว่าข้าหมดหนทางรักษาแล้ว ภรรยา เ้าอย่าให้ข้าดีใจเก้อเลย” ั์ตาดำขลับงดงามของซ่งจื่อเฉินฉายแววเศร้าสร้อย ขาของเขาไม่ดีขึ้นมาหลายปีจนเขาชินเสียแล้ว
“จริงสิ ข้ามิโกหกท่าน หนึ่งปีก่อนข้าพบท่านอาจารย์ที่เก่งกาจท่านหนึ่ง เขามิเพียงสอนวรยุทธ์ให้กับข้า เขายังสอนความรู้วิชาแพทย์หลายแขนงให้ข้าด้วย ข้าจะใช้ทุกสิ่งที่เรียนมาช่วยรักษาขาให้ท่านเอง” จิ่นเซวียนเห็นใจซ่งจื่อเฉินยิ่งนัก เขานั่งรถเข็นมาตลอดทั้งปี ใช้ชีวิตยากลำบาก ยิ่งไปกว่านั้นคือคนบ้านซ่งมิได้เต็มใจดูแลเขาเลย ในใจของเขาคงทุกข์ทรมานยิ่งนัก
ซ่งจื่อเฉินมองจิ่นเซวียนด้วยความสงสัย ท่านพ่อเคยบอกว่าภรรยาตัวน้อยของเขาคือดาวนำโชค หรือนางจะรักษาขาทั้งสองข้างของเขาได้จริงๆ?
“เซวียนเซวียน ข้าเรียงกำไลกับปิ่นปักผมลงบนถาดแดงแล้ว เ้ากับจื่อเฉินรีบออกมาเถิด พวกเราจะได้ไปโถงหลักด้วยกัน” ซย่าตงชิงจัดของขวัญรออยู่ที่ลานบ้านเรียบร้อยแล้ว นางจึงะโเรียกจิ่นเซวียนอยู่หน้าประตู
จิ่นเซวียนตอบรับ และขอให้ซย่าตงชิงช่วยย้ายของไปที่โถงหลักก่อน นางจะตามไปภายหลัง
“สามี เงินอั่งเปาที่ข้านำมาจากบ้านยังเหลืออยู่หกพันสองร้อยกับหกอีแปะ ข้าว่าจะแลกเป็เหรียญทองแดงหลายร้อยเหรียญ แจกให้ทุกคนที่มาช่วยงาน คนละสองร้อยหกสิบแปดอีแปะ” จิ่นเซวียนนับเงินแล้วปรึกษากับซ่งจื่อเฉินเื่แจกเงินอั่งเปา
“ข้ามีเศษเหรียญอยู่ ข้าจะไปเอามารวมกับของเ้า” ซ่งจื่อเฉินเลื่อนรถเข็นไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเหรียญทองแดงหกร้อยแปดสิบสี่เหรียญส่งให้จิ่นเซวียน จิ่นเซวียนนำพวกมันใส่รวมกันเข้าไปในถุงเงินเล็ก
จากนั้น เขาก็เอาเงินสินสมรสที่จิ่นเซวียนให้ เก็บซ่อนไว้ที่ช่องตรงหัวเตียง
ซ่งจื่อเฉินอยากมีชีวิตที่ดีกับจิ่นเซวียน เขาลองคิดจากมุมมองของนาง และเอ่ยกับกับจิ่นเซวียนหลังเงียบไปครู่หนึ่ง “ภรรยา อันที่จริงเ้ามิจำเป็ต้องให้ของขวัญราคาแพงเช่นนั้นกับพวกเขาเลย อย่างไรเสียพวกเขาก็มิซาบซึ้งใจอยู่ดี”
“สามี ข้ามิได้ทำเช่นนี้เพื่อตนเอง ข้ามิอยากให้พวกเขาดูถูกพวกเรา” ใจของจิ่นเซวียนอุ่นวาบ เมื่อซ่งจื่อเฉินคิดเผื่อนาง นางชอบชีวิตในชนบทเช่นนี้นัก
“มีข้าอยู่ ข้ามิยอมให้ผู้ใดมารังแกเ้าแน่” ซ่งจื่อเฉินจับมือจิ่นเซวียนก่อนให้คำมั่นสัญญา
“สามีพูดเช่นนี้ ข้าก็พอใจแล้ว” ใบหน้าของจิ่นเซวียนแดงปลั่ง นางมิคิดว่าซ่งจื่อเฉินจะจับมือนาง
โถงหลัก!
ทุกคนใ เมื่อเห็นซย่าตงชิงถือของขวัญเข้ามา จิ่นเซวียนนำสินสมรสพวกนี้มามอบให้บ้านสามี สะใภ้คนใหม่ช่างใจกว้างยิ่งนัก เป็แม่นางน้อยที่คาดเดามิได้เลยจริงๆ
“ท่านแม่ พี่สะใภ้ห้ามิได้มีกำไลทองสองเส้นหรือเ้าคะ?นางสวมเส้นหนึ่ง ก็ควรเอาอีกเส้นมอบให้ท่าน เพื่อแสดงความเคารพ!” ซ่งเป่าจูที่อยู่ด้านข้างเอาปิ่นปักผมทองไปมิสำเร็จ นางจึงเริ่มจ้องกำไลทองแทน
“หากข้าเดามิผิด ของขวัญของข้ากับท่านพ่อของเ้าคงเป็ผ้าต่วนลายผืนนั้น”
เฉียวซื่อเสียใจเล็กน้อยที่ไปล่วงเกินจิ่นเซวียน นางสงสัยว่าจิ่นเซวียนมิให้ซย่าตงชิงยกกำไลทองออกมาก็เพื่อยั่วโมโหนาง
“น้องห้าและน้องสะใภ้ห้ามาแล้ว” เฉินซื่อที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเฉียวซื่อรีบเดินไปช่วยทันทีที่เห็นจิ่นเซวียนเข็นซ่งจื่อเฉินเข้ามาในโถงหลัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้