แววตาของฟางเหอกระวนกระวาย ส่ายหัวไปมาอย่างไร้สติ นางขยับตัวรุดถอยไปไม่หยุด "ไม่...ไม่ใช่ข้า ข้าไม่ได้ยินดีทำ..."
นางรู้ แม้ฮองเฮาจะไม่สิ้นพระชนม์ ถึงกระนั้นนางเองก็รู้ดีว่าตนเป็ผู้ที่ปิดประตูสวนร้อยสัตว์ อย่างไรก็ยังคงมีความผิดและไร้ซึ่งหนทางออก ทว่า...
“มิใช่เ้ายินดีทำ? เช่นนั้นเป็ไปได้หรือไม่ว่ามีใครบางคนบังคับเ้า?” เหนียนยวี่ผุดลุกขึ้นทันที ย่างเท้าไปใกล้ฟางเหอ
“อา...” ฟางเหอใ ั์ตาสูญสิ้นซึ่งสติสัมปชัญญะ มีใครบังคับนางหรือ จริงด้วย มีคนบังคับนาง เมื่อนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เสริมกับการก้าวเข้ามาใกล้ของเหนียนยวี่ ยิ่งทำให้ความกลัวของนางแตกกระเจิงอย่างสมบูรณ์ “เ้าอย่าเข้ามา...ใช่ เป็คุณหนู...คุณหนูบังคับให้ข้าทำ...เป็นาง ไม่ใช่ข้า...”
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว เหนียนอีหลาน แท้จริงแล้วเป็นางหรอกหรือ
“ท่านพี่หรือ? หืม เ้าคิดว่าจะให้ข้าเชื่อคำพูดของเ้าหรือ ท่านพี่ดีต่อข้าปานนั้น เหตุใดจึงต้องขังข้าไว้ในสวนร้อยสัตว์ด้วย” เหนียนยวี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ยืนตระหง่านเบื้องหน้าฟางเหอ ก้มลงมองคนตรงหน้าที่ถูกขู่ขวัญจนหวาดกลัวเกินต้านไหวด้วยสายตาเย็นเยียบ
ดวงตาฟางเหอลุกวาว “ไม่ นางไม่ได้ดีกับท่าน คุณหนูนาง...นางไม่เคยจริงใจกับท่านเลยแม้แต่ครั้งเดียว นางแค่อยากให้คนคิดว่านางเป็คนที่จิตใจดีมีเมตตา นางจึงแกล้งทำดีกับท่าน แท้จริงแล้วนางเกลียดท่าน ริษยาท่าน อีกอย่างนางชื่นชอบท่านอ๋องมู่มานานแล้ว ทว่าท่าน...ท่านกลับเป็ผู้ที่ท่านอ๋องมู่โปรดปราน ในสายตานาง ท่านเป็ดั่งเสี้ยนหนามขวางทางนาง เพราะเช่นนั้นนางจึงเกลียดท่านจนอยากให้ท่านตาย ด้วยเหตุนี้ นางจึงลวงท่านมาที่สวนร้อยสัตว์...”
เหนียนยวี่หรี่ตาลง คืนนั้นข้อความที่ฝากให้ขันทีมาบอกนาง เป็เหนียนอีหลาน
เหนียนอีหลาน!
สวนร้อยสัตว์ ตำหนักชีอู๋ รอสาวงาม...หึ!
นางคิดจะทำอะไรกันแน่ ลวงให้นางมาที่สวนร้อยสัตว์ แล้วปล่อยไปตามยถากรรมงั้นหรือ?
หากคืนนั้น ฮองเฮาอวี่เหวินไม่ได้เข้าไป และนางที่ถูกเหนียนอีหลานลวงเข้าไปในสวนร้อยสัตว์ เกรงว่า คงไม่มีผู้ใดรู้ว่านางหายไปแน่!
ไม่เพียงแค่นั้น...หากเป็นางในชาติก่อนที่ยังเป็เพียงบุตรีอนุ การติดอยู่ในสวนร้อยสัตว์ คงมีเพียงจุดจบเดียวเท่านั้น!
นั่นคือความตาย!
ในดวงตาของเหนียนยวี่ฉายแววเย็นเยียบ พี่สาวของนางผู้นี้ แท้จริงกลับนั่งไม่ติดที่เสียแล้ว!
ลงมือวางแผนร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มจากพูดใส่ร้ายจนถึงขั้นสังหารนาง ไร้ซึ่งความเมตตาสงสาร นี่คงเป็นิสัยเดิมที่นางแอบซ่อนมายาวนานกระมัง
ครู่หนึ่ง เหนียนยวี่ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ “ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านพี่ที่จิตใจดีมีเมตตาคนนั้น ท้ายที่สุดแล้วคิดอยากจะสังหารข้า เ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไรดี?”
ควรทำอย่างไรงั้นหรือ
ฟางเหอชะงักงัน เพียงครู่หนึ่งรีบเอ่ยตอบเหนียนยวี่ พลางรุดขยับถอยหลังอยู่ตลอดอย่างเตรียมรับมือ
“คุณหนูรอง หากท่านอยากแก้แค้น เช่นนั้นท่านควรไปหาคุณหนูใหญ่นะเ้าคะ ไม่ใช่มาหาข้า เป็นางที่ลวงให้ท่านเข้าไปในสวนร้อยสัตว์ อีกอย่างนางยังฉวยโอกาสปิดประตูหลังจากที่ท่านตามฮองเฮาเข้าไปในสวนร้อยสัตว์อีกด้วยเ้าค่ะ บ่าว...บ่าวแค่ทำตามคำสั่งของคุณหนูเท่านั้นเ้าค่ะ จึงจำใจต้อง...” ฟางเหอพึมพำออกมาไม่ขาดสาย ร่างของเหนียนยวี่ตรงหน้ามีกลิ่นอายประหลาดที่ทำให้คนที่จ้องมองรู้สึกสั่นเทากลัวเกรงอย่างบรรยายไม่ถูก
“แก้แค้น?” เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว ราวกับมีความคิดหนึ่งถูกปลุกขึ้น พลันผุดรอยยิ้มบนใบหน้า “ใช่ ข้าควรแก้แค้น เช่นนั้นเ้าว่าทำอย่างไรดี”
นางหรือ?
ความกลัวในจิตใจของฟางเหอเติบโตยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดวงตาลุกวาว “คุณหนูรองได้โปรดปล่อยบ่าวไปเถิดเ้าค่ะ บ่าวเป็ผู้บริสุทธิ์ คุณหนูรอง ท่าน...”
“บริสุทธิ์หรือ สุนัขรับใช้ของเหนียนอีหลานเช่นเ้า ยามใดที่บริสุทธิ์บ้าง" น้ำเสียงเหนียนยวี่สูงขึ้นทันที สิบปีมานี้ ั้แ่นางจำความได้ ทุกผู้ทุกคนในจวนเหนียนต่างพากันกลั่นแกล้งรังแกนาง ส่วนเหนียนอีหลานบ้างเสแสร้งแกล้งทำเป็ดีกับนาง บ้างกลับปล่อยให้ฟางเหอผู้นี้รังแกนาง บริสุทธิ์หรือ?
การกระทำของนางตรงกับคำว่า "บริสุทธิ์" คำนี้ตรงไหนกัน
อีกอย่าง ยามนี้ฟางเหอได้เจอหน้านางแล้ว หากว่าได้สติกลับมา จะไปรายงานเหนียนอีหลานว่าอย่างไร เช่นนั้น...
เมื่อนึกถึงแผนการของตนเอง สีหน้าของเหนียนยวี่พลันเข้มขึ้นมาเล็กน้อย
เสียงตวาดดังลั่นของเหนียนยวี่ ยิ่งทำให้ฟางเหอใ นางหวาดกลัวจนสีหน้าซีดเผือด
“เ้าคิดหรือไม่ว่า หากคุณหนูของเ้ารู้ว่าเ้าเอาเื่คืนนั้นมาเล่าให้ข้าฟัง แล้วยังบอกว่านางหลอกลวงเสแสร้ง นางจะจัดการกับเ้าอย่างไร” เสียงทุ้มต่ำของเหนียนยวี่ดังขึ้นอีกครา
ฟางเหอสั่นกลัวไปทั้งตัว เมื่อนึกถึงคำพูดโหดร้ายที่คุณหนูเคยพูดออกมาในคืนนั้น ยิ่งมิอาจควบคุมความหวาดกลัวในใจไว้ได้
“ไม่...” ฟางเหอส่ายหัวไม่หยุด ทุกคนต่างคิดว่าคุณหนูเป็คนอ่อนโยนน่ารัก งดงามเพียบพร้อม จิตใจดีมีเมตตา ทว่านางอยู่ข้างกายคุณหนูมาหลายปี จึงรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็เื่หลอกลวง
แท้จริงแล้วคุณหนูนั้นสามารถลงมือฆ่าคุณหนูรองได้ แล้วยังสามารถลงมือฆ่านางได้เช่นกัน!
เพราะว่านางรู้เื่ของคุณหนูมากเกินไป
“ได้โปรด...อย่าบอกคุณหนูนะเ้าคะ…” ฟางเหอคุกเข่าลงตรงหน้าเหนียนยวี่ ท้ายที่สุดแล้วยังมิอาจแยกออกว่านางเป็คนหรือเป็ผี
ไม่บอกเหนียนอีหลาน?
เหนียนยวี่แย้มยิ้มบาง “ได้...เช่นนั้นพวกเรามาดวลกันสักตา หากเ้าชนะ ข้าจะไม่บอกนาง เป็อย่างไร?”
ดวลอะไรกัน?
“ตกลง ข้าจะเล่น” ฟางเหอพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ความกระตือรือร้นนั้นอยู่ในสายตาของเหนียนยวี่ ทว่ามุมปากนางกลับยกยิ้มดูถูก "เ้าไม่อยากรู้หรือว่ามันเล่นอย่างไร เหตุใดรีบตอบเช่นนี้ มันอาจจะน่ากลัวก็ได้นะ”
“ตราบใดที่คุณหนูรองรับปากเื่เมื่อครู่นี้ ฟางเหอ...ฟางเหอก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นเ้าค่ะ” ฟางเหอพยายามยืนหยัด ดวงตาฉายแววแน่วแน่ ปากบอกไม่กลัว ทว่าในใจกลับไร้ซึ่งความมั่นใจ
“ดี ในเมื่อเป็เช่นนี้ พวกเรามาเริ่มกันเถิด” เสียงพึงพอใจของเหนียนยวี่ ดังก้องไปทั่ววัดร้าง แลดูแปลกประหลาด
เอ่ยจบ ไม่รู้ั้แ่เมื่อไหร่ที่เหนียนยวี่มีกริชอยู่ในมือ ใบมีดของกริชคมวาว ส่องประกายเย็นเยียบภายใต้แสงเทียนรำไร
ฟางเหอใ รู้สึกหวาดกลัวจนตาเบิกกว้าง
นางจะทำอะไร?
ก่อนที่นางจะได้เอ่ยปากถาม มือข้างหนึ่งของเหนียนยวี่ยกกริชขึ้นมา เพียงชั่ววินาที ความเ็ปรุนแรงพลันประเดประดังเข้ามาที่เท้านาง
“อ๊า...” ท่ามกลางราตรีอันเงียบสงัด ฟางเหอเ็ปจนแทบขาดใจ ดึงเท้าซ้ายหลบอย่างไม่รู้ต้ว "เ้า..."
เพิ่งเอ่ยออกมาได้คำเดียว คมกริชเล่มนั้นพุ่งตรงออกมาอีกครา
“อ๊าก...”
เ็ปลึกถึงกระดูกดำ แผ่กระจายจากข้อเท้าไปทั่วร่างกาย เืสดหลั่งไหลออกจากข้อเท้า เจิ่งนองทั่วพื้น
“ไหนลองดูสิว่ายังขยับไหวอยู่หรือไม่” เหนียนยวี่นั่งยองๆ ข้างฟางเหอ ดึงเสื้อของนางมาเช็ดเืบนคมกริช ไม่ปิดบังความรังเกียจเดียดฉันท์ในดวงตา
“เ้า...” ฟางเหอไหนเลยจะขยับไหว ขยับแค่เพียงเล็กน้อย ความเ็ปรุนแรงนั้นพลันประเดประดังเข้ามา ราวกับจะหมายพรากเอาชีวิตนาง
ฟางเหอตระหนักได้ถึงปัญหาข้อหนึ่งอย่างสุดซึ้ง เหนียนยวี่นางตัดเอ็นร้อยหวายนาง!
ไม่เพียงแค่นั้น...
ฟางเหอถลึงตาจ้องมองสตรีเบื้องหน้าอย่างดุร้าย “เ้า...ยังไม่ตาย!”
เหนียนยวี่เก็บกริชอย่างดี พลางปรายตามองฟางเหอ ยิ้มเยาะและหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เ้าคิดว่าอย่างไรเล่า? เป็เ้าที่คิดไปเองว่าข้าเป็ผี ตายงั้นหรือ ต่อให้เ้าตาย ข้าก็ไม่มีทางตายแน่!”
นางผู้ซึ่งเคยผ่านความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง จะปล่อยให้ตัวเองตายง่ายๆ อีกครั้งได้อย่างไรกัน
ฟางเหอตัวแข็งทื่อ ยังไม่ตายหรือ เป็ไปได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่านางปิดประตูสวนร้อยสัตว์นั่นด้วยตัวเอง เหตุใดเหนียนยวี่ถึงได้...
คำถามมากมายนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในใจ ทว่ายามนี้ นางมิอาจตรวจสอบได้ทัน รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเหนียนยวี่ที่รดริน ความหวาดกลัวในใจผนวกกับความเ็ปทรมานบนร่างกายที่เคี่ยวกรำนาง แทบจะทำให้นางรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก "เ้า...แท้จริงแล้ว้าทำอะไรกันแน่?"