เมื่อประตูถูกล็อก
ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ซูอินรู้ดีว่าพวกเขาจงใจ
อย่างไรเสีย…นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมอู๋อู๋ถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนัก และเพราะอะไรถึงหาเหตุผลต่างๆ มากมายมารั้งเธอไว้ แน่นอนว่าในชาติก่อนเธอเต็มใจที่จะอยู่กับตระกูลหลิงต่อเอง แต่ในชาตินี้เธอพูดอย่างชัดเจนขนาดนั้นแล้ว อู๋อู๋ก็ยังคงดึงดัน
ความสงสัยพลันผุดขึ้นในใจ เธอเงยหน้า มองบรรยากาศที่มืดสนิทโดยรอบ คืนนี้พี่หงไม่อยู่ที่ร้านเหมือนเคย ทำให้เธอต้องเก็บข้าวของคนเดียวจึงค่อนข้างล่าช้า เวลาล่วงเลยมาจนตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว
หากกลับมาเร็วกว่านี้ เธอคงสามารถไปบ้านเพื่อนสักคนเพื่อขอค้างสักคืน หรืออาจมีวิธีอื่น แต่เวลาล่วงมาจนดึกดื่น พรุ่งนี้ก็ต้องเข้าทำข้อสอบจำลอง เธอจำเป็ต้องพักผ่อน
“เปิดประตู!”
เมื่อใคร่ครวญแล้ว เธอจึงเดินไปหน้าประตูก่อนจะออกแรงผลัก
วันนี้ที่บริษัทของหลิงจื้อเฉิงเกิดเื่ใหญ่ เขาจึงไม่กลับบ้าน เหลือเพียงอู๋อู๋และหลิงเมิ่งสองแม่ลูก
ห้องนอนหลักของอู๋อู๋อยู่ฝั่งรับแดด ตอนที่ตกแต่งได้ใช้กระจกกันเสียงรบกวนคุณภาพสูง เสียงเคาะประตูที่ดังอยู่พักใหญ่จึงไม่สามารถผ่านเข้าไปให้เธอได้ยิน
ห้องของหลิงเมิ่งซึ่งเดิมเป็ห้องนอนสำหรับแขกอยู่ฝั่งที่ไม่โดนแดด โดยกำแพงห้องอยู่ฝั่งเดียวกับประตูหน้า เมื่อซูอินกลับมาและไขกุญแจ เธอจึงรับรู้การเคลื่อนไหว
เธอแอบอยู่หลังหน้าต่าง แง้มดูผ่านช่องเล็กๆ เมื่อเห็นซูอินยังคงง่วนอยู่กับการไขกุญแจโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ความคิดนี้เธอเป็คนเสนอเอง
คราวก่อนที่มอบบุหรี่หอนกกระเรียนเหลืองไปให้สองซอง แต่เธอกลับไม่สามารถเยาะเย้ยซูอิน หลังจากที่พยายาม “วางแผนให้ร้าย” เธออีกครั้ง ในใจของหลิงเมิ่งก็ยิ่งทวีความแค้น
หลังเลิกเรียนกลับมา เธอเห็นมารดานั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เมื่อสอบถามก็ได้ฟังมารดาเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ที่แท้ที่คุณแม่ยืนกรานรับเลี้ยงซูอินต่อ หรือต่อให้รับเธอเป็บุตรบุญธรรมต่อไม่ได้ ก็จะยังคงมุ่งมั่นให้เธออยู่ที่ตระกูลหลิง มันไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ “ตัดไม่ขาดของแม่ลูกที่ผูกพันกันมาสิบหกปีอย่างแน่นอน” แต่สาเหตุเป็เพราะซูอินได้ช่วยเด็กที่มีฐานะไม่ธรรมดาคนหนึ่งไว้ต่างหาก
หลิงเมิ่งกลับมาอยู่ที่บ้านได้หนึ่งสัปดาห์ สิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดคือความสัมพันธ์ของพ่อแม่กับซูอินที่รู้จักกันมายาวนานสิบหกปีอาจทำให้เกิดความอาลัยอาวรณ์ แม้ว่าพ่อกับแม่จะปฏิบัติต่อเธอเป็อย่างดี และปฏิบัติต่อซูอินด้วยท่าทีเ็า แต่วันแรกที่มาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิง ผู้เป็มารดาได้แสดงท่าทีรักใคร่ออกมาอย่างชัดเจน จะไม่ให้เธอแค้นเคืองได้อย่างไร
บัดนี้เมื่อได้รู้เหตุผลชัดเจน เธอก็โล่งใจได้เสียที
อีกทั้ง….เื่นี้ยืนยันได้ว่า สถานะของเด็กที่ถูกช่วยเหลือเป็เพียงเื่เข้าใจผิด หรืออาจพูดได้ว่าในตอนนี้ซูอินไม่มีประโยชน์แล้ว
แล้วยังจะ้าเธออีกทำไม
จะสิ้นเปลืองให้อาหารและเสื้อผ้าเธอทำไม ตระกูลหลิงของพวกเขาไม่ใช่หน่วยงานมอบสวัสดิการเสียหน่อย
หลิงเมิ่งกลอกตาก่อนจะเสนอความเห็นนี้แก่อู๋อู๋
สองแม่ลูกเข้ากันเป็ปี่เป็ขลุ่ย หลังจากที่หลิงจื้อเฉิงโทรศัพท์มายืนยันว่าคืนนี้จะไม่กลับ และให้แม่บ้านออกไปแล้ว เธอก็ล็อกประตูใหญ่ของคฤหาสน์
ก่อนที่ซูอินจะกลับมาในตอนนี้
“เปิดประตู! เปิดประตู!”
เสียงทุบประตูดังขึ้นเรื่อยๆ เธอมองลงไป เกรงว่าหากเป็เช่นนี้จะรบกวนเพื่อนบ้านเอาได้ หลิงเมิ่งจึงโผล่หน้าออกไปทางหน้าต่าง น้ำเสียงของเธอแสดงออกว่าง่วงเล็กน้อยเพราะถูกปลุกขึ้นมากลางดึก
“ดึกขนาดนี้แล้ว ใครกันเนี่ย”
“ฉันเอง ช่วยเปิดประตูให้หน่อย”
“ซูอิน ทำไมเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้ พวกเราหลับกันหมดแล้ว”
หลับอะไรกัน! ซูอินมองแขนเสื้อที่ยื่นออกมาของหลิงเมิ่งก็เห็นว่ามันไม่ใช่ชุดนอน แต่เป็ชุดลำลองที่สวมในชีวิตประจำวันต่างหาก
คงเพราะรีบกลับขึ้นห้องไปนอน เธอจึงี้เีเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ฉันมีธุระนิดหน่อยก็เลยกลับดึก รบกวนเธอลงมาที่ชั้นหนึ่งและเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้ไหม”
“อ้อ รอแป๊บหนึ่งนะ…”
ผ่านไปไม่นาน หลังจากที่หดศีรษะเข้าไปเธอก็โผล่ออกมาอีกครั้ง “อุ๊ย ฉันท้องเสีย พี่รอฉันแป๊บหนึ่งนะ หยุดทุบประตูได้แล้ว คุณแม่หลับอยู่ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน อย่ารบกวนคุณแม่เลย ให้เธอพักผ่อนเถอะ”
“ตกลง เธอรีบหน่อยก็แล้วกัน”
เมื่อได้รับคำตอบจากซูอิน หลิงเมิ่งจึงปิดประตู แล้วปาร์ตี้เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ถูกจัดขึ้นในห้องนอนของเธอทันที
นี่คือสิ่งที่เธอทำก่อนที่ซูอินจะกลับมา เมื่อกลับมาอยู่ที่ตระกูลหลิงได้หนึ่งสัปดาห์ เธอก็ไม่ได้ทำเื่อื่นเลย มีเสื้อผ้าใหม่ๆ มากมายที่ซื้อมา โดยเฉพาะตอนที่เพิ่งกลับมาจากออกไปเที่ยวข้างนอกวันนั้น เธอกับแม่ได้ซื้อเสื้อผ้ามามากมาย แค่ถูกใจตัวไหนก็ซื้อเลย ทว่าเมื่อกลับมาถึงก็ดึกมากแล้ว เธอจึงไม่มีเวลาหยิบเสื้อผ้าเหล่านี้ออกมาลองใส่
เตียงเ้าหญิงสีชมพู โซฟา Hello Kitty และพื้นสีขาวขุ่น เกลื่อนไปด้วยเสื้อผ้าหลากหลาย หลิงเมิ่งหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาทาบอยู่หน้ากระจกทีละชุด และคิดว่าไม่ว่าชุดไหนก็สวยไปเสียหมด
แต่ซูอินที่รออยู่ด้านล่างไม่ใช่คนโง่ เธอเดินสำรวจรอบบ้านมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ และไม่นานก็พบว่าหน้าต่างห้องครัวเปิดแง้มไว้อยู่ครึ่งหนึ่ง
คฤหาสน์ตระกูลหลิงตั้งอยู่ในเขตที่มีการรักษาความปลอดภัยสูง หากคนนอก้าเข้าออกจำเป็ต้องให้เ้าของบ้านเป็ผู้นำด้วยตนเอง ภายใต้การคุ้มกันที่แ่า ทำให้มีเพียงไม่กี่ครัวเรือนที่ติดตั้งหน้าต่างกันขโมย
ถึงแม้จะหาทางเข้าได้แล้ว ทว่าตัวคฤหาสน์ถูกยกสูง ทำให้หน้าต่างห้องครัวอยู่ห่างจากพื้นเกือบหนึ่งเมตรครึ่ง
หากเป็ร่างกายที่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน ซูอินคงจะปีนขึ้นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว หลังจากทำงานมาหนึ่งสัปดาห์ ร่างกายของเธอแข็งแรงขึ้น เธอเหยียบพื้นกระเบื้องที่ยื่นออกมาจากตัวคฤหาสน์ ก่อนจะคว้ากำแพงที่ขรุขระด้านนอก หลังจากพยายามหลายครั้งก็สามารถไปถึงขอบหน้าต่าง
ออกแรงมือและเท้าร่วมกัน ในที่สุดเธอก็สามารถปีนขึ้นมาที่หน้าต่าง เธอผลักบานหน้าต่างออกไปด้านข้าง แล้วเข้าไปยืนในตัวบ้านได้สำเร็จ
ตอนปีนขึ้นไปค่อนข้างยาก แต่ตอนลงกลับง่ายมาก
เธอเหยียบอ่างล้างจานที่อยู่ติดหน้าต่าง ซึ่งติดตั้งแบบบิวต์อินในห้องครัว มีตู้สองชั้นซึ่งช่วยให้เธอะโลงได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นเธอจึงกลับไปที่ห้องนอนของตนเอง ในตอนแรกตั้งใจว่าจะเข้าไปนอน แต่เมื่อได้ยินเสียงะโโลดเต้นจากชั้นบนก็ทำให้เธอไม่สามารถสงบจิตใจ
คิ้วขมวดเข้าหากัน ในวินาทีต่อมาดวงตาสีดำและขาวกลมโตของซูอินที่แบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจนก็ฉายแววเ้าเล่ห์
เธอถอดรองเท้าและเดินเท้าเปล่าขึ้นไปชั้นบน หยุดที่หน้าประตูห้องนอนของหลิงเมิ่ง ก่อนจะเคาะประตูเบาๆ
“ใครน่ะ”
หลิงเมิ่งที่กำลังลองเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างมีความสุข ในมือถือกระโปรงตัวหนึ่งก่อนจะเดินไปหน้าประตู เธอเปิดมันก่อนจะยื่นศีรษะออกไป แต่กลับไม่เห็นใครสักคน
“หรือว่าฉันจะหูฝาด”
เสียงนั้นหายไปทางหลังประตู ซูอินกลั้นหายใจ ซ่อนตัวอยู่ในความมืด เธอนับหนึ่งถึงร้อยก่อนจะเคาะประตูอีกครั้ง
เธอทำอย่างนั้นอยู่สามครั้ง ในตอนแรกหลิงเมิ่งคิดว่าตนเองแค่หูฝาด แต่พอครั้งที่สองก็หันซ้ายหันขวา ครั้งที่สามเธอใจนไม่กล้าออกมาจากห้อง
“มีผี…”
ตอนเด็กๆ หลิงเมิ่งอยู่ที่หมู่บ้านตงผิง ได้ยินคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านเล่าเื่ผีมาไม่น้อย ซึ่งสิ่งที่เจอบ่อยที่สุดคือผีจะมาเคาะประตูสามครั้งตอนกลางดึก
เธอกอดเสื้อผ้าซ่อนตัวอยู่บนเตียง ไม่กล้าขยับ มองกระโปรงไม้แกะสลักสไตล์ยุโรปสีขาวนวล แววตาฉายความหวาดกลัว
แต่ซูอินที่แอบอยู่ในมุมมืดหลังจากเคาะประตูสามครั้งแล้วก็เดินลงมายังชั้นล่าง อาบน้ำ ชำระร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อ จากนั้นก็นอนลงบนเตียงและเข้าสู่ห้วงนิทรา
พรุ่งนี้ยังมีสิ่งที่เธอต้องสะสาง ก่อนจะถึงเวลานั้น เธอต้องเติมพลังงานให้เต็มที่