เมื่อได้ทุกอย่างตาม้าแล้ว กู่เทียนก็กล่าวลาและฝากขนมให้หลินหยุนเทียนเพื่อนำไปให้น้องชายและน้องสาวของเขา หลินหยุนเทียนรับไว้ด้วยความขอบคุณ ก่อนจะจากไป
กู่เทียนะโขึ้นไปบนหลังเซียวไป๋ที่ขยายร่าง ก่อนออกเดินทางกลับไปยังเมืองแห่งสายฝน ระหว่างทาง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจสอบข่าวสารต่างๆ ในตอนนี้กระแสข่าวเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเริ่มจางหายไปแล้ว มีเพียงข่าวลือเล็กน้อยเกี่ยวกับอัจฉริยะบางคนที่หายตัวไป ส่วนข่าวการเสียชีวิตของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสายฟ้าาก็ถูกกล่าวถึงเพียงเล็กน้อย และข่าวลือเกี่ยวกับเสินหย่าที่ถูกจับตัวไปโดยองค์กรตะวันสาดส่องที่กู่เทียนเองเป็คนสั่งให้คนเขียนข่าวปลอมนี้ขึ้นมาก็ถูกพูดถึงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจมาก
ในขณะนี้ผู้คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจกับเื่ที่รุนแรงกว่า นั่นคือล่มสลายของเมืองระดับห้าที่ผ่านมา ผู้คนพากันด่าทอรัฐบาลกลางอย่างดุเดือดในเื่การบริหารและการจัดการที่ล้มเหลว มีการประท้วงเกิดขึ้นในบางเมืองและเกิดเหตุการณ์การก่อการร้ายขึ้น และยังมีคนออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลกลางอาจจะเป็ผู้ที่อยู่เื้ัการล่มสลายของเมืองระดับที่ 5 ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะวุ่นวายแค่ไหน กำหนดการเข้าเรียนของมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด กู่เทียนอ่านข้อความทั้งหมดก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า แล้วนอนลงบนหลังของเซียวไป๋
เมื่อมาถึงเมืองแห่งสายฝน กู่เทียนมุ่งตรงไปยังบ้านของเขาทันที เขาทักทายพ่อแม่ และรับประทานอาหารร่วมกันก่อนจะขอตัวลงไปยังห้องทดลองลับของตัวเอง
…….
……
สามวันผ่านไป
ที่เมืองัทองคำ เมืองระดับหกแห่งทวีปเมฆาดำ เมืองนี้ขึ้นชื่อในด้านกองกำลังและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งที่สุดของโลก ในลานกว้างกลางเมือง วงแหวนขนาดใหญ่เรืองแสงสีฟ้าก่อนจะเปิดออก เผยให้เห็นร่างของกู่เทียนและอู๋ซวงที่เดินออกมาพร้อมกัน
อู๋ซวงยืดเส้นยืดสายก่อนจะพูดขึ้น “เฮ้อ... มีประตูมิติเชื่อมเมืองแบบนี้มันสะดวกจริงๆ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนานๆ”
กู่เทียนหัวเราะเบาๆ “นั่นสินะ”
“ว่าแต่นายหิวรึยัง?” อู๋ซวงถาม
“เริ่มแล้วล่ะ” กู่เทียนตอบกลับ ก่อนจะยิ้มบางๆ “ไปหาอะไรกินกันเถอะ”
อู๋ซวงตบไหล่กู่เทียนแล้วพูดขึ้น “ดีเลย งั้นนายเลี้ยงนะ”
กู่เทียนหัวเราะก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “ฝันไปเถอะ”
พวกเขาทั้งสองคนเรียกรถรับส่งสุดหรูทันที ก่อนจะมุ่งตรงไปยังร้านอาหารชื่อดังของเมืองัทอง ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ กู่เทียนทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง พลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นใน่หลายวันที่ผ่านมา
การทดลองสร้างน้ำแห่งพระเ้ายังคงล้มเหลว ความสูญเสียมหาศาลที่เกิดขึ้นแทบจะทำให้เขาต้องล้มเลิกแผนการ แต่กระนั้น ในความมืดมิดก็ยังพอมีแสงสว่างเล็กๆ ให้เขาเห็นทาง กู่เทียนเริ่มจับต้นชนปลายได้แล้ว เพียงแต่ว่ามันยังไม่ดีพอ ของจำลองที่สร้างขึ้นมานั้นแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับของจริงที่ควรจะเป็ เพราะเขาสามารถสร้างของเหลวที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับของจริงได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ
ขณะที่กู่เทียนกำลังคิดเพลินๆ ข้างกู่เทียน อู๋ซวงก็ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ก่อนจะหันไปมองกู่เทียนแล้วหน้าต่างระบบก็เปิดขึ้นมา พร้อมกับตั้งคำถามกับระบบทันที "ทำไมกู่เทียนถึงมีโชคติดลบมหาศาลขนาดนั้นกัน? ตอนที่ฉันพบเขาตอนแรกมันยังติดลบอยู่อยู่ที่ 9 แสนกว่าเท่านั้นเอง"
[ชื่อ: กู่เทียน]
[อายุ: 18 ปี]
[พร์:???]
[ระดับการควบคุมสัตว์ร้าย:???]
[สัตว์ร้ายที่ควบคุม:???]
[ค่าโชค: ดำ (-451,135,000) ]
ระบบตอบกลับทันที [ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่เคยเห็นใครมีโชคติดลบเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย ปกติแล้วถ้าติดลบเกินสิบล้านก็ควรจะตายไปแล้ว หรือไม่ก็โดนบุตรแห่งโชคชะตาบางคนสังหารไปแล้วแท้ๆ แต่เขาไม่เพียงแต่รอดมาได้ แต่ยังเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก]
อู๋ซวงเลิกคิ้ว "หมายความว่าไง?"
[ถ้าให้ผมเดานะ บางทีเขาอาจจะเป็ตัวร้ายหลักที่ถูกสร้างมาให้บุตรแห่งโชคชะตาจัดการตอนท้ายๆ ก็ได้]
อู๋ซวงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง "แต่ค่าของโชคของกู่เทียนมันติดลบเป็ร้อยล้านเลยไม่ใช่เหรอ?"
ระบบตอบกลับทันที [โฮสต์อย่าถามผม ผมเองก็ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน]
อู๋ซวงวางแก้วไวน์ลงกับโต๊ะ พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ไอ้รางวัลระบบยอดเยี่ยม 10 สมัยของแกเอามันไปคืนให้หมดเลยนะ ทั้งๆ ที่แกเอาแต้มวายร้ายฉันไปมหาศาล แต่แกให้ฉันดูได้แค่ค่าโชคของกู่เทียนเนี่ยนะ?!"
ขณะที่ทั้งอู๋ซวงกำลังทะเลาะกับระบบของเขาอยู่ พวกเขาก็ได้มาถึงร้านอาหารแล้ว ร้านอาหารแห่งนี้เป็หนึ่งในร้านที่ดีที่สุดในโลก มีชื่อว่า แสงจันทรา ด้วยคุณภาพอาหารระดับสูงสุดและบริการที่ไร้ที่ติ พร้อมพ่อครัวมากฝีมือมากมายรวมถึงเชฟระดับ 6 ดาวอีก 1 คนด้วย กู่เทียนและอู๋ซวงลงจากรถและเดินเข้าไปด้านใน ทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้าน พนักงานต้อนรับก้มหัวทำความเคารพ ก่อนที่กู่เทียนจะยื่นบัตรจองห้องพิเศษให้ พนักงานรับบัตรด้วยความสุภาพและเชิญพวกเขาไปยังห้องรับรองที่ถูกเตรียมไว้โดยเฉพาะ
ระหว่างทางเดินไปยังห้องพิเศษ บรรยากาศภายในร้านหรูหราสง่างาม แต่เสียงหัวเราะและบทสนทนาเสียงดังจากกลุ่มคนจำนวนมากก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเสียงหนึ่งที่แหลมคมกว่าคนอื่นพูดขึ้น
"หลินไท่… หลินไท่… เป็ถึงลูกชายของผู้นำตระกูลหลิน แต่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหารแค่นี้เนี่ยนะ? หรือว่าจริงๆ แล้วข่าวลือที่ว่านายเป็ลูกของคนใช้มันจะจริงงั้นเหรอ?"
เสียงหัวเราะตามมาอย่างเย้ยหยัน ก่อนที่ชายหนุ่มอีกคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาจะพูดต่อ "พี่ชายมู่ อย่าพูดแบบนี้สิ เดี๋ยวนายน้อยหลินของพวกเราก็เสียใจแย่เลย"
กู่เทียนได้ยินแต่เขาเดินผ่านไปตามพนักงานที่นำทางไปโดยไม่มีท่าทีสนใจเลยแม้แต่น้อย ขณะที่อู๋ซวงแสดงรอยยิ้มจางๆ ออกมา เพราะระบบของเขาเพิ่งแจ้งเตือนว่า พบบุตรแห่งโชคชะตาคนใหม่แล้ว
อู๋ซวงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น "นายไปสั่งอาหารให้ฉันด้วย เดี๋ยวฉันตามไป"
กู่เทียนพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมก่อนจะเดินตรงไปยังห้องพิเศษ เมื่อเข้าไปในห้องรับรองแล้วเขาก็ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างพลางคิดถึงเื่ที่ติดค้างอยู่ในหัว
ย้อนกลับไปในตอนที่เขาตรวจสอบความทรงจำของเสินหย่า หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลจากอดีตถึงปัจจุบัน มีบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ พลังของคนที่เข้าสิงร่างของเสินหย่าดูจะแตกต่างออกไป มันดูเหมือนว่าจะไม่ใช่พลังที่ได้จากสัตว์ร้ายเพียงอย่างเดียว และยังมีเื่ที่ซาอิ่งพูดถึงเกี่ยวกับ สิ่งนั้นที่กำลังใกล้เข้ามาด้วย สิ่งนั้นมันคืออะไรกัน
กู่เทียนประเมินความเป็ไปได้จากข้อมูลและความรู้ที่มีจำกัดมาก เขาคิดว่ามันมีโอกาส 50% ที่เป็เื่จริง และอีก 50% ที่เป็เื่โกหก เพราะเครื่องดักฟังที่เขาติดตั้งไว้กับเสินหย่ายังไม่ถูกทำลายทั้งหมด เขาใช้วิธีพิเศษฝังเครื่องดักฟังเข้าไปใน หัวใจของเสินหย่า ตอนที่เธอสลบ และยังแอบติดตั้งไว้ในจุดอื่นของร่างกาย เช่น เปลี่ยนเครื่องดักฟังเป็เม็ดเืขาว ติดอยู่ที่ก้านสมอง หรือภายในกระดูกสันหลัง และที่อื่นๆ อีกมากมาย โดยอาศัยการใช้เืเป็ตัวนำพาเครื่องดักฟังขนาดจิ๋วให้กระจายไปทั่วร่างกายของเสินหย่า
เครื่องดักฟังพวกนี้มีระยะรับสัญญาณ หนึ่งปีแสง ซึ่งเพียงพอจะติดตาม เสินหย่า ได้ไม่ว่าเสินหย่าจะหนีไปที่ส่วนไหนในโลกนี้ก็ตาม แต่ตอนนี้… สัญญาณทั้งหมดขาดหายไปแล้วแต่ตัวเครื่องดักฟังยังไม่ถูกทำลาย นั่นหมายความว่าอะไร?
กู่เทียนยิ้มบางๆ พร้อมกับเอนตัวพิงเก้าอี้ในห้องรับรอง เขายกแก้วน้ำขึ้นมาจิบอย่างใจเย็น แม้จะไม่ได้คำตอบในทันที แต่เขารู้ดีว่า ตอนนี้ธงแห่งความตายได้มาปักที่หัวของเขาแล้ว ถ้าในวันนั้นเขาเลือกที่จะยิงเสินหย่าให้ตายไปเลยหรือปล่อยให้ซาอิ่งฆ่าตัวเอง ผลมันจะออกมาเป็หน้าไหนกันนะ แต่ในตอนนั้นสัญชาตญาณของกู่เทียนบอกว่าถ้าเขาลั่นไกไปตัวเขาจะต้องเป็คนที่ตายเอง และกู่เทียนเองก็ไม่้าเปลืองหินเืแห่งความเป็นิรันดร์ด้วย กู่เทียนหัวเราะพร้อมส่ายหัวเล็กน้อยและเริ่มสั่งอาหารในทันที