คำพูดของชายชราดุจสายฟ้าฟาดที่ข้างหูของพวกเซียวเฉินสามคน แต่ละเื่ราวสะท้านฟ้าะเืดิน ทำให้พวกเขารู้สึกเวียนศีรษะตาลาย
ผู้เข้มแข็งขั้นเทพ์จึงสามารถสืบทอดลิขิตฟ้าได้ ส่วนลิขิตฟ้าถูกผู้ปกครองแคว้นกู่ฉีกทำลาย สุดท้ายฟ้าดินผืนนี้ไม่ครบส่วน...
ที่แท้ ระหว่างฟ้าดินยังมีความลับเช่นนี้
เซียวเฉินถาม “ผู้าุโ ฟ้าดินไม่สมบูรณ์เริ่มต้นจากที่ใด?”
ฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานก็มองวัง ราวกับกำลังค้นหาชายชราท่านนั้น รอคอยคำตอบจากเขา
“ตอนที่ลิขิต์ถูกฉีก ฟ้าดินก็ไม่สมบูรณ์แล้ว นี่คือสาเหตุว่าทำไม์จึงลงทัณฑ์ทำลายแคว้นกู่ เพราะแคว้นกู่ทำลายฟ้าดิน ์ส่งพลังแห่งกฎเกณฑ์ลงมา ลงทัณฑ์แคว้นกู่ ลงโทษดินแดนเทียนเสวียน” ชายชราเป็คนฉลาดที่รู้เื่ราวมากมายและอธิบายให้พวกเซียวเฉินฟังช้าๆ
“ลิขิตฟ้าก็คือกฎ์ เมื่อกฎ์ถูกทำลาย ฟ้าดินย่อมไม่สมบูรณ์เป็ธรรมดา ดังนั้น หลังจากแคว้นกู่ถูกทำลาย ฟ้าดินจึงตกอยู่ในสภาพพิการ ไม่เพียงปราณเสวียนระหว่างฟ้าดินรั่วไหลออกมาจนหมดเท่านั้น แม้แต่ระดับขั้นของผู้ฝึกมรรคาบู๊ก็ถูกสะกดไว้ด้วย
ดังนั้น ในยุคกลางจึงมีคำกล่าวแพร่สะพัดว่า หลังยุคกลาง ไร้เทพ์! ความหมายคือ หลังจากยุคกลางเป็ต้นมา ดินแดนเทียนเสวียนก็ไม่มีผู้เข้มแข็งขั้นเทพ์ปรากฏขึ้นอีกเลย แม้แต่ผู้เข้มแข็งขั้นดารา์ก็หายากดั่งขนหงส์เขากิเลน”
เมื่อเสียงนั้นเอ่ยถึงตรงนี้ก็เศร้าเสียใจแทนคนยุคนี้อีก
“อาจเพราะหลังผ่านมาพันปีก็มีคำกล่าวหนึ่งแพร่สะพัดอีก ในยุคสมัยที่ไร้กฎ ดารา์ไม่ปรากฏ...”
แต่ละคำที่ชายชรากล่าวล้วนโจมตีพวกเขาสามคน พวกเขาเป็ผู้ฝึกวิชายุทธ มีการฝึกวิชาถึงระดับสูงสุดเป็เป้าหมายทุกคน แต่ขั้นเทพ์ถูกจำกัด แม้แต่ขั้นดารา์ก็ยากเย็น เื่นี้เหมือนเอากระบองมาตีศีรษะพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ราวกับตัดความหวังของพวกเขา
สีหน้าของเซียวเฉินยิ่งน่าเกลียด ผู้อื่นอาจจะยอมรับชะตา แต่เขายอมไม่ได้ เพราะเขามีพันธนาการและแรงกดดันมากเกินไป อย่างแรกคือความลับเื่ชาติกำเนิดของเขา ต่อมาคือเขาเป็จักรพรรดิของเผ่าาเทียนฮวงคนปัจจุบัน สืบทอดเจตนารมณ์เทียนฮวง เขาจำเป็ต้องนำพาเผ่าาเทียนฮวงกลับสู่จุดสูงสุด ่ชิงกระดูกอันสูงส่งและล้ำค่าที่พิทักษ์เผ่าาเทียนฮวงคืนมา
แค่เื่นี้ก็จำเป็ต้องฝึกวิชาให้ถึงจุดสูงสุดของมรรคาบู๊แล้ว ไม่เช่นนั้น เขาจะหลุดพ้นและไปยังเขต์ได้อย่างไร?
เื่ชาติกำเนิดของเขา แม้แต่ผู้าุโของเผ่าาเทียนฮวงก็ยังรู้สึกหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าชาติกำเนิดของเขาไม่ได้อยู่ในดินแดนเทียนเสวียน ถึงขั้นอาจอยู่ที่เขต์ แล้วเขาจะไปตามหาได้อย่างไร?
ดังนั้น แต่ละแรงกดดันไม่อนุญาตให้เซียวเฉินหยุดชะงัก
เขาจำเป็ต้องพยายามให้มากกว่าคนทั่วไป เพราะชาตินี้ เขาถูกกำหนดให้ไม่ธรรมดา
เซียวเฉินมีสีหน้าหนักใจเป็พิเศษ
“ผู้าุโ หากได้รับสืบทอดแคว้นกู่ จะทลายเครื่องพันธนาการและทะลวงขอบเขตของฟ้าดินที่ไม่สมบูรณ์นี้ได้หรือไม่?” เซียวเฉินเงยหน้าขึ้นมองวังหลวงด้วยสายตาแน่วแน่ ฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานก็รอคอยคำตอบอย่างมีความหวังเช่นกัน
ผ่านไปเนิ่นนาน เสียงนั้นจึงเอ่ยอย่างแห้งแล้งและขมขื่น
“เื่นี้ข้าไม่รู้”
“แม้แคว้นลั่วเทียนกู่จะเคยสืบทอดลิขิตฟ้า แต่บอกไม่ได้ว่าจะสามารถทลายพันธนาการของกฎ์ได้หรือไม่ ตอนแรกด้วยความสามารถของแคว้นลั่วเทียนกู่แคว้นเดียวก็ไม่มีทางต้านทานลิขิตฟ้าได้อย่างเด็ดขาด” ชายชราเอ่ยจบก็เงียบงันไปนาน
“ในเมื่อผู้าุโเคยต้านทานลิขิตฟ้า ข้าเฉินเซียวก็กล้าต้านทานลิขิตฟ้าเช่นกัน” เซียวเฉินกล่าว ดวงตามีเปลวเพลิงเต้นระริก ราวกับขณะนี้ ฟ้าดินดับสูญ มีแค่เขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น
“เ้าอาศัยอะไร?”
เสียงนั้นซักไซ้ ผู้ปกครองแคว้นกู่เป็ผู้เข้มแข็งขั้นเทพ์ ส่วนเด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้ามีความสามารถแค่ขั้นเสวียนเต๋า ถึงกับกล้าคุยโวว่าจะต้านทานลิขิตฟ้า? น่าขำโดยแท้!
พูดแบบนี้ เท่ากับหยามเกียรตินายท่านของเขา!
เซียวเฉินไม่มีโทสะต่อการซักไซ้ของชายชรา แต่ถามกลับอย่างยิ้มแย้ม “ผู้าุโ ไม่ทราบว่าตอนนั้นประมุขของแคว้นลั่วเทียนกู่ฝึกวิชาจนถึงขั้นเสวียนเต๋าใช้เวลาไปเท่าไร?”
ชายชราเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “ฮ่องเต้แห่งแคว้นลั่วเทียนกู่ ได้รับพร์จากฟ้า ใช้เวลาสองปีย่างสู่ขั้นเสวียนเต๋า” ชายชราเอ่ยถึงตรงนี้ก็รู้สึกภาคภูมิใจ
ส่วนเซียวเฉินกลับยิ้มแล้วส่ายศีรษะ “ผู้าุโ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าฝึกวิชาจนถึงขั้นเสวียนเต๋าใช้เวลากี่ปี?”
ชายชรากล่าว “หากเ้าฝึกวิชาั้แ่เล็ก ต้องฝึกวิชาเป็เวลาสิบห้าปีขึ้นไปจึงบรรลุถึงระดับขั้นนี้ แม้ในดินแดนเทียนเสวียนปัจจุบันถือว่าเป็ผู้มีพร์ แต่ในสมัยแคว้นกู่ พร์น้อยนิดอย่างเ้ามีอยู่กลาดเกลื่อนเต็มถนน หาไม่ยากหรอก” น้ำเสียงของชายชรามีแววดูแคลนจางๆ
ใบหน้าของเซียวเฉินเผยรอยยิ้ม “ผู้าุโ ปีนี้อีกสามเดือนผู้เยาว์จะอายุสิบแปดปี อายุสิบหกปีเริ่มฝึกวิชา ใช้เวลาหนึ่งปีเก้าเดือนบรรลุขั้นเสวียนเต๋าสามชั้นฟ้า ไม่ทราบว่าพร์กับระดับฝีมือนี้เหนือล้ำกว่าประมุขของแคว้นกู่ในตอนนั้นหรือไม่?”
คำพูดของเซียวเฉินทำเอาทุกคนที่นั่นเงียบกริบ
ฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานก็เบิกตาโตมองเซียวเฉินด้วยสายตาสยองขวัญ ฝึกวิชาไม่ถึงสองปีก็เลื่อนจากขั้นฐานจิตเข้าสู่ขั้นเสวียนเต๋าสามชั้นฟ้า เกรงว่าพร์และพลังฝีมือเช่นนี้คงไม่มีใครในดินแดนเทียนเสวียนเหนือกว่า!
ชายชราก็ใสุดขีด
“ผู้าุโ ผู้เยาว์พูดความจริงทุกประโยค ก่อนอายุสิบหกปีข้าถูกเรียกว่าเศษสวะ อายุสิบหกปีชีพจริญญาเพิ่งทะลวงสามเส้น ถูกคนในครอบครัวทอดทิ้งเพราะพวกเขารู้สึกว่าข้าน่าอับอาย ต่อมาข้าได้พบโชควาสนาที่เปลี่ยนแปลงชีวิต ทะลวงชีพจริญญาเข้าสู่มรรคาบู๊ ข้าเดินมาทีละก้าวจนถึงความสามารถขั้นเสวียนเต๋าในปัจจุบัน เกรงว่าเมื่อครู่ผู้าุโคงจะทราบแล้วว่าข้าฝืนเลื่อนขั้นหรือไม่” เซียวเฉินเอ่ยช้าๆ ดวงตามีประกายวิบวับ
“ผู้าุโ ตอนนี้ท่านคิดว่าข้ามีคุณสมบัติที่จะต้านทานลิขิตฟ้าได้หรือยัง?”
“ดูท่า การสืบทอดแคว้นกู่คงมีหวังแล้ว”
ชายชราไม่ได้ตอบคำถามเซียวเฉิน ทว่าพูดพึมพำกับตนเองด้วยเสียงสั่นเครือ ราวกับพลุ่งพล่านจนควบคุมตนเองไม่ได้ จากนั้นกล่าวว่า “พวกเ้าสามคนยินดีรับการสืบทอดของแคว้นกู่หรือไม่?”
ประโยคเดียวของชายชรา ทำเอาพวกเขาสามคนใ
จากนั้น พวกเขาก็เผยสีหน้าลิงโลดยินดี
การสืบทอดแคว้นกู่เป็โชควาสนาอันยอดเยี่ยมที่พบได้แต่ไม่อาจแสวงหาอย่างไม่ต้องสงสัย เรียกได้ว่าเป็การสืบทอดระดับสุดยอดในดินแดนลึกลับแห่งแคว้นกู่ ผ่านมานับพันปีแล้ว พวกเขาสามคนถึงกับเจอการสืบทอดของแคว้นกู่เข้า
นี่จะไม่เรียกว่าลิขิตฟ้าได้อย่างไร?
“ยินดี ยินดีแน่นอน” ใบหน้าของคนทั้งสามมีรอยยิ้ม
ชายชรากล่าว “แคว้นลั่วเทียนกู่มีการสืบทอดแปดสาย พวกเ้าแต่ละคนสามารถรับการสืบทอดหนึ่งสายหรือมากกว่านั้นได้ ได้มากเพียงไรล้วนต้องอาศัยตัวของพวกเ้าเอง หวังว่าพวกเ้าจะสามารถสืบทอดเจตนารมณ์แคว้นกู่เราและแผ่ขยายมันให้รุ่งโรจน์ได้”
ว่าแล้ว ในวังหลวงก็มีประตูปรากฏขึ้นแปดบาน ประตูแต่ละบานกะพริบแสงอันไร้ที่สิ้นสุด มีพลังทำลายล้างอันกล้าแข็ง ราวกับพลังแปดสายนี้มาจากยุคโบราณ แผ่ซ่านกลิ่นอายความเก่าแก่และแข็งแกร่งสุดขีด
พวกเขาสามใเพราะเหตุนี้
“การสืบทอดแปดสาย แข็งแกร่งมาก...” เซียวเฉินพึมพำ ฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานก็ใสุดขีด พวกเขามองประตูเทพแต่ละบานและปลุกเร้าตนเอง
“ประตูแปดบานแบ่งตามคุณสมบัติแปดอย่าง พวกเ้าไปลองหยั่งเชิงดูเองเถอะ ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน ไม่เช่นนั้นอาจมีอันตรายถึงชีวิต ต่อให้เป็ข้าก็ช่วยพวกเ้าไม่ได้!”
ชายชราเตือนพวกเขา พวกเขาผงกศีรษะ
จากนั้นมองไปทางประตูเทพเก่าแก่แปดบานด้วยสายตาเป็ประกาย
“ข้าคนแรก...”
ฉู่หยวนกล่าว จากนั้นก้าวออกมา เดินไปทางประตูบานแรก