เมื่อเย่เฟิงใช้กระบวนท่ารำกระบี่ไร้ตัวตน ร่างกายเขาก็กลืนหายไปอีกมิติ มีเพียงประกายแสงจากกระบี่เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในโลกแห่งความเป็จริง พูดได้ว่าเวลานี้ชายหนุ่มอยู่ในสภาวะไร้รูปร่าง ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถโจมตีเขาได้
กระบี่สีเขียวเข้มกวัดแกว่งรอบทิศทางใกล้ร่างหลังค่อมของฉีหลินจือ กระบวนท่านี้เป็เคล็ดวิชาที่เย่เฟิงได้รับการถ่ายทอดมาจากแหวนกระบี่ัโบราณ แม้แต่ในโลกเทวะยังถูกจัดให้อยู่ในเคล็ดวิชาอันดับต้นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อเทียบกับวิทยายุทธ์ของโลกใบนี้แล้วจะแข็งแกร่งเพียงใด
“อ่อนหัด!”
ฉีหลินจือะโดังลั่น ก่อนโคจรพลังภายในเป็เกราะคุ้มกายอีกครั้ง! เขามั่นใจมากว่าพลังภายในของเขาแข็งแกร่งมากพอที่จะต้านทานกระบี่ของอีกฝ่ายได้
เพียงไม่นานชายชราก็พบว่าตนคิดผิดไป เมื่อใช้กระบวนท่ารำกระบี่ไร้ตัวตนออกมา ทุกท่วงท่าของมันแข็งแกร่งกว่าการใช้กระบี่ไร้ตัวตนในยามปกติมาก นอกจากนี้ทั้งความเร็วและความถี่ของกระบี่ก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ฉีหลินจือที่ไม่ได้สนใจประเด็นนี้ต้องพลาดท่าเพราะความประมาท
ฉีหลินจือโคจรพลังจากทั่วร่างมาบริเวณลำคอเพื่อเป็เกราะป้องกันกระบี่ ทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับฉวยโอกาสฟันต้นขาและแผ่นหลังของเขาจนเืไหล
กระบี่ของเย่เฟิงโหมกระหน่ำใส่เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับกำลังร่ายรำกระบี่ด้วยความบ้าคลั่ง
เพียงไม่นานฉีหลินจือก็เริ่มต้านทานไม่ไหว สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็เหี้ยมเกรียม ชายชราเหยียบกลไกค่ายกลที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า พร้อมเกราะป้องกันจากพลังภายในของเขาถูกกระบี่ของเย่เฟิงทำลาย
ภายใต้แสงจันทรา บริเวณเหนือตำหนักปรากฏเงาร่างกำลังร่ายรำกระบี่อย่างดุดัน พร้อมกับเืสาดกระเซ็น!
ร่างค่อมของฉีหลินจือถูกฟันขาดเป็ชิ้นๆ ในพริบตา จื่อเจี้ยนหลานที่อยู่ด้านล่างยืนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เป็ไปไม่ได้ เย่เฟิงแข็งแกร่งขนาดนี้เชียวเหรอ?
เหล่าศิษย์สำนักอิ่นเซียนที่ดักซุ่มอยู่รอบด้านต่างตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง พวกเขามาถึงขั้นที่เ้าสำนักฉีหลินจือผู้มีระดับวรยุทธ์เจ็ดสิบปีถูกเด็กหนุ่มประหลาดคนหนึ่งสังหารได้แล้วเหรอ?
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เย่เฟิงแข็งแกร่งมากเสียจนพวกเขาไม่อาจโต้ตอบได้เลย ด้านฉีหลินจือเองก็ถูกกระบี่ของอีกฝ่ายฟันขาดเป็ชิ้นๆ
กระบี่ที่ฟาดฟันรอบทิศค่อยๆ เลือนหายไป ในที่สุดร่างของเย่เฟิงก็ปรากฏอีกครั้งบนชั้นสามของตำหนัก เขายืน ณ ตำแหน่งเดิมที่ฉีหลินจือเคยยืน จากนั้นเก็บกระบี่เจินชี่พร้อมดูดซับพลังจากน้ำแข็งพันปี
การโจมตีด้วยกระบวนท่ารำกระบี่ไร้ตัวตนนั้นสิ้นเปลืองพลังชี่ค่อนข้างมากจนพลังชี่ในร่างเขาแทบหมดสิ้น
“เย่เฟิง!”
ด้านล่างของตำหนัก จื่อเจี้ยนหลานไม่อาจสกัดกลั้นความยินดีจนต้องกู่ร้องออกมา
เมื่อเย่เฟิงได้ยินน้ำเสียงยินดีของหญิงสาวก็หันไปโบกมือให้เธอ และยังไม่ลืมสิ่งที่ต้องทำหลังจากฆ่าฉีหลินจือ
ชายหนุ่มใช้จิตหยั่งรู้สำรวจก่อนพบถุงผ้าใกล้ฝ่าเท้า เดิมทีฉีหลินจือแขวนถุงนี้ไว้ที่เอว ภายในมีขวดยาหลายขวด ดูท่ายาถอนพิษใจสลายคงอยู่ในขวดใดขวดหนึ่งสินะ?
เย่เฟิงหยิบถุงผ้านั้นขึ้นมา
เมื่อเหล่าลูกศิษย์สำนักอิ่นเซียนเห็นฉีหลินจือถูกสังหาร ต่างก็อยู่ในอาการตกตะลึง ไม่รู้ว่าพวกตนควรทำเช่นไรดี
“เจี้ยนหลาน!”
เสียงชายคนหนึ่งดังจากด้านข้าง ชายหนุ่มในชุดสีดำสนิทคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาจื่อเจี้ยนหลาน เขาเป็หนึ่งในกลุ่มคนที่ดักซุ่มโจมตีเย่เฟิงเมื่อครู่
ชายหนุ่มอายุราวๆ ยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีทั้งยังมองจื่อเจี้ยนหลานด้วยความชมชอบ เขาวิ่งมาพร้อมกล่าว “ประเสริฐ ตาแก่นั่นตายไปแล้ว ทีนี้เธอก็ไม่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับเขาแล้ว!”
เขาคือศิษย์รุ่นเยาว์ของสำนักอิ่นเซียนผู้มากความสามารถคนหนึ่ง ชื่อเจี้ยนอี้เซิง เขาชื่นชอบจื่อเจี้ยนหลานมาั้แ่เด็ก ทั้งยังสารภาพรักกับเธออยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อฉีหลินจือออกจากด่านฝึกตนก็ประกาศว่าจะแต่งงานกับจื่อเจี้ยนหลาน เจี้ยนอี้เซิงจึงรีบตัดขาดกับกับจื่อเจี้ยนหลานในทันที เขาไม่แม้แต่จะพูดคุยกับเธอสักประโยค ย่อมเป็เพราะเขากลัวว่าจะถูกฉีหลินจือกล่าวโทษ ตอนนี้ฉีหลินจือถูกปลิดชีพไปแล้ว เ้าเด็กนี่จึงรีบะโออกมาทันที
“เจี้ยนอี้เซิง แกยอมแพ้ซะเถอะ” ใครบางคนที่อยู่ใกล้ๆ รีบเอ่ยเยาะเย้ย ก่อนพูดประจบเย่เฟิงต่อ “ตอนนี้เ้าชั่วฉีหลินจือก็ตายแล้ว แน่นอนว่าศิษย์น้องเจี้ยนหลานต้องเป็ผู้หญิงของวีรบุรุษอย่างท่านเย่เฟิงอยู่แล้ว แกยังจะเข้ามายุ่มย่ามอีกเหรอ? ไสหัวไปให้พ้นเลย”
ทุกคนต่างรู้ว่าเมื่อเย่เฟิงสังหารฉีหลินจือไปแล้ว จากนี้สำนักอิ่นเซียนต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเย่เฟิงไปโดยปริยาย อีกทั้งเย่เฟิงได้ชื่อว่าเป็บุคคลที่ผู้าุโกูอิ่งไว้วางใจจนมอบคัมภีร์เคล็ดอสูรร่ำไห้ให้ด้วยแล้ว หากสำนักอิ่นเซียนอยู่ภายใต้การดูแลของเขา จะต้องกลับมาผงาดและยิ่งใหญ่อีกครั้งแน่!
“หึ” สีหน้าของเจี้ยนอี้เซิงแสดงความหยามเหยียด กลุ่มคนพวกนี้ไร้ยางอายยิ่งกว่าเขาเสียอีก และเขาเองก็ไม่ใช่คนเช่นนั้น “ท่านเย่เฟิงสังหารเ้าคนชั่วนั้นแล้ว เป็ธรรมดาที่เขาจะกลายเป็วีรบุรุษของสำนักอิ่นเซียนเรา แต่ท่านเย่มีสตรีข้างกายอยู่มากมาย แล้วทำไมต้องสนใจศิษย์น้องเจี้ยนหลานของเราอีก?”
เมื่อได้ฟังดังนั้นหลายคนแทบอยากอาเจียนเป็เื ให้ตายสิทำไมเขาถึงหน้าด้านอย่างนี้ล่ะ?
ขณะที่ทุกคนพูดถึงประเด็นนี้เพื่อประจบเย่เฟิง จื่อเจี้ยนหลานซึ่งยังไม่ได้รับยาถอนพิษ ยิ่งได้ยินกลุ่มคนพูดเื่ไร้สาระเกี่ยวกับเธอก็ยิ่งรำคาญใจ แต่หญิงสาวไม่ใช่คนชอบเปิดเผยความรู้สึก จึงทำเพียงยืนเงียบและเงยหน้ามองเย่เฟิงที่อยู่บนตำหนัก ตอนนี้ในใจของเธอเห็นเย่เฟิงเป็วีรบุรุษคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ในแบบที่เจี้ยนอี้เซิงเอาแต่พูดพล่าม
เย่เฟิงยืนอยู่บนตำหนักเพียงลำพัง หยิบขวดยาขึ้นมา ขณะจะะโลงจากตำหนักเพื่อจัดการเื่ที่เหลือต่อ ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นความผิดปกติของตำหนักหลังนี้ ทำไมมันถึงสั่นะเืขึ้นมาล่ะ? ดูเหมือนเมื่อครู่ฉีหลินจือเหยียบกลไกบางอย่างก่อนจะตาย... เย่เฟิงรู้สึกใจไม่ดี เขาจะะโหนี แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
เพียงไม่นาน เสียงะเิก็ดังขึ้นจากรอบทิศทาง พร้อมกับเปลวไฟลุกโชน! ฉีหลินจือจุดชนวนะเิที่ซ่อนไว้ในตำหนักก่อนที่เขาจะตาย!
ตำหนักทั้งหลังพังทลายลงกลายเป็ทะเลเพลิงขนาดใหญ่ แสงจากกองเพลิงส่องสะท้อนจนใบหน้าของทุกคนแดงก่ำ สีหน้าของแต่ละคนแสดงอารมณ์หลากหลาย มีทั้งใ ประหลาดใจ เศร้าใจ สาแก่ใจ บางคนยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น และแสดงสีหน้าเ้าเล่ห์ต่อสายตาผู้คนรอบข้าง ทุกคนที่เพิ่งพูดคุยไร้สาระกันเมื่อครู่ต่างพากันเงียบเสียงลง มองด้วยสายตาตกตะลึง
“เย่เฟิง!”
จื่อเจี้ยนหลานปวดใจ ใบหน้าสวยแปรเปลี่ยนเป็สลดลงทันที เป็ไปไม่ได้ เมื่อครู่ฉีหลินจือก็ถูกสังหารไปแล้ว หลังจากนั้นเกิดะเิได้อย่างไร? เย่เฟิงล่ะ ทำไมเขาไม่ใช้วิธีการเดียวกับก่อนหน้านี้ะโออกมา?
เจี้ยนอี้เซิงที่ยืนอยู่ใกล้หญิงสาวแสดงสีหน้าชัดเจนว่าเขายินดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก
เ้าเย่เฟิงมันถูกะเิร่างตายบนตำหนักแล้ว!
ประเสริฐ!
ตอนนี้ผู้าุโที่มีฝีมือสูงส่งต่างถูกสังหารไปจนหมดแล้ว สุดท้ายเย่เฟิงก็ถูกะเิจนตายไปอีกคน ช่างเป็ฉากจบที่ยอดเยี่ยมเสียจริง
หากเกิดศึกชิงตำแหน่งเ้าสำนักขึ้น ดูจากลูกศิษย์ที่เหลืออยู่ มีความเป็ไปได้สูงที่เจี้ยนอี้เซิงจะได้ครองตำแหน่งเ้าสำนัก! เขาไม่เคยนึกถึงเื่ราวเหล่านี้มาก่อน ทว่าเื่ราวที่เกิดขึ้นในวันนี้กลับมอบโอกาสอันดีงามให้กับเขา
เมื่อได้เป็เ้าสำนัก...
เจี้ยนอี้เซิงเหลือบมองใบหน้าสวยของจื่อเจี้ยนหลานที่อยู่ใกล้ๆ เธอจะกลายเป็ของเขาโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลยใช่ไหม?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้