เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี เฉินหลินเจี้ยนและพรรคพวกที่ยืนล้อมวงอยู่ก็อดพากันหัวเราะขึ้นมามิได้
หากฉู่หยวนเห็นบเนี่ยหลีเป็คู่ต่อสู้ั้แ่แรกก็คงไม่ย่ำแย่เหมือนเช่นเวลานี้ สุดท้ายฉู่หยวนเชื่อมั่นในตนเองเกินไป แม้กระทั่งสองมือยังไพล่หลังเอาไว้ ทั้งยังต่อให้เนี่ยหลีถึงสามกระบวนท่า สุดท้ายยังไม่ทันครบกระบวนท่าตัวเองก็ลงไปนอนกับพื้นแล้ว คิดแสร้งทำตัวดีเลิศ สุดท้ายก็กลับกลายเป็เ้าโง่ นี่เป็บทเรียนโชกเืบทหนึ่งแล้ว
เยี่ยจื่ออวิ๋นเห็นสีหน้าไร้เดียงสาของเนี่ยหลีจึงอดที่จะหัวเราะคิกคักขึ้นมามิได้ เนี่ยหลีช่างร้ายกาจนัก!
ผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดฉู่หยวนก็ลุกขึ้นมาได้สำเร็จ ใบหน้าของเขาซีดเซียว กล้ามเนื้อกระตุกเป็บางขณะ แสดงให้เห็นว่าเขายังคงต้องฝืนทนต่อความเ็ปนี้อยู่ เสียงหัวเราะของผู้คนรอบด้านฉู่หยวนฟังแล้วบาดหูนัก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีสังหาร “เป็เ้ารนหาที่เอง ข้าจะฆ่าเ้า!”
ฉู่หยวนกระโจนตัวออกไป ขาข้างหนึ่งตวัดเตะใส่เนี่ยหลี แม้ศิลปะยุทธ์สามารถเรียนได้ก็ต่อเมื่อเลื่อนขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินเสียก่อน แต่ในฐานะที่มาจากครอบครัวชนชั้นสูง ฉู่หยวนจึงยังพอได้เรียนเคล็ดวิชายุทธ์แบบพื้นฐานหลายอย่างอยู่บ้าง กระบวนท่าตวัดเตะที่ฉู่หยวนเพิ่งแสดงออกมานี้ย่อมมีที่มาจากตระกูลฉู่ ลูกเตะพายุหมุน
ลูกเตะตวัดของฉู่หยวนสร้างเสียงลมหมุนดังขึ้นหอบหนึ่ง
เนี่ยหลีย่อมไม่อาจสู้กับฉู่หยวนได้ด้วยพละกำลังทางร่างกายของเขาเบี่ยงไปด้านข้างเล็กน้อย เท้าของฉู่หยวนกรีดผ่านข้างแก้มของเขาไป จากนั้นเนี่ยหลีตวัดเท้าเตะสูงใส่คางของฉู่หยวน
แม้พลังของเนี่ยหลีไม่อาจเทียบเท่าฉู่หยวนได้ ทว่าใช้ท่าทางและออกแรงด้วยทักษะเพลงยุทธ์ในจังหวะที่เหมาะสมกว่าฉู่หยวนมากนัก และการจู่โจมล้วนพุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนของฉู่หยวนได้อย่างแม่นยำ
เห็นภาพฉากนี้ เฉินหลินเจี้ยนสองคิ้วเลิกสูงขึ้นเล็กน้อย เนี่ยหลี เ้าเด็กผู้นี้ช่างร้ายนัก อายุเพิ่งจะสิบสามกลับรู้จักรูปแบบยันต์มากมาย ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้ แม้กระบวนท่าโจมตีของเนี่ยหลีดูเรียบง่าย ทว่ากลับร้ายกาจและเฉียบคมยิ่ง หากเขาอยู่ในตำแหน่งของฉู่หยวน เกรงว่าก็ยังไม่อาจตอบสนองได้ทันที คิดๆ ดูแล้วยากที่จะคิดได้ว่าหากเนี่ยหลีได้ฝึกจนถึงระดับเงิน ได้หลอมรวมเข้ากับจิตอสูร จะแข็งแกร่งถึงเพียงใด
เมื่อฉู่หยวนรู้สึกว่าสายตามองไม่เห็นเป้าหมาย ในใจก็ตื่นตระหนกอย่างยิ่ง เวลาต่อมาเขารู้สึกถึงความเ็ปรุนแรงที่คาง ทั้งร่างกายลอยละลิ่วไปร่วมห้าหกหมี่ ตกลงที่พื้นอย่างแรง
รอบด้านเงียบกริบ แม้กระทั่งเข็มตกลงพื้นสักเล่มก็คงได้ยินกระมัง
“เกิดอะไรขึ้น?” มีใครบางคนถามขึ้นทำลายความเงียบนั้น
เมื่อครู่ขณะเนี่ยหลีทิ้งศอกใส่ฉู่หยวนจนล้มลงกองกับพื้น ทุกคนคิดว่าฉู่หยวนประเมินคู่ต่อสู้ของตนต่ำไป ดังนั้นขณะที่เขาถูกเนี่ยหลีจู่โจม หากฉู่หยวนจริงจังสักนิด เนี่ยหลีคงต้องมิใช่คู่ต่อสู้ของฉู่หยวนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้งนี้ช่างย้อนแย้งกับความคาดคิดของทุกคน เมื่อฉู่หยวนเป็ฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน เนี่ยหลีก็ยังใช้แค่กระบวนท่าเดียวจัดการฉู่หยวนจนลงไปกองกับพื้นได้อีกครั้งหนึ่ง
หากเป็ครั้งแรกยังพอจะอธิบายได้ว่าเป็ความโชคดี แล้วหากมีครั้งที่สองตามมาเล่า ยังจะพูดว่าเป็แค่โชคได้หรือไม่
ทุกคนต่างพากันใจนพูดไม่ออก จ้องมองเด็กหนุ่มที่ยังค่อนข้างเยาว์วัยนักในสายตาของพวกเขา รังสีเฉียบคมที่กระจายออกมาจากร่างกายของเนี่ยหลีกำแหงและกล้าหาญยิ่ง ดูไม่เหมือนมาจากเด็กอายุสิบสามปีเอาเสียเลย
หูเหยียนหลันรั่วจ้องมองแผ่นหลังของเนี่ยหลี ดวงตางดงามคู่นั้นวาววับยิ่งนัก
“ดูท่าว่าพี่สาวคนนี้ยังคงประเมินเ้าต่ำไป” เรียวปากแดงระเื่ดงามของหูเหยียนหลันรั่วขยับเผยอขมุบขมิบเล็กน้อย แลดูยั่วยวนชวนมองไม่อาจบรรยายได้
ในตัวเนี่ยหลีมีความลับมากมายรอคอยให้ค้นหา
เยี่ยจื่ออวิ๋นก็รู้สึกประหลาดใจนัก แต่ก็พลันโล่งอกแล้ว เคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรที่เนี่ยหลีถ่ายทอดให้นางมีความล้ำเลิศเสียยิ่งกว่าเคล็ดวิชาต่างๆ ที่นางเคยเห็น ดังนั้นเนี่ยหลีเองก็คงต้องฝึกเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าของนางอย่างแน่นอน การท้าทายครั้งนี้จึงไม่ใช่เื่ยากเย็นอันใด
เห็นฉู่หยวนลอยละลิ่วไป เสิ่นเยวี่ยกำหมัดแน่น ปลายเล็บแทบจิกลงไปในเนื้อตนเองแล้ว เนี่ยหลีดูเหมือนจะจัดการได้ยากกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก!
หลังจากที่ถูกเตะจนร่วงลงพื้นถึงสองครั้งสองครา ฉู่หยวนรู้สึกอับอายยิ่งนัก เขาเป็นักสู้ระดับทองแดงสามดาว พลังกายก็อยู่ในระดับทองแดงเช่นกัน ส่วนเนี่ยหลียังพัฒนาไม่ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวด้วยซ้ำ
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังของเนี่ยหลียังไม่แข็งแกร่ง และอ่อนด้อยกว่าเขาเป็อันมาก!
แต่ว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว พ่ายแพ้อย่างอธิบายไม่ถูก พ่ายแพ้อย่างน่าอับอายยิ่ง!
ฉู่หยวนจ้องมองเนี่ยหลี ดวงตาแดงก่ำ อาณาเขติญญาเริ่มโคจรอย่างบ้าคลั่ง พลังิญญาแผ่พุ่งออกมาจากร่าง
ก่อนที่คนผู้หนึ่งจะหลอมรวมกับจิตอสูร พลังิญญาไม่มีแรงโจมตี ทำได้เพียงใช้พลังจิตโหมเข้าจู่โจมใส่อาณาเขติญญาของคู่ต่อสู้
พลังิญญาของฉู่หยวนมีถึงสามร้อยเจ็ดสิบหกจุด ไม่ไกลจากนักสู้ระดับทองแดงสี่ดาวเท่าไหร่แล้ว หากเขาทุ่มพลังิญญาทั้งหมดเข้าโจมตีอาณาเขติญญาของคู่ต่อสู้ ก็เป็ไปได้ว่าจะสามารถะเิอาณาเขติญญาของคู่ต่อสู้สำเร็จ หากอาณาเขติญญาะเิแล้ว ชีวิตของคนผู้นี้ย่อมถูกตัดขาดจากการเชื่อมต่อกับจิตอสูร ปราศจากอาณาเขติญญาก็ไม่อาจฝึกพลังิญญาได้!
เมืองกวงฮุยต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามจากสัตว์อสูร ดังนั้นผู้ควบคุมจิตอสูรทุกคนจึงมีความเป็อันหนึ่งอันเดียวกันไม่น้อย ปกติย่อมไม่เข่นฆ่ากันเอง แม้ยามแข่งขันก็ไม่ลงมืออำมหิต!
แต่ฉู่หยวนเวลานี้กลับไม่สนใจสิ่งใด!
“ไปตายเสียเถอะ!” ฉู่หยวนดวงตาทอประกายความชั่วร้ายรอยยิ้มเ้าเล่ห์ พลังิญญาดุจดังเกลียวคลื่น ะเิเข้าใส่อาณาเขติญญาของเนี่ยหลี
“ฉู่หยวน หยุด!” หูเหยียนหลันรั่วตัวสั่นเทาขณะะโ ฉู่หยวน คนผู้นี้ตระเตรียมที่จะลงมืออย่างเหี้ยมโหดกับเนี่ยหลี หากอาณาเขติญญาของเนี่ยหลีะเิ เนี่ยหลีคงต้องกลายเป็ขยะเป็แน่!
ขณะนี้เยี่ยจื่ออวิ๋นก็มีใบหน้าซีดขาวเช่นกัน แม้นางจะบอกว่าเนี่ยหลีสมควรถูกตี แต่ยามเมื่อเนี่ยหลีตกอยู่ในอันตรายจริงๆ นางยังคงเป็ห่วงยิ่งนัก แม้จะเป็เพียงความห่วงใยฉันท์เพื่อนก็ตามที
ด้วยพลังิญญาของฉู่หยวน ย่อมไม่พ้นที่จะสามารถบดขยี้เนี่ยหลีได้อย่างง่ายดาย
ฉู่หยวนจ้องเนี่ยหลีเขม็ง แล้วเนี่ยหลีจะทำเช่นไรเล่า? ไม่ว่าอย่างไรเนี่ยหลีก็เป็ฝ่ายท้าทายฉู่หยวนก่อน อย่างน้อยเขาก็น่าจะมีทางหนีทีไล่อยู่บ้างใช่หรือไม่?
ผู้คนรอบด้านพากันกลั้นหายใจจ้องมองเนี่ยหลี
เนี่ยหลีรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังิญญาที่โหมซัดเข้าใส่ ดวงตาทอประกายอย่างเ็า ก่อนหน้านี้เขาใช้อ่อนชนะแข็งมาโดยตลอด ใช้หนึ่งจุดทะลวงฝ่าผิวหน้าทำลายพลังิญญาของเสิ่นเยวี่ย นั่นเป็เพราะพลังิญญาของเสิ่นเยวี่ยแข็งแกร่งกว่าเขาแค่สองเท่า ตรงกันข้าม ฉู่หยวนมีพลังิญญาแข็งแกร่งกว่าเขาถึงสี่เท่า เกรงว่าการใช้หนึ่งจุดทะลวงฝ่าผิวหน้าคงไม่ได้ผลแล้ว
ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงสามดาวคนหนึ่ง การควบคุมพลังิญญาย่อมเทียบกับเสิ่นเยวี่ยไม่ได้
“ในเมื่อเ้าอยากทำลายอาณาเขติญญาของข้า เช่นนั้นก็เข้ามาเลย!” เนี่ยหลีส่งเสียงหึเ็า โอกาสและอันตรายย่อมอยู่ด้วยกันเสมอ
รับรู้ได้ถึงพลังิญญาของเนี่ยหลีที่หดถอยไปโดยไม่ต้านทาน ฉู่หยวนยิ้มอย่างเ็าในใจ “ข้าขอดูหน่อยซิว่าเ้ายังมีลูกเล่นอะไรอีก ตายเสียเถอะ!” พลังิญญาของฉู่หยวนพุ่งเข้าไปในอาณาเขติญญาของเนี่ยหลีโดยไม่ถูกขวางกั้น
ฟิ้ว! เนี่ยหลีผ่อนลมหายใจเย็นะเืออกมาครั้งหนึ่ง พลังิญญากลุ่มนั้นกำลังโหมกระหน่ำเข้าไปในอาณาเขติญญาของเขา แทบะเิทำลายอาณาเขติญญาของเขาแล้ว!
แม้เนี่ยหลีมีประสบการณ์นับไม่ถ้วนจากชีวิตหนก่อน ถึงอย่างไรก็เพิ่งเริ่มฝึกพลังิญญาใหม่เท่านั้น อาณาเขติญญายังเล็กนัก ไม่อาจฝืนทนต่อพลังิญญาจำนวนมากมายเช่นนี้ได้ อาณาเขติญญาเริ่มปริแตกเป็รอยๆ หนึ่งแล้ว
ความเ็ปรวดร้าวทำให้เนี่ยหลีใบหน้าซีดขาว ความเ็ปของอาณาเขติญญาที่ปริแตกมิใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทนทานรับได้
เนี่ยหลีท่องเคล็ดวิชาเทียนเต้าในปากขมุบขมิบไม่หยุด กระตุ้นให้พลังิญญาเข้าซ่อมแซมรอยปริแตกให้สมานตัว ป้องกันมิให้อาณาเขติญญาะเิออก
เห็นสีหน้าซีดขาวของเนี่ยหลี เม็ดเหงื่อกำลังหยาดหยดลงมาตามใบหน้า ฉู่หยวนแอบยินดีในใจ พลังิญญาเป็จุดอ่อนของเนี่ยหลี เพราะพลังิญญาของเนี่ยหลียังอ่อนด้อยเกินไป! เขาเร่งกระตุ้นพลังิญญาเข้ากระหน่ำโจมตีใส่อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีอย่างบ้าคลั่ง!
ะเิสิ!
หากอาณาเขติญญาของเนี่ยหลีะเิ เขาก็จะกลายเป็ขยะไร้ค่าคนหนึ่งจริงๆ!
คลื่นพลังิญญาระลอกหนึ่งพุ่งเข้าใส่อาณาเขติญญาของเนี่ยหลี ภายใต้การอัดเข้าไปของพลังิญญาชุดนี้ อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีก็เริ่มขยายตัวขึ้นทีละน้อยๆ แต่ละครั้งที่ขยายตัวขึ้น เนี่ยหลีต้องฝืนทนกับความเ็ปที่ยากจะจินตนาการถึงได้ ทุกครั้งที่รู้สึกว่าอาณาเขติญญากำลังจะะเิ แต่ด้วยเคล็ดวิชาเทียนเต้า อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีจึงยังสามารถยืนหยัดประคองตัวต่อไปได้
เมื่อใดที่ปริแตก เมื่อนั้นก็ซ่อมแซม
ภายใต้สภาพเ็ปทารุณเช่นนี้ พลังิญญาของเนี่ยหลีดุจดังกระแสน้ำสายหนึ่ง ค่อยๆ รวมตัวกัน ค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” ฉู่หยวนขมวดคิ้วมุ่น ทุกครั้งที่พลังิญญาของเขากำลังจะะเิอาณาเขติญญาของเนี่ยหลีได้ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเนี่ยหลีกลับสามารถฝืนประคองตัวไว้ได้ เขาไม่มีทางเลือกก็ได้แต่กระตุ้นพลังิญญาเข้าโจมตีใส่อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีต่อไป
ยังขาดอีกนิด ยังขาดอีกนิด...
แต่ทว่า ฉู่หยวนค่อยๆ พบว่าพลังิญญาของเขากำลังจะเหือดแห้งแล้ว แต่อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีกลับยังไม่ะเิเสียที
เหตุใดถึงเป็เช่นนี้?
เหตุใดเมื่อมันรับพลังิญญาทั้งหมดของเขาไปแล้ว อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีจึงยังไม่ะเิ?
เนี่ยหลียังทุกข์ทนอยู่กับความเ็ปรวดร้าวนั้น แต่ดวงตาของเขากลับค่อยๆ เจิดจ้าขึ้น เพราะในขณะที่อาณาเขติญญาของเขาขยายตัวขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ความเ็ปรวดร้าวเ่าั้ก็ค่อยๆ ลดลงไป
พลังิญญาเป็พลังที่ลึกลับอย่างหนึ่ง มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อฝึกยุทธ์ถึงระดับหนึ่งย่อมสามารถััได้ถึงความคงอยู่ของมัน
ตำนานกล่าวไว้ว่าพลังิญญาเป็ของขวัญจาก์!
เมื่อมีพลังิญญาที่แข็งกล้าก็สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ได้ และก้าวเข้าสู่เส้นทางของอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุด
ในร่างกายของทุกคนมีอาณาเขติญญาอยู่ลึกเข้าไปในจิตของตน เมื่อฝึกฝนพลังิญญา อาณาเขติญญาก็จะค่อยๆ ขยายตัวใหญ่ขึ้น
หากจำนวนพลังิญญาเพิ่มขึ้นจนเกินกว่าที่อาณาเขติญญาจะสามารถบรรจุเอาไว้ได้ อาณาเขติญญาย่อมะเิเสียหายขึ้นได้โดยง่าย
แต่นี่ก็เป็โอกาสอย่างหนึ่ง พลังิญญาของฉู่หยวนมิได้ะเิอาณาเขติญญาของเนี่ยหลี ตรงกันข้ามกลับช่วยส่งเสริมให้อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีขยายตัวขึ้น หลังจากที่รับพลังิญญาจำนวนมากมายเอาไว้ อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีก็ขยายใหญ่ขึ้นถึงสามสิบเท่า
“ในเมื่อมาแล้วก็อย่าได้คิดจากไป!” กลางดวงตาของเนี่ยหลีะเิแสงเจิดจ้าออกมาราวกับเทพ์ อาณาเขติญญาก็ค่อยๆ ปิดตัวลง
“ไม่ดีแล้ว!” ฉู่หยวนรู้สึกว่าอาณาเขติญญาของตนกำลังฉีกขาด เขาหวาดกลัวจนใบหน้าซีดเผือก จึงตัดสินใจรีบดึงพลังิญญาของตนกลับมา
เ้าเด็กนี่เป็สัตว์ประหลาดหรืออย่างไร! ธรรมดาแล้วต้องเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินหรือระดับทองขึ้นไปจึงจะมีความสามารถปิดอาณาเขติญญาของตนได้ ถึงเวลานั้น พวกเขาจึงจะสามารถผนึกจิตอสูรเอาไว้ในอาณาเขติญญาของตน แต่เนี่ยหลียังก้าวไม่ถึงระดับทองแดงด้วยซ้ำ กลับรู้จักวิธีปิดผนึกอาณาเขติญญาแล้ว!
เมื่อเนี่ยหลีปิดผนึกอาณาเขติญญาของตน ย่อมหมายความว่าพลังิญญาของฉู่หยวนจะถูกกักเอาไว้ภายในอาณาเขติญญาของเนี่ยหลี จากนั้นเนี่ยหลีจะสามารถค่อยๆ ดูดซับพลังิญญาของฉู่หยวนมาเป็ของตนได้!
พลังิญญาที่ต้องค่อยๆ สั่งสมด้วยความยากลำบากจากการฝึกยุทธ์กลับต้องกลายไปเป็ของผู้อื่น ไม่แปลกใจที่ฉู่หยวนจะใจนแทบจะบ้าตายแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้