อวี่เจียจับริมฝีปากที่แตกจนรู้สึกเจ็บขณะช้อนดวงตามองค้อนสามี ไม่รู้ว่าบุรุษผู้นี้ไปหิวกระหายการจุมพิตมาจากที่ใด หากนางไม่ร้องประท้วงว่าไม่สามารถทำต่อได้อีก ปากนางคงเปื่อยกับแตกไปมากกว่านี้เป็แน่
"ฮูหยิน" เหว่ยิแสร้งเป็มองผ่าน ทำเป็ไม่เห็นว่าหญิงสาวแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาเช่นไร เขายังคงเรียกหาเมื่อเห็นนางเงียบไป หลังจากเขายอมให้อภัยที่ถูกนางลวนลาม
"น้องอยู่นี่เ้าค่ะ"
"หากฮูหยินเหนื่อย เช่นนั้นคืนนี้เราก็เข้านอนกันเถอะ"
"เ้าค่ะ" น้ำเสียงละมุนพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนของสามี ทำให้หัวใจอวี่เจียอ่อนยวบ ไม่คิดเคืองโกรธเขาอีกที่ทำให้นางปากแตก
หญิงสาวทำหน้าที่ภรรยาที่ดีด้วยการช่วยสามีผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ แต่การเป็ภรรยาที่ดีของนาง กลับทำให้ตนเองต้องลำบากใจยิ่งนัก
ดวงตาเรียวได้แต่หรี่ไม่กล้ามองเรือนร่างสามีเต็มชัดสองตา เพราะเกรงกว่านางจะเผลอทำกิริยาน่าอายดั่งเช่นก่อนหน้าออกไปอีก
นางต้องอดกลั้นขณะช่วยชายหนุ่มสวมใส่เสื้อ กระทั่งผูกสายเชือกรัดไว้ให้เรียบร้อย ถึงได้พ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
อวี่เจียไม่คิดว่ารูปร่างสามีที่ภายนอกดูผอมบาง แต่ภายในกลับซุกซ่อน่อกกับหน้าท้อง ที่มีแต่มัดกล้ามเนื้อจนขึ้นรอนสวยเอาไว้ หากไม่เห็นกับตาว่าเขาเป็คนพิการสูญเสียการมองเห็น นางต้องคิดว่าเขาโกหกและฝึกยุทธอยู่ประจำเป็แน่
"ฮูหยิน"
"จะ เ้าคะ" อวี่เจียอดไม่ได้ที่จะตบหน้าตนเองแบบไม่มีเสียงอีกครั้ง ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่ทำกิริยาน่าอายออกไป แต่สุดท้ายนางก็ยังสลัดภาพมัดกล้ามเนื้อของสามีออกไปไม่ได้ จนเหม่อลอยสติไม่อยู่กับตัวอีกครั้ง
"ข้างนอกมีคน"
หญิงสาวมองไปทางด้านนอก ทั้งทางประตูและหน้าต่าง ก็พบเงาร่างคนอย่างที่บอกจริง ๆ นางจึงหันกลับมามองร่างสูงข้างกายอีกครั้งด้วยความสงสัย ว่าตาเขามองไม่เห็นแล้วเหตุใดถึงรู้ได้ว่าด้านนอกห้องมีคน
ก่อนนางจะเริ่มคาดเดาและหาคำตอบให้ตนเอง ว่าอาจเป็เพราะดวงตามองไม่เห็น เลยทำให้ประสาทรับรู้การได้ยินของเขาดีกว่านางก็เป็ได้
"เป็ใครหรือเ้าคะ" อวี่เจียมองแล้วไม่ใช่ไช่หย๋าสาวใช้ของนาง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็คนของจวนนี้
"คงเป็คนจากเรือนใหญ่ ส่งมาดูว่าเราเข้าหอเรียบร้อยดีหรือไม่ ได้กลับไปรายงานกับทางฮูหยินใหญ่" เหว่ยิบอกหญิงสาวไว้เพียงเท่านั้น ไม่บอกต่อถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของคนพวกนั้น ว่าคอยสอดแนมหน้าห้องหอเขาทำไม
"มีเช่นนี้ด้วยหรือเ้าคะ"
"หากคืนนี้พวกเขาไม่ได้ยินเสียงที่น่าพอใจจากพวกเรา ก็คงเฝ้าอยู่เช่นนี้ไม่ยอมจากไปไหน"
"เสียงหรือเ้าคะ"
"ร่วมเตียงวันเข้าหอ เกรงว่าฮูหยินคงเลี่ยงไม่ได้แล้ว" เหว่ยิยื่นมือไว้กลางอากาศ หลังหญิงสาวยื่นมือเล็กมากุมจับไว้ จึงทำท่าทีเต็มไปด้วยความลำบากใจ แสดงออกว่าเขาก็ไร้หนทางเลือกเหมือนกัน
ั์ตาสีนิลแสร้งมองผ่าน ทำเป็ไม่เห็นหัวคิ้วสวยที่ขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความครุ่นคิด เพื่อเขาจะได้ไม่เผลอหลุดหัวเราะให้นางจับผิดเอาได้
"ต้องทำจริง ๆ หรือเ้าคะ"
"หากฮูหยินไม่อยากฝืนใจทำก็ไม่เป็ไร พอรุ่งเช้าถึงขั้นตอนเก็บผ้าปูเตียง สามีจะกรีดเืทำตำหนิบนผ้าให้เอง" เหว่ยิตบหลังฝ่ามือเล็กเบา ๆ หมายว่านางไม่ต้องเป็กังวล เขาจะยอมเสียสละหยดเืเพื่อนางเอง
ดวงตาเรียวมองไปยังเงาด้านนอกที่ยังคงเอียงหูรอฟัง สลับกับฝ่ามือเรียวของสามีที่จับกุมมือนางไว้ ก่อนจะยืนเงียบจมอยู่ในความคิดของตนเอง
ถึงแม้จะไม่ได้รัก แต่ตอนนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านางกับเขาได้เป็สามีภรรยากันแล้ว จะช้าหรือเร็วสักวันหนึ่งการร่วมเสพสังวาสก็ต้องเกิดขึ้น ถ้าจะเป็วันนี้เลยก็คงไม่เป็ไร
และสิ่งสำคัญไปมากกว่านั้น
อวี่เจียทำใจไม่ได้ ที่จะเห็นมือเนียนสวยราวหยกของเขาต้องมีาแ
"ขอบคุณท่านพี่ที่คิดเผื่อน้อง ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็ทำกันเถอะเ้าค่ะ"
หลังเหว่ยิได้ยินคำตอบจากหญิงสาว แม้ภายนอกจะเต็มไปด้วยท่าทีลำบากใจ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ พร้อมสองเท้าเริ่มก้าวเดินไปในทิศทางเตียงนอน
เขาไม่ใช่บุรุษที่ชอบฉวยโอกาส แต่ตอนนี้นางเป็ภรรยาของเขาแล้วมิใช่หรือ การร่วมเตียงหลับนอน ก็นับว่าเป็เื่ปรกติที่สมควรทำ
อวี่เจียที่กำลังหัวใจเต้นระส่ำนึกถึงแต่เื่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ไม่ได้นึกสงสัยว่าเหตุใดคนตาบอด ถึงพานางเดินออกจากหลังฉากกั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า มายังเตียงนอนได้ราวกับตาเห็น
"ดะ เดี๋ยวก่อนเ้าค่ะ"
"ทำไม ฮูหยินจะเปลี่ยนใจ ใช้เืสามีแทนหรือ"
"ไม่ใช่เ้าค่ะ เราดับตะเกียงก่อนดีไหมเ้าคะ" แม้จะเคยเปลือยกายให้สาวใช้ดูแลยามอาบน้ำ แต่นางก็ยังไม่ใจกล้าพอ ที่จะเปลื้องผ้าให้สามีที่เพิ่งพบหน้าเห็นทามกลางแสงไฟสว่างโล่เช่นนี้
"ฮูหยิน ลืมไปแล้วหรือว่า....."
อวี่เจียยกมือขึ้นตีปากตนเองอย่างไร้เสียงทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสามีของนางเป็คนตาบอด ไม่ว่าแสงไฟจะสว่างเพียงใด เขาก็ไม่อาจมองเห็นได้
"ขออภัยเ้าค่ะ เช่นนั้นให้น้องถอดเสื้อผ้าออกก่อนนะเ้าคะ" แม้จะรู้ว่าสามีมองไม่เห็น แต่อย่างไรอวี่เจียก็ยังเต็มไปด้วยความกระดากอายอยู่ดี นางจึงเลือกเดินกลับไปถอดอาภรณ์ที่หลังฉากกั้นแทนที่จะถอดต่อหน้าสามี
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ระหว่างเตรียมเดินเปลือยกายกลับมายังเตียงนอน แต่นางยังไม่ทันได้ก้าวเท้าพ้นหลังฉากกั้น อยู่ ๆ แสงไฟในห้องก็ดับพรึบลงพร้อมกัน ก่อนจะติดขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ทำให้นางจำต้องรีบคว้าขอบฉากกั้นเป็ที่ยึดไม่ให้ล้ม เพราะดวงตาปรับรับแสงไม่ทัน
"ท่านพี่ เกิดอันใดขึ้นเ้าคะ"
"เกิดอะไรขึ้นหรือ" เหว่ยิยังคงแสร้งเป็คนตาบอดได้อย่างแเี เพราะเขาที่มองไม่เห็นอยู่แล้วย่อมไม่รู้อย่างแน่นอน ว่าเมื่อครู่ไฟทั้งห้องดับและติดขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ทั้งหมดจะเป็ฝีมือเขาก็ตาม
ชายหนุ่มนั่งมองร่างบางอยู่ตลอด มองเงาที่สะท้อนผ่านหลังฉากกั้น มองสัดส่วนโค้งเว้าได้รูป จนกระทั่งได้ยินเสียงกลืนน้ำลายบางเบาที่ดังขึ้นพร้อมกัน
เขาจำต้องรีบดับไฟตะเกียงทันทีก่อนหญิงสาวจะเดินออกมา และจุดมันขึ้นอีกครั้งหลังมั่นใจว่าภายในห้องมีเพียงเขากับนางสองคนเท่านั้น
มู่อวี่เจียเป็ภรรยาของเขา นั่นหมายความว่าเรือนกายของนาง ต้องมีเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่สามารถมองเห็นและได้
"ไม่มีอันใดเ้าค่ะ"
เหว่ยิมองร่างบางที่เต็มไปด้วยความมึนงงด้วยความเอ็นดู ก่อนจะรู้สึกลำคอแห้งผาก แต่ไม่อาจกลืนน้ำลายลงคอได้ เพราะไม่อย่างนั้นหญิงสาวอาจสงสัยได้ว่าเขาเป็อันใด
ชายหนุ่มพยายามไม่ให้ตนเองส่อพิรุธต่อเรือนร่างเย้ายวนตรงหน้า แม้เืลมภายในกายกำลังพลุ่งพล่านอย่างไม่เคยเป็
ไม่ใช่เขาไม่เคยเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของสตรีมาก่อน แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีสตรีใด ทำให้จิตใจเขาคลุ้มคลั่งได้เท่านางมาก่อน
"ท่านพี่ น้องพร้อมแล้วเ้าค่ะ"
