“นายจะไม่เสียใจทีหลังแน่นะ?” หนานกงเสี่ยวเอ่ยถามฉินโจ้ว การมายังหมู่บ้านเริ่มต้นที่ 368 นี้ แม้ว่าผลตอบแทนจะสูง แต่ก็ต้องเสียเวลาไม่น้อยบางครั้งเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงหรือแม้แต่นาทีเดียวก็อาจเกิดเื่ไม่คาดฝันขึ้นได้
“คิดมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว” ฉินโจ้วตอบ ทั้งความแข็งแกร่งทั้งเงินเขาล้วน้าแต่เขาไม่อาจคิดไปไกลขนาดนั้นได้ เขาเพียงต่อสู้เพื่อไขว่คว้าโอกาสที่มีอยู่ไว้ในเมื่อมีข้อมูลที่ท่านผู้ใหญ่บ้านมอบให้มา ย่อมคว้าเงินมาได้อย่างแน่นอนส่วนตำแหน่งคนแรกของเลเวล 10 มันค่อนข้างเลื่อนลอยกว่าไม่ใช่ว่าทุ่มเทความพยายามแล้วก็จะคว้ามาได้บางครั้งก็จำเป็ต้องอาศัยโชคช่วยด้วยอย่างหนึ่ง
“ตามผมไปก็รังแต่จะเสียเวลาเธอเปล่าๆเธอไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” ฉินโจ้วถามกลับ
“ฉันอยากลงทุนน่ะ” หนานกงเสี่ยวหัวเราะฮิๆ ราวกับนางจิ้งจอกน้อย
“เงินเยอะกว่าผมไม่ยอมนะ” ฉินโจ้วพูดหน้าตาเฉย แต่สุดท้ายก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
“ฉันไม่ได้มีเงินเยอะเหมือนนายหรอกน่า” หนานกงเสี่ยวเดินตามหลังเขามา เธอมุบมิบเบาๆ “นายไม่ให้ฉันลงทุนคิดว่าฉันทำเองไม่เป็หรือไง ฮึ...”
ฉินโจ้วไม่ใส่ใจอีก เขาแอบคิด แล้วเธอมีแหวนมิติหรือเปล่าล่ะ?
อ่านหนังสือมานับหมื่นเล่ม เดินทางมานับหมื่นลี้ประโยคนี้นับว่ามีเหตุผลทีเดียว
ผู้เล่นสายดำรงชีพในหมู่บ้านเริ่มต้นที่ 368 เยอะมาก มีราวๆ 40% ของจำนวนผู้เล่นทั้งหมดในหมู่บ้านเห็นจะได้ และอาชีพขุดเหมืองก็เป็อาชีพถึงครึ่งหนึ่งของผู้เล่นสายดำรงชีพตรงหน้าเต็มไปด้วยผู้เล่นที่กำลังขุดสินแร่แต่ละคนพอกระเป๋าเก็บของมีสินแร่เต็มแล้ว จึงต้องแบกสินแร่ไว้บนไหล่เพิ่มไม่ใช่เพื่อให้บุคลิกดูโดดเด่นอะไรหรอก แต่เพื่อประหยัดพื้นที่การเลือกชื่อก็น่าสนใจไม่เบา มีทั้ง ‘คนขุดเหมืองน้อย’ ‘ฉันคือนักขุดเหมือง’ ฉันคือชาวนานักขุดเหมือง’ ‘ฉันคือชาวนานักขุดเหมืองรุ่นใหม่’ ...ราวกับว่าถ้าไม่เติมคำว่าคนขุดเหมืองสามคำนี้จะไม่ได้โชว์ความเป็อาชีพอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาอย่างนั้นแหละ
อาจเป็เพราะมีสินแร่มากล้นหมู่บ้านเริ่มต้นที่ 368 จึงมีอุปกรณ์พิเศษอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือหีบสมบัติภายในหีบเป็มิติช่องว่างขนาด 500 หน่วยพูดให้ชัดก็คือเป็โกดังเก็บของฉบับพกพาขนาดเล็กอย่างหนึ่งสามารถใช้คู่กับถุงเก็บสมบัติได้
ครู่หนึ่งฉินโจ้วสอบถามราคาสินแร่ในร้านทันทีเวลานี้สินแร่ที่มีผลผลิตมากที่สุดคือแร่เหล็ก ถัดไปคือทองแดงส่วนผลผลิตของสินแร่ชนิดอื่นๆ มีน้อยเสียจนไม่เหมาะกับการลงทุน แร่เหล็ก : ระดับต้น : 3 เหรียญทองแดง ระดับกลาง :11 เหรียญทองแดง ระดับสูง : 40 เหรียญทองแดง ชั้นเยี่ยม : 180 เหรียญทองแดงแร่ทองแดงระดับต้น : 4 เหรียญทองแดง ระดับกลาง :15 เหรียญทองแดง ระดับสูง : 49 เหรียญทองแดงชั้นเยี่ยม : 200 เหรียญทองแดงโดยทั่วไปมีราคาต่ำกว่าตลาดที่อื่นราวเปอร์เซ็นต์
แต่ฉินโจ้วยังคงตัดสินใจพาหนานกงเสี่ยวตรงไปยังเหมืองแร่เพื่อรับสินค้าโดยตรงเช่นนั้นต้นทุนก็จะต่ำลงไปได้อีกไม่น้อยชาวเหมืองก็ประหยัดเวลาเดินทางไปกลับเพื่อส่งสินค้าคนส่วนใหญ่จึงยินดีขายให้ในราคาที่ต่ำกว่าขายให้ร้านเล็กน้อย
ฉินโจ้วหัวแหลมนักเขาให้หนานกงเสี่ยวเป็คนป่าวประกาศสุดท้ายความสวยของสาวงามก็สำแดงผลออกมาอย่างยอดเยี่ยมหนานกงเสี่ยวเพิ่งะโออกไปแค่คำเดียว คำที่สองยังไม่ทันออกจากปากพวกผู้เล่นที่ขายสินแร่ก็เข้ามารุมล้อมทั้งสองคนจนแน่นขนัดขนาดแทบไม่เหลือช่องว่างให้น้ำสักหยดแทรกเข้ามาได้ ที่สำคัญที่สุดคือยังไม่ทันได้ตกลงราคาเลยด้วยซ้ำ ต้องทราบก่อนว่าราคาที่พวกฉินโจ้วป่าวประกาศนั้นต่ำกว่าราคาที่ร้าน 1 เหรียญทองแดงราคาของสินแร่ระดับสูงยิ่งต่ำกว่าในร้านเกือบ 10 เหรียญทองแดง
ราวครึ่งชั่วโมงก็ใช้เงิน 5,500 เหรียญทองจนหมดจำนวนนี้เป็เงินที่ฉินโจ้วลงทุน 5,000 เหรียญทองหนานกงเสี่ยวลงทุน 500 เหรียญทอง เท่ากับจำนวนราว 10% ของหุ้นทั้งหมดได้แร่เหล็กระดับต้นมา 20 ล้านก้อนระดับกลาง 5 แสนก้อน ระดับสูง 2 หมื่นก้อน ชั้นเยี่ยม 2,000 ก้อน ได้แร่ทองแดงระดับต้น 8 ล้านก้อนระดับกลาง 3 แสนก้อน ระดับสูง 1,000 ก้อน ชั้นเยี่ยม 1,112 ก้อน ฉินโจ้วคำนวณอยู่ในใจครู่หนึ่ง สินแร่ระดับสูงมีกำไรค่อนข้างมากแต่เสียดายว่ามีจำนวนน้อยเกินไป
ทั้งสองออกจากเหมืองแร่และมุ่งตรงไปยังจุดวาร์ป
หมู่บ้านเริ่มต้นที่ 666 ร้านตีเหล็ก
“นายช่าง พวกเรา้าขายแร่” ยังไม่ทันถึงหน้าประตูดี หนานกงเสี่ยวก็เริ่มส่งเสียงแล้ว ท่าทางเธอตื่นเต้นสุดๆเดาว่าั้แ่เกิดมาคงไม่เคยพูดเสียงดังขนาดนี้มาก่อนแน่
“แร่เหล็กระดับต้น : 7 เหรียญทองแดง ระดับกลาง : 18 เหรียญทองแดงระดับสูง : 55 เหรียญทองแดง ชั้นเยี่ยม : 210 เหรียญทองแดง แร่ทองแดงระดับต้น :9 เหรียญทองแดง ระดับกลาง : 21 เหรียญทองแดง ระดับสูง : 60 เหรียญทองแดง ชั้นเยี่ยม :230 เหรียญทองแดง เมื่อช่างเหล็กได้ยินว่ามีคน้าขายแร่สีหน้าท่าทางดูตื่นเต้นมาก เขารีบบอกราคาออกมาอย่างเร็วใบหน้าบึ้งตึงปานเหล็กก็คลี่ยิ้มออกมาราวกับหญ้าหางหมาขาวทีเดียว
หนานกงเสี่ยวแอบเปรียบเทียบอยู่ในใจครู่หนึ่งนี่สูงกว่าราคาทั่วไปราว 2-3 เท่าทีเดียวสองตาของเธอเป็ประกายขึ้นอย่างรวดเร็ว ดันแขนของฉินโจ้วทีหนึ่งและพูดเร่งขึ้น “เร็วๆ สิ”
ฉินโจ้วก็ร้อนรนใจไม่น้อยแต่สีหน้ายังคงสงบเป็ปกติขณะลอบคิดว่าที่แท้สาวน้อยคนนี้ก็งกเงินยิ่งกว่าตนเสียอีก ทำการค้ากับระบบนับว่าเป็เื่ง่ายไม่ซับซ้อนอย่างไรเสียก็มีแค่โต้ตอบกันครู่เดียว เมื่อสินแร่ในแหวนมิติหายลับไปเงินในบัญชีก็เพิ่มขึ้นมาอีก 15,968 เหรียญทอง
“ขอบคุณผู้กล้าพเนจรทั้งสองที่ช่วยส่งสินแร่มาให้หมู่บ้านเรามากมายถึงเพียงนี้ช่วยแก้ปัญหาความ้าเร่งด่วนในหมู่บ้านเราพอดีแต่หากส่งสินแร่มากกว่านี้สามเท่า จะได้รับรางวัลจากทางหมู่บ้านเราด้วยนะ” ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเริ่มต้นที่ 666 มาอยู่ข้างหลังคนทั้งสองั้แ่เมื่อไรเขากล่าวขอบคุณคนทั้งสองอย่างสุดซึ้ง
ช่างสมกับเป็ผู้ใหญ่บ้านจริงๆข่าวสารช่างรวดเร็วนัก แถมยังไปมาราวภูตผี
“รู้สึกเป็เกียรติยิ่งพวกเราคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้ใหญ่บ้านอุทิศเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยเพื่อหมู่บ้านถือเป็หน้าที่อันพึงกระทำของพวกเราท่านผู้ใหญ่บ้านโปรดวางใจ พวกเราไปครู่เดียวก็จะกลับมา” เป็เื่น่ายินดีอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ เื่แบบนี้ยิ่งมากก็ยิ่งดี
“ข้าจะรอฟังข่าวจากทั้งสองท่านอยู่ที่นี่นะ” ผู้ใหญ่บ้านตอบ
ฉินโจ้วกับหนานกงเสี่ยวไม่ลังเลวิ่งกลับไปถึงหมู่บ้านเริ่มต้นที่ 368 อีกครั้งอย่างไม่หยุดพัก เปลี่ยนไปยังเหมืองแร่อีกแห่งเป็หนานกงเสี่ยวออกหน้าเช่นเดิมเธอส่งเสียงะโออกไปคำหนึ่งก็มีชาวเหมืองถูกดึงความสนใจเข้ามาหานับไม่ถ้วนชุลมุนวุ่นวายถึงระดับที่ทำให้นึกถึงเวลาป้าๆ ทั้งหลายต่อราคาตอนช้อปปิ้งพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ก็มีเวลาที่แออัดกับเขาได้เหมือนกันกระทั่งถึงเวลาที่ใช้เหรียญทองจนหมด แหวนมิติของฉินโจ้วก็เต็มพอดีเช่นกันพอเห็นหนานกงเสี่ยวยังใส่สินแร่ลงไปในถุงใส่ของขนาด 20 หน่วยของเธอ สีหน้าของฉินโจ้วก็ดำคล้ำขึ้นทันที
ผมว่าคนสวย คุณเป็โจวปาผี กลับชาติมาเกิดหรือเปล่า?
ฉินโจ้วไม่สนใจความดื้อดึงของหนานกงเสี่ยวเขาคว้ามือน้อยๆ ของเธอได้ก็เดินเบียดผู้คนออกมา แล้วก็รีบจากไปด้านหลังเป็ผู้เล่นที่กำลังเสียสติวิ่งไล่ตามมา
กลับมาถึงหมู่บ้านเริ่มต้นที่ 666 อีกครั้งยังเป็ร้านตีเหล็กเดิม และเป็ช่างตีเหล็กผู้นั้น การค้าเสร็จสิ้นเงินในบัญชีของฉินโจ้วก็กลายเป็ 46,894 เหรียญทองในพริบตาสองคนราวกับได้ลิ้มรสน้ำผึ้งหวานหอมอย่างไรอย่างนั้น หน้าบานตาหยีด้วยความดีใจเงินไหลมาเทมาอย่างกับน้ำหลาก เห็นอยู่กับตา ความหวานชื่นก็อยู่กับใจ
“ผู้กล้าพเนจรทั้งสองท่านช่างเป็ผู้ที่เชื่อถือได้ยิ่งนักเที่ยงตรงเช่นนี้ ข้าขอเป็ตัวแทนท่านผู้ใหญ่บ้านกล่าวคำขอบคุณต่อท่านทั้งสองขอจดจำไว้ในใจตลอดไป” ลูกบ้านสีหน้าเต็มไปด้วยความขอบคุณขณะพูด
“มิได้ มิได้การช่วยแก้ไขปัญหาเป็หน้าที่ของพวกเรา ไม่สมควรได้รับการขอบคุณถึงเพียงนี้” ฉินโจ้วรีบตอบออกไปแบบนั้น แต่ในใจกลับพูดว่า ‘อย่ามัวพูดไร้สาระน่ารีบๆ เข้าประเด็นได้แล้ว’ สองคนรู้จักกันมาได้พักหนึ่งแล้วมองจากสีหน้า หนานกงเสี่ยวก็ดูออกแล้วว่า ฉินโจ้วกำลังเสแสร้งเจรจา ช่างปากไม่ตรงกับใจสักนิด ในใจของเธอแอบหัวเราะผู้ใหญ่บ้านคนนี้ก็โง่จริง หรือมองไม่ออกว่าสิ่งที่ฉินโจ้วคิดถึงคือรางวัลนั่นต่างหาก
“เพื่อเป็การขอบคุณข้าจะขอมอบเทคนิคการหล่อเล่มหนึ่งเป็ของขวัญแก่ท่านทั้งสอง” สิ้นเสียงของผู้ใหญ่บ้าน ฉินโจ้วกับหนานกงเสี่ยวต่างก็หน้าเปลี่ยนสีทันทีฉินโจ้วยังดี แต่หลักๆ คือหนานกงเสี่ยว เ้าหล่อนชักสีหน้า คุณคิดว่าสาวน้อยอย่างฉันจะเอาเทคนิคการหล่อไปทำไมกัน ไม่ใช่ว่าฉันช่างคัดช่างค้านอะไรหรอกนะหรือหน้าตาของฉันดูเหมือนพวกแรงเยอะหรืออย่างไร? ที่รับไม่ได้ที่สุดคือหนังสือเทคนิคการหล่อนี้เมื่ออยู่ในมือของมือใหม่ก็กลับกลายเป็ของประหลาดแต่หลังจากคิดไปสิบตลบ มันสามารถเอาไปขายที่ร้านหนังสือร้านไหนก็ได้อย่างมากเล่มละ 10 เหรียญทอง เงิน 10 เหรียญทอง สำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ อาจเป็จำนวนที่ไม่น้อย แต่สำหรับทั้งสองคนกลับไม่พอให้ชายตาแล
แม้ผู้ใหญ่บ้านจะแก่เฒ่า แต่สายตายังดีอยู่ สังเกตได้ว่าสีหน้าของคนทั้งสองไม่ค่อยสู้ดีนักจึงรีบพูดต่อว่า “นี่เป็สิ่งตอบแทนตามแผนเดิมเท่านั้นแต่ข้าเห็นว่าท่านทั้งสองถือคุณธรรมเป็หน้าที่ หนังสือเทคนิคสองเล่มนี้คงไม่จำเป็ดังนั้นหนังสือเทคนิคจึงเปลี่ยนเป็บัตรลดครึ่งราคา 1 ใบ”
แค่ครั้งเดียว! ฉินโจ้วเบ้ปากแล้วเบ้ปากอีกรับบัตรลดราคามาอย่างเสียไม่ได้และแอบคิด ‘ผมได้รับสิทธิ์พิเศษตลอดชีพจากหมู่บ้านเริ่มต้นที่ 888 อยู่แล้วน่า’ หนานกงเสี่ยวก็ทำหน้าไม่ชอบใจอยู่เช่นกันใบหน้ารูปไข่จิ้มลิ้มกำลังยับย่นราวกับมีใครมาแย่งของรักของหวงของเธอไปก็ไม่ปาน
“ค่าชื่อเสียง :+30” ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยต่อไป
สองคนไม่พูดไม่จา
“เอาล่ะ ค่าชื่อเสียง :+50 ข้ามีสิทธิ์เพิ่มได้ถึงแค่ 50 แต้มเท่านั้น” ผู้ใหญ่บ้านพูด
สีหน้าของคนทั้งสองนิ่งสนิทในใจครุ่นคิด ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ขี้เหนียวจริงๆพูดมาตั้งนานก็ไม่เห็นมีอะไรเข้าท่าสักอย่าง ใจกว้างๆ หน่อยน่าทำไมใจกว้างอีกสักนิดก็ไม่ได้
ผู้ใหญ่บ้านกัดฟันกรอดๆล้วงแหวนออกมาจากอกเสื้อวงหนึ่งและพูดว่า “แหวนวงนี้มีพื้นที่เก็บของ 1,000 หน่วย ข้า...”
“ขอบคุณท่านผู้ใหญ่บ้าน” หนานกงเสี่ยวยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแลบคว้าแหวนวงนั้นมาไว้ในกำมือ ยิ้มแย้มอย่างกับดอกไม้บาน ไวเสียจนผู้ใหญ่บ้านไม่ทันตั้งตัว
“เอ่อ...” ผู้ใหญ่บ้านสะดุ้งเฮือกเดาว่าชาตินี้คงยังไม่เคยเห็นใครหน้าเปลี่ยนสีได้รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนกระมังครั้นเห็นฉินโจ้วกำลังใช้สายตากดดันจ้องเขาเขม็ง จนต้องซับเหงื่อบนหน้าผากจากนั้นจึงล้วงชิ้นส่วนของแผนที่ออกมาอีกชิ้น โยนให้ฉินโจ้วและพูดขึ้นว่า “นี่เป็ของที่ข้าได้มาสมัยออกท่องแผ่นดินใหญ่ตอนหนุ่มๆถึงข้าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ต้องเป็ของล้ำค่าอย่างแน่นอนรางวัลทั้งหมดคือของเหล่านี้แล้ว ข้ายังมีธุระยุ่งอยู่ ต้องขอตัวกลับก่อนผู้กล้าพเนจรทั้งสองท่านโปรดอภัยที่ไม่อาจส่งได้” พูดเสร็จก็หายลับไปอย่างรวดเร็วราวกับหมอกควันราวกับกลัวว่าพวกฉินโจ้วจะรั้งไว้ ท่าทีที่รวดเร็วนั้นไม่ได้บอกเลยสักนิดว่าเป็คนวัยชรา
ช่างไม่รู้อะไรเสียเลยในใจของฉินโจ้วลิงโลดั้แ่ตอนที่ผู้ใหญ่บ้านล้วงเอาแผนที่ชิ้นนี้ออกมาแล้ว มองปราดเดียวเขาก็รู้แล้วว่ามันเป็วัสดุแบบเดียวกับชิ้นส่วนแผนที่ที่เขามีอยู่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งไม่นาน ชิ้นส่วนแผนที่แผ่นที่สองก็มาถึงมือ ถ้าเร็วแบบนี้ชิ้นส่วนแผนที่แผ่นที่สามคงโผล่ออกมาเร็วๆ นี้แน่เวลานี้เขาค่อนข้างคันไม้คันมืออยากรู้ว่าของลึกลับที่แผนที่บ่งชี้จะเป็อะไรถ้าเป็สมบัติล้ำค่าของั นั่นก็คงยอดไปเลยได้ยินมาว่าัทางทิศตะวันตกมีนิสัยชอบสะสมของล้ำค่า...
“ยินดีด้วยที่ได้แผนที่แผ่นที่สองไม่ไกลจากการไขปริศนาแล้ว” หนานกงเสี่ยวแสดงความยินดีกับฉินโจ้ว
“ดูจากสีหน้าอย่างกับได้กินน้ำผึ้งของเธอคุณสมบัติของแหวนคงไม่เลวละสิ”
“บวกพลังชีวิต 200 แต้ม แถมยังมีพื้นที่ใหญ่อย่างที่ฉันชอบต่อไปเวลาฉันซื้อของก็ไม่ต้องกังวลว่าที่เก็บของจะเต็มแล้ว” หนานกงเสี่ยวยิ้มราวกับดอกไม้บาน
“อยากวิ่งอีกสักรอบไหมล่ะ?” ฉินโจ้วเอ่ยถาม
“อื้มๆ ต้องวิ่งอีก” หนานกงเสี่ยวพยักหน้าราวกับลูกไก่น้อยจิกข้าวสาร
“ผมจะไปส่งจดหมายเธอลองไปสอบถามของที่ราคาถูกที่สุดที่นี่ดู อีกหนึ่งชั่วโมงค่อยมาเจอกันตรงนี้โอเคไหม?”
“โอเค” หนานกงเสี่ยวพยักหน้าตอบ
“ไปเลย”
เขาสอบถามพวกผู้เล่นที่รู้จักบ้านของเฉียนเลี่ยฮู่จากนั้นวิ่งไปดู ในบ้านไม่มีคนอยู่วิ่งพล่านไปครึ่งหมู่บ้านจึงได้พบเฉียนเลี่ยฮู่ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งเขาดื่มจนเมามาย ที่แท้ชีวิตของเฉียนเลี่ยฮู่ใน่นี้ไม่เป็อย่างหวังกำลังอาศัยเหล้าดับทุกข์ คิดไม่ถึงว่าทุกข์ยังไม่ทันจาง คนก็ล้มแล้วฉินโจ้วคร้านที่จะเปลืองคำพูดกับเขา จึงราดน้ำเย็นลงไปกระบวยหนึ่งเฉียนเลี่ยฮู่เด้งตัวลุกขึ้นพรวด จ้องฉินโจ้วเขม็ง โดยไม่รอให้เขาอ้าปากด่าฉินโจ้วก็รีบชูจดหมายถึงตรงหน้าเขา อย่ามองว่าเฉียนเลี่ยฮู่เป็แค่เลี่ยฮู่คนห่วยเขากลับรู้หนังสือ แถมสายตาก็ดีสุดขีด แค่ชำเลืองดูทีเดียวก็เห็นลายมือที่เขียนอยู่บนจดหมายได้อย่างชัดเจนสีหน้าโมโหเปลี่ยนเป็แปลกใจระคนดีใจทันที กำมือคำนับต่อฉินโจ้วและพูดว่า “ลำบากท่านผู้กล้าพเนจรแล้วโปรดส่งเชือกปอนี้ให้เ้าเฒ่าคนตัดฟืนนั่นโดยด่วนด้วยเถิด”
ฉินโจ้วรับเชือกปอที่เฉียนเลี่ยฮู่ปลดจากเอวมาให้จมูกได้กลิ่นเหล้าผสมกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ดูท่าจะเป็ของร้อนเขารีบโยนเชือกปอเข้าไปในแหวนมิติ จากนั้นเอ่ยปากลาและรีบจากไปไม่อยากอยู่ต่อแม้อีกเพียงครู่เดียว โชคดีที่ความเร็วของฉินโจ้วก็ไม่ต่ำนักจึงมาถึงจุดนัดพบได้ภายในหนึ่งชั่วโมงอย่างเฉียดฉิว มองเห็นเงาร่างงดงามของหนานกงเสี่ยวแต่ไกลถูกห้อมล้อมด้วยผู้เล่นหลายคนที่กำลังชวนคุย ในใจของเขาร่ำร้องด้วยความละอายใจรู้สึกว่าทุกครั้งเอาแต่ทำให้สาวน้อยต้องเป็ฝ่ายรอตน นิสัยแบบนี้ต้องแก้ไขให้ได้
“นายมาแล้ว” พอเห็นฉินโจ้วมาถึง หนานกงเสี่ยวผู้ขาดความอดทนซึ่งถูกผู้เล่นหลายคนตามรบกวนอยู่จึงรีบวิ่งมาหลบอยู่หลังฉินโจ้วผู้เล่นพวกนั้นนึกว่าแฟนของหนานกงเสี่ยวมาถึงแล้ว จึงไม่กล้าหุนหันพลันแล่นต่างรีบจากไป
“ทำให้เธอรอนานอีกแล้วสิ” ฉินโจ้วพูดอย่างรู้สึกเกรงใจ
หนานกงเสี่ยวคลี่ยิ้มหวานออกมา ตอบอย่างไม่ใส่ใจ“สอบถามมาอย่างชัดเจนแล้วนะยามีราคาต่ำที่สุด ไม่แค่ไม่ขึ้นราคา แถมยังถูกกว่าอีกด้วย เพิ่งขวดละ 100 เหรียญทองแดง ระดับการฟื้นฟูกำลังก็สูง ตอนนี้ร้านขายยาน่าจะยังเหลืออยู่ 4 แสนขวด อ้อ...อีกอย่าง ในร้านยังมียาน้ำเงินสำหรับฟื้นฟูพลังจิตขายด้วยราคายิ่งถูกกว่าอีก แค่ขวดละ 80 เหรียญทองแดงแต่มีจำนวนน้อยกว่าหน่อย แค่ขวดเท่านั้น”
“ไปกันเถอะ” พอได้ยินราคา ลูกตาของฉินโจ้วก็หรี่ลงแทบเป็เส้นตรงแล้ว นี่สินะกำลังจะรวยเละจริงๆ ์เมตตาแล้ว เขาอ้าปากแล้วอ้าปากอีกแต่กลับพบว่าไม่รู้จะใช้ภาษาอะไรมาอธิบายอารมณ์ความรู้สึกของตนในตอนนี้ดีสุดท้ายจึงไม่พูดพร่ำอะไรอีก ทั้งสองมาถึงร้านขายยาอย่างรวดเร็ว ยาแดง 4 แสนขวด รวมถึงยาน้ำเงิน 5 หมื่นขวด ถูกกวาดเรียบทั้งหมด 4,400 เหรียญทอง หลังจากลดราคาแล้วก็เหลือ 2,200 เหรียญทองแดง ถ้าผู้ใหญ่บ้านรู้ว่าพวกเขาสองคนมีทุนมากขนาดนี้ให้ตายเขาก็คงไม่ควักบัตรส่วนลดออกมาให้ทำให้ผู้เล่นที่อยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นต้องตกอยู่ในสภาพขาดแคลนยาไปอีกถึงสามชั่วโมง
หมู่บ้านเริ่มต้นที่ 888
“ท่านผู้ใหญ่บ้านผู้น้อยโชคดีไม่ทำให้ภารกิจล้มเหลวนำจดหมายส่งถึงมือท่านเฉียนเลี่ยฮู่เรียบร้อยแล้ว” ฉินโจ้วนำเชือกปอออกมาส่งให้คนตัดฟืนเฒ่า
ติ๊ง! ระบบแจ้งเตือน ขอแสดงความยินดีด้วย ผู้เล่นฉินโจ้วทำภารกิจส่งจดหมายสำเร็จรางวัลค่าประสบการณ์ : +150 ค่าชื่อเสียง :+10 รางวัลยาพิษ 1 ขวด เงิน : +5 เหรียญทอง
หลังจากที่คนตัดฟืนเฒ่าได้ขึ้นเป็ผู้ใหญ่บ้าน ก็เปลี่ยนเป็ใจกว้างขึ้นคิดไม่ถึงว่าจะตกรางวัลให้ถึง 5 เหรียญใหญ่
น้ำเปลี่ยนโลหิต : ยาพิษระดับกลาง ไร้สีไร้กลิ่น วิธีใช้ : ทาบนอาวุธส่งผลขณะแทงใส่ร่างของศัตรู ประสิทธิภาพ : เืลดลง 80 แต้มในทุกวินาที ระยะเวลาออกฤทธิ์ 2 นาทีหมายเหตุ : ไม่มีผลต่อรูปธรรมชีวิตที่มีแต่โครงกระดูกไม่มีเืเนื้อ
“ดีๆผู้กล้าน้อยยังคงกล้าหาญเที่ยงธรรมเหมือนเดิม เห็นคนลำบากก็รีบเข้าช่วยเหลือ ข้าล่ะอยากเรียกพวกหนุ่มสาวทั้งหมู่บ้านมาเรียนรู้จากผู้กล้าน้อยเสียจริงสืบทอดคุณงามความดีเช่นนี้ต่อไป ให้ชนรุ่นหลังไม่หลงลืมคุณธรรมเช่นนี้” ผู้ใหญ่บ้านใช้สองมือกำเชือกปอไว้แน่น ราวกับกำลังกำสมบัติล้ำค่าสุดสำคัญชิ้นหนึ่งพูดกับฉินโจ้วอย่างเคร่งเครียดจริงจังเป็ที่สุด
ฉินโจ้วเหงื่อแตกพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งจากนั้นจึงรีบตอบ “ท่านผู้ใหญ่บ้านกล่าวเกินไปแล้วผู้น้อยยังมีธุระสำคัญอยู่ ต้องขออำลาไปก่อน วันหน้าค่อยมาสนทนากันใหม่เถิด”หนานกงเสี่ยวแอบหัวเราะคิกคักอยู่ด้านหนึ่งตาเฒ่าคนนี้คุยฟุ้งเก่งเหลือเกินจริงๆ
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ข้าก็ไม่เหนี่ยวรั้งผู้กล้าน้อยแล้ว” ผู้ใหญ่บ้านมีความรู้สึกดีต่อฉินโจ้วอย่างยิ่งเดินมาส่งถึงหน้าประตู
“พี่เงินการค้ามาถึงหน้าประตูแล้ว รีบมาเร็วเข้า” ฉินโจ้วเรียกคุณเงินเยอะเยอะห้านาทีต่อมา เงินเยอะเยอะก็โผล่มาถึงตรงหน้าฉินโจ้ว ฮึ... ก็แค่ความเร็วสุดๆเท่านั้น ต่อให้ฉินโจ้วลงแส้เฆี่ยนม้าก็ยังไล่ตามไม่ทัน
“ยาแดง 400,000 ขวด จะรับหรือเปล่า? นี่เป็การค้าครั้งสุดท้ายแล้ว” ฉินโจ้วพูด ส่วนยาน้ำเงิน เขาวางแผนว่าจะเก็บไว้ขายทีหลังตอนนี้ยังไม่เป็ที่้าของตลาด พวกนักเวทต่างใช้มีดใช้ดาบโจมตีแทนมีใครใช้พลังจิตที่ไหนกัน ช่วยไม่ได้ นักเวทก่อนเลเวล 10 ต่างก็ยังเรียนรู้เวทมนตร์ไม่ได้ พลังจิตจึงเป็แค่ของเสียเปล่าเท่านั้นเพราะฉะนั้นต่อให้ยาน้ำเงินมีราคาถูกลง ก็ไม่มีผู้เล่นยอมเปลืองทุนมาซื้อแน่นอน
เดิมทีเงินเยอะเยอะกำลังลังเลอยู่นิดหน่อยแต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายจึงรีบตอบทันที “รับ”
การค้าขายเสร็จสิ้นแล้วเงินในบัญชีของฉินโจ้วก็เพิ่มขึ้นอีก 7,600 เหรียญทองก่อนแยกจากกัน เงินเยอะเยอะได้เอ่ยขึ้น “ขอให้ข้อมูลคุณฟรีๆอย่างหนึ่ง ยอดฝีมือที่อยู่อันดับหนึ่งคนนั้นยังเหลือค่าประสบการณ์อีก 23% กว่าจะถึงเลเวล 10 พวกเราค่อยพบกันใหม่ในเมืองนะ” เงินเยอะเยอะเห็นฉินโจ้วอยู่ห่างจากเลเวล 10 ไม่มากแล้ว ดังนั้นจึงเอ่ยเตือน
“พวกเราควรทำอะไรต่อดีล่ะ?” หนานกงเสี่ยวเอ่ยถาม
“แบ่งของ” ฉินโจ้วพูดออกมาสองคำ
ฉินโจ้วตรวจเงินในบัญชีครู่หนึ่งทั้งหมดมีรายได้เข้ามา 52,294 เหรียญทอง หนานกงเสี่ยวมีส่วนแบ่ง 10% เงินทุน +500 เหรียญทองแบ่งไปซื้อยาฟ้า 100 เหรียญทองยอดรวม : 5,829 เหรียญทองหลังจากที่แบ่งเงินให้หนานกงเสี่ยวไป ยอดเงินในบัญชีของฉินโจ้วคงเหลือ 46,883 เหรียญทอง 76 เหรียญเงิน 45 เหรียญทองแดง
จาก 500 เหรียญทองในเวลาไม่กี่ชั่วโมงกลายเป็ 5,829 เหรียญทองเงินเกือบหกพันเหรียญทองทีเดียว ตาของหนานกงเสี่ยวกลายเป็เครื่องหมายเงินไปแล้วรู้สึกราวกับตัวเองอยู่ในความฝัน ตัวลอยแล้ว ลอยไปแล้ว
“แปะ” ฉินโจ้วดีดหน้าผากขาวนวลกระจ่างของเธอทีหนึ่ง
“ทำอะไรของนายเนี่ย?” หนานกงเสี่ยวเอ่ยอย่างไม่ชอบใจ
“ไปฆ่าบอสเอาให้ไอ้เ้ายอดฝีมืออันดับหนึ่งอะไรนั่นมาสยบอยู่แทบเท้ากัน” ฉินโจ้วพูดอย่างถือดี เงินคือความกล้าของลูกผู้ชาย คำพูดนี้ไม่ผิดจริงๆจิตใจหลังจากที่มีเงินมากมาย ฉินโจ้วรู้สึกคล้ายกับว่าไม่มีความยากลำบากใดจะสร้างปัญหาให้เขาได้อีกแล้วเื่อะไรที่เคยคิดว่ายากมาก่อน เวลานี้ดูเหมือนจะจัดการได้อย่างง่ายดายกลายเป็คนเปี่ยมความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาแล้ว
หนานกงเสี่ยวหรี่ดวงตากลมโตน่ารักคู่นั้นเสี้ยววินาทีนี้รู้สึกเหมือนกับว่าฉินโจ้วจะสูงขึ้นนิดหน่อยก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่เป็ภาพลวงตาอย่างหนึ่งหรือเปล่า
........................................................................................................................................................
[1] โจวปาผี เป็ตัวละครในนิยายดัง ซึ่งมีนิสัยเอารัดเอาเปรียบ โหดร้าย หน้าเื