หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ข้าก็หันไปมองน้องหญิงที่เพิ่งสมสู่กับข้า ซึ่งกำลังกินเศษอาหารเน่าเหม็นอย่างเอร็ดอร่อย ข้าอดสงสัยไม่ได้ ตามหลักแล้วหากว่ามันมีสติปัญญาเหมือนกับข้า มันไม่น่าจะอยากกินของเน่าเหม็นเช่นนั้นอีก เว้นเสียแต่จะทำไปเพื่อตบตาคน
“น้องหญิง?” ข้าลองคุยกับหมูตัวเมียตัวนั้นซึ่งอยู่ข้างคอก
น้องหญิงเหลือบมองข้าเพียงแวบเดียว ทว่าปากยังไม่หยุดเคี้ยวเศษอาหารเน่าๆ อย่างเอร็ดอร่อย บางทีพวกผู้บำเพ็ญอาจจะเดาถูก เหตุผลที่น้องหญิงวิ่งมาขอให้ข้าสมสู่ด้วย อาจเพราะสัญชาตญาณการเอาตัวรอดก็เป็ได้
ข้าถอนหายใจแล้วนั่งลงกับพื้น ก่อนหน้านี้ข้านอนราบเหยียดขาทั้งสี่ไปกับพื้น แต่ตอนนี้ข้านั่งลงโดยใช้ขาหลัง หย่อนก้นติดพื้น ปกติแล้วหมูจะไม่ทำทางเช่นนี้
ตอนนี้ ข้าต้องหาวิธีหนีไปจากที่นี่เสียก่อน เพื่อวางแผนการหลบหนี ข้อมูลเป็สิ่งจำเป็
ข้านึกย้อนกลับไปยังวันวานที่ยังเป็หมู ชีวิตในอดีตนั้นไม่มีอะไรสลักสำคัญ เต็มไปด้วยความทรงจำที่เลวร้ายเกี่ยวกับการถูกพวกผู้บำเพ็ญทารุณ แต่หากพยายามนึกดู ข้าก็ได้เบาะแสบางอย่างจากการพูดคุยของพวกผู้บำเพ็ญ
เขาลูกนี้ชื่อว่าเขาอาทิตย์อัสดง สำนักที่ปกครองอยู่คือสำนักอาทิตย์อัสดง พอจะถือว่าเป็สำนักตระกูลเล็กๆ ระดับสาม ศิษย์ในสำนักเกือบทั้งหมดล้วนแต่มีความสัมพันธ์ทางสายเืหรือไม่ก็แต่งงานเข้ามา ศิษย์นอกสำนักจะได้รับการคัดเลือกก็ต่อเมื่อทำผลงานสำคัญ หรือเป็อัจฉริยะด้านการฝึกบำเพ็ญอย่างหาตัวจับยาก มิเช่นนั้นต้องใช้ชีวิตธรรมดาสามัญ ทำงานรับใช้สำนักไปตลอดชีวิต
สถานที่ที่ข้าอาศัยอยู่อยู่ที่เชิงเขาอาทิตย์อัสดง นอกเขตสำนัก ซึ่งเป็ที่อยู่อาศัยของศิษย์ในสำนักและเหล่าผู้าุโบางส่วน บางครั้งก็มีการจัดประชุมหรือพิธีกรรมต่างๆ กันที่นี่ ดังนั้นจึงมีการเลี้ยงปศุสัตว์ไว้เพื่อใช้ในพิธี
ส่วนหญิงสาวที่นำน้ำยาไปให้ข้ากินชื่อว่าเถียนหรูชิง เป็หลานสาวเพียงคนเดียวของเ้าสำนักคนปัจจุบัน ข้าเดาว่าน้ำยานั้นต้องเป็ยาที่สกัดจากสมุนไพรล้ำค่า เพื่อให้หลานสาวของเ้าสำนักเพิ่มพูนพลังบำเพ็ญ แต่ไม่คิดว่าเด็กโง่คนนี้จะไม่รู้จักคุณค่า เอาของเช่นนั้นมาให้หมูกิน ข้าจึงได้ประโยชน์ไป
ข้าเป็เพียงหมูธรรมดาที่รอวันถูกเชือด หลังจากดื่มน้ำยานั้นเป็เวลาหนึ่งเดือน ข้าก็ได้เกิดใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ปลุกร่างกายที่มีพลังปราณ และก้าวเข้าสู่โลกแห่งการฝึกบำเพ็ญอย่างแท้จริง
หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ข้าก็ได้ข้อสรุปว่า ตอนนี้ข้าออกจากคอกหมูไม่ได้ ข้าทำได้เพียงแค่ฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่
เหตุผลก็ง่ายดาย การวิ่งหนีออกจากคอกหมูนั้นสะดุดตาเกินไป หากผู้บำเพ็ญคนใดเกิดอยากใช้พลังจิตตรวจสอบ พวกเขาก็จะเห็นพลังปราณภายในตัวข้า และข้าก็จะถูกจัดการในทันที วิธีที่น่าเชื่อถือกว่า อาจจะเป็การอยู่ที่นี่ต่อไป เพราะตอนนี้ข้ามี 'เครื่องรางป้องกัน' ติดตัวอยู่ในฐานะหมูพ่อพันธุ์ และน้ำยาของเถียนหรูชิงก็เป็ของไม่ธรรมดา ในเมื่อนางเต็มใจยกให้ข้า นั่นก็เป็เื่ที่ดีที่สุดแล้ว
เมื่อรู้ตัวว่าเป็ผู้บำเพ็ญแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการควบคุมวิธีการใช้พลังปราณ ข้าหลับตาลงแล้วนั่งสมาธิ รู้สึกได้ถึงพลังงานที่ไหลเวียนในตัวข้าตามใจนึก ช่างเป็เื่ที่น่าแปลกและน่าสนใจมากทีเดียว ข้าลองเคลื่อนพลังปราณไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างละเอียด เมื่อข้าลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เป็เวลาเช้าของวันรุ่งขึ้นแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้