นอกจากจวินจิ่วเฉินจะไม่พอใจแล้วยังมีความโกรธแค้นอีกเล็กน้อย
เขาพยายามสุดชีวิตที่จะรีบกลับมาช่วยนาง แต่กลับพบว่าหญิงสาวคนนี้ได้ช่วยเหลือตนเองไปแล้ว
เื่ของยาต่ออายุขัยนั้น แม้แต่ตัวเขาเองฟู่หวงยังปิดบัง หญิงสาวคนนี้ปะทะเข้ากับความลับแล้วยังสามารถออกมาจากห้องทรงพระอักษรได้ ยังอยู่รอดปลอดภัย แสดงให้เห็นว่ามีเพียงเหตุผลเดียวคือฟู่หวงติดสินบนนางแล้ว
เดิมทีเขาคิดว่านางจะหวาดกลัวเื่ราวใหญ่โตเช่นนั้น เมื่อนางได้พบเขาเข้าก็จะพูดความจริงออกมาตามตรง เขายังมีเื่มากมายที่ต้องไปจัดการด้านนอกเมือง เดิมควรที่จะออกไปแล้วทว่ากลับอยู่ต่อเพื่อรอให้นางตื่น
แต่ใครจะไปทราบว่าเขาจะปรารถนาอยู่เพียงฝ่ายเดียว หญิงสาวคนนี้ไม่แม้แต่จะพูดออกมาสักคำ!
เป็ไปได้หรือไม่ว่าสายตางงงวยในยามปกติของนางบวกกับคำว่า “ชอบ” ที่นางเอ่ยออกมาด้วยตนเองเมื่อไม่กี่วันก่อนจะเป็เื่ล้อเล่น? หรือว่าสำหรับนางแล้วการหลงใหลชายคนหนึ่ง ชื่นชอบชายคนหนึ่ง ล้วนเป็เื่ธรรมดาที่ไม่จำเป็ต้องพูดออกมาจากใจ?
ก่อนที่เขาจะกลับมาที่เมืองจิ้นหยางรอบกายมีแค่ต้าหวงซูเท่านั้น เขาไม่มีคนรับใช้แม้แต่คนเดียว เขากลับมาที่เมืองจิ้นหยางได้สามปีแล้ว ทางด้านของฟู่หวงนั้นพยายามคิดหาวิธีในการติดสินบนคนรอบกายของเขาโดยมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียว ก็คือเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของเขา
เื่ที่กูเฟยเยี่ยนเป็ประโยชน์ต่อฟู่หวงเกรงว่าน่าจะเป็เื่นี้!
น้ำเสียงเ็าขึ้นเรื่อยๆ ของจวินจิ่วเฉินทำให้กูเฟยเยี่ยนตกตะลึง “เปิ่นหวางให้โอกาสเ้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จะพูดหรือไม่พูด? ”
เื่ราวเป็เช่นนี้แล้วกูเฟยเยี่ยนยังสามารถไม่พูดได้อีกหรือ?
นางเสียใจภายหลังอย่างสุดซึ้ง หากทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทราบั้แ่แรก นางจะไม่สับสนและไม่ปิดบังแล้ว!
การแบกความลับเอาไว้เป็เื่ที่ยากลำบากนะ!
กูเฟยเยี่ยนรีบโน้มกายลงพลางเอ่ยด้วยความจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย ฝ่าาไม่อนุญาตให้นู๋ปี้พูด นู๋ปี้ไม่กล้าพูดเพคะ! ”
คำถามของจวินจิ่วเฉินไม่ใช่ว่าจะพูดหรือไม่พูด แต่เป็คำถามที่ว่าเหตุใดฟู่หวงจึงไม่สังหารนางเพื่อปิดปาก
เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยความเ็า “ฟู่หวงไม่ใช่คนที่จะไว้ชีวิตใคร! ”
แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะมีความหวาดกลัวเล็กน้อย แต่นางก็มีความจงรักภักดีจึงตอบกลับไปตามตรงด้วยความสมเหตุสมผล “เพราะว่านู๋ปี้มียาอย่างไงล่ะ!” กูเฟยเยี่ยนมองไปบริเวณโดยรอบแล้วเขยิบเข้าใกล้เพื่อกระซิบบอก “เตี้ยนเซี่ย พระองค์คงจะยังไม่ทราบว่าอี้เสินตันในมือของฝ่าาอย่างมากก็ทานได้เพียงแค่ครึ่งปีแรกเท่านั้น นู๋ปี้สามารถกลั่นอี้เสินตันและสามารถกลั่นยาต่ออายุขัยชนิดอื่นได้ นู๋ปี้จึงเจรจาเงื่อนไขด้วยความประนีประนอมว่าจะรักษาความลับ แล้วมอบยาให้ทุกเดือนพร้อมกับให้ฝ่าาไว้ชีวิตนู๋ปี้และไม่สามารถ…”
กูเฟยเยี่ยนพูดไม่ออกเล็กน้อย นางมองไปที่จวินจิ่วเฉินแวบหนึ่งแล้วพูดต่อ “หลังจากที่ผ่านระยะเวลาสามเดือนแล้วไม่สามารถโยกย้ายนู๋ปี้ได้! หลังจากที่ผ่านระยะเวลาสามเดือนแล้วหากว่าเตี้ยนเซี่ย…หากว่าเตี้ยนเซี่ยไม่รังเกียจนู๋ปี้ ได้โปรดให้นู๋ปี้อยู่ต่อได้หรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนอยากจะขอร้องมานานแล้ว นางไม่บีบบังคับ แต่วิงวอนด้วยความจริงใจได้!
ั้แ่กลับมาจากหุบเขาเสินหนงจนกระทั่งทุกวันนี้นางล้วนไม่มีโอกาสได้พูด บัดนี้โชคดีที่สามารถใช้โอกาสนี้พูดออกมาได้
สิ่งที่กูเฟยเยี่ยนกังวลมากที่สุดก็คือปัญหาที่พักอาศัย แต่จุดสนใจของจวินจิ่วเฉินกลับไม่ได้อยู่ที่เื่นี้
เขาประหลาดใจมาก เขาคิดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะมีความสามารถในการกลั่นยาอี้เสินตัน! อีกทั้งคิดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะกล้าเจรจาเงื่อนไขกับฟู่หวง! นี่ไม่ใช่การเจรจาต่อรองเงื่อนไขแล้วแต่เป็การคุกคามชัดๆ !
การอยู่ใกล้ชิดกษัตริย์ก็เหมือนกับอยู่ใกล้เสือ เขาทราบดีกว่าใครๆ ว่านิสัยของฟู่หวงเป็เยี่ยงไร
เมื่อมองไปที่สีหน้าค่อนข้างจะเขินอายของกูเฟยเยี่ยน จวินจิ่วเฉินก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัวทีหลังโดยไม่รู้ตัว เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าหากเมื่อคืนนี้ฟู่หวงเกิดอารมณ์ชั่ววูบแล้วหญิงสาวคนนี้จะมีจุดจบอย่างไร
เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเ็า “ในเมื่อเป็เช่นนี้เหตุใดจึงต้องปิดบัง? ”
กูเฟยเยี่ยนมีเหตุผลมากมายเลยนะ
ตัวอย่างเช่นนางไม่ไว้ใจเขาอย่างหมดใจ แม้ว่านางจะชอบเขาแต่เื่ที่เกี่ยวข้องไปถึงชีวิต แน่นอนว่านางต้องวางตัวเองไว้เป็อันดับหนึ่ง นางต้องเหลือทางไว้ให้ตนเองและไม่สามารถผูกคอตายไว้บนต้นตระหง่านอย่างเขาได้…
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าหล่อเหลาของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยที่มีความโกรธประดุจเทพเ้าและในเวลาเดียวกันก็มีความเ็าและเหี้ยมโหด กูเฟยเยี่ยนจึงยังไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ในท้ายที่สุดนางก็แสร้งทำเป็โง่แล้วตอบกลับไปด้วยคำตอบที่ทำให้จวินจิ่วเฉินแทบจะคลุ้มคลั่ง
นางกะพริบดวงตากลมโตแวววาวคู่นั้นพลันเอ่ยออกมาอย่างไร้เดียงสาว่า “เตี้ยนเซี่ย คำสั่งของฮ่องเต้นั้น…ฝ่าฝืนไม่ได้นี่นา! ”
จวินจิ่วเฉินมองไปที่นางโดยไม่พูดอะไร แล้วเขยิบเข้าใกล้ที่ใกล้มากๆ
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกได้ว่ามีความกดดันที่ทำให้หายใจลำบากปะทะเข้ามาที่ใบหน้า ในที่สุดนางก็เกิดความหวาดผวาจนต้องถอยหลังไปทีละก้าว และไม่กล้าพูดความจริงออกมามากขึ้นไปอีก ์ทราบดีว่าถ้านางพูดเหตุผลเห็นแก่ตัวเ่าั้บวกกับเหตุผลที่สงสัยในตัวเขาออกมา เ้านายท่านนี้จะรีบไล่นางออกจากเมืองทันทีหรือไม่? กูเฟยเยี่ยนเงียบจนถึงที่สุด จวินจิ่วเฉินจึงไม่ได้ซักถามอะไรอีก
เขาถอยห่างโดยไม่มองนางอีก แล้วพูดอย่างเย็นะเื “ดีมาก เ้าออกไปได้แล้ว! ”
กูเฟยเยี่ยนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพลันรีบออกไปอย่างรวดเร็ว ทว่าเมื่อออกมาจากศาลาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง นางเสียใจภายหลังจริงๆ หากทราบว่าจะเป็เช่นนี้ั้แ่แรกนางคงไม่ครุ่นคิดมากมายเช่นนั้นแล้ว
เื่ราวกลายมาเป็เช่นนี้แล้ว ทันทีที่ระยะเวลาสามเดือนมาถึงคาดว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคงจะไม่คิดให้นางอยู่ต่อแล้วใช่หรือไม่? เดิมทีนางคิดว่าตนเองสามารถพึ่งพาเขาจนกว่าคุณหนูสามตระกูลหานจะเข้ามาในจวน ทว่าบัดนี้คงจะหมดหวังเสียแล้ว
กูเฟยเยี่ยนอาลัยอาวรณ์ที่จะจากไป นางหันกลับไปมองหลายต่อหลายครั้งด้วยความผิดหวัง! นางสูดลมหายใจ แอบคิดว่าพรหมลิขิตของตนเองกับดาวนำโชคอย่างจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคงจะมีเพียงแค่นี้
เสียใจ…
กูเฟยเยี่ยนค่อยๆ ไกลออกไป แต่สายตาของจวินจิ่วเฉินยังคงไล่ตาม
หมางจ้งที่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้างอดใจไม่ไหวจึงต้องปรากฏตัวขึ้นมาเกลี้ยกล่อม “เตี้ยนเซี่ย เื่นี้…เื่นี้จะโทษแพทย์หญิงกูไม่ได้ เพราะ…เพราะว่าเื่ราวใหญ่โตขนาดนี้เป็เื่ปกติที่แพทย์หญิงตัวน้อยคนหนึ่งจะหวาดกลัวฝ่าา”
หมางจ้งโน้มน้าวมาถึงตรงนี้แล้วนึกถึงคำพูดคุกคามของกูเฟยเยี่ยนที่มีต่อฝ่าา จู่ๆ ก็เกิดความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาจึงรีบเปลี่ยนคำพูด “เตี้ยนเซี่ย เื่เมื่อค่ำคืนวานนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเตี้ยนเซี่ย แพทย์หญิงกูไม่เข้าใจสถานการณ์ในราชสำนัก การที่ปกปิดท่าน…ก็ ก็เป็เื่ปกติ ข้าน้อยเชื่อว่าหากเป็เื่ที่อันตรายต่อเตี้ยนเซี่ย ไม่ว่าจะเป็เื่ใดก็ตามแพทย์หญิงกูจะไม่รอช้าอย่างเเน่นอน ตัวอย่างเช่นคดีย่าวซ่านที่กูเฟยเยี่ยนได้พยายามอย่างสุดความสามารถ!”
หมางจ้งจะไปทราบได้อย่างไรว่าสิ่งที่เ้านายของตนเองให้ความสนใจคือเื่อะไร ใครจะไปทราบว่ากูเฟยเยี่ยนจะเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ชื่นชอบ” เ้านายตนเอง พร้อมกับกล่าวด้วยว่า “ชอบทุกอย่างเลย” เขาโน้มน้าวไปเรื่อยๆ แต่จวินจิ่วเฉินไม่ได้ฟัง ชายหนุ่มเพียงแค่โบกมือไล่ให้หมางจ้งถอยออกไป
หมางจ้งไม่กล้ารบกวนจึงซ่อนตัวไปด้วยความจำใจ
จวินจิ่วเฉินยังคงมองไปที่ร่างของกูเฟยเยี่ยนจนกระทั่งร่างของนางหายไปเขาจึงได้ยกยิ้มเยาะเย้ยตนเองออกมา คำพูดของหญิงสาวคนนี้ที่บอกว่า “ชื่นชอบ” หมายความว่าอย่างไรกัน?
ดูเหมือนว่าเขาจะ…เข้าใจผิดไป
เขาหัวเราะเยาะออกมา “กูเฟยเยี่ยน ความชื่นชอบของเ้า…ที่แท้ก็มีแค่นี้
ในค่ำคืนวันนั้นจวินจิ่วเฉินก็ได้จากไป
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนทราบว่าเขาออกไปแล้ว ภายในใจของนางก็เกิดความผิดหวังมากขึ้นจนนอนไม่หลับทั้งคืน
วันรุ่งขึ้นกูเฟยเยี่ยนกำลังวางแผนออกไปจัดซื้อสมุนไพรมาปรุงยาอี้เสินตัน แต่เมื่อออกจากประตูด้านหลังมาได้ไม่นานก็พบเห็นเฉิงอี้เฟยที่กอดอกพิงอยู่บนรถม้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
กูเฟยเยี่ยนอารมณ์ไม่ดีจึงหันหลังเตรียมเดินออกไป
เฉิงอี้เฟยรีบไล่ตามมาคว้าเข้าที่แขนของกูเฟยเยี่ยนโดยที่ไม่พูดถึงเื่ขอแต่งงานแล้ว “แพทย์หญิงน้อย ไปกัน ข้าเลี้ยงข้าวเ้าเอง! ”
กูเฟยเยี่ยนสะบัดออกทันที ในขณะที่กำลังจะระบายความโกรธก็คิดได้เื่หนึ่งจึงเอ่ยออกมา “หากเ้าสามารถเชิญองค์ชายแปดมาได้ ข้าจะพิจารณาดู”
เมื่อวานนี้นางลืมบอกใบ้ถึงเื่ของนายก้อนน้ำแข็งเหม็นให้กับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ในตอนนี้ดูเหมือนว่านางทำได้เพียงลงมือจากฝั่งของเฉิงอี้เฟย
เฉิงอี้เฟยคิดว่าการที่กูเฟยเยี่ยนพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้าเป็เพราะ้าปฏิเสธเขา “เมื่อไม่กี่วันก่อนองค์ชายแปดเสด็จกลับเข้ามาในพระราชวังพอดี เปิ่นเจียงจวินจะไปเชิญเขาเลย! แพทย์หญิงตัวน้อย เ้ารอก่อน! ”
เฉิงอี้เฟยกลัวว่ากูเฟยเยี่ยนจะกลับคำจึงรีบวิ่งออกไปโดยไม่รอคำตอบของนาง
กูเฟยเยี่ยนหันกลับไปมองด้วยความคาดไม่ถึง ภายในดวงตาเปล่งประกายออกมาแล้วค่อยๆ ยกยิ้มขึ้น “รอ ข้าจะรอแน่ๆ ! ”