ทางด้านอนันทิตาเธอคิดว่านี่เป็ทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้ เพราะถ้าเธอหรือเวรา เลือกที่จะนอนนอกห้อง คนที่ตื่นเช้าอย่างคุณแม่เธอต้องสงสัยแน่นอน เมื่อตอนนี้สถานการณ์ระหว่าง อนันทิตาและเวรา ดูแย่ลงจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ทำให้อนันทิตาระหว่างขับรถไปนอนที่บริษัทนั้น ก็คิดหาทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการ ให้คนไปสืบหาข้อมูลมาว่า่ระยะเวลา 8 ปี มานี้ เกิดเื่อะไรขึ้นกับเวราบ้าง เมื่อเธอขับรถถึงบริษัทก็รีบขึ้นไปชั้นบนสุดที่เป็ห้องนอนของเธออีกแห่ง และไม่รอช้า เธอโทรหาเพื่อนสนิทและบอกให้ช่วยสืบให้เธอ ก่อนที่เธอจะหลับไปทั้งที่ยังไม่เปลี่ยนชุดหรือแม้แต่ถอดรองเท้า เพราะเธอทั้งเหนื่อย อ่อนเพลีย แถมยังอดนอนเพราะน้องสาวตัวดีของเธออีก
วันรุ่งขึ้น ทางด้านเวราเมื่อลงมาจากห้องพร้อมชุดนักศึกษามหาลัยนานาชาติของเอกชน ก็พบกับคุณอามนันทิตา ซึ่งตอนนี้เป็ คุณแม่เลี้ยงของเธอไปแล้ว ซึ่งเวราไม่ได้รังเกียจอะไรเลยกลับรักเธอเหมือนแม่แท้ๆ อีกคน เพราะตอนอาศัยอยู่ด้วยกันที่นิวยอร์ค คุณแม่นันดูแลเธอเหมือนลูกแท้ๆ อีกคน ซึ่งทำให้เธออบอุ่นมาก ยิ่งตอนนี้เธอที่เสียแม่ไปในตอนนั้นที่นิวยอร์ค คนที่ปลอบใจเธอก็คือคุณแม่นันและอนันทิตา หลังจากนั้นเธอต้องย้ายกลับมาอยู่ที่ไทยลำพังตัวคนเดียวที่บ้านของคุณพ่อ เธอไม่้าไปอยู่กับคุณพ่อที่อังกฤษเพราะเธอโกรธคุณพ่อเธอที่ทิ้งคุณแม่กับเธอไปทำงานที่อังกฤษปล่อยให้คุณแม่เลี้ยงเธอคนเดียว จนคุณแม่ของเธอล้มป่วยเพราะมะเร็งระยะสุดท้ายจนเสียชีวิต ต่อให้รวยแค่ไหนมีเงินทองมากมายก็ยื้อชีวิตคุณแม่ของเวราไว้ไม่ได้ เธอจึงขอกลับเมืองไทย เพราะไม่อยากรบกวนครอบครัวของอนันทิตา และในตอนนั้นเวรามีเพียงคุณพ่อเท่านั้นที่เป็ผู้ปกครอง เมื่อลูกสาวตัดสินใจแบบนั้น ผู้เป็พ่อจึงบอกทางคุณมนันทิตาว่า ลูกสาวเขาจะกลับเมืองไทย ฝากดูแลด้วย ซึ่งจริงๆ เวราที่อาศัยคนเดียวในบ้านหลังใหญ่ นิสัยเธอก็ไม่ใช่เด็กเลวร้ายอะไร กลับเป็เด็กสาวที่สดใสน่ารัก ใครเห็นก็หลงรักเธอทุกคน
จนเมื่อเธอศึกษาม.ปลายปีสุดท้าย โรงเรียนเอกชนคาทอลิกหญิงล้วน ก็ได้พบกับเมธานัน ทั้งคู่ก็เหมือนถูกดึงดูดเข้าหากันและคนที่เข้าหาก่อนก็คือ เมธานัน เพราะคิดว่าเด็กสาวที่ใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนเอกชนคาทอลิกหญิงล้วนคนนี้มีคนขับรถคันหรูมาส่งที่ร้านอาหารสุดหรูราคาแพงมาก คนไม่มีระดับคงเข้าร้านหรูขนาดนี้ไม่ได้ เวราไปนั่งโต๊ะประจำของเธอกับเพื่อนสาวอีกคนที่สนิทกันมาก เพราะนั่นคือร้านของคุณพ่อเพื่อนเธอเอง เวราเลยนั่งที่ประจำติดหน้าต่างซึ่งค่อนข้างจะส่วนตัวพอสมควร เพราะที่ส่วนใหญ่แถวนั้นจะเป็ระดับ VVIP ที่เพื่อนหรือคนสนิทเท่านั้นที่จะเข้าไปนั่ง เพราะสามารถเดินเข้าหยิบเครื่องดื่มจากบาร์ได้เลย แต่เมธานันก็ใจกล้าพอที่จะเดินเข้าไปหาเวราพร้อมกับทักทายว่า
“พี่อยากรู้จักเธอ ขอพี่นั่งด้วยคนได้มั้ยคะ เราจะได้ทำความรู้จักกัน”
พนักงานคนหนึ่งทำท่าจะเดินเข้ามา เชิญเมธานันไปนั่งในที่ของเธอซึ่งพนักงานเตรียมไว้ให้ แต่เวรา ยกมือขึ้นห้ามพร้อมกับบอกว่า
“ไม่เป็ไรคะ แขกคนนี้เดียวเรารับรองให้เอง คุณนั่งตรงนี้ด้วยกันก็ได้ แต่ขออย่างหนึ่งนะคะ กรุณาอย่าลุกขึ้นเดินเข้าไปหลังร้านหรือหน้าเคาเตอร์บาร์ด้วยตัวเองนะคะ ถ้า้าอะไรขอให้บอกเรา เดียวจะจัดการให้เองค่ะ”
เมธานันยิ้ม ในใจคิดว่า “ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่ แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง” ความคิดของเมธานันตอนนี้ก็คือ ้าหลอกล่อให้ เวรา หลงเธอให้มากที่สุด เธอจะหาประโยชน์จากสาวน้อยคนนี้ให้มากที่สุด
ในตอนนั้นเวราก็แค่เด็กสาววัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งที่รักเป็ ผูกพันเป็ ยิ่งเธอไม่เคยเจอใคร กล้าเข้ามาจีบเธอแบบเมธานันมาก่อนก็ตาม จะมีก็แค่มาสารภาพรัก แต่เวราก็ไม่เคยสนใจผู้ชายที่เข้าหาเธอเลยสักคน เธอกลับรำคาญซะด้วยซ้ำเพราะเธอกลัวว่าถ้ารักกับผู้ชายเธอจะโดนทอดทิ้งเหมือนแม่เวราคงทนไม่ได้แน่
เวรากับเมธานันเริ่มสนิทกันมากขึ้นทุกวัน โดยที่เมธานันไปรับ ไปส่งเวราที่โรงเรียนเอกชนคาทอลิกหญิงล้วนทุกวัน และไปเที่ยว เมธานันยังติวหนังสือให้เธอก่อนสอบประจำ สร้างความไว้ใจให้เวรามากขึ้นจนผ่านไปเป็ปี ทั้งเงิน คอนโดหรูกลางเมือง และรถคันใหม่ที่เมธานันขับ เวราเป็คนซื้อให้ โดยชื่อเป็ของเมธานันทั้งหมด เพราะเวราคิดว่า เมธานันจริงใจที่จะใช่ชีวิตกับเธอ แค่รอให้เธอเรียนจบเท่านั้น
เมธานันไม่เคยที่จะทำอะไรเกินเลยกับเวราสักครั้งเดียว มากสุดก็คือจูบกัน ทำให้เวราคิดตลอดว่า เมธานันรักเธอและให้เกียรติเธอเสมอ จนเวราสอบเข้ามหาลัยได้ ในขณะที่เมธานันเริ่มที่จะเบื่อเธอและไม่ค่อยไปรับไปส่งเธอเหมือนเดิม เพราะทั้งเงิน คอนโด และรถที่ได้จากเวรา มันทำให้เมธานันอยู่ได้สบายไปอีกหลายปีโดยเธอไม่ต้องทำงานก็ยังได้
จนมีวันหนึ่ง เมธานัน นัดเวราไปหาที่ โรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อดำเนินการแผนสุดท้ายที่จะโกยเงินจากเธอ นั้นคือ หลอกไปให้เสี่ยที่ชอบเปิดซิงเด็กสาวด้วยเงิน 30 ล้าน เพราะเวราเป็ถึงคุณหนูลูกสาว นายวชิระ เหมอนันต์ CEO ที่รวยมากระดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่งมีธุรกิจอยู่ที่ทั้งไทย และ อังกฤษ
เมื่อเจอกันเวราก็นั่งคุยกับเมธานันซึ่งเมธานันไม่รู้เลยว่าเวราไม่ได้เอารถมาจึงให้เพื่อนสาวกับแฟนเพื่อนมาส่ง แต่เพื่อนเธอทั้ง 2 กลับไม่ไว้ใจคนที่หายไปจากเวราเป็เดือนๆ อย่างเมธานัน แต่เวรากลับไว้ใจเพราะเมธานันให้เหตุผลว่า บินไปดูงานกับเ้านายที่ต่างประเทศ ซึ่งนั้นมันไม่จริงเลย เธอไม่ได้ออกจากเมืองไทยเลย แต่กลับไปหาเหยื่อรายใหม่ของเธอ เมื่อเวราดื่มไปแก้วเดียวเธอก็เริ่มรู้สึกหน้ามืด ซึ่งเธอรู้ตัวดีว่าไม่น่าจะเมาเร็วขนาดนี้ จึงเริ่มรู้ตัวมีอะไรผิดปกติ แต่เธอกลับไม่ฟังที่เพื่อนเตือน เวราจึงทำทีเป็ดูโทรศัพท์แต่จริงๆ เธอกำลังโทรหาเพื่อนสาวที่รออยู่ในรถยังไม่ไปไหนด้วยความเป็ห่วง แล้วเธอก็เอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อเธอเอาไว้ พอเห็นว่าเพื่อนสาวรับสายแล้ว ทางปลายสายก็เรียกแต่ไม่มีเสียงเวราตอบกลับ เพื่อนสาวกับแฟนเลยมองหน้ากันรอฟัง ก็ได้ยินเสียงเมธานัน กำลังคุยโทรศัพท์ และเวราที่เหมือนกำลังจะหมดสติก็ได้ยินสิ่งที่เมธานัน พูดแค่นิดเดียว
“ฮัลโหล เฮียคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ.........” นั่นคือสิ่งที่เวราได้ยินก่อนภาพจะตัดไป แต่เมธานันยังพูดต่อ ซึ่งเพื่อนทั้ง 2 คนที่ปลายสายได้ยินทั้งหมด
“ที่โรงแรมเดิมเลยคะ ห้อง 805 นะคะ เดียวเมย์จะทิ้งคีย์การ์ดไว้ให้ที่เคาเตอร์เหมือนเดิมคะ โอนมาบช.เดิมได้เลยคะ ขอให้สนุกกับสาวบริสุทธิ์คนนี้นะคะ เมย์ยกให้”
เมื่อเพื่อนทั้งสองคนได้ยินแบบนั้น ก็รีบลงจากรถเพราะรู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเวราในตอนนี้ ถ้าพวกเธอช้า เวราได้ตกนรกทั้งเป็ไปตลอดชีวิตแน่นอน เพราะเพื่อนทั้งสองคนรู้ดีว่าเวราเกลียดผู้ชายมากแค่ไหน ทั้งสองคนรีบวิ่งไปในโรงแรม แต่ไม่ทันเพราะเมธานันพาเวราขึ้นไปไว้บนห้องเรียบร้อยแล้ว แฟนหนุ่มของเพื่อนสาวเลยรีบขึ้นลิฟท์ตามไปทันที และบอกให้แฟนสาวของตัวเอง ไปคุยกับพนักงานหน้าเคาเตอร์เพื่อขอคีย์การ์ดสำรอง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันเป็กฎของโรมแรม
แฟนหนุ่มมาถึงห้อง 805 มันก็ถูกล็อคไปเรียบร้อยแล้ว และยิ่งเห็นแฟนสาวตามขึ้นมาโดยไม่มีพนักงานตามมาหรือแม้แต่คีย์การ์ดก็ยิ่งทำให้ร้อนใจเพราะไม่รู้ว่า เฮียบ้ากาม อยู่ในห้องหรือเปล่า เวราจะเป็ยังไงบ้าง แฟนหนุ่มเลยกลับลงไปข้างล่างด้วยตัวเอง และขอพบผู้จัดการ ไม่งั้นเขาจะแจ้งความว่าเพื่อนโดนหลอกมาข่มขืนที่โรงแรมนี้ แต่พนักงานกลับไม่คิดจะช่วยอะไรเลย พร้อมกับถามว่า มีใครได้มาเอาคีย์การ์ดห้อง805ไปหรือยัง พนักงานพยักหน้าบอกพึ่งขึ้นไปเมื่อกี้ ทำให้แฟนหนุ่มโมโหจัด บอกว่า
“ถ้าคุณช้า แล้วเพื่อนผมเป็อะไรขึ้นมา โรงแรมพวกคุณและพวกคุณจะรับผิดชอบไหวมั้ย ผญ.ที่อยู่ในห้อง 805 เป็ลูกสาวคนเดียวของโรมแรงที่คุณทำงานอยู่นี้ รู้บ้างมั้ย”
เมื่อพนักงานฟังก็ไม่รอให้ผู้จัดการมา เธอตัดสินใจเอง เพราะคิดว่าคงไม่ใช่เื่ล่อเล่นแล้วละ ถ้าถึงขั้นมาขอคีย์การ์ดสำรองห้อง 805 ถึง 2 คน ถึงยังไงก็ผญ.เหมือนกันเธอเข้าใจ เลยรีบหยีบคีย์การ์ดสำรองแล้วรีบขึ้นไป ที่ห้อง 805 ทำการเปิดประตู
ภาพที่เห็นก็คือ เวราที่ร่างกายเปลือยเปล่า แต่โชคยังดีที่เสี่ยบ้ากาม ยังไม่ได้ถอดกางเกงของตัวเอง คนทั้ง 3 ถึงกับใ พนักงานรีบปิดประตูกันไม่ให้เสี่ยบ้ากามหนีไป แฟนหนุ่มของเพื่อนเวรา รีบตรงเข้าไปกระชากเสี่ยบ้ากาม กระหน่ำทั้งเตะและต๋อยไม่ยั้ง จนเสี่ยบ้ากามสลบไป ทางด้านพนักงานกับเพื่อนสาวของ เวราก็รีบเข้าไปห่มผ้าให้เธอ เพื่อนสาวของเธอร้องไห้กอดเวราเอาไว้แน่น ก่อนจะมองตาแฟนหนุ่มเหมือนรู้ใจกัน ว่า เธอออกไปรอข้างนอกก่อนนะ
เพื่อนสาวจัดการแต่งตัวให้เวรา ทั่งๆ ที่เธอไม่ได้สติ ไม่รับรู้อะไรเลยว่า มันเกิดเื่อะไรขึ้นกับเธอ เมื่อแต่งตัวเสร็จ เพื่อนสาวก็มองหน้าพนักงานโรงแรมที่ช่วยพวกเธอไว้ และบอกว่า
“คุณคงจำผู้หญิงที่นอนตรงนี้ได้ใช่มั้ยคะว่าคือใคร ถ้าจำได้ ช่วยอะไรสักอย่างได้มั้ยคะ อย่าเอาเื่คืนนี้ไปบอกใครหรือคุยกับใครเป็อันขาด เื่นี้ต้องไม่มีใครทราบอีกนอกจากพวกเราที่อยู่ในเหตุการณ์ และเ้าตัวเองก็ห้ามบอก ปล่อยให้เวย์ไม่รู้เื่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ดีที่สุดแล้ว ฉันขอคุณแค่นี้ ทำเพื่อลูกสาวคนเดียวของ CEO คุณได้มั้ย”
พนักงานยิ้มและพยักหน้ารับทราบ ก่อนจะออกไปตามแฟนหนุ่มของเพื่อนสาวให้กลับเข้ามา อุ้มเวราลงไปที่รถ โดยมีพนักงานสาวนำทางลงไปส่งถึงรถ เมื่อถึงรถเพื่อนสาวก็นั่งกอดเวราเอาไว้ที่เบาะหลังเพราะเวรายังคงหมดสติปล่อยให้นอนลำพังที่เบาะหลังไม่ได้แน่ เมื่อรถขับออกไป เพื่อนสาวก็บอกกับแฟนตัวเองว่า
“นพ เราจะไม่บอกเื่คืนนี้กับเวย์นะ ปล่อยให้มันคิดว่า มันเมาแล้วหลับไปเอง แล้วยัยเมย์โทรให้พวกเรามาพาเวย์มันกลับไปนอนบ้าน”
แฟนหนุ่มพยักหน้า และ ขับรถต่อไป เพื่อนสาวก้มลงจูบหน้าผากเวรา และลูบผมเธอเบาๆ ก่อนจะบอกว่า
“โล่งอกไปที ที่เข้าไปช่วยทัน ถ้าไปไม่ได้ คนแบบเธอ คงไม่คิดจะมีชีวิตอยู่ต่อแน่ๆ ยัยเวย์เอ๋ย”
แฟนหนุ่มเห็นแฟนสาวตัวเองทำแบบนั้นก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า
“เธอรักเวย์หรา พอย”
เพื่อนสาวที่ชื่อพอยก็ตอบแฟนหนุ่มไปว่า
“ใช่ เราเคยรักเวย์ ั้แ่อยู่ โรงเรียนเอกชนคาทอลิกหญิงล้วนแล้วละ เราเลยตามเข้ามาเรียนที่มหาลัยเดียวกับเวย์ด้วย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ความรักแบบนั้นอีกแล้ว เรารักเวย์แบบเพื่อนที่พิเศษกว่าเพื่อนคนอื่น และคนที่เรารักจริงๆ ตอนนี้คือนพ ที่เข้ามารักษาแผลใจของเรา ที่หลงรักเพื่อนสนิทตัวเอง อย่าคิดมากเลย เรากับเวย์แค่เพื่อนสนิทที่มากกว่าเพื่อนสนิททั่วไป แต่ไม่ใช่คนรัก”
เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป เมธานันก็หายออกไปจากชีวิตเวรา โดยทิ้งข้อความไว้สั้นๆ ว่า
“ขอให้เราจากกันด้วยดีนะคะ พี่จะกลับไปหาคนรักของพี่ที่ทิ้งเขามา พี่รักเขา แต่กับเวย์พี่ก็รัก ดีใจนะคะที่ได้รู้จักกัน ลืมคนแบบพี่เถอะคะ เราคงไม่ได้พบกันอีก ลาก่อน”
แค่ประโยคนี้ก็ทำให้เวรา ถึงกับให้คนไปสืบว่า คนรักเก่าของเมธานันคือใคร พอเวรารู้ว่าเป็ใคร และยิ่งเห็นภาพที่ทั้ง 2 คนเคยถ่ายด้วยกันมากมาย ยิ่งทำให้เธอเ็ปแสนสาหัส แต่ไม่เคยโกรธแค้นเมธานันเลยเพราะเวรารักเมธานันมาก แต่คนที่เธอโกรธและแค้นมากก็คือ อนันทิตา ผู้หญิงที่เธอรักมากที่สุดรักเหมือนเป็พี่น้องที่คลานตามกันออกมา และนั้นคือสิ่งที่ทำให้ เวรา เสียใจและเ็ปจนมาถึงทุกวันนี้
และยิ่งผู้เป็พ่อ บอกว่าจะแต่งงานใหม่กับคุณแม่ของอนันทิตา เธอก็ไม่คัดค้านอะไรสักคำ แต่กลับบอกพ่อไปว่า
“เวย์อยู่บ้านหลังนี้คนเดียวเหงามาก ถ้าคุณพ่อจะแต่งงานกับคุณอามนันทิตา เวย์ขอย้ายไปอยู่กับคุณอาและคุณอนันทิตาได้มั้ยคะ”
คนเป็พ่อฟังแล้วดีใจมาก เพราะตัวเขาเองก็อยากให้ เวราย้ายไปอยู่ที่นั่นเช่นกัน แต่เขาไม่ทันพูดอะไรกับลูกสาวผ่านโทรศัพท์ทางไกล เวราก็ขอเขาเพื่อที่จะย้ายไปอยู่ด้วยเอง ทำให้เขาโล่งใจไปมาก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ใช่คนเป็พ่อจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวตนเองบ้าง แค่ไม่อยากพูดถึง เพราะกลัวลูกสาวจะกลับไปเสียใจหนักเหมือนตอนเกิดเื่ขึ้นใหม่ๆ เวราไม่เป็อันทำอะไรเลย ไม่ไปเรียนจนเกิบโดนรีไทร์ โชคดีที่เขารู้เื่ซะก่อนเลย ทำเื่ขอหยุดเรียนชั่วคราวแทน และบริจาคเงินจำนวนมากเพื่อสนับสนุนมหาลัย ทำให้เวราหยุดเรียนไปเป็เทอม
เวรานั่งลงที่โต๊ะอาหาร คุณแม่นันได้ทำโจ๊กที่เวราเคยชอบให้ทาน พร้อมกับถามว่า
“เวย์ แล้วพี่ทิตาละลูก ไม่ลงมาทานพร้อมกันละ เห็นวันนี้มีประชุมตอน 10 โมงเช้าด้วยนี้ ปานนี้แล้วยังไม่ยอมลงมาอีก”
เวรามองตาคุณแม่แล้วบอกด้วยน้ำเสียงปกติว่า
“เขาออกไปั้แ่เมื่อคืนแล้วคะ บอกว่าฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าจะไปนอนค้างที่บริษัทไม่ต้องเป็ห่วงค่ะ”
เวราทานโจ๊กต่อ และฟังคนเป็แม่พูดว่า
“เป็แบบนี้ประจำเลย บางวันไม่ยอมกลับบ้านเอาแต่ทำงาน เมื่อวานนี้ถือว่ากลับเร็วมากเพราะเห็นบอกแม่ตอนเช้าว่า เย็นนี้จะรีบกลับมา เพราะอยากเจอเวย์มาก ตอนอยู่ที่เมืองนอกก็บ่นแต่ว่าเมื่อไหรจะกลับเมืองไทย จะไปหาเวย์ แต่พอกลับมาจริงๆ ก็เอาแต่ทำงาน จนถึงทุกวันนี้แหละ ก็บ่นๆ ว่าจะหาเวลาไปเยี่ยมเวย์ตลอดพอเอาเข้าจริง ตัวเองกลับไม่เคยหาเวลาว่างเพื่อพักผ่อนเลย”
เมื่อเวราฟังที่คนเป็แม่พูด ก็คิดในใจตัวเองพร้อมกับน้ำตาซึม
“คนที่เขารักกันจริง คนที่เป็พี่น้องกัน ไม่คิดจะแย่งคนรักของน้องตัวเองหรอก คนๆ นี้เราเชื่อใจไม่ได้อีกแล้ว คนที่แย่งคนรักของเราไป คนที่แทงข้างหลังเราอย่างเ็ปที่สุด กลับมาพูดกับคุณแม่ว่า คิดถึงเราอย่างนั้น อย่างนี้ โกหกทั้งนั้น เกลียดที่สุด”
เมื่อเวราคิดแบบนั้นก็ลุกขึ้น และขอตัวไปเรียน แต่คนเป็แม่กลับสังเกตแววตาลูกสาวคนเล็กว่า เศร้าหม่องมาก และมีน้ำตาซึม เธอเลยคิดไปเองว่า ลูกเลี้ยงของเธอคงยังลืมรักแรกไม่ได้จริงๆ แบบที่คนเป็สามีบอกมา เธอถึงตัดสินใจแต่งงานเพื่อที่จะดูแลเวรา และให้อนันทิตาที่รักเวราเหมือนน้องสาวแท้ๆ คอยช่วยปลอบใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้