“งั้นกลับกันเถอะ”
เย่เวิ่นเทียนพยักหน้า เมื่อเห็นเย่เฟิงไม่ยอมพูดเื่ของหลงโม่หรานตอนนี้ เขาก็ไม่บังคับ เื่บางเื่ก็ไม่ควรคุยในที่โจ่งแจ้งแบบนี้ หลังจากกลับไปแล้ว พวกเขาค่อยคุยรายละเอียดกันอีกที
“งั้นฉันจองตั๋วเครื่องบินเลยนะ”
หลินซือฉิงที่อยู่ใกล้ๆ กล่าวขณะมองเย่เฟิง ราวกับจะขอความเห็น
“ไม่เป็ไรหรอกครับ เดี๋ยวผมกลับไปกับพวกเธอ” เย่เฟิงมองหลงหว่านเอ๋อร์และซูเมิ่งหาน จากนั้นกล่าว “เมิ่งหาน ขอยืมโทรศัพท์หน่อย”
เขาต้องโทรหาเตาปาเพื่อถามว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหนตอนนี้ หากยังอยู่ในเมืองเซี่ยงซาน ชายหนุ่มก็จะให้อีกฝ่ายมารับพวกเขา เย่เฟิงอยากจะอยู่กับทั้งสองสาวเพียงลำพัง
ตอนนี้เื่ในแถบทะเลตะวันออกก็เรียบร้อยดีแล้ว เื่อาจารย์คนสวยของเขาก็เรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นก็กลับไปจัดการเื่ที่บ้าน่หนึ่ง จากนั้นค่อยมุ่งหน้าไปยังทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือต่อ เมื่อถึงเวลานั้น มันอาจมีการนองเืเกิดขึ้น
เย่เฟิงพลันนึกถึงเื่ลูกปัด์ที่หลงหว่านเอ๋อร์กล่าวก่อนหน้านี้ มันถูกขุดพบที่ทะเลทรายแห่งนั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? เขาไม่แน่ใจว่าลูกปัด์เม็ดนั้นถูกส่งมาด้วยจุดวาร์ปเช่นเดียวกันหรือไม่
ซูเมิ่งหานหยิบโทรศัพท์มือถือสีขาวให้เย่เฟิงทันที
ชายหนุ่มกดเบอร์โทรศัพท์ของเตาปาตามความทรงจำพร้อมกับมองดวงิญญาของจ้าวอี้เปย จ้าวอี้เปยยังคงล่องลอยอยู่รอบห้องนี้ ขณะหลับตาเพื่อฝึกฝนทักษะควบคุมิญญา นอกจากเย่เฟิงและหลงหว่านเอ๋อร์แล้ว ไม่มีใครรับรู้ถึงการคงอยู่ของเขาและหลิงเฉิน
“เตาปา นายอยู่ที่ไหนตอนนี้?” เมื่อต่อสายได้ เย่เฟิงจึงเอ่ยถาม
“ยังอยู่ในเมืองเซี่ยงซานครับพี่เย่” เตาปารีบตอบทันที
“งั้นช่วยมารับพวกเราที่โรงแรมนานาชาติที” เย่เฟิงกล่าวก่อนจะวางสายไป ชายหนุ่มคิดว่าหากเล่าเื่ของจ้าวอี้เปยให้เตาปาฟัง เขาคงดีใจมากแน่นอน
เมื่อได้ยินเสียงของเตาปา จ้าวอี้เปยที่ล่องลอยอยู่ในอากาศก็ลืมตา และมองมาด้วยความตื่นเต้น เย่เฟิงพยักหน้า แล้วลุกขึ้น
“ปู่จะกลับกับคุณหนูหลินใช่ไหม?” เย่เฟิงถามปนยิ้ม
“กลับไปแล้วเรามีเื่ต้องคุยกันแน่ไอ้หนู” เย่เวิ่นเทียนแค่นเสียงเบา ก่อนหันไปกล่าวกับหลินซือฉิง “หนูหลิน ช่วยจองตั๋วให้ปู่ด้วย พวกเราต้องไปถึงเยี่ยนจิงก่อนไอ้เด็กเวรนี่แน่นอน”
เย่เฟิงยิ้มขณะคิดในใจ กลับไปถึงก่อนมันมีอะไรน่าตื่นเต้นหรือไง? จากนั้นมองหนานฟางที่กำลังกินข้าวอย่างเพลิดเพลิน
“พี่เย่” เมื่อเห็นเย่เฟิงมองมา หนานฟางจึงรีบยกมือขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตามสบายเลยครับ”
เมื่อมองเย่เฟิงที่มีสาวสวยสองคนประกบ หนานฟางก็รู้ความ้าของอีกฝ่ายทันที ดูจากสีหน้าและอารมณ์ของเย่เฟิง หนานฟางเดาว่าเป้าหมายในการมาทะเลตะวันออกแห่งนี้คงประสบความสำเร็จแล้ว แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็เศร้าใจขึ้นมา ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เขาก็อยากมีสาวสวยเคียงข้างบ้าง น่าเสียดายที่เขาไม่มีโชคเื่ผู้หญิงเหมือนเย่เฟิง
หนานฟางมองสาวสวยอีกสามคนรอบโต๊ะอาหารเงียบๆ หลินซือฉิง เซียวเยว่ และเซียวฉี่ สาวสวยทั้งสามล้วนถูกเย่เวิ่นเทียนกำหนดให้เป็ผู้ลงสมัครตำแหน่งลูกสะใภ้ตระกูลเย่แล้ว นี่ทำให้หนานฟางเศร้าใจยิ่งขึ้น ‘พี่เย่นะพี่เย่ ถ้าจะเยอะขนาดนี้ พี่แบ่งมาให้ผมบ้างสักคนก็ได้’
“คุณน้ากลับไปกับผมด้วยก็ได้ครับ”
เย่เฟิงเอ่ยกับชูชู เธอเป็คนตระกูลหลงซึ่งไม่คุ้นเคยกับเย่เวิ่นเทียนและคนอื่นๆ มากนัก ในเมื่อรถบีเอ็มมีห้าที่นั่งอยู่แล้ว ให้เธอกลับไปกับพวกเขาน่าจะเหมาะสมกว่า
หลงหว่านเอ๋อร์ได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็รู้สึกอบอุ่นใจ มันแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับเธอและชูชูมาก หลังจากกล่าวลาเย่เวิ่นเทียนแล้ว เธอก็เตรียมจากไปพร้อมกับชูชู
ชูชูเห็นทั้งสองคนกลับมาอย่างปลอดภัยก็อดสอบถามเื่ต่างๆ จากหลงหว่านเอ๋อร์ไม่ได้ ยกเว้นเื่ของหลงโม่หราน เพราะรู้ว่าเย่เฟิงยังไม่อยากให้คุยเื่นั้นในตอนนี้
“บาย”
หนานฟางโบกมือลาขณะที่อาหารยังเต็มปาก
“กลับไปเยี่ยนจิง เราต้องซ้อมมือกันหน่อยแล้ว”
เย่เฟิงยิ้ม เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของหนานฟาง เขาก็อยากจะต่อยอีกฝ่ายสักหมัด
“…”
หนานฟางหุบปากทันที ให้ซ้อมมือกับเย่เฟิงเหรอ? เขายังไม่อยากอายุสั้นหรอกนะ
การร่วมมือกันโจมตีหลงโม่หรานเมื่อสองวันก่อนทำให้เย่เฟิงพบว่าชายคนนี้ช่วยเหลือเขาได้มากทีเดียว ตราบเท่าที่สามารถฝึกฝนเคล็ดอสูรร่ำไห้ได้ หนานฟางก็สามารถเป็ผู้เชี่ยวชาญอาวุธลับในอนาคตได้แน่นอน
สุดท้ายแล้ว เย่เฟิงก็ไม่ได้อธิบายเหตุผลที่หลงโม่หรานเปลี่ยนไป
เมื่อเย่เฟิงกำลังจะพาหลงหว่านเอ๋อร์ ซูเมิ่งหาน และชูชูกลับไป ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนกรูเข้ามาทางประตูของห้องอาหาร คนเ่าั้สวมเครื่องแบบของตำรวจ พวกตำรวจงั้นเหรอ?
“อยู่นั่น”
ตำรวจกลุ่มหนึ่งก้าวมายังโต๊ะที่พวกเย่เฟิงอยู่อย่างรวดเร็ว
เย่เฟิงขมวดคิ้วทันที พวกนี้จะมาหาเื่กันหรือไง? ไม่สิ ต่อให้มันตั้งใจมาหาเื่เขาจริง ก็ควรเป็เ้าหน้าที่ของกองทัพหรือสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ทำไมถึงเป็พวกตำรวจท้องถิ่น?
ไม่นาน ชายหนุ่มก็รู้ว่าตำรวจเหล่านี้ไม่ได้มาหาเขา
“เซียวเยว่ ลูกชายของฉันอยู่ไหน?”
ชายวัยกลางคนที่ห้อยหยกรูปม้าไว้ที่คอ เดินตามกลุ่มตำรวจเข้ามา เมื่อเห็นเซียวเยว่ เขาก็ถามอย่างเอาเื่ทันที
หลังจากเห็นหยกรูปม้าที่คออีกฝ่าย เย่เฟิงพลันนึกถึงหวังเส้าตงที่ตนสังหารไปตอนอำพรางตัวเป็ฉลาม ชายคนนี้เป็พ่อของเขางั้นเหรอ? เย่เฟิงหัวเราะในใจ เขาเป็คนสังหารเ้านั่นเองแท้ๆ แต่ชายคนนี้ดันไปหาเื่เซียวเยว่เสียได้ เย่เฟิงย่อมไม่ยอมดูเซียวเยว่ถูกรังแก เพราะอย่างไร ผู้หญิงคนนี้ก็เป็คนที่อยู่ฝั่งเดียวกับเขา ในเมื่อเขาเป็คนสังหารหวังเส้าตงเอง เขาก็ควรรับผิดชอบปัญหานี้ด้วยเช่นกัน มันใช้เวลาไม่นานอยู่แล้ว
“โดนฉลามลากไปกินแล้ว” เย่เฟิงกล่าวขึ้นพร้อมเซียวเย่ว
…?
เมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน เย่เฟิงก็หันไปมองเซียวเยว่ ซึ่งเขาก็เห็นอีกฝ่ายมองกลับมาเช่นกัน สายตาทั้งคู่ประสานกันด้วยความประหลาดใจ
“โดนฉลามลากไปกิน?”
ชายวัยกลางคนหน้าซีดไปทันที นี่มันเหตุผลบ้าอะไรวะ
หวังเฉิงจงเป็คนใหญ่คนโตและได้รับความเคารพมากในเซี่ยงไฮ้ ลูกชายของเขาออกไปกับเซียวเยว่แล้วหายสาบสูญไป หากทำเื่นี้ให้ชัดเจนไม่ได้ เขาจะไม่ถูกคนทั้งเซี่ยงไฮ้หัวเราะเยาะเอาหรือ?
สำหรับเื่ของเซียวเยว่ หวังเฉิงจงรู้ดี เพราะหวังเส้าตงไล่ตามผู้หญิงคนนี้ตลอดทั้งวัน ดังนั้นหวังเฉิงจงจึงสืบค้นข้อมูลของเธอมาหมดแล้ว
เดิมเซียวเยว่เป็คนเยี่ยนจิง แต่มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในเซี่ยงไฮ้สี่ปี หลังจากจบการศึกษาก็ทำงานต่อที่เซี่ยงไฮ้ได้เกือบสองปีแล้ว แต่จุดสำคัญคือ เซียวเยว่เป็คนตระกูลเซียวแห่งเมืองเยี่ยนจิง
ตระกูลเซียวในเมืองเยี่ยนจิงเป็ตระกูลเล็กๆ แต่อิทธิพลที่นั่นไม่ได้เล็กตามไปด้วย ทำให้หวังเฉิงจงระมัดระวังเป็อย่างยิ่ง หลังจากขบคิดอยู่หลายรอบ เขาก็ตัดสินใจว่าจะนำตำรวจท้องถิ่นเข้าจับกุมตอนเช้าวันนี้ เพราะหากเซียวเยว่กลับไปเยี่ยนจิงได้ เขาจะทำอะไรเธอไม่ได้อีก
“ใครคือคุณหนูเซียว ขอโทษด้วย แต่คุณตกเป็ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมโดยเจตนา โปรดให้ความร่วมมือกับเราด้วย”
ตำรวจหน้ายาวคนหนึ่งกล่าว แต่เมื่อมองไปรอบๆ เขาก็รู้สึกละลานตา
ทำไมถึงมีสาวสวยเยอะขนาดนี้ นี่มัน์ชัดๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้