บันไดสามขั้นสุดท้ายเปรียบเสมือนูเาใหญ่สามลูกที่ขวางทางข้างหน้าของหลัวเลี่ย ตอนนี้เขาไม่มีพลังหลงเหลืออยู่แล้ว
ขั้นที่เก้าสิบเจ็ดเป็ขีดจำกัดสูงสุดของเขาแล้ว และเขาไม่สามารถก้าวขึ้นไปได้อีก
หลัวเลี่ยกัดฟันยืนขึ้น เขาใช้ขาที่สั่นเทาพยุงร่างกายไว้ แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นยอดเขาแห่งคุกอนธการ แต่เขาก็สามารถมองเห็นพื้นที่กว้างใหญ่ของโลกแห่งเื้ัได้
ูเาแห่งคุกอนธการเป็ูเาที่มีความลึกลับมาก มันดูเหมือนจะไม่สูง แต่หลังจากเกินขั้นที่เก้าสิบห้าไปแล้ว เขากลับรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่อีกมิติหนึ่ง
หลังจากขั้นที่เก้าสิบห้าเป็ต้นไปเสมือนมีช่องว่างขนาดใหญ่ที่แตกต่างกับขั้นก่อนหน้านี้
หากเป็แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับก่อนหน้านี้ หลัวเลี่ยก็คงสามารถพุ่งขึ้นไปบนยอดเขาได้ในคราวเดียว แต่แรงกดดันหลังจากขั้นที่เก้าสิบห้านั้นจู่ๆ ก็สูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้เขาไม่สามารถทนรับได้
“อ่า!”
หลัวเลี่ยถอนหายใจเบาๆ “หากพลังไม่ถึงระดับสิบ ข้าคงขึ้นไปไม่ได้”
เขารู้สึกหมดหวังเล็กน้อย
แต่เพราะตอนนี้เขาอยู่ในภพจิตั หากเขาทะลวงผ่านระดับที่นี่ เมื่อกลับสู่ความโลกแห่งความเป็จริง มันคงจะเกิดปัญหาตามมาทีหลังมากมาย และชีวิตของเขาก็อาจตกอยู่ในอันตรายด้วย
กลับไปก่อนดีกว่า
หลัวเลี่ยหันหลังกลับและเดินช้าลง
ขณะที่หลัวเลี่ยเดินลงไปทีละก้าว แรงกดดันกับความอ่อนล้าของเขาก็ค่อยๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว
สาวงามทั้งสองคนที่อยู่ข้างล่างูเามองดูหลัวเลี่ยด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน
ผีเสื้อแห่งรักเสียใจที่หลัวเลี่ยไม่สามารถพุ่งไปถึงยอดเขาได้ในครั้งเดียว
ส่วนเย่เิหลงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองจะรับไม่ไหว มันน่าเหลือเชื่อเกินไปสำหรับนาง
“ตอนที่คนคนนั้นล้มเหลว เขาหยุดอยู่ที่ขั้นเก้าสิบเจ็ด”
“ความสามารถของเขาในตอนนั้นเป็รองเพียงเทพเท่านั้น แม้ว่าตอนที่เขาเข้ามาที่นี่เขาจะถูกจำกัดพลังให้อยู่เพียงผู้ฝึกตนระดับสิบ แต่เขาก็ยังคงมีความแข็งแกร่งดั่งเทพอยู่”
“สิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะในรอบพันปีนั้นเทียบไม่ได้กับเขาจริงๆ”
“เขาเป็ใครกันแน่?”
“เอาชนะให้ได้!”
ทันใดนั้นเย่เิหลงก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากที่หลัวเลี่ยเดินลงบันไดไปทีละขั้น เขาก็หันไปมองทีู่เาแห่งคุกอนธการ และส่ายหัวด้วยความผิดหวัง
ผีเสื้อแห่งรักพูดเบาๆ “อย่าท้อแท้”
“เดิมทีข้าคิดว่ามันเป็ไปได้ แต่มันก็ยังขาดอะไรไปนิดหน่อย” หลัวเลี่ยพูด “หากบุปผางามอาบพิษทั้งสามดอกไม่ถูกทำลาย ขุนพลเทพอสูรก็จะกำเนิดขึ้นได้ และเมื่อถึงเวลานั้นโลกนี้คงวุ่นวายเป็แน่”
เมื่อคิดถึงตอนที่โลกเกิดความวุ่นวาย ผีเสื้อแห่งรักก็เงียบลงเช่นกัน ใจของนางหนักอึ้ง
เย่เิหลงที่หายใแล้วก็ยกนิ้วให้หลัวเลี่ย “เยี่ยมมาก! ข้าชื่นชมและนับถือเ้าจริงๆ การที่ได้เห็นเ้าขึ้นไปถึงขั้นที่เก้าสิบเจ็ดนับว่าเป็เกียรติของข้าแล้ว”
ผีเสื้อแห่งรักแย้มรอยยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า “ผู้ที่หยิ่งยโสอย่างเย่เิหลงกลายเป็คนนอบน้อมเช่นนี้ได้อย่างไร”
“แม้ว่าข้าจะไม่เคยยอมใคร แต่ข้าก็ยอมเขาแล้ว” เย่เิหลงกล่าวอย่างจริงใจ “ทั้งความแข็งแกร่ง ศักยภาพ สติปัญญา สามสิ่งนี้คือคุณสมบัติของผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนนี้ และสิ่งเดียวที่เขาขาดไปก็คือเวลา”
เมื่อเย่เิหลงเอ่ยถึงเื่เวลา หลัวเลี่ยก็พูดว่า “ใช่ มันจะดีมาก หากข้ามีเวลามากกว่านี้ ถ้าข้ามีพลังวรยุทธ์ถึงผู้ฝึกตนระดับสิบ ข้ามั่นใจว่าข้าจะสามารถฝ่าไปถึงยอดเขาแห่งคุกอนธการได้อย่างแน่นอน”
เย่เิหลงรู้สึกว่าหัวของนาง ‘ว่าง’ และอึ้งมากกว่าเดิมไปอีกสิบเท่า
นางอดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วถามว่า “เ้าพูดว่าอะไรนะ เ้าพูดอีกครั้งได้หรือไม่”
“ข้าบอกว่า หากให้เวลาข้ามากกว่านี้ จนพลังของข้าไปถึงระดับสิบ ข้าต้องไปถึงยอดเขาและกำจัดบุปผางามอาบพิษทั้งสามดอกได้แน่” หลัวเลี่ยกล่าว
เย่เิหลงเกือบจะกรีดร้อง “เ้ายังไม่ถึงระดับที่สิบของระดับผู้ฝึกตนหรือ!”
หลัวเลี่ยพยักหน้า “ใช่ พลังของข้าอยู่ที่จุดสูงสุดของผู้ฝึกตนระดับที่เก้าเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถทะลวงผ่านระดับที่นี่ได้”
เย่เิหลงใ
แม้ว่านางจะนิ่งขรึมและมีไหวพริบอยู่เสมอ แต่นางก็ใกับเื่นี้จนพูดไม่ออก
ตอนแรกที่นางคิดว่าเขามีพลังอยู่ในระดับผู้ฝึกตนระดับที่สิบ นางก็ใแล้วที่เขาสามารถขึ้นไปได้ถึงขั้นที่เก้าสิบเจ็ดได้ แต่ตอนนี้นางได้รู้ว่าพลังของเขาอยู่เพียงผู้ฝึกตนระดับที่เก้า? นี่คือตำนานหรือ? เป็เื่จริง!
นางมองหลัวเลี่ยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
สายลมพัดเบาๆ ที่แห่งนี้เงียบจนได้ยินเสียงดอกไม้และต้นไม้ที่พัดไหวเสียดสีกันจนเกิดเป็เสียง
หลัวเลี่ยมองไปไกล เขาขบคิดในใจว่าจะก้าวขึ้นไปบนยอดเขาแห่งคุกอนธการได้อย่างไร
และเพราะความสามารถทางด้านเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินของเขาก็ไม่อาจใช้งานที่นี่ได้ ทำให้เขาคิดหนักกว่าเดิม
เย่เิหลงใช้เวลาเกือบหนึ่งเค่อเพื่อสงบสติอารมณ์ นางจ้องไปที่ใบหน้าด้านข้างของหลัวเลี่ยโดยไม่กะพริบตา จนกระทั่งผีเสื้อแห่งรักส่งเสียงกระแอมขึ้นมาอย่างไม่พอใจ เย่เิหลงจึงหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีวิธีที่จะทำให้เ้าทะลวงระดับไปได้”
“เ้ามีแก้วจิตัหรือ?” หลัวเลี่ยดีใจมาก
แก้วจิตัเป็สิ่งจำเป็ในการทะลวงผ่านระดับพลังทั้งๆ ที่ยังอยู่ในภพจิตั หากใช้สิ่งนี้ก็ไม่จำเป็ต้องกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่ร่างกายจะะเิรุนแรงหลังออกจากภพจิตั
เย่เิหลงยื่นมือขวาอันเรียวยาวของนางออกมา นางกางฝ่ามือออก เผยให้เห็นลูกแก้วทรงกลมอยู่กลางฝ่ามือ ลูกแก้วนี้ดึงดูดไอหมอกให้มาจับตัวกันจนก่อตัวเป็ัที่ร่ายรำบนผิวน้ำ
สิ่งนี้ก็คือแก้วจิตั
“มีมันแล้ว ข้าต้องไปถึงยอดเขาแห่งคุกอนธการได้แน่”
หลัวเลี่ยมีความสุข ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองหมดหวังแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะมีโอกาสอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปคว้ามันเอาไว้
พรึ่บ!
เย่เิหลงส่งมือขวาของนางมาจับมือของหลัวเลี่ยไว้ “พวกเรายังไม่ได้เจรจาข้อตกลงกันเลย”
ผีเสื้อแห่งรักที่ยืนอยู่ข้างๆ เย่เิหลงไม่ได้พูดอะไรออกมา นางทำเพียงยื่นมือออกไปจับมือของเย่เิหลง เพื่อป้องกันไม่ให้เย่เิหลงจับมือของหลัวเลี่ย
เย่เิหลงทำได้แค่ยิ้ม และไม่สนใจการกระทำนี้
“พูดเงื่อนไขมาสิ” หลัวเลี่ยกล่าว
เย่เิหลงชี้ไปที่ยอดของเขาแห่งคุกอนธการ “แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่มีใครเคยพิชิตยอดเขาแห่งคุกอนธการได้ แต่ข้าก็มั่นใจว่าต้องมีสมบัติมากมายอยู่บนนั้น หากเ้าได้ขึ้นไปแล้ว พวกเราต้องแบ่งมันเท่าๆ กัน และเ้าต้องให้ข้าได้เลือกสมบัติก่อน”
ก่อนที่หลัวเลี่ยจะเอ่ยปาก ผีเสื้อแห่งรักก็พูดขึ้นก่อน “แบ่งเท่าๆ กันได้ แต่เ้าจะเลือกสมบัติก่อนไม่ได้”
“ข้า้า...” เย่เิหลงกล่าว
ผีเสื้อแห่งรักเอ่ยขัดขึ้นทันที “เ้าไม่จำเป็ต้องขอสิ่งที่เ้า้า เพราะมันไม่มีทางเป็ไปได้ หากเ้าไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ก็ไม่เป็ไร”
เย่เิหลงมองไปที่ผีเสื้อแห่งรักครู่หนึ่ง “ก็ได้ เช่นนั้นก็เอาตามที่เ้าว่า”
จากนั้นเย่เิหลงก็โยนแก้วจิตัไปที่หลัวเลี่ย
เนื่องจากรอบๆ ูเาแห่งคุกอนธการนี้ไม่มีสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน พวกเขาจึงเดินออกจากบริเวณนี้ไปก่อน และไปยังเทือกเขาขนาดใหญ่ด้านหลัง เพื่อหาที่ซ่อนตัวสำหรับการทะลวงพลัง
หลัวเลี่ยได้กักตัวเข้าณานอยู่ภายในถ้ำแล้ว
และหญิงสาวทั้งสองคนกำลังปกป้องเขาอยู่ด้านนอก
พวกนางกำลังเฝ้าระวังอย่างรอบคอบ
แม้ว่าผีเสื้อแห่งรักจะซ่อนตัวภายใต้กลุ่มหมอก แต่นางก็ยังทำให้ผู้คนรู้สึกถึงสายตาที่เฉียบคมเหมือนดาบ
“ผีเสื้อแห่งรัก เรามาคุยกันดีหรือไม่” เย่เิหลงยิ้มออกมาเล็กน้อย
“คุยอะไร” ผีเสื้อแห่งรักยืดหลังตั้งตรง
เย่เิหลงกล่าวว่า “ในเมื่อเ้าปกปิดตัวตนอยู่ ก็แสดงว่าตัวตนที่แท้จริงของเ้าย่อมไม่ต่ำต้อยอย่างแน่นอน เช่นนั้นพวกเรามาคุยอย่างเปิดเผยกันเถิด”
ผีเสื้อแห่งรักยิ้มบางๆ และพูดว่า “จริงๆ แล้ว ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเ้า แต่ก่อนอื่นข้าขอบอกเ้าชัดๆ ว่ามันเป็ไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าร่วมกองกำลังของเ้า อีกอย่างเขาไม่มีทางสนใจเ้าอย่างแน่นอน และสุดท้าย อย่าหวังว่าเ้าจะได้เล่นกับความรู้สึกของเขา”
“ฮ่าๆ...”
หลังจากที่เย่เิหลงได้ฟังประโยคนั้นของผีเสื้อแห่งรักแล้ว นางก็หัวเราะออกมา “ถ้าเ้าพูดเช่นนั้น ข้าเทพีจันทราเย่เิหลงก็ขอบอกกับเ้าตามตรงว่า ผู้ชายแบบเขาอาจดูเหมือนดึงดูดใจ แต่ความจริงตอนนี้ข้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาสักนิด แต่เมื่อได้ยินเ้าพูดว่าเขาจะไม่สนใจข้า หึๆ ข้าก็เริ่มสนใจเสียแล้วสิ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้