ไท่จือเว่ยจิ้นโยนถุงเงินให้แม่ค้าขนม แล้วคว้าขนมงาดำมาส่งให้ไป๋ฮวาอย่างทะนุถนอม
"ข้าซื้อให้เ้า...เพราะข้าอยากเห็นเ้ากินมันด้วยรอยยิ้ม"
ไท่จือซางหลางไม่ยอมแพ้
เขาหยิบผ้าแพรเนื้อดีลายบุปผาโบราณจากร้านข้างทาง แล้วยื่นให้ไป๋ฮวาบ้าง
"ข้าซื้อให้...เพื่อจะได้เห็นเ้ากางมันเป็ม่านบังรอยยิ้มเขินๆ ของเ้า"
ไป๋ฮวาหน้าแดงก่ำ แอบเบี่ยงหลังไปข้างหลังไป๋อวี้
ไป๋อวี้ที่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แต่ดวงตากลับเปล่งประกายขบขัน
"ศึกนี้...ข้าขอเป็พยาน แต่ขอให้ตีกันด้วยน้ำใจอย่าให้เืตกยางออกก็แล้วกัน"
เสียงหัวเราะของชายหนุ่มทั้งสามดังขึ้นใต้ฟ้าคราม
เสมือนเสียงขลุ่ยปี่กู่ร้องเรียกคืนวันเก่าๆของมิตรภาพและคำสัตย์สาบานในยุคของพ่อแม่พวกเขา
ในอนาคตข้างหน้าวันหนึ่ง...ใครบางคนจะต้องชนะ
และใครบางคน...จะได้หัวใจของบุปผาน้อยผู้นี้ไปครอง
แต่ไม่ว่าสิ้นสุดเช่นไร
"มิตรภาพ" ที่พวกเขาถักทอมาั้แ่า จะไม่มีวันแตกสลายไปเลย...
ในขณะที่ตลาดที่เต็มไปด้วยเสียงดังรื่นเริงจากการค้าขายของชาวบ้าน ไป๋ฮวาก็เดินไปเรื่อยๆตรงไปยังร้านขนมหวานที่เธอชอบ ส่วนไป๋อวี้เดินเคียงข้าง แต่ความสนุกกลับเกิดขึ้นจากการที่ทั้งสองบุรุษหนุ่มที่มีท่าทีแปลกแยกต่างกันอย่างชัดเจนกลับเดินตามมาไม่ห่าง
“ข้าล่ะชอบพวกเขาจริงๆ เลยพี่สาว” เดินเอามือไพล่หลังกระทุ้งศอกกระซิบกับไป๋ฮวาเบาๆ ไป๋ฮวาส่ายหน้ายิ้มๆ
"ไป๋ฮวา" ไท่จือเว่ยจินะโพร้อมก้าวเข้ามาขวางหน้าหญิงสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง เหมือนจะบอกว่าไม่ว่าเ้าจะไปที่ไหน ข้าจะไปด้วยเสมอ ไม่ต้องห่วง ข้าจะคอยดูแลเ้าสายตาบ่งบอกแบบนั้นจริงๆ
"ท่านนี่จะว่าไปพูดอะไรดีๆแบบนี้กับหญิงงามเสมอ เสมอสินะ" ซางหลางพูดขึ้นเบาๆ เหมือนกับบ่นกับตัวเอง
เว่ยจินหัวเราะเสียงดังเหมือนจะไม่มีอะไรทำให้เขาลำบากใจได้
"ข้าแค่ห่วงนางน่ะ ทำไมต้องฝืนใจเล่าห่วงก็บอกว่าห่วงมิใช่ซางหลางที่เอาแต่วางมาดนิ่งขรึมให้หญิงงามเช่นไป๋ฮวาคิดไปเอง”
ไท่จือซางหลางถอนหายใจยาว
"ท่านอ๋องบิดาเ้าชวนข้าเสวยเย็นด้วยข้าตามนางไม่ผิดแต่ไท่จือซางหลางไม่เอาเวลาไปเรียนรู้งานในราชสำนักเอาแต่ตามไป๋ฮวานี่สิแปลกไม่น้อยนี่"
เว่ยจินพูดพร้อมยิ้มหล่อเหลา แต่แววตาของเขานั้นเหมือนจะมีบางอย่างซ่อนเร้น
“พี่สาว ถ้าท่าน้าความช่วยเหลือที่แท้จริง ข้ามีแผนที่ดีที่สุดสำหรับท่านเสมอ"ไป๋อวี้พูดขึ้นแทบจะกลายเป็กระซิบ
"แผนอะไรอีกล่ะ" ไป๋ฮวาถามโดยไม่สนใจทั้งสองบุรุษ
“เราจะร่วมวางแผนทันทีที่ท่านบอกข้าว่าท่านเลือกใคร”
ไป๋อวี้พูดยิ้มๆ
“ไม่เลือกใคร” ไป่ฮวาถอนหายใจยาว
"ถ้าท่านรับความช่วยเหลือจากข้า ท่านจะไม่ผิดหวังนะพี่สาว"
"รับความช่วยเหลือจากน้องชายขี้แย”
“พี่สาวท่านช่วยข้าข้าช่วยท่าน ท่านช่วยข้าหาความจริงหเื่หญิงอัปลักษณ์กับหยกชิ้นนั้น”
เว่ยจินมาตะแคงหูฟังสิ่งที่ทั้งสองพูดกัน
“มีเื่เช่นนี้ด้วยหรือหญิงอัปลักษณ์ เหมือนข้าเคยได้ยินที่ไหนนะ”
“อย่าบอกนะว่าไป๋ฮวี้ลูกแมวขี้แยของเรามีหญิงหนึ่งมาหมายปองแล้ว” ซางหลางพูดขึ้นบ้าง
“ไม่ใช่แบบนั้นนะท่านพี่ซางหลางท่านอย่าเข้าใจผิด เว่ยจิน ท่านนะชักใบให้เรือเสีย ทำดีกับข้าหน่อยไม่อย่างนั้นข้าไม่ช่วยพูดให้พี่สาวข้าชอบท่านนะ”
ในขณะที่บรรยากาศ กำกวมนั้นเอง หญิงที่มองอยู่ในเงาไม้ ค่อยๆ ขยับตัวอย่างระมัดระวัง โดยใช้มือจับแผ่นหนังอัปลักษณ์แน่นขณะมองไปที่ไป๋อวี้และคนทั้งสามอย่างไม่วางตา
ท่าทางที่แย่งชิงกันทำคะแนนของเว่ยจินและซางหลางทำให้หญิงในเงาไม้คนนั้นรู้สึกเหมือนกำลังเฝ้ามองเกมที่น่าสนใจ ขณะที่ทั้งสองชายค่อยๆเริ่มแสดงสีหน้าคาดเดาไม่ได้ ท่ามกลางการแย่งชิงการเอาชนะใจหญิงสาว
“น่าสนุก แต่เหลือเชื่อเลย...ทำไมไป๋ฮวาถึงไม่รู้สึกอะไรเลย" หญิงในเงาไม้พึมพำกับตัวเอง
“ให้เราสองคนช่วยไหมเ้าลูกแมวขี้แย” เว่ยจินยังไม่ยอมหยุดล้อ
“ก็ได้ แต่อย่างพวกท่านอะนะช่วยอะไรข้าได้” ไป๋ฮวาถอนหายใจ
“พวกเราไปด้านนั้นดีกว่าเพื่อว่าจะพอมีร้านหยกสักร้านให้คำตอบเื่นี้ได้”
“ดีเลยข้ากำลังตั้งใจจะชวนไป๋ฮวาไปทางนั้นพอดี ของกินเยอะเครื่องประดับแยะเชียว” เว่ยจินพูดขึ้นดังๆ ซางหลางคว้าข้อมือบางของไป๋ฮวาให้เดินตามเขาทันที
“นี่ๆๆๆ เ้าซางหลางถือดีอย่างไรมาจับมือว่าที่ไท่จือเฟยของข้า” เว่ยจินะโตามหลังไป๋อวี้ยกมือขึ้นตบที่ไหล่ของเว่ยจินเบาๆ อย่างปลอบใจ
“ไม่ต้องเลยข้าไม่ยอมแพ้แน่ๆ” เว่ยจินประกาศก้อง
ไท่จือเว่ยจินและไท่จือซางหลางก็ไม่ยอมแพ้ที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาใจไป๋ฮวาอย่างเต็มที่ ทั้งสองคนกลายเป็สายเปย์ที่แข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ที่ร้านหยก เว่ยจินพร้อมรอยยิ้มกว้างเดินเข้าไปข้างไป๋ฮวาด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะหยิบหยกสีม่วงใส่มือของเธอ
"ไป๋ฮวาสิ่งนี้สำหรับคนสำคัญ ข้าขอให้เ้ารับหยกนี้เป็ของขวัญจากข้า รับไว้เถอะนะ"
เขาพูดอย่างใส่ใจ ขณะที่ตาเขากลับมีแววตาที่ท้าทายซางหลาง