"ในห้องคลังสินค้าของพวกเรามีดวงจิตพยัคฆ์อสูรเพียงแค่ลูกเดียว แต่มันเป็เพียงระดับฉีไห่ขั้นต้นเท่านั้น ข้าเกรงว่ามันจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพเม็ดยาของเ้า...ดังนั้นข้าจึงส่งคนไปยังเมืองชื่อและนำดวงจิตพยัคฆ์อสูรขอบเขตฉีไห่ขั้นสูงสุดมาแทน มันเก็บอยู่ที่ห้องปรุงยาน่ะ"
เจียงเจิ้นไห่กล่าว
"ขอบคุณท่านมาก ท่านพ่อ"
ดวงตาของเจียงเฉินเปล่งประกาย
"พวกเราเป็พ่อลูกกัน ใยต้องสุภาพเช่นนั้นเล่า"
เจียงเจิ้นไห่กล่าวออกมาพร้อมเผยรอยยิ้ม
ภายในห้องปรุงยา!
นอกเหนือจากเตาหลอมโอสถและกองสมุนไพรที่ได้จัดเตรียมไว้ เจียงเฉินได้ตรวจสอบพวกมันและพบว่ามี หญ้าเชียนเย่,ไม้ร้อยิญญา,หญ้าหลานชิง และสมุนไพรอื่นๆ พวกมันเป็วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงเม็ดยาหยวนพยัคฆ์ และมีกล่องสีแดงตั้งอยู่ ภายในกล่องมีดวงจิตอสูรขนาดเท่ากำปั้น มันดูราวกับผลึก มันเปล่งแสงจางๆ เจียงเฉินััได้ถึงพลังงานที่อยู่ภายในจากการมองเพียงครั้งเดียว
"คาดไม่ถึงเลยว่านี่จะเป็ดวงจิตอสูรของพยัคฆ์อัคคี และแก่นแท้อัคคีที่อยู่ภายในยังบริสุทธิ์และไม่ได้รับความเสียดายใดๆ นี่เป็ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงเลยนะนี่"
เจียงเฉินทั้งมีความสุขและประหลาดใจ เขาสามารถบอกถึงที่มาของดวงจิตอสูรนี่ได้ในการมองเพียงครั้งเดียว
แม้ว่าพยัคฆ์อัคคีจะเป็เพียงสัตว์อสูรทั่วไป แต่มันยังอยู่ในเผ่าพันธุ์ที่หาได้ยาก มันไม่มีสายเืพิเศษ แต่มันมีเปลวเพลิงเฉพาะตัว
เพลิงของพยัคฆ์อัคคีไม่ได้รุนแรงนัก แต่มันรุนแรงกว่าเพลิงที่ใช้ในการปรุงยามากนัก
นอกจากนี้ เมื่อทำการดูดซับเปลวเพลิงนี้ จะสามารถปลดปล่อยอุณหภูมิของเปลวเพลิงนี้ได้โดยใช้พลังิญญา มันเป็เื่ยากและเสี่ยงมากสำหรับนักปรุงยาทั่วไปที่จะดูดซับเปลวเพลิงจากภายนอกโดยไม่ใช้วิธีพิเศษ แต่สำหรับเจียงเฉินแล้วการดูดซับเปลวเพลิงของพยัคฆ์อัคคีเป็เื่ง่ายดายนัก
"มา!"
เจียงเฉินโบกมือ ดวงจิตอสูรได้ลอยมาอยู่ในมือของเขาทันที จากนั้นเขาโบกมืออีกครั้งสร้างผนึกขึ้นมา ด้วยผลของผนึก แก่นอัคคีได้ถูกดึงออกมาจากดวงจิตอสูร
เจียงเฉินอ้าปากและกลืนแก่นอัคคีเข้าไป
แก่นอัคคีเป็แก่นแท้เปลวเพลิงของพยัคฆ์อัคคี เมื่อดูดซับมันสามารถที่จะหลอมรวมกับแก่นแท้ิญญาและพลังหยวนภายในร่างได้ ทำให้คนผู้นั้นสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงได้มากตามที่พลังิญญาและพลังหยวนจะสามารถสร้างได้
หลังจากแก่นอัคคีเข้าสู่ร่างกายของเขา เจียงเฉินรู้สึกราวกับน้ำร้อนลวก ภายใต้การควบคุมของเขา เขาส่งพลังิญญาเข้าไปดั่งคลื่นถาโถม มันได้กลืนแก่นอัคคีทันที
ภายใต้การประสานของทักษะร่างแปลงัและทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยน แก่นอัคคีถูกหลอมรวมด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ เจียงเฉินเมินวิธีการดูดซับแก่นอัคคีทั่วไปและใช้ทักษะร่างแปลงัร่วมกับทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยนแทน
ทักษะร่างแปลงัสามารถที่จะดูดซับสายเืใดๆในโลกได้ ดังนั้นแก่นอัคคีทั่วไปไม่ยากเกินไปสำหรับมัน นอกจากนี้เขายังใช้ทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยนช่วยอีกด้วย
ในครู่ถัดมา เจียงเฉินพลิกฝ่ามือ เปลวเพลิงสายหนึ่งได้พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา เมื่อเจียงเฉินใส่พลังหยวนเข้าไปเพิ่ม เปลวเพลิงก็ยิ่งโชติ่ขึ้น
"ได้ดูดซับแก่นอัคคีไป ตราประทับัดวงแรกของข้าใกล้จะก่อตัวเสร็จเร็วๆนี้แล้ว หากว่าข้าดูดซับพลังงานภายในดวงจิตอสูรนี่เข้าไป อาจจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตฉีไห่ก็เป็ได้ แต่การสร้างรากฐานสำคัญยิ่งกว่า ข้าควรมุ่งเน้นการวางรากฐานเสียก่อน"
ประสบการณ์ในการฝึกตนของเจียงเฉินมิใช่สิ่งที่จะนำใครมาเปรียบเทียบได้ เขาเข้าใจเป็อย่างดี ในการวางรากฐานให้มั่นคงก่อนที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับถัดไปนั้นสำคัญยิ่งกว่า
เมื่อใช้ดวงจิตอสูรในการปรุงเม็ดยาพยัคฆ์หยวน แก่นแท้ส่วนใหญ่จะเสียไป แต่เจียงเฉินไม่คิดเสียดายมัน ของดีควรอยู่ในที่ควรจะใช้ ตอนนี้สิ่งที่เขาจำเป็ต้องทำมิใช่ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตฉีไห่ แต่เป็การพัฒนาร่างกายของตน
"มีเปลวเพลิงนี่ ข้าสามารถปรุงยาออกมาได้มากเป็สองเท่าและเสียแรงน้อยลงเป็เท่าตัว"
ดวงตาของเจียงเฉินเปล่งประกายวิบวับ ด้วยทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยนและเปลวเพลิงของพยัคฆ์อัคคี เขาไม่จำเป็ต้องใช้เตาปรุงยาอีก ทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยนมิเพียงแค่ฝึกฝนิญญา แต่มันสามารถใช้มันทำให้การปรุงยาเป็ไปอย่างราบรื่นได้อีกด้วย
ฟู่ ฟู่........
คลื่นพลังิญญาใหญ่ั์ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา มือของเจียงเฉินสั่นไหวและเปลวเพลิงพวยพุ่งออกมา กลายเป็ทะเลเพลิงและทะเลเพลิงได้เริ่มหลอมรวม ทำให้เกิดเสียงดังราวกับปะทัดขึ้น เจียงเฉินโบกมือ โยนวัตถุดิบทั้งหมดลงไปในทะเลเพลิง
ทิ้งเตาหลอมไปและใช้วิธีปาฎิหารย์ในการปรุงยา หากว่าโจวเป่ยเฉินและคนอื่นๆได้มาพบเห็นเข้า พวกเขาคุกเข่าด้วยความชื่นชมเป็แน่
ขจัดสิ่งปนเปื้อน....หลอมเม็ดยา.....และก่อรูปเม็ดยา
เมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของเจียงเฉินขั้นตอนต่างๆดำเนินการอย่างราบรื่น ั้แ่ต้นยันจบไหลลื่นราวกับสายน้ำ ไม่มีการติดขัดแม้แต่น้อย
เพลิงของพยัคฆ์อัคคี ทำให้อุณหภูมิของห้องปรุงยาสูงขึ้นกว่าเดิมสองเท่า ภายใต้การควบคุมของทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยน เพียงแค่หนึ่งชั่วโมงเจียงเฉินก็สามารถหลอมมันได้สำเร็จ
เจียงเฉินถอนพลังปราณ พลังิญญาและเปลวเพลิงทั้งหมดกลับไป จากนั้นเขาโบกมือ เม็ดยาที่เพิ่งหลอมเสร็จใหม่ได้ลอยเข้าสู่ฝ่ามือของเขา
เม็ดยาพยัคฆ์หยวนเปล่งแสงอบอุ่นจางๆ มันรู้สึกราวกับมีเปลวเพลิงขนาดเล็กอยู่บนมือของเขา เม็ดยาโปร่งใสและเปล่งประกายสดใส นี่เป็เพราะเม็ดยานี้มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน เป็เม็ดยาที่สมบูรณ์แบบที่สุด
"เม็ดยาพยัคฆ์หยวนนี่อยู่ในระดับมนุษย์ ด้วยสภาพของข้าในตอนนี้ มันเหมาะสมที่สุด"
เจียงเฉินพึงพอใจกับเม็ดยาพยัคฆ์หยวนที่เขาปรุงออกมามาก เม็ดยาระดับมนุษย์สามารถปรุงออกมาได้โดยนักปรุงยาที่อยู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขึ้นไปและเป็เื่ยากมากที่จะสามารถปรุงได้ประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนเช่นนี้
เจียงเฉินสามารถปรุงเม็ดยาขั้นมนุษย์ได้ด้วยฐานการบ่มเพาะเพียงฉีจิงระดับเก้า หากเื่นี้แพร่งพรายออกไป เชื่อได้ว่าผู้คนจำนวนมากจะต้องกรามร่วงสู่พื้นเป็แน่
เม็ดยามนุษย์หยวนเป็เม็ดยาพื้นฐานของเม็ดยาหยวนซึ่งจะแตกต่างจากเม็ดยาชนิดอื่น ภายในโลกใบนี้มีเม็ดยามนุษย์หยวน เม็ดยาปฐีหยวน เม็ดยา์หยวนและเม็ดยาเซียนหยวน ส่วนผสมของเม็ดยาเหล่านี้หาได้ง่าย แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากเม็ดยาชนิดอื่นคือมันอุดมไปด้วยพลังหยวนอันบริสุทธิ์ เป็แก่นแท้ในการฝึกตนต่อผู้ฝึกตนทั้งหลาย
เม็ดยาทั้งสี่ประเภทนี้สามารถแบ่งได้เป็สี่ระดับ มนุษย์ ปฐี ์ เซียน ไม่เหมือนกับทักษะยุทธที่แบ่งแยกออกเป็ระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง ในแต่ละประเภทของเม็ดยาหยวนไม่มีการแบ่งระดับ มันเป็เื่ง่ายดายในการปรุงยาประเภทนี้ ไม่ว่านักปรุงยาคนใดก็สามารถปรุงออกมาได้ตราบที่มีพลังหยวนและพลังิญญาเพียงพอ
"เม็ดยาพยัคฆ์หยวนนี่สามารถเสริมสร้างพลังหยวนของข้าและช่วยทำให้รากฐานของข้ามั่นคงได้"
เจียงเฉินอ้าปากและกลืนเม็ดยาพยัคฆ์หยวนเข้าไป พลังงานอันมหาศาลได้เริ่มแพร่กระจายไปทั่วร่าง ทำให้ร่างของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง
"ทักษะร่างแปลงั จงดูดซับมันให้ข้า"
เจียงเฉินนั่งขัดสมาธิ จากนั้นโคจรทักษะร่างแปลงัทันที ทักษะปาฎิหารย์นี่ทรงอำนาจยิ่ง ไม่เพียงแค่สามารถดูดซับพลังหยวนฟ้าดินได้อย่างรวดเร็ว มันยังดูดซับพลังงานได้รวดเร็วมากเช่นกัน
ด้วยการโคจรทักษะร่างแปลงั พลังงานภายในเม็ดยาพยัคฆ์หยวนได้ถูกดูดซับทีละน้อย มันช่วยเสริมสร้างรากฐานพลังหยวนภายในร่าง ส่วนผสมได้เข้าไปยังกระดูกและกล้ามเนื้อทั้งหมดของเขา และเจาะทะลวงเข้าสู่ส่วนลึกที่สุดภายในร่างกายของเขา พลังงานได้ถูกตราประทับัภายในจุดตันเถียนของเขาดูดซับไป
เปรี๊ยะๆๆ
ร่างกายของเจียงเฉินเกิดเสียงดัง'เปรี๊ยะ'ขึ้นมา ราวกับว่ามีแรงสั่นะเือย่างรุนแรงเกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา เจียงเฉินปิดประสาทััทั้งหกและมุ่งสมาธิทั้งหมดในการดูดซับเม็ดยาและบ่มเพาะทักษะร่างแปลงั
หลังจากผ่านไปชั่วโมง เจียงเฉินพลันลืมตาขึ้น ลำแสงสองสายได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากดวงตาของเขา ทำให้อากาศตรงหน้าเขาเกิดระลอกคลื่นขึ้น
เม็ดยาพยัคฆ์หยวนได้ถูกดูดซับอย่างสมบูรณ์ และทั่วทั้งร่างของเจียงเฉินเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง สิ่งที่ขาดไปสำหรับร่างของเขาในตอนนี้คือพลังหยวน และร่างกายที่อ่อนแอนี้ ด้วยผลของทักษะร่างแปลงัและเม็ดยาพยัคฆ์หยวนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนแทบสมบูรณ์แบบ
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยผลของเม็ดยาพยัคฆ์หยวน ตราประทับัภายในร่างของเขาได้ถูกสร้างขึ้นจนสมบูรณ์ ทำให้มันดูสีแดงสด
"ในที่สุดตราประทับัดวงแรกก็สร้างเสร็จสมบูรณ์!ทำให้ข้ามีพลังถึงหนึ่งหมื่นจิน ฮ่าฮ่าฮ่า...ด้วยขอบเขตฉีจิงระดับเก้ามีพลังถึงหมื่นจิน ทักษะร่างแปลงันี่ทรงพลังจริงๆ ศักยภาพของข้ายอดเยี่ยมยิ่งเสียกว่าในชีวิตที่แล้วเสียอีก"
เจียงเฉินหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ทันใดนั้นเขากำหมัดขึ้นมา และปลดปล่อยมันออกไปทำให้เกิดเสียงดังดุจัคำรามดังก้องทั่วห้อง...แรงหมัดที่มีพลังถึงหมื่นจินนี่น่าเหลือเชื่อจริงๆ และเขายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ใช้พลังของตราประทับัเพียงอย่างเดียว
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตฉีไห่ขั้นต้นยังมีพลังหมัดไม่ถึงหนึ่งหมื่นจินด้วยซ้ำ ั้แ่ขอบเขตฉีไห่ขั้นกลางขึ้นไปถึงมีพลังเหนือกว่านี้ ด้วยพลังของเจียงเฉินในตอนนี้สามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ขั้นกลางทั่วไปได้อย่างไม่ยากเย็น
หลังจากที่ตราประทับัดวงแรกได้ถูกสร้างสมบูรณ์ เจียงเฉินได้เก็บพลังหยวนทั้งหมดไว้ในตราประทับั ตราประทับัได้สั่นไหวเล็กน้อย ทำให้พลังหยวนกระจายราวกับควันและแผ่ซ่านทั่วร่างกาย
"ยิ่งมีศักยภาพสูงมากเพียงใด การเลื่อนระดับก็จะยิ่งยากขึ้นมากเท่านั้น...ข้าจำเป็ต้องรวบรวมพลังงานซะแล้วสิ จากนั้นทะลวงเข้าสู่ขอบเขตฉีไห่ เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าก็จะสามารถสร้างตราประทับัได้อีกครั้ง"
เจียงเฉินคิดในใจ เขาได้เห็บเม็ดยามนุษย์หยวนไว้กับตัวพอสมควร มิหนำซ้ำยังมีเม็ดยาที่มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนสองสามโหล มันเพียงพอที่จะใช้ในตอนที่เขาทะลวงสู่ขอบเขตฉีไห่
ตราประทับัดวงแรกได้ถูกสร้างโดยสมบูรณ์ พลังปราณและโลหิตของเขาแข็งแกร่งมากขณะที่ร่างกายของเขาทนทานราวกับสัตว์อสูรในร่างมนุษย์
หลังจากเขายืดเส้นยืดสายแล้ว เขาได้ออกจากห้องปรุงยา ร้านขายโอสถในยามนี้เงียบสงัด โจวเป่ยเฉินและชายแก่อีกสองคนแยกย้ายกันไปปรุงยาในห้องของตน
หลังจากพวกเขาได้รับทักษะฝึกฝนิญญา ทั้งสามได้มุ่งมั่นฝึกฝนมันเป็พิเศษ พวกเขากระทั่งลืมกินข้าวปลาทีเดียว
เจียงเฉินได้กลับไปถึงตำหนักของตนและนั่งลง หลังจากนั้นเจียงเฉิงได้วิ่งมาหาเขาด้วยสีหน้าแตกตื่น
"เจียงเฉิงมีอะไรหรือ? เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?"
เจียงเฉินยกถ้วยน้ำชามาจิบ
"เรียนนายน้อย มีชายสองคนอยู่ด้านหน้ายืนรออยู่ พวกเขา้าพบท่านปรมาจารย์ของร้านขายโอสถพวกเราขอรับ"
เจียงเฉิงกล่าว
"ปรมาจารย์? ปรมาจารย์ไหนกัน?"
เจียงเฉินหรี่ตาลง
"ปรมาจารย์ที่สามารถปรุงเม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนได้อย่างไรขอรับ"
เจียงเฉิงกล่าว เื่สถานะที่เจียงเฉินเป็นักปรุงยา มีเพียงเจียงเจิ้นไห่และอีกสามคนเท่านั้นที่รู้เื่นี้ ตระกูลเจียงได้ตัวปรมาจารย์ปรุงยาที่ร้ายกาจมาอยู่ในตระกูลเจียง กระทั่งเจียงเฉิงเองก็คิดเช่นนั้น
"แล้วพวกมันเป็ใครกัน?"
เจียงเฉินถามขึ้น
"เป็ชายหนุ่มหนึ่งคนและชายแก่หนึ่งคนขอรับ ชายหนุ่มผู้นั้นหยิ่งยโสมาก เห็นว่าเขามาจากเมืองชื่อน่ะขอรับ"
เจียงเฉิงกล่าวออกมาตามความจริง
"มาจากเมืองชื่องั้นรึ? ให้พวกเขารอที่ห้องโถงหลักก่อนและบอกพวกเขาว่าอีกเดี๋ยวท่านปรมาจารย์จะไปพบ"
เจียงเฉินกล่าว เมืองชื่อเป็เมืองใหญ่ ไม่ใช่สิ่งที่เมืองเทียนเซียงจะเทียบได้ แน่นอนว่าเขาอยากจะรู้ว่าใครกันที่มาจากเมืองชื่อ
ในเวลาสั้นๆ เจียงเฉินได้เปลี่ยนชุดของเขา เขาได้สวมชุดสีดำและสวมหมวกไม้ไผ่ไว้บนหัว
เจียงเฉินเดินตรงไปยังห้องโถงหลัก แม้ว่าเขาสวมหมวกไม้ไผ่อยู่เขาก็สามารถเห็นเจียงเฉิงนำทั้งสองคนเข้าไปยังห้องโถงหลัก ชายหนุ่มคนนั้นสวมชุดสีขาว อายุราวยี่สิบขวบปี บนใบหน้าเผยท่าทางหยิ่งยโส เดินมากับชายอีกคนหนึ่งอายุราวห้าสิบ
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือระดับการบ่มเพาะของทั้งสองคน ชายหนุ่มผู้นี้ ด้วยอายุเพียงแค่นี้เป็ถึงผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ขั้นต้น สมแล้วที่มาจากเมืองชื่อ
สำหรับชายแก่ผู้นี้ มีพลังิญญาอยู่รอบตัวเขา เขาคงจะเป็นักปรุงยา ระดับการบ่มเพาะมิได้อ่อนแอแม้แต่น้อย เขาเป็ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ขั้นกลาง
"ให้พวกเราอยู่ตามลำพัง"
เจียงเฉินกล่าวต่อเจียงเฉิงด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ดังนั้นเจียงเฉิงจึงจำเขาไม่ได้ เจียงเฉิงมองไปยังปรมาจารย์ปรุงยาผู้นี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นชั่วขณะ ก่อนที่จะเดินจากไป
"เหตุใดนายน้อยถึงไม่ได้มาด้วยกันกับท่านปรมาจารย์ด้วยนี่?"
เจียงเฉิงเกาหัวด้วยความมึนงง
