เมื่อกลับถึงบ้าน หมี่จิ้งเฉิงก็เล่าเื่ลูกสาวได้รับการเลื่อนชั้นข้ามขั้นให้ภรรยาฟัง หวังหย่วนฉิงกลับไม่ได้แสดงอาการประหลาดใจอะไร
"เลื่อนก็เลื่อนไปเถอะ ขืนปล่อยให้ลูกเราไปคลุกคลีอยู่กับพวกเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ฉันกลัวว่าลูกจะกลายเป็เด็กไร้เดียงสาไปเสียมากกว่า"
คำพูดนี้...ลูกสาวบ้านเธออายุน้อยกว่าคนอื่นตั้งสองปีนะ แต่ท่าทางของภรรยาทำให้หมี่จิ้งเฉิงพูดอะไรไม่ออก
วันรุ่งขึ้น หมี่หลันหยางก็พาน้องสาวไปโรงเรียน เขาขออนุญาตพ่อแล้วว่าจะไม่ต้องให้พ่อไปส่งที่โรงเรียนอีกต่อไป เขาจะไปกับน้องสาวเอง จริงๆ พ่อจะไปทำงานตอนเจ็ดโมงครึ่งก็ได้ แต่เมื่อก่อนเขาต้องไปโรงเรียนพร้อมลูกชายั้แ่หกโมงห้าสิบนาทีเพื่อไปเป็เพื่อนลูกชาย
"ดีเลย อย่างนี้พ่อก็สบายหน่อย ไม่ต้องรีบไปโรงเรียนก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง มีเวลา่นี้จะได้พักผ่อนที่บ้านเพิ่มอีกหน่อย"
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็จริง แต่หมี่หลันเยว่รู้ว่าพ่อเป็คนอยู่นิ่งไม่ได้ แถมยังรักความสะอาดมากด้วย เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเขาก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง
หลังจากหมี่หลันหยางจูงมือน้องสาวมาถึงโรงเรียน เขาก็พาน้องสาวไปนั่งที่นั่งของตัวเอง แต่ไหนแต่ไรเขาก็อยากนั่งกับน้องสาวอยู่แล้ว หมี่หลันเยว่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพียงแต่เพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยของหมี่หลันหยางเมื่อเทอมที่แล้วไม่พอใจ เธออยากนั่งเป็เพื่อนร่วมโต๊ะกับหมี่หลันหยางอีกครั้ง
"ทุกครั้งที่เปิดเทอมพวกเราจะนั่งที่ไหนก็ได้ตามสบาย เมื่อปีที่แล้วเราบังเอิญได้นั่งด้วยกัน ปีนี้ฉันจะนั่งกับน้องสาว"
ถึงจะไม่เต็มใจ แต่เมื่อรู้ว่านักเรียนหญิงคนนี้เป็น้องสาวของหัวหน้าห้อง เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ทำได้แค่หาที่นั่งใหม่ด้วยความหงุดหงิด
เสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้น ครูเดินเข้ามาในห้องเรียน
"นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ!"
หมี่หลันหยางออกคำสั่ง เสียงเก้าอี้ถูกลากดังสนั่นพร้อมกันทั่วทั้งห้อง เสียงนี้เป็สิ่งที่หมี่หลันเยว่ไม่มีวันลืมเลือน
"สวัสดีนักเรียนทุกคน!"
"สวัสดีครับ/ค่ะคุณครู!"
"นักเรียนนั่งลงได้"
เสียงดังสนั่นอีกครั้ง ห้องเรียนก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบ
"พวกเราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าในวันแรกของการเปิดเทอมทุกปี พวกเราจะต้องทำการสอบเปิดเทอม"
"โอ๊ย!"
เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นทั่วห้อง พวกเขาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการเล่นใน่ปิดเทอม จะมีแก่ใจที่ไหนมาอ่านหนังสือ
"ไม่เต็มใจก็ต้องสอบ นี่คือกฎของโรงเรียน แต่ก่อนที่จะสอบในวันนี้ ครูจะประกาศเื่หนึ่ง นั่นก็คือ ในห้องเรียนของเรามีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาหนึ่งคน ตอนนี้เราขอเชิญเธอมาแนะนำตัวให้พวกเราทุกคนรู้จัก ดีไหม?"
"ดีครับ/ค่ะ!"
ทันทีที่ครูพูดจบ เสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มทั่วทั้งห้อง ทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่หมี่หลันเยว่
"ถ้าอย่างนั้นเชิญนักเรียนคนนี้ยืนขึ้น"
หมี่หลันเยว่ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง ก่อนที่จะโค้งคำนับให้ครูด้วยความสุภาพ จากนั้นก็ใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ เหล่านักเรียน พร้อมกับให้พวกเขาได้เห็นหน้าค่าตาของเธอให้ชัดเจน
"ฉันชื่อหมี่หลันเยว่ เป็นักเรียนที่เพิ่งย้ายเข้ามาในห้องของเรา หวังว่าทุกคนจะช่วยดูแลฉันด้วยนะคะ"
"เยี่ยม!"
พวกเด็กผู้ชายที่สนิทกับหมี่หลันหยางต่างก็ะโกันสุดเสียง กลัวว่าหมี่หลันเยว่จะไม่ได้ยินเสียงของพวกเขา พวกเขากำลังให้กำลังใจเธออยู่นะ
"ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ"
หมี่หลันเยว่ยิ้มให้กับครูประจำชั้น
"ดีมาก นักเรียนหมี่หลันเยว่เชิญนั่งได้ ครูแซ่หม่า เป็ครูประจำชั้น ป.2/1 ของพวกเรา หลังจากนี้มีเื่อะไรก็มาหาครูได้โดยตรงเลยนะ"
หมี่หลันเยว่พยักหน้าให้ครูหม่าเบาๆ แล้วจึงนั่งลง ครูหม่าชื่นชอบเด็กผู้หญิงที่สุภาพเรียบร้อยและพูดจาฉะฉานคนนี้เป็มาก
"ต่อไปเราก็จะเริ่มสอบกันแล้ว ครูจะเขียนโจทย์ไว้บนกระดานดำ พวกเธอจดโจทย์ลงไปก่อน"
ครูหม่าหันหลังไปเขียนโจทย์บนกระดานดำ หมี่หลันเยว่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ใน่เวลานี้ น้อยโรงเรียนนักที่จะพิมพ์กระดาษข้อสอบในการสอบย่อยตามปกติ จะใช้วิธีเขียนด้วยมือแบบนี้ มีแต่สอบกลางภาคและปลายภาคเท่านั้นที่จะพิมพ์กระดาษข้อสอบ และยังเป็แบบใช้หมึกพิมพ์ดีดด้วย พอทำข้อสอบเสร็จ กระดาษและมือก็จะเลอะไปด้วยหมึกสีดำ
ข้อสอบเปิดเทอมไม่ได้ยากอะไร เป็ข้อสอบของชั้นป.1 เพิ่มเติมด้วยข้อสอบของชั้นป.2 ที่เพิ่งเปิดเทอมมาไม่กี่ข้อ คะแนนของหมี่หลันเยว่ก็ยังคงเต็มร้อยอยู่ดี ยังไงซะ เธอก็เพิ่งจะได้รับการเลื่อนชั้นข้ามขั้นมา ถ้าเกิดสอบได้คะแนนแย่ๆ ก็คงจะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้ แถมยังจะทำให้ครูที่แนะนำเสียหน้าอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ออมมือ
หลังจากเรียนไปสองชั่วโมง ครูหม่าก็ถือกระดาษข้อสอบที่ตรวจเรียบร้อยแล้วเข้ามาในห้องเรียน
"ตอนนี้ครูจะประกาศผลสอบ ครูคิดว่านักเรียนส่วนใหญ่คงจะรู้คะแนนของตัวเองกันอยู่แล้วใช่ไหม นักเรียนที่สอบไม่ผ่านก็เตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้ครูจะเชิญผู้ปกครองมา"
"โอ๊ย!"
เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นอีกครั้ง มุมปากของหมี่หลันเยว่ยกขึ้นจนน่าเหลือเชื่อ ่วัยนี้ดีจริงๆ แม้แต่ความเ็ปยังเป็ไปอย่างอิสรเสรี ทำให้เธออิจฉาเหลือเกิน
"โอดโอยไปก็เท่านั้น รู้แบบนี้แล้วทำไมไม่ทำั้แ่แรก ก่อนปิดเทอมครูย้ำแล้วย้ำอีกว่าอย่าปล่อยให้่ปิดเทอมเปล่าประโยชน์ ต้องจำไว้ว่าเปิดเทอมมามีการสอบ แต่พวกเธอเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของครูเลย การได้รับบทลงโทษบ้างก็สมควรแล้ว พรุ่งนี้ครูจะให้ผู้ปกครองมาตีพวกเธอให้ก้นลาย"
เสียงร้องโอดโอยอย่างน่าเวทนาดังขึ้นอีกระลอก ครูหม่าตบโต๊ะเพื่อให้ห้องเรียนเงียบ
"ส่วนนักเรียนที่สอบผ่านฉิวเฉียด พวกเธอก็อย่าเพิ่งดีใจไปเลย คะแนนแบบนี้เอาไปอวดใครก็อายเขา ดังนั้นเดี๋ยวครูจะแจกกระดาษข้อสอบ นักเรียนที่ได้ 60 ถึง 75 คะแนน เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นชื่อ"
เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งฝีเท้าของครูหม่าได้
"ตอนนี้ครูจะเริ่มประกาศผลสอบ โดยจะเริ่มจากคนที่ได้คะแนนน้อยที่สุด ฟังชื่อของตัวเองให้ดีๆ นะ นักเรียนที่ได้ไม่ถึง 59 คะแนน พรุ่งนี้เชิญผู้ปกครองมา"
ครูหม่าอ่านคะแนนของนักเรียนคนแรก มันน้อยถึง 32 คะแนน นี่ทำให้หมี่หลันเยว่ใมาก เธอพยายามนึกย้อนกลับไป ในความทรงจำของเธอ นักเรียนชั้น ป.1 และ ป.2 ในโรงเรียนเมื่อชาติก่อนไม่น่าจะมีคะแนนต่ำขนาดนี้ แต่พอนึกดูอีกที อ้อ นี่เป็การสอบหลังปิดเทอม ไม่ใช่สอบกลางภาคหรือปลายภาค นักเรียนบางคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือใน่ปิดเทอม คะแนนก็เลยออกมาน่าเวทนาแบบนี้
ต่อจากนั้นก็เป็คะแนนที่ไม่สูงเท่าไหร่ จำนวนคนที่สอบไม่ผ่านมีมากถึง 19 คน ทำให้สีหน้าของครูหม่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เรียนชั้น ป.1 ไปได้เท่าไหร่กันเชียว ในห้องเรียนกลับมีคนสอบไม่ผ่านถึง 19 คน มันทำให้เธอขายหน้าเกินไป
จากนั้นก็เป็นักเรียนที่ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นชื่อ คราวนี้จำนวนคนเยอะกว่าเดิม มีถึง 23 คน ในห้องเรียนมีนักเรียนทั้งหมดแค่ 60 กว่าคน นี่ถือว่าไม่น้อยเลย หมี่หลันเยว่ค้ำคางเล็กๆ ฟังครูอ่านชื่อทีละคน แล้วมองดูนักเรียนแต่ละคนเดินขึ้นไปรับกระดาษข้อสอบ
กระบวนการนี้ช้ามาก แต่หมี่หลันเยว่กลับดูอย่างเพลิดเพลิน แม้ว่าแต่ละคนจะก้มหน้าคอตก ดูเหมือนจะหดหู่ใจ แต่พอหันหลังกลับมา พวกเขาก็ทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อนๆ อย่างลับๆ ทำให้หมี่หลันเยว่สนุกสนานไปด้วย หมี่หลันเยว่ใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นจนเกือบหมด
"หมี่หลันหยาง 100 คะแนน"
นี่เป็คะแนนเต็มร้อยคนแรกของห้องเรียน นักเรียนทั้งห้องปรบมือให้เขาพร้อมกัน บางคนก็ตบโต๊ะส่งเสียงให้กำลังใจ ทำให้ครูหม่าต้องะโห้ามปราม
หลังจากรับกระดาษข้อสอบกลับมาแล้ว หมี่หลันหยางก็นั่งลงที่ที่นั่ง หันหน้ามองน้องสาวด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
"หมี่หลันเยว่..."
เพราะสายตาที่แปลกประหลาดของพี่ชาย หมี่หลันเยว่จึงเงี่ยหูฟังครูพูดมากยิ่งขึ้น
"...110 คะแนน"
คราวนี้ห้องเรียนะเิขึ้นมาจริงๆ เสียงดังอลหม่านไปทั่ว คะแนนเต็มทั้งหมดมีแค่ 100 คะแนน แล้วคะแนน 110 มาจากไหน ครูลำเอียงจนเกินไปแล้ว
"เงียบๆ ฟังครูพูดให้จบก่อน"
ครูหม่าถือไม้เรียว ตีลงบนกระดานดำอย่างแรงสองครั้ง เสียงดังสนั่นน่าขนลุก ห้องเรียนก็เงียบลงในทันที
"ฟังครูพูดให้จบก่อนไม่ได้หรือไง ดูพวกเธอทำตัววุ่นวาย นี่มันห้องเรียนหรือตลาดสดกันแน่"
ครูหม่าปวดหัวกับนักเรียนที่ไร้ระเบียบวินัยเหล่านี้มาก แต่ละคนช่างยากที่จะอบรมสั่งสอนเหลือเกิน จะตีก็ไม่ได้ จะด่าก็ไม่ได้
จริงๆ แล้วในยุค 70 การที่ครูทำโทษนักเรียนยังเป็เื่ปกติ ท่องหนังสือไม่ได้ ทำอะไรแผลงๆ ในห้องเรียน คุยกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมห้อง หรืออะไรทำนองนี้ ครูตบที่ตัวสองสามที เตะหนึ่งที หรือขว้างชอล์กสองก้อนใส่ ก็เป็เื่เล็กน้อย แต่ครูที่ไม่ลงมือก็ยังมีอยู่เป็ส่วนใหญ่อยู่ดี
"ตอนนี้ครูจะมาพูดถึงเหตุผลที่ครูให้คะแนนนักเรียนหมี่หลันเยว่ 110 คะแนน"
ครูหม่ายกกระดาษข้อสอบของหมี่หลันเยว่ขึ้นมาถือ แล้วเดินลงจากแท่น เดินวนไปตามโต๊ะเก้าอี้ในห้องเรียน ให้ทุกคนได้ดู แล้วจึงกลับขึ้นไปบนแท่นอีกครั้ง
"พวกเธอได้ดูกระดาษข้อสอบของหมี่หลันเยว่แล้ว ลองดูของตัวเองสิ กระดาษข้อสอบของหมี่หลันเยว่ก็เหมือนกับของพวกเธอ คือเป็กระดาษที่ฉีกออกมาจากสมุดเขียน แต่กระดาษที่เธอฉีกออกมา เห็นได้ชัดว่าใช้ไม้บรรทัดทาบแล้วฉีก พวกเธอเห็นไหมว่ามันเรียบร้อยขนาดไหน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอใส่ใจ"
เื่นี้หมี่หลันเยว่ไม่ได้ตั้งใจจะทำจริงๆ เธอแค่เคยชินกับการทำอะไรให้มันเป็ระเบียบเรียบร้อยเท่านั้น ตอนที่เธอเป็พนักงานขายในชาติที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็รายงานการขาย ข้อมูลลูกค้า สรุปประจำเดือน หรืออะไรก็ตาม เธอจะจัดระเบียบให้เป็ระเบียบเรียบร้อย จะไม่มีความยุ่งเหยิงแม้แต่น้อย เื่นี้กลายเป็สัญชาตญาณไปแล้วจริงๆ
หมี่หลันหยางเหลือบมองกระดาษข้อสอบของตัวเองบ้าง ก็เป็กระดาษที่ฉีกออกมาแบบลวกๆ รอยฉีก้าไม่สม่ำเสมอ เขาหงุดหงิดเล็กน้อย ทุกวันเขาทำการบ้านกับน้องสาว เขาไม่เคยสังเกตว่าน้องสาวมีนิสัยแบบนี้เลย เมื่อกี้ตอนที่ฉีกสมุด เขาก็ไม่ได้สังเกตว่าน้องสาวใช้ไม้บรรทัด
"พวกเธอดูตัวอักษรบนกระดาษข้อสอบนี้อีก ทุกตัวเขียนอย่างบรรจง ไม่มีร่องรอยของการขีดฆ่า ลบ หรือแก้ไข ครูไม่ได้้าให้พวกเธอทำได้เหมือนหมี่หลันเยว่ทุกคน แต่อย่างน้อยก็ต้องดูเรียบร้อย ดูสะอาดตา อย่าขีดเขียนจนเละเทะ พวกเรามีเครื่องลบไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ใช้?"
ครูหม่ารู้สึกเสียใจมาก อาศัยกระดาษข้อสอบของหมี่หลันเยว่ ตำหนินักเรียนทั้งห้องเป็การใหญ่ จากนั้นก็เอากระดาษข้อสอบของหมี่หลันเยว่ไปติดไว้ที่ด้านหน้าสุดของห้องเรียน บนผนังด้านขวาของกระดานดำ พอเข้ามาในห้องเรียนก็จะเห็นกระดาษข้อสอบแผ่นนี้เป็สิ่งแรก เอาล่ะ หลังจากนี้กระดาษข้อสอบแผ่นนี้ก็จะเป็แบบอย่างของห้องเรียน หมี่หลันเยว่รู้สึกหน้าแดงเล็กน้อย
นี่ถือว่าเป็การโกงหรือเปล่า ใช้ประโยชน์จากต้นทุนที่ตัวเองได้เกิดใหม่อีกครั้ง เพียงแต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ คะแนนที่เกินความคาดหมาย เกินคะแนนเต็มนี้ ทำให้เธอได้รับเกียรติที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน ได้รับเลือกให้เป็หัวหน้าห้องเรียนของ ป.2/1 ในเทอมนี้ แถมได้ติดแถบ ‘สองขีด’ เป็ครั้งแรกในชีวิตทั้งสองของเธอด้วย