หลังจากถูกชมโดยไม่ตั้งตัว เฉียงเวยเริ่มหน้าแดง เธอกัดริมฝีปากแล้วเริ่มบ่น
"ใครกันนะ ที่แทบไม่เคยเหยียบเท้ามาที่นี่ ใครนะที่สัญญาว่าจะมา แต่ก็มาสาย"
ภายใต้ใบหน้าทรงเสน่ห์แสนเย้ายวน หยางเฉินเกือบจะหลุดการควบคุมเพียงแค่สบตา แต่ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายแล้วทำให้หยางเฉินรีบดึงสติกลับมาทันที พูดพลางหัวเราะว่า
"ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์คุณก็รู้ แล้วผมยังคุยกับผู้หญิงไม่เก่งอีกด้วย แถมต้องไปตลาดทุกวันอีก ผมเหนื่อยมากจริงๆ นะเฉียงเวย"
สายตาเธอนั้นมองที่หยางเฉินอย่างไม่แยแส
"หยุดพูดเื่จรรยาบรรณกับฉันสักที นาย้าจะขายอะไร? กับร้านแพะย่างเล็กๆ นั่นน่ะเหรอ เหนื่อยเปล่าแถมกำไรก็น้อยนิด ถ้านายอยากได้เงิน นายมาที่นี่สิ มาเป็เด็กของฉัน ฉันจะให้เงินเดือนนายมากกว่ารายได้ที่นายขายแพะย่างนั่นเป็ร้อยเท่า!"
หยางเฉินยิ้มเศร้าพลางกล่าวว่า
"พี่สาวเฉียงเวย เป็ไปไม่ได้หรอกนะที่ผู้ชายคนหนึ่งจะกลายเป็ เด็กเลี้ยง"
"ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียก ‘พี่’ นายคิดว่าฉันแก่มากนักหรือไง" เฉียงเวยพูดพลางจ้องมองหยางเฉินด้วยสายตาเย้ายวน
"ผมสบายดีเฉียงเวย รายได้ของผมยังทรงตัวอยู่ ตอนนี้ผมยังไม่้าหางานใหม่"
"ถ้านายไม่อยากมาเป็เด็กฉัน แล้วบอดี้การ์ดล่ะเป็ไง ผู้จัดการบาร์นี้ก็ได้ นั่นเป็ความคิดที่ดีทีเดียว ฉันไม่ค่อยมาที่นี่บ่อยนัก แล้วก็ยังไม่มีผู้จัดการร้านที่นี่ด้วย"
หยางเฉินเข้าใจถึงความหวังดีของเธอเป็อย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม เขามีเหตุผลของเขา ั้แ่ครั้งแรกที่พบเฉียงเวย เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่พัฒนาความสัมพันธ์นี้
"พอแล้วล่ะเฉียงเวย ผมขายเนื้อแพะย่างก็ดีอยู่แล้ว อีกอย่างผู้คนในตลาดก็เป็คนดีด้วย"
หยางเฉินดื่มน้ำอย่างเงียบๆ และไม่้าจะพูดเื่นี้ต่อไปอีก
เฉียงเวยเห็นความดื้อรั้นของหยางเฉินดังนั้น เธอก็บ่นด้วยความไม่พอใจ
"ฉันแค่้าให้นายเป็คนรัก..."
เธอเพียงกระซิบบอกตัวเองเท่านั้น เสียงแ่เบาจนแม้แต่เธอเองอาจได้ยินไม่ชัด แต่หยางเฉินสามารถได้ยินอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามหยางเฉินก็แกล้งทำเป็ไม่ได้ยินอะไร
แม้ว่าใบหน้าและรูปร่างของเธอจะงดงามนุ่มนวล ภายใต้แสงไฟริบหรี่ในบาร์ ครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวในบาร์นี้ ไม่มีผู้ใดกล้ามองมาที่เธอ แม้จะมีแขกบางคนจะชวนเธอไปร่วมโต๊ะ แต่ทุกครั้งจะได้คำตอบแบบเดียวกัน
"ดื่มของพวกนายไปเถอะ ถ้ายังไม่อยากตาย"
เฉียงเวยรู้สึกผิดหวังเป็อย่างมาก เธอนั่งข้างๆ หยางเฉิน พร้อมวิสกี้สองแก้วยื่นให้หยางเฉินหนึ่งแก้ว พลางพูดว่า
"เ้าลิงหัวแข็ง ฉันรู้ว่านายปากแข็งและไม่้าเป็ของฉัน แต่วันนี้เป็วันเกิดฉันนะ ดังนั้นนายต้องดื่มให้ฉันอย่างน้อยหนึ่งแก้ว"
หยางเฉินลังเลเล็กน้อย เขาอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่า เขาไม่ใช่ว่าดื่มไม่ได้ แต่เมื่อเขาเริ่มดื่มเมื่อไร เป็ต้องนึกถึงเื่ที่ไม่อยากจดจำทุกที เขา้าอยู่อย่างสงบ เช่นนั้นแล้วแอลกอฮอล์สำหรับชายหนุ่มก็เปรียบเหมือนยาพิษดีๆ นี่เอง
"ก็ได้ แต่แค่แก้วเดียวเท่านั้นนะ"
หยางเฉินไม่้าให้เฉียงเวยเสียใจ เขากลั้นใจดื่มลงไป
'แค่แก้วเดียวคงไม่เป็ไร'
เฉียงเวยหัวเราะเสียงใส ก่อนจะขยับแนบชิดแล้วซบลงบนแผงอกของหยางเฉิน พลางพูดว่า
"นายรู้หรือเปล่า ฉันไม่ได้ฉลองวันเกิดมา 10 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่มีเค้ก ไม่มีของขวัญ แต่ฉันก็อยากใช้เวลาร่วมกับคนเ้าชู้มากกว่า"
เมื่อต้องเผชิญกับผู้หญิงที่งดงามทรงเสน่ห์ หยางเฉินรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วร่าง เมื่อมือเรียวยาวััที่ต้นขาของเขา เขายิ่งรู้สึกถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง
สัดส่วนโค้งเว้าขยับไฟด้านหน้า เฉียงเวยยกร่างกายของเธอเผยให้เห็นต้นขาเรียวขาวระหว่างร่องชุดกี่เพ้า ความละเอียดอ่อนเปราะบางรุกหน้าอย่างอุกอาจเช่นนี้ จู่โจมที่จุดฮอร์โมนหยางเฉินเข้าอย่างจัง
เมื่อบุรุษใกล้ชิดสตรีจะเกิดปฏิกิริยาบางอย่าง หากยิ่งสนใจอีกฝ่ายด้วยการััิัโดยตรงด้วยแล้ว ปฏิกิริยายิ่งเด่นชัด
แน่นอนว่าหยางเฉินกำลังพยายามควบคุมตัวเองอยู่
เฉียงเวยเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปที่หยางเฉินแล้วหัวเราะ
"ไม่เป็ไรที่รัก ดูเหมือนว่านายเป็พวกไร้อารมณ์สินะ"
ถึงคราวหยางเฉินหัวเราะบ้าง เขารู้ว่าเฉียงเวยพูดแหย่ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
เธอสังเกตเห็นว่าในขณะที่เธอนั่งถัดจากเขา
"ฉันรู้ว่านายต้องนั่งนิ่งๆ แน่ งั้นฉันจะไปดูแขกคนอื่นต่อ ถ้านายไม่อยากอยู่ก็ออกไปเถอะ"
แขกที่มาที่นี่ต่างทราบดีถึงความงามของเ้าของบาร์ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำตัวหยาบคาย เพราะรู้ถึงภูมิหลังของเธอดี เช่นนั้นแล้วเมื่อเธอเดินมาทักทาย พวกเขาก็ทักตอบพอเป็พิธี
อันที่จริงแล้วถึงแม้ใบหน้าของเฉียงเวยจะยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ทุกคนต่างสังเกตถึงอารมณ์ขุ่นมัวภายใต้หน้ากากนี้ จึงไม่มีใครกล้าล้อเล่นอีก
ขณะที่มองเฉียงเวยเดินจากไป หยางเฉินก็หยักไหล่แล้วถอนหายใจ เขาเปลี่ยนไปแล้วจากเมื่อครึ่งปีก่อน เมื่อก่อนเขาเป็หนุ่มเพลย์บอยโดยแท้จริง ผลักผู้หญิงล้มลงบนเตียงเป็ว่าเล่น โดยไม่คิดถึงผลที่ตามมาแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว เฉียงเวยเป็หนึ่งในหญิงสาวที่งดงามที่สุดของเมือง และหยางเฉินก็ให้เกียรติเธอมาก
แอลกอฮอล์เริ่มแผลงฤทธิ์อย่างเชื่องช้า ส่งผลต่อการรับรู้ทางร่างกายของหยางเฉิน แม้จะเป็เพียงแก้วเล็กๆ แต่เพราะเหตุนี้เองเขาจึงไม่อยากดื่มมาก เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็ ความคิดเก่าๆ ก็จะผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด
ถึงแม้ว่าเขาจะดูเป็สุภาพบุรุษ แต่หยางเฉินก็รู้สึกว่าจะต้องปลดปล่อยอารมณ์ที่ติดค้าง เขาไม่สามารถทำกับเฉียงเวยได้ เพราะเขาคิดว่าอาจเกิดปัญหาตามมาได้ในอนาคต
หลังจากดื่มน้ำเปล่าแก้วหนึ่ง หยางเฉินก็เดินออกจากร้านไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นสายตาเศร้าสร้อยของเฉียงเวยที่มองตามเงียบๆ
ทันทีที่ออกจากร้าน ชายหนุ่มสวมิญญานักล่าทันที เขากวาดสายตามองโดยรอบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินผ่านบาร์สุดหรูหลากหลาย ที่นี่เต็มไปด้วยสาวสวย แต่เงินในกระเป๋านั้นไม่เพียงพอ
โดยปกติของบุรุษ เงินนั้นจำเป็อย่างยิ่งในการล่า