วันนั้นฉันกำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้าน ทันใดนั้นตรงมุมขวาด้านล่างของหน้าจอคอม QQ ก็กระพริบอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดดูกลับพบว่าได้เกิดความปั่นป่วนภายในกลุ่ม
“วันนี้เป็เทศกาลคนโสด ฉันได้ส่งแบบสอบถามไปในกลุ่ม นักเรียนชายหญิงทุกคนสามารถโหวตได้ ทุกคนจะเลือกคนที่ตนเองรู้สึกว่าเขานั้นจะหาแฟนไม่ได้ภายในสามปีการศึกษาของม.ปลายมาหนึ่งคน และก็โหวตให้เขา ใครที่มีผลโหวตมากที่สุด จะได้รับการลงโทษ มีเวลาจำกัดแค่ 10 นาที ทุกคนต้องโหวต” แอคเค้าท์ของเฉินเฟิงได้กล่าวไว้ในกลุ่ม
หลังจากนั้นนึกไม่ถึงว่าจะมีผลโหวตเพิ่มมาอีกหนึ่งเสียง ซึ่ง้ามีการเขียนชื่อไว้มากมาย ทั้งหมดล้วนเป็ผู้ชายในชั้นเรียน
“ให้ตายสิ ใครเล่าจะไม่รู้ว่าหัวหน้าชั้นเฉินคือหนุ่มฮอตที่ใครเห็นใครก็ชอบ มีแฟนสาวมากมายจนนับไม่ถ้วน พวกนายฟังฉัน เลือกเฉินเฟิงด้วยกันเถอะ!”
“ใช่ ทั้งหมดเลือกเฉินเฟิง ให้เขากระตุ้นคนโสดอย่างพวกเราหน่อย!”
“พวกนาย ถึงเวลาเอาคืนแล้ว!”
ภายในกลุ่มพวกผู้ชายเรียกร้องอย่างไม่หยุด หลังจากนั้นจำนวนผลโหวตของเฉินเฟิงก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดิมทีมันก็เป็แค่เื่ตลก ซึ่งใครๆ ก็ไม่คิดว่าจะเป็เื่จริง ส่วนมากล้วนเลือกเฉินเฟิง ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของฉันกับเพื่อนร่วมห้องจะไม่สนิทกันเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่าน่าสนุกดีจึงได้ร่วมโหวตเฉินเฟิงด้วย
การโหวตใกล้จะเสร็จสิ้นลงแล้ว แน่นอนว่าจำนวนผลโหวตที่นำลิ่วของเฉินเฟิงได้ติดอันดับของการโหวตในกลุ่ม เฉินเฟิงนึกไม่ถึงว่าได้ย้ายก้อนหินมาทุบเท้าตัวเองเสียแล้ว และได้พิมพ์อิโมจิคอนรูปร้องไห้ลงในกลุ่มแล้วก็ออฟไลน์ออกไป
วันที่สอง เฉินเฟิงเพิ่งจะเข้าห้องเรียนก็ถูกปิดล้อมด้วยกลุ่มพวกผู้ชายที่ไม่ประสงค์ดี เฉินเฟิงเพิ่งจะนึกออกว่าเพราะอะไร สีหน้าเขาเปลี่ยนไปมากและพูดว่า “พวกนาย้าจะทำอะไร? ”
“ท่านหัวหน้าชั้นของพวกเรา เมื่อยอมที่จะเดิมพันแล้วก็ต้องยอมรับการพ่ายแพ้ อย่าลืมเื่การโหวตของเมื่อวานล่ะ” มี่เสี่ยวหยู่พูดด้วยท่าทางที่ยิ้มเยาะ
“ใช่ อย่ามาแกล้งไขสือ นายได้พูดไว้แล้ว คนที่ได้รับผลโหวตมากที่สุดจะได้รับการลงโทษ” เกาเจิ้นก็พูด
“ใช่ พูดถูกแล้ว ทุกคนจะต้องลงโทษเขา! ให้เขายอมรับการลงโทษ”
เพื่อนกลุ่มหนึ่งก็หยอกล้อตามกัน ซึ่งบรรยากาศก็คึกคักเป็ที่สุด
สีหน้าของเฉินเฟิงนั้นดั่งกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มองดูเพื่อนๆ ที่รายล้อมอย่างรอคอย เขาเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดว่า “ได้ ในเมื่อฉันยอมที่จะเดิมพันแล้วก็จะยอมรับการพ่ายแพ้ ทุกคนตัดสินจะลงโทษฉันยังไง?”
“ในเมื่อเมื่อวานคือเทศกาลคนโสด การลงโทษของพวกเราก็คือจะต้องครองสถานะโสดใน่ม.ปลายตลอดสามปีการศึกษา” เหลียงเสี่ยวหย่าผู้หญิงที่ชอบก่อความวุ่นวายในชั้นเรียนผู้หนึ่งะโ และคนอื่นที่ตามหลังมาต่างก็ขานรับ
เฉินเฟิงหัวเราะเยาะและด่าว่า “ให้ตายสิ ถ้าจะให้ฉันครองสถานะโสด ให้ฉันตายเสียดีกว่า พอได้แล้ว ทุกคนเลิกก่อกวนได้แล้ว” หลังจากนั้นก็สะบัดมือแหวกกลุ่มเพื่อนออกแล้วกลับไปที่นั่งของตัวเอง
เพื่อนคนอื่นๆ ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วเหมือนกัน ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับไปที่นั่งของตัวเอง สถานการณ์เริ่มสงบลง ทุกคนก็ไม่ได้ใส่ใจ ถึงยังไงนี่ก็เป็เพียงแค่เื่ตลกเท่านั้น
ครูประจำชั้นเดินเข้ามาในห้องเรียน พวกเราก็เริ่มเรียนกันต่อ ซึ่งเรียนติดกันสองคาบเรียน และก็ไม่มีเื่อะไรเกิดขึ้น วิชาของครูประจำชั้นนั้นยังคงอธิบายจนทำให้รู้สึกง่วงงาวหาวนอน แต่ฉันก็เริ่มพูดคุยกันกับเพื่อนที่นั่งโต๊ะติดกัน
ทั้งสองคาบเรียนนี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และใกล้จะถึง่กายบริหารระหว่างพักแล้ว พวกเราจึงออกจากห้องเดินตามครูไป พวกเราปฏิบัติกายบริหารตา และก็วางแผนกันว่าจะไปสนามกีฬา
ในเวลาดังกล่าวมีนักเรียนหญิงถามด้วยความเป็ห่วงว่า “เฉินเฟิง นายเป็อะไรน่ะ? ดูเหมือนว่าสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
ณ เวลานี้สายตาของพวกเราได้จับจ้องมาที่เฉินเฟิง สีหน้าของเฉินเฟินขาวซีด ลักษณะท่าทางดูใจลอย เขาส่ายหน้าไปมาและพูดว่า “ฉันไม่เป็ไร ก็แค่รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายนิดหน่อย”
นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดด้วยความเป็ห่วงว่า “จะไปห้องปฐมพยาบาลไหม” ชื่อของเธอคือหวางตาน ซึ่งแอบชอบเฉินเฟิงมานานแล้ว นี่คือเื่ที่เพื่อนในชั้นเรียนทุกคนต่างก็รู้กันหมด
เฉินเฟิงลุกขึ้นยืนอย่างโซซัดโซเซ สีหน้าของเขาขาวซีดจนน่าใ และเขารีบยื่นมือออกมาด้วยความสั่นเทา ในสายตาที่มีความประหลาดใจของพวกเราทุกคน เขาเริ่มฉีกดึงคอตัวเอง
“เฮ้ย เฉินเฟิงนายทำอะไรน่ะ?” หวางตานที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบร้อนที่จะดึงมือของเฉินเฟิง เพื่อ้าที่จะหยุดการกระทำที่แปลกประหลาดของเขา แต่สำหรับเฉินเฟินแค่จะสนใจเธอก็ยังไม่มีแม้แต่น้อย ั์ตาทั้งคู่ของเขามีอาการซึม ในลำคอได้เปล่งเสียงดั่งกับเสียงคำรามของสัตว์ป่าออกมา ลักษณะท่าทางของเขาในเวลานี้แปลกประหลาดเป็อย่างมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ั์ตาทั้งคู่มีอาการซึม และหายใจลำบาก แต่มือทั้งสองกลับฉีกดึงคอตัวเองอย่างไม่หยุด
เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รีบร้องะโว่า “รีบหยุดเดี๋ยวนี้ นายตั้งใจจะทำอะไรน่ะ?” เพื่อนที่ติดตามเขาก็ร้องะโเช่นกัน เพื่อนนักเรียนที่เดิมทีวางแผนจะออกจากห้องเรียนล้วนถูกเขาดึงดูดความสนใจไปหมดแล้ว
สีหน้าของเฉินเฟิงมีอาการหวาดกลัว แต่มือทั้งสองกลับฉีกดึงคอตัวเองอย่างไม่หยุด เืที่แดงฉานได้ไหลออกมาจากคอของเขาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่นิ้วมือของเขาทิ่มเข้าไปในคออย่างลึก ในปากก็อาเจียนออกมาเป็เื
เพื่อนกลุ่มหนึ่งก็ทนไม่ไหว จึงรีบร้อนกระโจนเข้าไปจับมือของเฉินเฟิง แต่ทว่าไม่ทันเสียแล้ว คอของเฉินเฟิงถูกฉีกดึงจนยับเยินไปหมดแล้ว เส้นเืใหญ่ที่คอก็ได้ขาดลงเสียแล้ว เืที่แดงฉานแตกกระเซ็นออกมาอย่างน่าตะลึงงัน
ซึ่งเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยที่หวางตานไม่ทันได้ตั้งตัว เธอถูกเืที่แดงฉานกระเซ็นใส่พอดี ทั้งร่างกายและใบหน้าของเธอล้วนเต็มไปด้วยเืที่แดงฉาน ด้วยลักษณะท่าทางที่มองดูแล้วช่างน่าสยดสยอง
“โอ้! ” หวางตานมีการตอบสนอง เธอใจนล้มลงไปที่พื้นด้วยสติที่ฟั่นเฟือน” และเฉินเฟิงที่ถูกมวลชนดึงไว้ กับใบหน้าที่เหมือนกับเป็ตะคริว หลังจากนั้นร่างของเขาก็ล้มลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง พร้อมด้วยเสียงที่ลงกระแทกกับพื้น ร่างกายของเขาไม่ขยับอีกแล้ว
นักเรียกหญิงบางคนร้องะโอย่างขาดสติว่า “โอ้ ตายแล้ว เฉินเฟิงตายแล้ว! ” และนักเรียนหญิงที่เป็ห่วงเขายิ่งใเป็ลมล้มไป นักเรียนชายที่อยู่ล้อมรอบก็ถูกเหตุการณ์อันโหดร้ายที่อยู่เบื้องหน้านี้ทำให้ตกตะลึงงัน ทุกคนล้วนมีสีหน้าที่หวาดกลัว อีกสักพักใหญ่ต่อมาเพิ่งจะมีนักเรียนที่เพิ่งตอบสนองขึ้นมา
“ทำไมถึงเป็อย่างนี้ ตายแล้วเหรอ? ”
มีนักเรียนชายเตือนสติว่า “ใครมีโทรศัพท์มือถือ รีบโทรแจ้งความสิ” กำลังมีคนตื่นตัวขึ้น เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือโทรแจ้งความ “นี่คุณตำรวจใช่ไหม? ที่นี่มีผู้เสียชีวิตแล้ว คุณรีบมาหน่อย! ”
ไม่นานตำรวจก็มาถึงแล้ว แพทย์นิติเวชก็ได้ดำเนินการวินิจฉัยร่างของเฉินเฟิง พวกเราทั้งหมดก็วิ่งออกไปที่ด้านนอกห้องเรียน ต่างก็มองดูห้องเรียนดังกล่าวอย่างอกสั่นขวัญหาย และภายในห้องเรียน ครูประจำชั้นกำลังเจรจากับตำรวจ ตำรวจที่อยู่ข้างๆ ก็ยังไต่ถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง
พวกเราทุกคนล้วนรู้สึกถึงความน่ากลัวของเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ระหว่างทั้งสองฝ่ายล้วนได้ถกปัญหากันอย่างรอบคอบ ทำไมเฉินเฟิงถึงได้กระทำเื่ราวที่น่ากลัวอย่างนั้น คิดไม่ถึงว่าจะกระทำต่อหน้าพวกเราทุกคน และได้ฉีกลำคอของตัวเองออก
“ทำไมเฉินเฟิงถึงทำอย่างนั้น? ” ใช้วิธีการที่โเี้อย่างนั้นมาฆ่าตัวตาย?
“หรือเป็เพราะว่าเขามีโรคทางจิต เมื่อกี้ฉันเห็นเขาท่าทางไม่ค่อยดีเลย”
“เป็ไปไม่ได้หรอก เฉินเฟิงอยู่ห้องเดียวกับพวกเรามาปีกว่าแล้ว และก็ไม่เคยพบว่าเขามีความผิดปกติอะไรทั้งนั้น”
ตำรวจใกล้จะเดินเข้ามาแล้ว และได้อธิบายให้พวกเรา
“ตามที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด เฉินเฟิงน่าจะป่วยเป็โรคฮิสทีเรีย และมีอาการกำเริบใน่เข้าเรียน ด้วยเหตุนี้จึงฆ่าตัวตายอย่างขาดสติ”
เื่ราวดังกล่าวใกล้จะปิดฉากลงแล้ว ร่างที่ไร้ิญญาของเฉินเฟิงก็ถูกหามออกไปแล้ว แต่พวกเรากลับไม่กล้าที่จะกลับไปห้องเรียน เพราะว่าที่นั่นเพิ่งจะมีคนตายแล้วหนึ่งราย ครูประจำชั้นก็ไม่ได้บีบบังคับเช่นกัน แต่ทว่าตอนบ่ายจะไม่ให้ทุกคนเข้าเรียน และให้ทั้งหมดทำกิจกรรมอยู่ด้านนอก
ทั้งที่เดินอยู่ในสนามกีฬา แต่ใจฉันกลับไม่รู้สึกสงบเลย ตอนที่เฉิงเฟิงจะฆ่าตัวตายนั้นฉันก็อยู่ข้างๆ เขา ตอนนั้นความรู้สึกที่เฉินเฟิงมอบให้ฉัน กลับไม่ใช่อาการทางจิต แต่ทว่ามีใครคนหนึ่งอยู่ด้านหลังแล้วบีบคอของเขาไว้ และเฉินเฟิงดิ้นรนเพื่อที่จะให้หลุดพ้น จึงพยายามดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง ้าใช้มือแกะออก และนี่น่าจะก่อให้เกิดซึ่งการจบชีวิตของเขา
นึกแล้วฉันก็รู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมาทันที ถึงกับส่ายหน้าไปมา เพื่อที่จะให้ความคิดที่เหลวไหลนี้หลุดออกไปจากหัว แต่ทว่าความคิดเช่นนี้ได้ติดเป็เงาตามตัว ทำให้ใจฉันรู้สึกไม่ค่อยสงบนัก
“เฮ้ย จางเว่ยไม่เป็ไรใช่ไหม” ทันใดนั้นฉันถูกเพื่อนตบไหล่ ทำให้ฉันตกอกใ จริงๆ แล้วคือหลี่โม่ฟ๋านเพื่อนที่นั่งโต๊ะติดกับฉัน หลี่โม่ฟ๋านไม่ใช่แค่เป็เพื่อนที่นั่งโต๊ะติดกับฉันเท่านั้น แต่ยังเป็เพื่อนสนิทในม.ปลายของฉันด้วย
ฉันพูดพลางส่ายหน้า “ไม่เป็ไร ก็แค่รู้สึกกลัวนิดหน่อย”
หลี่โม่ฟ๋านพูดว่า “ใช่ ใครจะคิดว่าเฉินเฟิงต้องมาตายกระทันหันอย่างนี้”
ฉันเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดว่า “พอได้แล้ว พวกเราไปพูดคุยกันที่ด้านนั้นเถอะ”
หลังจากนี้ฉันก็คุยอยู่กับหลี่โม่ฟ๋านมาตลอดทั้ง่บ่าย แต่ความวุ่นวายที่มาจากการตายของเฉินเฟิงนั้น กลับไม่สิ้นสุดลงง่ายดายนัก ก่อนที่ห้องเรียนยังไม่ได้ทำความสะอาด ไม่มีใครกล้าที่จะกลับไปห้องเรียน เพื่อนๆ ชั้นอื่นก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บรรยากาศที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงหลังเลิกเรียน
หลังจากเลิกเรียนกลับบ้านแล้ว ฉันรีบร้อนทานอาหารแล้วก็เริ่มนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง ในเวลานั้น QQ ก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แท้ที่จริงแล้วคือข้อความที่ส่งมาจากกลุ่ม QQ ของชั้นเรียน หลังจากที่ฉันเปิดดูอย่างไม่ค่อยสนใจใยดีนัก สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ฉันรู้สึกเย็นวูบไปทั้งตัว ร่างกายยิ่งสั่นเทาอย่างไม่หยุด
จริงๆ แล้วคือรูปโปรไฟล์ของเฉินเฟิงที่มัวซัวไปตั้งนานแล้วแต่ทันใดนั้นก็ได้สว่างขึ้นมาในกลุ่ม QQของชั้นเรียน ใครจะคาดคิดว่าเขาได้มีการสนทนาในกลุ่ม
“ฉันเตรียมที่จะส่งแบบสอบถามในรอบใหม่ นักเรียนชั้นม.5/5 ทุกคนสามารถร่วมโหวตได้ คนที่ชนะผลโหวต จะต้องปฏิบัติภารกิจที่เลือกให้สำเร็จภายใน 24 ชั่วโมง มิฉะนั้นแล้วจะได้รับการลงโทษ”
ฉันพึมพำเองว่า “เื่นี้มันเป็มายังไงกัน” และรู้สึกว่าด้านหลังเย็นวูบมา่หนึ่ง วันนี้ตอนเช้าเฉินเฟิงได้ฆ่าตัวตายอย่างประหลาด แต่พอถึงตอนเย็นคาดไม่ถึงว่าเขาได้เข้าใช้งาน QQ นอกจากฉันแล้ว ก็ยังมีคนอื่นๆ ให้ความสนใจ เพียงแค่แวบเดียวก็เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในกลุ่ม
“นายคือใคร? ทำไมถึงเข้าสู่ระบบแอคเค้าท์ของเฉินเฟิงได้? ” นี่คือสิ่งที่แอคเค้าท์ชื่อ เหล่าหวางที่อยู่บ้านข้างๆ พูด เขาก็คือหวางอู่ กรรมการพลศึกษาของชั้นเรียน ซึ่งสนิทสนมกับเฉินเฟิงเป็อย่างมาก
“นายคือใครกันแน่ ทำไมถึงใช้แอคเค้าท์ของเฉินเฟิง? ”
เพื่อนกลุ่มหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์กันในกลุ่มไปต่างๆ นานา แต่เฉินเฟิงกลับไม่ตอบกลับ แต่ได้ส่งแบบสอบถามมาหนึ่งหัวข้อคือ จะต้องเลือกข้อใดข้อหนึ่งจากตัวเลือก 2 ข้อด้านล่างนี้
ข้อ1 หลี๋หยู่เสวียนจะต้องเรียนแบบสุนัขเห่าต่อหน้าเพื่อนทุกคนในชั้นเรียน
ข้อ2 จางเหวินจิ้งจะต้องสารภาพรักกับคนที่ตนเองแอบชอบต่อหน้าคนมากมาย
้าของแบบสอบถามในกลุ่มมีการกำหนดเวลาอย่างชัดเจนคือหลังจาก 4 ชั่วโมง การโหวตในกลุ่มจะยุติลงโดยอัตโนมัติและแสดงผลโหวตอย่างชัดเจน แบบสอบถามเป็ปริศนา อาจกล่าวได้ว่าคนอื่นๆ ก็ไม่มีทางรู้
หลี๋หยู่เสวียนเป็ดาวในชั้นเรียนของพวกเรา เธอมีรูปลักษณ์ที่ดูเป็ผู้ใหญ่ ทั้งยังมีรูปร่างที่อวบอิ่ม และจางเหวินจิ้งก็เป็นักเรียนหญิงที่สะสวยคนหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนกับชื่อของเธอ เธอเป็ผู้หญิงที่สงบเงียบ ในห้องเรียนมีนักเรียนชายจำนวนไม่น้อยที่ตามจีบเธอ
“เชี่ยเอ๊ย แกเป็ใครกันแน่? กล้าใช้แอคเค้าท์ของเฉินเฟิงทำเื่ตลกอย่างนี้ ถ้าเก่งพอก็ออกมาสิ เชื่อไม่เชื่อฉันเนี่ยแหล่ะจะจัดการแกเอง ” นี่คือการตอบกลับของหวางอู่
“ใครมันขาดศีลธรรมอย่างนี้ เฉินเฟิงก็เสียชีวิตไปแล้ว ยังจะเอาแอคเค้าท์ของเขามาทำเื่ตลกอย่างนี้อีก? ” นี่คือการตอบกลับของฉีเจียเว่ย เขาก็เป็ผู้ชายที่สูงหล่อรวยคนหนึ่ง และก็เป็บุคคลอันดับต้นๆ ของชั้นเรียน ซึ่งแน่นอนว่าความสัมพันธ์ของเขากับหวางอู่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่