การทำป้ายยี่ห้อเสื้อเล็กๆ ดำเนินไปได้ด้วยดี หมี่หลันเยว่นำแบบที่ตัวเองออกแบบ ไปคุยรายละเอียดเื่ค่าจ้างผลิตกับลุงหลัวก่อน จากนั้นก็ปรึกษาหารือเื่ลายป้ายกับฝ่ายออกแบบของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของรัฐ ปรับแก้ป้ายจนได้ที่ สมกับที่เป็ผู้เชี่ยวชาญ คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ป้ายดูสวยงามยิ่งขึ้น
"เอาล่ะ เอาตามแบบนี้เลย สั่งทำก่อนหนึ่งหมื่นชิ้น ขนาดมาตรฐานอย่างละห้าพัน"
หมี่หลันเยว่ไม่รู้ว่าร้านของเธอ เสื้อผ้าผู้ชายจะขายดีกว่า หรือเสื้อผ้าผู้หญิงจะขายดีกว่า ก็เลยทำอย่างละครึ่งละกัน ป้ายเสื้อผ้าผู้ชายจะต้องใหญ่กว่าของผู้หญิงอยู่หน่อย
"ยัยหนูนี่ก็กล้าจริงๆ สั่งตั้งหนึ่งหมื่นชิ้น ก็เท่ากับว่าต้องทำเสื้อผ้าหนึ่งหมื่นตัว หนูจะขายออกหมดเหรอ?"
ลุงหลัวชื่นชมในความมั่นใจของหมี่หลันเยว่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแซวเธอ
"ไม่เป็ไรหรอกค่ะ ยอดขาย่แรกๆ อาจจะไม่เป็อย่างที่หนูหวัง แต่ค่อยๆ เป็ ค่อยๆ ไปก็ได้นี่คะ ป้ายพวกนี้มันก็ไม่ได้เน่าเสียอะไรนี่นา อีกอย่าง สั่งทำเยอะๆ มันก็ยิ่งลดต้นทุนได้ หนูรู้ค่ะ ถ้าหนูทำแค่ห้าพันชิ้น ราคามันคงไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ"
ลุงหลัวหัวเราะเสียงดัง เด็กคนนี้นี่ฉลาดจริงๆ แม้แต่เงินไม่กี่เฟินที่ต่างกันของป้ายแต่ละชิ้น ก็ยังเอามาคิดคำนวณด้วย ถ้านับแค่ชิ้นเดียวอาจจะต่างกันไม่กี่เฟิน แต่พอคูณเข้าไปเป็หมื่นชิ้น มันก็ต่างกันเยอะแล้ว ยัยหนูนี่คิดเล็กคิดน้อยได้เก่งจริงๆ
"ดีๆๆ เป็คนที่เหมาะกับการทำธุรกิจจริงๆ งั้นลุงก็ขอให้เธอทำมาค้าขึ้นนะ หวังว่าอีกไม่นาน เธอจะมาสั่งทำรอบที่สอง คราวนี้ก็สั่งไปเลยสองหมื่นชิ้นเลยดีไหม? ลุงหวังว่าเธอจะทำได้ตามเป้านะ"
หมี่หลันเยว่พยักหน้าอย่างมั่นใจ
"คุณลุงหลัวคอยดูเถอะค่ะ หนูจะไม่ทำให้คุณลุงผิดหวังแน่นอน แต่ว่าป้ายสองหมื่นชิ้นน่ะ ราคาก็ต้องมาคุยกันใหม่นะคะ"
"ยัยตัวแสบ รีบไปได้แล้ว ไปช้ากว่านี้ ลุงคงโดนเธอสูบเืสูบเนื้อจนแห้งตายแน่ๆ"
หมี่หลันเยว่หัวเราะแล้วโบกมือลาลุงหลัว วิ่งเหยาะๆ ออกจากประตูโรงงาน ข้างหลังยังมีเสียงกำชับของลุงหลัวดังตามมา
"อย่าลืมมาเอาป้ายในอีกสามวันนะ"
เื่สำคัญขนาดนี้มีหรือเธอจะลืม หมี่หลันเยว่วิ่งร่าไปที่บริษัทการค้า น้าของหย่งจิ้นยังรออยู่ที่นั่น เธอต้องรีบหน่อย อย่าให้น้ารอนาน วันนี้ต้องจัดเตรียมของที่จำเป็ให้ครบ หมี่หลันเยว่ขยับกระเป๋าสะพายข้างมาไว้ข้างหน้า นี่คือสมบัติทั้งหมดของเธอแล้ว
เพราะวันนี้เป็วันที่ต้องใช้เงิน หมี่หลันเยว่เลยถอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ออกมาทั้งหมด เหลือไว้แค่เล็กน้อย เมื่อกี้เพิ่งจ่ายเงินมัดจำค่าป้ายให้ลุงหลัวไปแล้ว อีกสองวันค่อยไปจ่ายส่วนที่เหลือ ตอนนี้ไปที่บริษัทการค้า ก็ต้องจ่ายเงินซื้อของจริงๆ
"หลันเยว่ ทางนี้จ้ะ อย่าวิ่งเร็วขนาดนั้น น้าก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน"
รู้ว่าหลันเยว่มีธุระอย่างอื่นใน่เช้า ก็เลยนัดกันสายหน่อย แต่หลิวเสี่ยวหว่านใจร้อน รีบพาเพื่อนมาดักรอที่หน้าบริษัทการค้าั้แ่เช้า พอมองเห็นหลันเยว่วิ่งหน้าตั้งมา ก็รีบปลอบว่าไม่ต้องรีบ ดูท่าทางเด็กคนนี้คงรีบวิ่งมาแน่ๆ
"คุณน้าคะ พวกนี้คือ...?"
หมี่หลันเยว่วิ่งหอบหายใจ แต่ก็รีบกล่าวทักทายคุณน้าก่อน แล้วก็โบกมือทักทายคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังน้า
"อ๋อ พวกนี้คือเพื่อนๆ ของน้าเอง น้าคุยกับเธอเมื่อวานเสร็จ ก็รีบกลับบ้านไปปรึกษาพวกเขา พวกเขาห้าคนก็ตกลงมาทำงานทันที เพียงแต่ว่า อยากจะมาดูตัวเธอก่อน น้าก็เลยคิดว่า ไหนๆ วันนี้ก็จะมาซื้อจักรเย็บผ้าอะไรพวกนี้ที่บริษัทการค้าด้วย ก็เลยชวนพวกเขามาด้วยเลย"
อย่างนี้ก็ดี ประหยัดเวลาที่หมี่หลันเยว่ต้องไปพบพวกเธอ
"สวัสดีค่ะพี่ๆ หนูชื่อหมี่หลันเยว่ ในเมื่อเป็คนที่คุณน้าแนะนำมา หนูคงไม่ต้องเกรงใจแล้ว พวกเราไปเลือกของกันก่อนดีกว่า พอเลือกของเสร็จแล้ว ค่อยมาคุยกัน"
ได้ยินหลิวเสี่ยวหว่านเล่ามาแล้วว่า เ้าของร้านเป็เด็กผู้หญิง แต่พวกเธอก็ไม่คิดว่าจะเป็เด็กขนาดนี้ แต่พอเ้าของร้านพูดออกมา พวกเธอก็รู้ทันทีว่าเ้าของร้านคนนี้ไม่ธรรมดา คำพูดที่พูดออกมาทั้งสุภาพอ่อนน้อม แต่ก็ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธได้ สมแล้วที่มีฝีมือ ความดูแคลนเล็กๆ น้อยๆ ที่มีอยู่ในใจก็หายวับไปในพริบตา
"ได้ เราไปช่วยหลันเยว่เลือกของก่อน แล้วค่อยคุยเื่ไปทำงานให้ทีหลังนะ หลันเยว่ ถ้าเธอเห็นว่าพวกเราบางคนไม่เหมาะ ก็ไม่ต้องเกรงใจนะ ถึงแม้ว่าพวกเราจะมาเพราะเสี่ยวหว่านเรียกมา แต่ยังไงซะ ร้านก็เป็ของเธอ เธอต้องเป็คนตัดสินใจ พวกเราไม่โกรธหรอก"
พูดจาตรงไปตรงมาขนาดนี้ หมี่หลันเยว่ก็สังเกตเห็นผู้หญิงคนนี้ทันที เธอแกล้งทำเป็มองผ่านๆ สองสามครั้ง
"ค่ะ ถ้าพี่พูดอย่างนี้ หนูค่อยสบายใจหน่อย รบกวนพี่ๆ ช่วยด้วยนะคะ"
หมี่หลันเยว่อยากจะใช้โอกาสในการเลือกซื้อของครั้งนี้ สังเกตความสามารถในการปรับตัว และลักษณะการทำงานของพี่ๆ เหล่านี้ไปพลางๆ
"หลันเยว่ เธอเรียกพวกพี่ว่าพี่ เรียกน้าว่าน้า มันดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ ถ้าจะว่าไปตามอายุ เธอควรจะเรียกน้าว่าพี่มากกว่านะ หรือว่าเราจะไม่นับตามอายุของหย่งจิ้นดีกว่าไหม?"
เข้าทางหมี่หลันเยว่พอดี รีบพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนี้
ในระหว่างการจัดซื้อเครื่องจักรและผ้า พี่สาวเหล่านี้ก็ให้คำแนะนำที่เป็ประโยชน์มากมาย เช่น ในขั้นตอนการทดลองเครื่อง ก็สามารถบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละยี่ห้อได้อย่างเหมาะสม หรือในการเลือกผ้า ก็บอกว่าผ้าแบบไหนเหมาะกับการเดินเข็มของเครื่องมากกว่า หรืออาจจะซื้อลูกไม้แบบนี้กลับไปใช้ตกแต่งเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ
คำแนะนำเหล่านี้อาจจะเล็กๆ น้อยๆ แต่ในเวลาที่สำคัญ ก็ช่วยให้หลันเยว่ได้รับคำแนะนำที่ดีไม่น้อย ดังนั้นกระบวนการจัดซื้อจึงเป็ไปอย่างราบรื่น เปิดใบเสร็จต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ่บ่ายก็สามารถจ้างรถมารับของได้แล้ว แต่กระเป๋าเงินของหมี่หลันเยว่ตอนนี้แฟบไปเยอะแล้ว เงินที่เหลืออยู่ไม่รู้ว่าจะพอประคองไปจนถึงวันเปิดร้านหรือเปล่า
แต่ในการจัดซื้อของครั้งนี้ พี่สาวเหล่านี้ก็แสดงความสามารถออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าจะมีทั้งคนที่เงียบๆ และคนที่ร่าเริง แต่ก็ล้วนแต่มีความซื่อและไร้เดียงสา แต่ก็ไม่ถึงกับเป็คนทึ่มทื่อ นี่คือสิ่งที่หมี่หลันเยว่้า เธอไม่้าคนที่เ้าเล่ห์ คิดอะไรซับซ้อนเกินไป แต่ก็ไม่้าลูกน้องที่โง่เง่าเต่าตุ่น
ดูเหมือนว่าคนประเภทเดียวกันก็มักจะดึงดูดกัน หลิวเสี่ยวหว่านเป็คนแบบนี้ คนรอบข้างเธอก็คงไม่ต่างกันมากนัก แสดงว่าพวกเขาทั้งหมดสมควรที่จะถูกเก็บเอาไว้ ก็ต้องพูดคุยกันให้ดี บางทีคนเหล่านี้อาจจะกลายเป็พนักงานระดับตำนานของบริษัทก็ได้
"หลันเยว่ เธอจะหารถได้เหรอ?"
ผู้หญิงคนที่พูดกับเธอเป็คนแรก จับตัวหลันเยว่ไว้ทันทีที่ออกจากประตูบริษัทการค้า ยุคนี้รถยนต์ถือเป็ของหรูหราที่หายาก ไม่ใช่ว่าอยากจะหาได้ง่ายๆ
"ทำไมคะ พี่พอจะช่วยได้เหรอ?"
หมี่หลันเยว่กำลังกลุ้มใจเื่นี้พอดี
"ฉันมีญาติเป็คนขับรถให้โรงงาน พวกเธอให้เขาช่วยไหม?"
ความคิดนี้ไม่เลว
"งั้นก็รบกวนพี่ด้วยนะคะ เื่ค่าจ้างรถหนูจะจ่ายเองค่ะ"
หมี่หลันเยว่ไม่อยากจะเสียเปรียบคนอื่นั้แ่แรกเห็น ไม่อย่างนั้นต่อไปคงคุมลูกน้องเหล่านี้ยาก
"เื่เงินเื่ทองอะไรกัน มีคนช่วยได้ก็ดีแล้วนี่นา แต่ต้องดูว่าญาติฉันมีโอกาสขับรถออกมาไหม ถ้าได้ก็ไม่ต้องเสียเงินจ้างรถเขาหรอก ซื้อบุหรี่ให้เขาสักซองก็พอแล้ว ญาติฉันเป็พวกติดบุหรี่ ชอบสูบบุหรี่มาก แต่น้าของฉันเข้มงวด เขาเลยไม่ค่อยมีเงินติดตัวเท่าไหร่"
ท่าทีชัดเจนขนาดนี้ ต้องให้รางวัล
"งั้นหนูก็จะไม่เกรงใจพี่แล้ว พี่ไปขอให้ญาติช่วยหน่อยนะคะ หนูจะซื้อบุหรี่ดีๆ ให้เขาซองหนึ่ง ไม่ให้เขาเสียแรงเปล่าแน่นอน"
"ได้ งั้นฉันไปหาคนก่อนนะ ถ้าตกลงกันได้แล้ว จะไปหาพวกเธอได้ที่ไหน?"
เป็คนกระตือรือร้นดีจริงๆ นิสัยแบบนี้ทำให้หมี่หลันเยว่ชอบมากยิ่งขึ้น หมี่หลันเยว่อธิบายที่อยู่ของร้านอย่างละเอียดให้เธอฟัง
"ไปหาพวกเราที่นั่น หนูจะรอพี่อยู่ที่นั่นค่ะ ขอบคุณพี่ล่วงหน้าเลยนะคะ"
พอมองเด็กผู้หญิงคนนั้นจากไปด้วยความดีใจ หมี่หลันเยว่ก็พาหลิวเสี่ยวหว่านและผู้หญิงคนอื่นๆ ไปที่ร้านริมถนนของเธอ พอเปิดประตูเข้าไปในลานบ้าน ก็ครึกครื้นมาก หมี่หลันเยว่รีบเข้าไปเดินสำรวจรอบๆ ก็พบว่าทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว
"พี่คะ เร็วจังเลย ทาสีห้องเสร็จั้แ่่เช้าแล้วเหรอ"
พอได้ยินน้องสาวชม หมี่หลันหยางก็ยิ้มแก้มปริ แต่คนที่รีบตอบกลับมาคือเฉียนหย่งจิ้น
"แน่นอนอยู่แล้ว ก็ดูสิว่าพวกเราเป็ใคร พวกเราเป็เพื่อนที่ดีต่อกัน แน่นอนว่าจะต้องเต็มที่อยู่แล้ว"
"งั้นก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากนะคะ ขอบคุณที่เหนื่อยค่ะ"
เด็กหนุ่มที่มาช่วยงาน รีบโบกมือบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ
"เื่ของหลันหยางก็คือเื่ของพวกเรา จะขอบคุณทำไม พูดจาแปลกๆ อย่างนี้ได้ยังไง"
"ได้ๆ งั้นไม่ขอบคุณก็ได้ แต่ยังไงมื้อเที่ยงก็ต้องกินด้วยกันนะคะ พี่ไปจัดการเื่อาหารมาหน่อย ฉันขอเก็บกวาดที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน"
พวกผู้ชายทาสีได้คล่องก็จริง แต่ก็ทำเลอะเทอะไปหมด ต้องรีบทำความสะอาด ไม่งั้นพอปูนแห้งแล้วจะทำความสะอาดยาก
"พวกเรามาช่วยทำความสะอาดกันเถอะ หลันเยว่ เธอไปจัดการเื่อาหารกับพี่ชาย แล้วก็ไปหาผ้าขี้ริ้วมาด้วย"
หลิวเสี่ยวหว่านเริ่มพับแขนเสื้อแล้ว เด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า พวกหนุ่มๆ ก็ช่วยเตรียมน้ำเปล่าให้พวกเธอ คนเยอะก็ช่วยกันได้เยอะ งานทำความสะอาดเลยเสร็จเร็วมาก
อาหารกลางวันที่หมี่หลันหยางเตรียมไว้ คือขนมปัง ไส้กรอก และเครื่องดื่มบรรจุขวดแก้ว นี่ถือว่าเป็อาหารดีๆ แล้ว สภาพครอบครัวของแต่ละคนในตอนนี้ ปีหนึ่งอาจจะไม่ได้กินขนมปังถึงครั้ง นี่ถือว่าเป็อาหารชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็หนุ่มๆ หรือสาวๆ ต่างก็ไม่ถือตัว รีบหยิบขนมปังขึ้นมากินกันอย่างเอร็ดอร่อย
"ไม่ต้องรีบ ยังมีอีกนะ ถ้าไม่พอ พวกเราค่อยไปซื้อเพิ่ม"
หมี่หลันเยว่รู้สึกสงสารผู้หญิงพวกนี้ขึ้นมา พวกนี้เป็สิ่งที่เด็กในยุคหลังไม่ยอมกินกันแล้ว แต่ในสายตาของผู้หญิงพวกนี้ มันเป็ของดีที่หายาก
หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ ทุกคนก็ช่วยกันขนของกลับ หมี่หลันเยว่ซื้อบุหรี่ดีๆ สองซองให้ญาติที่มาช่วยงาน ทำเอาเขาดีใจมาก บอกว่ามีอะไรให้บอกได้เลย ส่วนเื่การประกอบเครื่องจักร สาวๆ ก็แสดงฝีมือกันออกมา ส่วนหนุ่มๆ หลังจากที่ขนผ้าไปกองไว้บนเตียงในห้องเล็กแล้ว ก็มาช่วยสาวๆ ทำงาน
ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว สองวันต่อมา ผนังก็แห้งสนิท กลายเป็สีขาวอมฟ้า ห้าวันต่อมา ป้ายร้านก็ทำเสร็จ ป้ายชื่อร้านที่ดูทันสมัยมาก ‘ห้องเสื้อหลันเยว่’ สิบวันต่อมา หลิวเสี่ยวหว่านก็พาผู้หญิงที่จะมาทำเสื้อผ้าแฟชั่นชุดแรกออกมา ร้าน ‘ห้องเสื้อหลันเยว่’ ก็เปิดทำการอย่างยิ่งใหญ่
