คืนนี้เป็ราตรีที่เงียบสงัดซึ่งหาได้ยาก ในป่าใต้พิภพสงบไร้การรุกรานของสัตว์ร้าย ด้านหลังแนวป้องกันของเทือกเขาจู่เสียมีกระโจมและค่ายพักแรมซึ่งเต็มไปด้วยผู้าเ็ กลอุบายของอวิ๋นจวาทำให้ดินแดนเจ๋อสูญเสียหมอไปเป็จำนวนมาก หมอที่เหลือก็ได้รับาเ็อีกหลายคน
อูิหลิงเดินไปมาเพื่อดูแลผู้บาดจนแทบไม่ได้พัก บนหน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ นางไม่ได้สนใจจะเช็ดมันออกด้วยซ้ำ ในมือถือยาทา ค่อยๆ บรรจงทาลงไปบนแขนของคนเจ็บ
“ขอบพระคุณแม่นางอู!”
ผู้คนมากมายให้ความเคารพต่ออูิหลิง หญิงสาวเบื้องหน้าจุดประกายความหวังของพวกเขาขึ้นมาใหม่
อูิหลิงเพียงแค่ยิ้ม ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าแจ่มชัด
“ให้ข้าทำเถอะ”
อีกฝ่ายหยิบกระดาษทรายสานพานจากมือของอูิหลิงแล้วนำผ้าพันแผลพันให้ผู้าเ็อย่างเชี่ยวชาญ
“ท่านพี่!”
อูิหลิงยิ้มให้อูิเยี่ย นางเหนื่อยเหลือเกิน ในที่สุดก็จะได้หาที่นั่งพักสักที
ครึ่งเดือนก่อนอูิเยี่ยพาคนนับร้อยเดินทางมาถึงเทือกเขาจู่เสีย หลังจากส่งมอบสมุนไพรให้กับผู้รับผิดชอบก็ติดตามทหารไปยังป่าใต้พิภพ เพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมื่อวานนี้
ทันทีที่กลับมาก็ได้รู้ข่าวของหลิ่วไป๋เจ๋อและอูิหลิงจากจิ่วฟางเทียนฉี เขาโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ คว้าดาบยาวเตรียมไปพูดคุยกับคนจากคฤหาสน์อวิ๋นหลานซานให้รู้เื่ แต่จิ่วฟางเทียนฉีกลับห้ามเอาไว้ก่อน
ั้แ่วันนั้นอวิ๋นจวาก็ไม่ได้ปรากฏตัวในเทือกเขาอีก ข่าวลือเกี่ยวกับการกระทำอันสกปรกก่อนหน้ากระจายไปทั่วเทือกเขาจู่เสีย ปกติทุกคนก็มีความคิดเกี่ยวกับผู้คนในคฤหาสน์นั้นหลายหลากอยู่แล้ว ทว่าในเวลานี้ยังทำเื่ไร้ยางอายยิ่งกว่าเดิม แม้คฤหาสน์อวิ๋นหลานซานจะจำกัดการเคลื่อนไหวของอวิ๋นจวาก็ไม่อาจห้ามความคิดคนภายนอกได้
ทางด้านอวิ๋นจวา ั้แ่วันนั้นก็ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าใครอีก ไม่รู้ว่ากลายเป็อาหารของสัตว์ร้ายไปแล้วหรือว่าแอบซ่อนตัวอยู่ที่ใด
เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าหมองของอูิหลิง อูิเยี่ยจึงปลอบนาง “ไม่ต้องกังวลแล้ว คุณชายหลิ่วไม่เป็อะไรหรอก”
“หากิโยวอยู่ที่นี่ก็คงดี เขามักมีวิธีแปลกประหลาดในการรักษาผู้คน บางทีอาจทำให้ไป๋เจ๋อฟื้นขึ้นมาก็ได้”
หากอูิหลิงไม่ได้เอ่ยถึง อูิเยี่ยก็แทบจะลืมไปแล้วว่าน้องชายแอบหนีออกมาจากหุบเขา แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ที่ใด จึงอดไม่ได้ที่จะเป็กังวล
น้องชายที่เขานึกถึงนั้น ปัจจุบันกำลังหลบซ่อนอยู่ในเทือกเขาจู่เสีย
อูิโยวเชื่อฟังคำพูดของหลิ่วไป๋เจ๋อ ไม่ปรากฏตัวให้ใครเห็น แต่หลังจากตามอิ๋นซิงออกจากป่าใต้พิภพ เขาก็ค้นพบสถานที่สำหรับซ่อนตัว เดิมทีวางแผนว่าจะหาโอกาสแอบเข้าไปในจิ่วฟางกวน ไม่คาดคิดว่าจะได้พบคนคุ้นเคยกลางทางเช่นนี้
คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็อวิ๋นจวา คุณชายรองของคฤหาสน์อวิ๋นหลานซานที่เคยลอบทำร้ายหลิ่วไป๋เจ๋อและอูิหลิง
อูิโยวมองอีกฝ่ายด้วยความโกรธแค้น การพบเจอกับคนผู้นี้ทำให้เขาลืมความคิดที่จะไปจิ่วฟางกวนเพื่อไปหาหลิ่วไป๋เจ๋อ แล้วตามอวิ๋นจวาไปเงียบๆ ห่างจากป่าใต้พิภพไปเรื่อยๆ
ไม่ไกลออกไปคือเนินเขาแห่งหนึ่ง อวิ๋นจวารีบปีนขึ้น้าก่อนจะพลิกตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย อูิโยวที่ตามมาก็ไม่พบตัวเขาแล้วหลังจากพลิกตัวลงจากเนินเขา
“ไปไหนแล้ว?”
มองไปรอบกายก็ไม่พบใคร แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงลมหายใจดังมาจากด้านหลัง อูิโยวหลบหลีกอย่างรวดเร็ว เงาดาบสะท้อนแทงเฉียดเอวเขา ทะลุผ่านสายคาดเอวและชุดด้านใน
เมื่อิโยวมองไปยังเสื้อผ้าที่ฉีกขาดก็เกิดโทสะ ชุดที่หลิ่วไป๋เจ๋อมอบให้เขาถูกทำขาดเช่นนี้ หากเขาทำมันขาดเองคงไม่เท่าไร แต่ในเมื่อผู้อื่นเป็คนทำ เขาไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายเอาไว้แน่
เมื่อมองไปยังอวิ๋นจวา อูิโยวก็เผยรอยยิ้มชั่วร้าย “เป็อะไร ไม่ซ่อนตัวแล้วหรือ!”
เมื่อเห็นว่าการลอบโจมตีล้มเหลว อวิ๋นจวาก็เตรียมหลบหนี ทว่าถูกอูิโยวขวางเอาไว้
“เ้าเป็ใคร”
อูิโยวใช้ผ้าปิดหน้าปิดตา ไม่แปลกที่อวิ๋นจวาจะจำไม่ได้
ิโยวส่ายหัว คิดว่าสมองของอีกฝ่ายต้องมีอะไรผิดปกติเป็แน่ แล้วพูดติดตลกว่า “ที่ข้าปกปิดใบหน้าก็เพราะไม่อยากให้เ้ารู้ว่าข้าเป็ใคร แล้วยังจะมาถามอีก คิดว่าข้าจะบอกหรือเ้าโง่!”
“เ้า!” เมื่อถูกคนตรงหน้าเยาะเย้ย อวิ๋นจวาก็โกรธจัดจนยกดาบขึ้นมา
ด้วยนิสัยของอูิโยว เขาไม่มีทางยอมให้คนคนนี้ทำร้ายตนเป็ครั้งที่สองแน่ แสงสีเขียวก่อตัวบนฝ่ามือ เถาวัลย์เถาหนึ่งปรากฏขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็ดาบยาว
ดาบของทั้งคู่เข้าจู่โจมกัน อูิโยวสู้กับอวิ๋นจวาจนเหนื่อยหอบ
“จะต่อกรกับข้าอย่างนั้นหรือ”
อูิโยวแทงดาบสวนออกไป ดาบของอวิ๋นจวาจึงหลุดมือแล้วพุ่งไปติดอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกล
เมื่อสถานการณ์ไม่ราบรื่น อวิ๋นจวาจึงพลิกมือยิงลูกศรใต้แขนเสื้อไปทางอูิโยว อีกฝ่ายหันหลังกลับเพื่อหลบเลี่ยงลูกศร เมื่อหันมาอีกทีอวิ๋นจวาก็หายตัวไปในป่าทึบแล้ว
“คิดจะหนีหรือคุณชายรองอวิ๋น คิดผิดแล้วล่ะ!”
อูิโยวไล่ตามอีกฝ่ายไป ใช้เวลาเพียงครึ่งเค่อก็ต้อนอวิ๋นจวาเข้ามาในป่าลึก
“ทำไม ไม่หนีแล้วหรือ”
“เ้า้าสิ่งใด” ด้านหลังเป็หนองน้ำ หากก้าวพลาดแม้แต่ก้าวคงจมตายอยู่ที่นั่น อวิ๋นจวาจึงไร้ทางหนี
“ฆ่าเ้า เหตุผลแค่นี้เพียงพอหรือไม่” อีกฝ่ายปะทะกับตนอยู่หลายครั้ง ทั้งยังลอบทำร้ายท่านพี่หญิงและไป๋เจ๋อ สังหารเขาทิ้งเป็ร้อยครั้งก็ไม่อาจลบล้างความแค้นในใจได้
“ฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ ฮ่าๆ คิดอะไรที่สมเหตุสมผลหน่อยสิ” อาจเป็เพราะถูกบีบคั้นมากเกินไป อวิ๋นจวาจึงหัวเราะออกมาในสถานการณ์เช่นนี้
“จากสิ่งที่เ้าเคยทำ แม้ข้าจะไม่ลงมือ แต่ในดินแดนเจ๋อคงไม่มีที่ให้เ้าหลบภัยได้อีก ทั้งหมดล้วนเกิดจากความชั่วร้ายที่ตัวเ้าก่อเอง”
ถึงต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาอวิ๋นจวาก็ไม่ได้แยแส แต่หันหลังมาเผชิญหน้ากับหนองน้ำ แล้วหันไปทางอูิโยวพร้อมกับยิ้มเหยียดหยัน
“อยากฆ่าข้าหรือ เช่นนั้นก็ลองดู!”
ทันทีที่เอ่ยจบอวิ๋นจวาก็ะโลงไปในหนองน้ำ หินสี่เหลี่ยมพลันปรากฏขึ้นบนพื้นทำให้เขาลงไปถึงใจกลางได้อย่างราบรื่น
ที่นี่ยังมีผู้อื่นอยู่อีก อูิโยวตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าต้องมีอะไรอยู่ในหนองน้ำเป็แน่ ที่อวิ๋นจวาะโลงไปได้ง่ายดายเช่นนั้นคงมีคนคอยช่วยเหลืออยู่
สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เขาต้องระมัดระวังยิ่งขึ้น หาก้าสังหารอวิ๋นจวาก็จำเป็ต้องข้ามหนองน้ำนี้ไป หากใช้พลังิญญาจะสามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ก็จะเป็การเปิดเผยตัวตนให้อีกฝ่ายรับรู้
“ทำไม กลัวอย่างนั้นหรือ ฮ่าๆ ๆ ...”
อวิ๋นจวายืนอยู่กลางบึง มองอูิโยวด้วยท่าทีดูแคลน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังหยุดยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ก้าวมาข้างหน้า อวิ๋นจวาก็ยิ่งเย่อหยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อูิโยวอยากจะหั่นคนผู้นี้ออกเป็สองท่อน แต่ก่อนที่จะได้ทำเช่นนั้นร่างของอวิ๋นจวาก็เหมือนถูกสะกดให้ยืนนิ่ง รอยยิ้มอันชั่วร้ายค่อยๆ บิดเบี้ยว เขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น แล้วค่อยๆ หันกลับไปมองด้านหลัง
“เ้า...พวกเ้ามันไว้ใจไม่ได้...”
ทันใดนั้นก็มีเสียงของใครบางคนดังมาจากป่าด้านหลัง “คนเขลาอย่างเ้า พวกเราไม่อาจเชื่อใจ!”
ครู่ต่อมาใต้ฝ่าเท้าของอวิ๋นจวาก็ปรากฏปากขนาดมหึมา จากนั้นอูิโยวก็เห็นว่าเ้าสิ่งนั้นลากอีกฝ่ายลงหนองน้ำและหายตัวไปในพริบตา
เหตุการณ์ตรงหน้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจอวิ๋นจวาสักนิด แต่กลับแค้นใจที่ไม่ได้จัดการอีกฝ่ายด้วยมือตนเอง ผิวน้ำกลับสู่ความสงบ อูิโยวไม่ได้ก้าวออกไปในทันที แต่กวาดตามองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง รับรู้ชัดเจนว่ามีใครบางคนซ่อนตัวอยู่และกำลังจ้องมองเขาจากในเงามืด
“พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีหรือไม่”
จู่ๆ ก็มีเสียงพูดจากด้านหลัง อูิโยวหันกลับมาและะโถอยหลังไปเพื่อรักษาระยะห่างจากอีกฝ่าย ใมากที่คนคนนี้โผล่มาอย่างไร้สุ้มเสียง ไม่ทันสังเกตเลยว่าอ้อมมาอยู่ด้านหลังตนั้แ่เมื่อใด
ผู้มาเยือนสวมชุดคลุมสีดำปิดมิดชิดทั้งตัว อูิโยวคุ้นตากับการแต่งกายเช่นนี้เป็อย่างมาก
“เ้ามาจากจิ่วโยวหรือ”
คนผู้นั้นยืนนิ่งและไม่ปฏิเสธ
“นับว่าใช่”
“นับว่าใช่อย่างนั้นหรือ” อูิโยวยิ้มเยาะ “ก็แค่ตอบว่าใช่สิ พูดคลุมเครือเช่นนี้ช่างขัดหูข้าเสียจริง”
“ข้าแค่อยากทำข้อตกลงกับเ้า!” เสียงของคนผู้นั้นทุ้มต่ำและแหบแห้ง ฟังดูแล้วน่าจะมีอายุพอควร ทว่ารูปร่างกลับไม่เหมือนผู้เฒ่าสักนิด
“ข้าไม่คิดตกลงกับศัตรูมาแต่ไหนแต่ไร”
ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ศัตรูอย่างนั้นหรือ คุณชายรองอูก็พูดเกินไป”
อูิโยวตะลึง “เ้ารู้ว่าข้าคือใครอย่างนั้นหรือ”
“เป็อย่างไรล่ะ คุณชายจะลองทบทวนดูสักหน่อยได้หรือไม่”
อูิโยวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ข้าไม่ใช่คนโง่เง่าเหมือนอวิ๋นจวา ชาวจิ่วโยวอย่างพวกเ้าแสวงหาเพียงผลประโยชน์เท่านั้น เมื่อหมดประโยชน์ก็จบลงด้วยความตาย ข้าไม่ได้โง่ขนาดนั้น!”
ทันใดนั้นชายตรงหน้าก็ะโใส่อูิโยว “เ้าจะไปรู้อะไร! คิดว่าคนในดินแดนเจ๋อดีนักอย่างนั้นหรือ เทียบกับชาวจิ่วโยวแล้วคนเ่าั้ต่างหากที่ร้ายกาจ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย ไม่ว่าสิ่งใดพวกเขาก็ทำได้ทั้งนั้น เ้าอายุยังน้อยจะไปเข้าใจอะไร จะมองสิ่งใดออกล่ะ”
ชายคนนั้นมีท่าทีดุดัน เอ่ยถามอูิโยวมาหลายข้อ ทำให้เขาไม่อาจตอบกลับได้ เดาว่าอีกฝ่ายคงมีความเกลียดชังต่อดินแดนเจ๋ออย่างยิ่ง มิเช่นนั้นคงไม่มีท่าทีเช่นนี้
ชายในชุดคลุมสีดำยื่นมือออกมา แล้วโยนบางสิ่งมาทางอูิโยว ถึงจะเห็นว่ามีบางอย่างตกลงตรงเท้าเขาก็ไม่หยิบขึ้นมา
คนคนนั้นพูดขึ้นอีกว่า “ข้าจะช่วยเ้าหนึ่งครั้ง ส่วนเ้าจะให้ความร่วมมือหรือไม่ก็ลองคิดดูก่อน”
อูิโยวปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ข้าไม่้าความช่วยเหลือจากเ้า ต่อให้้าความช่วยเหลือเพียงใดก็จะไม่เอ่ยปากร้องขอเ้า”
อีกฝ่ายกลับมามีท่าทีสงบ “ลองดูสิ่งที่อยู่ตรงเท้าเ้าแล้วค่อยพูดก็ยังไม่สาย”
เขาหันหลังมุ่งกลับไปทางป่าทึบแล้วทิ้งคำพูดไว้หนึ่งประโยค “หากคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่นี่ อ้อ อีกอย่างผ้าที่ข้อมือเ้าไม่เลวเลย เก็บไว้ให้ดี มันจะช่วยเ้าได้อีกมาก”
อูิโยวยกมือขึ้นแล้วมองผ้าผืนนั้น ซึ่งดูเหมือนเพียงผ้าธรรมดาๆ ผ้าผืนนี้ผู้าุโซู่มอบให้ตอนที่เขาอยู่ที่ดินแดนฮุ่นตุ้น หรือว่าจะมีวิธีนำไปใช้อย่างอื่นอยู่อีก
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง ชายในชุดคลุมสีดำก็จากไปแล้ว เขาก้มลงไปหยิบถุงผ้าสีดำบนพื้นขึ้นมาโดยไม่ได้เปิดออก หันกลับไปมองทางหนองน้ำด้านหลังซึ่งสงบเหมือนในตอนแรก ราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกินขึ้น แต่อูิโยวรู้ว่ามีการอำพรางบางอย่างที่ผู้อื่นไม่อาจล่วงรู้
——————————————
