ปื้นนนนนนนน
“อึก…”ฉันร้องไห้จนร่างกายสั่นโยนน้ำตาไหลอาบนองแก้มและดวงตาคู่สวยของฉัน จนฉันต้องยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาเพื่อให้ตัวเองมองเห็นเส้นทางที่ฉันกำลังเดินอยู่ในขณะนี้
พรึบ
“พี่ขวัญเอยครับ!”เสียงเรียกฉันดังตามหลังมาหลังจากที่เสียงของเครื่องมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ด้านข้างของฉันดับลง ฉันก็หันหน้าทั้งน้ำตาไปมองต้นตอของเสียงเรียกที่คุ้นหูฉัน
พรึบ
ก็พบกับผู้ชายหน้าหล่อที่อยู่ในเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำกำลังนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์คันโตของเขาอยู่ เขาสวมใส่หมวกกันน็อคสีดำและเขากำลังถอดหมวกกันน็อคออกมาจากศีรษะอยู่ ทรงผมแบบนี้และกางเกงสีดำขาเดฟแบบนี้มีคนเดียว รูมเมทของฉันไง
“มาทำอะไรตรงนี้คนเดียวครับ?”เขาเอ่ยถามฉันพร้อมกับมองหน้าฉันด้วยสายตาเป็ห่วง ฉันก็เอามือเช็ดน้ำตาทั้งสองข้าง
“พี่ขวัญเอย…ร้องไห้?”
“ใครทำให้อะไรพี่ขวัญเอยครับ…”
“ไม่ใช่เื่ของนาย!!”ฉันแผดเสียงดังใส่เขาไปและไม่พอใจ และหันหน้ากลับมาเดินไปตามทางฟุตบาทไปเรื่อยๆ
“พี่ขวัญเอยครับ!”
“กลับบ้านกับผมไหม!”เสียงของเคนโซรูมเมทรุ่นน้องเอ่ยดังตามหลังฉันมา ฉันก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเขา เดินไปด้านหน้าเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ทำไมฉันไม่กลับบ้านไปกับเคนโซล่ะ แต่ฉันไม่อยากกลับตอนนี้น่ะสิ
พรึบ
“อึก”
“ทำไมพี่คีรี….ถึงต้องหลอกเอย…?”
“ทำไมพี่คีรีต้องให้ความหวังเอย…”
“มาทำให้รัก…ทำไม?”ฉันเอ่ยพึมพำถามคำถามที่ฉันสงสัยกับตัวเอง จนกระทั่งฉันมาหยุดอยู่หน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ซึ่งสถานที่นี้ไม่ใช่คลับแต่เป็ร้านขายของโชห่วยทั่วไป
พรึบ
“เอาเหล้าที่แพงที่สุดและแรงที่สุดสองกลมค่ะ!”ฉันเอ่ยสั่งคุณป้าเ้าของร้านโชห่วยไปที่ด้านในของร้านขายของทุกอย่างรวทไปถึงขนมของเครื่องปรุงใช้ในครัวและอักหลายๆอย่างและน่าจะมีสุราเบียร์ขายอยู่ด้วยนะ
“มีแต่รี…ได้ไหม?”คุณป้าเ้าของร้านว่าพร้อมชูกล่องเหล้าให้ฉันดู ฉันก็พยักหน้าว่าได้หมดตอนนี้ ขอแค่กินแล้วเมา เมาเพื่อให้ลืมเธอไปเลย!!!
“มีแต่กลมขนาดใหญ่เจ็ดร้อยมิลลิลิตร”
“แปดร้อยบาท…”
“ได้ค่ะ…เอามาสองกลมเลย!”ฉันตอบเสียงดังฟังชัดพร้อมกับสะอึกจากการร้องไห้มาอย่างหนัก
พรึบ
“หนึ่งพันหกร้อยบาท”ป้าเ้าของร้านว่าพร้อมกับยื่นถุงหิ้วสีเข้มมาให้ฉันที่ด้านในบรรจุเหล้าสองกลม ฉันก็ยื่นเงินแบงค์พันสองใบให้เธอและรอเงินทอนเมื่อได้เงินทอนมาจากป้าฉันก็จัดการยัดเงินทอนเก็บลงไปในกระเป๋าช่องลับของกระโปรง
พรึบ
ฉันหยิบถุงเหล้าและเก็บเงินทอนเรียบร้อยก็เดินเท้าเปล่าซึ่งฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าไปถอดรองเท้าทิ้งไว้ที่ไหนและตอนไหนที่เท้าฉันไม่ได้สวมใส่รองเท้า แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เจ็บแสบที่เท้าทั้งสองข้างไปหมดแล้ว
พรึบ
ฉันทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวตัวยาวที่นั่งได้ถึงสามคนและจัดการเปิดขวดเหล้ากลมขึ้นมาและเริ่มกระดกทันที
“อ๊าาาาาาห์”ฉันร้องออกมาที่รสชาติขมๆและเข้มๆของเหล้าลงคอฉัน ฉันกระดกเหล้าอย่างเพียวๆจนรู้สึกแสบคอและแสบท้องไปหมด แต่แบบนี้ยิ่งดี ฉันจะได้เมา เมาให้ลืมพี่คีรี!
“อึกๆๆๆฮืฮๆๆๆๆ”ฉันเบะปากร้องไห้ออกมาอย่างไม่ห่วงสวย ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่สวนสาธารณะที่ไหนสักที่แหละ ซึ่งฉันไม่รู้จะกลับบ้านยังไงแล้ว และไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนด้วย รู้แค่ว่า ฉันอยากดื่มเหล้า ดื่มให้เมาไปเลย!!
“อึกๆๆๆๆๆๆ”
พรึบ
“อื้ออ!”ฉันร้องอย่างขัดใจที่มีคนมาแย่งขวดเหล้าที่ฉันกำลังจะดกอยู่ไปจากมือฉัน ทำให้เหล้าที่อยู่ในปากของฉันหกใส่เสื้อนักศึกษาของฉันจนเปียกชุ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปหมด
“เอาเหล้าฉันคืนมา!”ฉันลุกขึ้นยืนและหันไปโวยใส่คนที่มาแย่งเหล้าไปจากมือฉันอย่างรู้สึกหงุดหงิดและขัดใจ
“นี่มันเหล้านะครับ…ไม่ใช่น้ำเปล่า!”เสียงทุ้มเข้มของผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจเช่นกัน ฉันก็ลุกขึ้นและพยายามใช้สายตาที่พร่ามัวของตัวเองเพ่งมองหน้าของคนที่จุ้นจ้านนี้ให้ชัดขึ้น แต่มันก็ไม่ชัดสักที เพราะฉันเริ่มเห็นว่าเขามีสองหน้าไม่สิ สามหน้า สี่หน้า โอ้ย คนอะไรมีหลายหัวจังวะ
พรึบ
“พี่ขวัญเอย!!”เสียงของผู้ชายร้องเสียงหลงเมื่อฉันเริ่มรู้สึกมึนหัวและปวดหัววิงเวียนจนร่างของฉันเริ่มโยกเยกจนเหมือนฉันกำลังจะล้มหงายหลังเลย
พรึบ
“ฮืฮๆๆๆ”
“เป็อะไรไหมครับ?”เสียงทุ้มละมุนเอ่ยถามฉันอย่างเป็ห่วง เขาเป็คนที่มาโอบเอวฉันเพื่อรับร่างของฉันไว้เพื่อไม่ให้ฉันหงายหลังลงไปนอนกับพื้น ฉันก็ยิ่งเบะปากร้องไห้ออกมา สติสัมปชัญญะที่เคยมีก็เริ่มจะหายไปหมดแล้ว ใบหน้าของผู้ชายที่มีอ้อมแขนที่อบอุ่นฉันก็มองไม่เห็นใบหน้าของเขาเลย
รู้แค่ว่าเขามีกลิ่นกายที่หอมฟุ้ง หอมมากๆ
“พี่คีรี….”
“พี่คีรีคะ”ฉันร้องเรียกหาพี่คีรีพร้อมกับยื่นมือไปควานกลางอากาศเพื่อจะจับโครงหน้าของพี่คีรี ที่ฉันมองเห็นรางๆ
พรึบ
“ผมไม่ใช่พี่คีรีครับ…”
“ผมเคนโซ…..”เขาเอ่ยบอกฉันเสียงเเข็งในขณะที่เขานำพาร่างของฉันมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมที่ฉันนั่งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
“อึก…เคนโซ?”
“เคนโซไหน?”ฉันเอ่ยออกไปพลางหันกลับไปมองหน้าผู้ชายที่บอกว่าเขาชื่อเคนโซ ฉันหรี่ตามองเขาอย่างพินิจพิจารณา
“จะเคนโซไหนก็ช่างผมเถอะครับ…!!”เสียงของผู้ชายคนนั้นเปล่งออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ว่าแต่พี่มาเมาอะไรที่เปลี่ยวๆแบบนี้?”
“ไม่กลัวโดนลากไปรุมโทรมเหรอไง?”
“ดูแต่งตัวดิ!”
พรึบ
“อื้อออ…ไม่เอา…ฉันร้อน!”ฉันเอ่ยบอกเขาไปพลางพยายามดึงเสื้อแจ็คเก็ตที่หนักมากออกไปจากร่างของฉันที่โดนเคนโซเอาคุมร่างของฉันไว้
พรึบ
“ถ้าไม่ใส่…ก็กลับบ้าน!”เคนโซว่าพร้อมกับคว้าข้อมือของฉันและออกแรงดึงร่างของฉันให้ลุกขึ้น
พรึบ
“ไม่กลับ!!”ฉันสะบัดข้อมือตัวเองอย่างแรงให้หลุดจากการจับกุมของเคนโซและเอ่ยตะคอกใส่เขากลับไป
“อย่าดื้อได้เปล่าวะ!!”เคนโซตวาดเสียงดังใส่ฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่กลัวเขา และไม่กลัวใครทั้งนั้น
“อย่ามายุ่ง!!”ฉันแผดเสียงดังใส่เคนโซ จนเขาทำเพียงแค่ยืนมองฉันเฉยๆ
“พี่เป็อะไรเนี่ย…ทำตัวเป็ยัยขี้เมาเหมือนคนอกหักแบบนี้”
“ฉันไม่ได้อกหัก!!”ฉันเงยหน้าขึ้นไปะโเสียงดังตอบเขาไป
“เขาก็แค่ไม่รัก…ฉัน”และฉันก็พูดเสียงแ่เบาอย่างคนที่จุกอยู่ในอก นี้เป็การอกหักและการผิดหวังครั้งแรกในชีวิตของฉัน ซึ่งฉันไม่เคยเตรียมใจกับเื่อย่างนี้มาก่อน เพราะฉันคิดว่าฉันโชคดีที่สุดที่ได้พี่คีรีเป็แฟน และคิดมาตลอดว่าเขารักฉันมาก
“ฮืฮๆๆๆใช่…”
“เขาไม่รักฉัน….”
“เขาไม่รักฉันอ่ะ…”
"ไม่เคยรักฉันเลยด้วยซ้ำ"
“ฮืฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“พี่ขวัญเอย?”เสียงเบาหวิวถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากสีชมพูของเคนโซ ฉันก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักพร้อมกับหัวใจที่เ็ปและรวดร้าว ตอนนี้ชีวิตของฉันมันกำลังแย่ แย่และมืดไปหมด ฉันไม่เหลือใครอีกแล้วในตอนนี้ ต่อไปนี้ฉันจะใช้ชีวิตยังไงเมื่อไม่มีพี่คีรีแล้ว
พรึบ
ฉันลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและถลาโผตัวเข้าไปสวมกอดหนุ่มร่างสูงโปร่งที่เขามีส่วนสูงที่สูงกว่าฉันเขาน่าน่าจะสูงสัก180เิเได้ เพราะฉันเองก็สูง160แล้ว
ฉันเอาหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาซุกไซ้ไปกับแผงอกแกร่งที่ในเวลานี้มันช่างอบอุ่นสำหรับฉันมาก
“ฮืฮๆๆๆๆๆๆฉันเจ็บ….”ฉันพร่ำเอ่ยออกมาอย่างที่้าระบายกับใครสักคนในเวลานี้
“ฉันเจ็บ….”
“อึกฮืฮๆๆๆ”
“แฟนพี่เขา…มองออกจะรักพี่มากนะครับ…”
“นาย….ลองจับตรงนี้สิ….”ฉันว่าพลางผละกอดออกจากร่างของเคนโซเปลี่ยนเป็จับมือของเขาทั้งสองข้างขึ้นมาแทนและก็นำมือเขาให้มาวางลงบนศีรษะของฉัน เคนโซก็มองหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจและงุนงง
“ฉัน….ไม่ได้มีเขางอกออกมาใช่ไหม?”ฉันถามเคนโซไปพลางทำสีหน้าและน้ำเสียงที่ดูจริงจัง
“คริ….มันจะมีได้ยังไงล่ะครับ…พี่ขวัญเอยเป็คนนะครับ…”เคนโซหัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยบอกฉันมาด้วยน้ำเสียงของคนที่พยายามกลั้นหัวเราะ
“แถมสวย…และเซ็กซี่มากด้วย…”
“ความสวย….ความเซ็กซี่ของฉันที่ฉันมี….”
“ไม่สามารถมัดใจเขาได้หรอก….”ฉันเอ่ยออกไปอย่างคนที่หมดหวังและสูญสิ้นกับความรู้สึกและอะไรหลายๆอย่างในตอนนี้ ฉันค่อยๆเซตัวเล็กน้อยเพื่อจะพาตัวเองกลับมานั่งที่เก้าอี้นั่งเหมือนเดิม
“จริงเหรอครับ….?”
“ถ้าผมได้มีแฟนหุ่นดีและสวยแบบพี่ขวัญเอยนะ…”
“ผมหลงหัวปักหัวปำเลยล่ะครับ…”
“ไม่ยอมห่างเลยด้วย^_^”
“หื่น!”ฉันหันหน้าไปว่าเคนโซพลางเบะปากใส่เขาอย่างหมั่นไส้
พรึบ
“พี่ขวัญเอยจะทำอะไรครับ?”เคนโซถามฉันเสียงหลงทันทีที่ฉันเอื้อมมือไปหยิบขวดเหล้ากลมใหญ่เพื่อจะนำมาดื่มกินอีกครั้ง
“ก็จะกินเหล้าเพื่อย้อมใจน่ะสิ…ถามได้”ฉันหันไปว่าเคนโซเสียงเข้มอย่างนึกโมโหว่าทำไมเขาต้องเสียงดังใส่ฉันด้วย
“ผมไม่ให้พี่ดื่ม!”เคนโซว่าพร้อมกับเอื้อมมือมาแย่งขวดเหล้ากลมไปจากมือฉัน ฉันที่เริ่มมึนเมาจากฤทธิ์ของน้ำเมาแล้วก็ไม่มีแรงที่จะแย่งชิงขวดเหล้ากลับคืนมา
“ฉันจะดื่ม!!!”ฉันว่าเสียงงอแงและพยายามใช้มือควานหาขวดเหล้าจากเคนโซแต่ก็ไม่เป็ผล
พรึบ
“โอ้ววววว”เสียงครางกระเส่าดังอยู่ข้างๆหูฉันทำให้รู้สึกตัวว่าตัวฉันเอวกำลังนั่งคร่อมร่างของเคนโซอยู่ ในท่าที่แบบ สยิวมากสุดๆ
“นมพี่…มันทิ่มจมูกผมแล้วนะครับ…”
“ทะลึ่ง!!”ฉันว่าเสียงดังอย่างกลบเกลื่อนความเขินอาย และพยายามจะลุกออกมาจากตัวของเคนโซแต่ก็ไม่สามารถลุกได้ เพราะเคนโซคว้าเอวฉันไว้อย่างแ่า
“ถ้าพี่อยากดื่มเหล้านักล่ะก็…”
“กลับไปดื่มที่บ้านครับ…”
“ไปกับผม…ผมจะพาพี่กลับเอง…”
“อืม…”ฉันยอมง่ายดายเพราะว่า ฉันกำลังหวั่นไหวและหัวใจเต้นแรงเืในกายสูบฉีดเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆชิดกับเคนโซแบบนี้ กลิ่นน้ำหอมผสมกับกลิ่นกายของเขาช่างหอมละมุนดีจัง
พรึบ
“อื้ออ!”ฉันร้องเสียงหลงอย่างใที่เคนโซจัดการอุ้มร่างของฉันให้ขึ้นมานั่งบนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขาและตามด้วยร่างหนาของเขาที่ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ช้อนหลังฉันมา ฉันนั่งด้านหน้าโดยท่านั่งข้างเพราะกระโปรงทรงเอตัวสั้นที่สวมใส่มันไม่ค่อยเป็มิดซะเท่าไหร่ที่ฉันจะนั่งคร่อม
“ผมให้พี่นั่งหลังไม่ได้ครับ…เดี๋ยวพี่อาจจะพลัดตกมอเตอร์ไซค์ผม…”
“เพราะฉะนั้น…นั่งเฉยๆนะครับ…”
“อย่าขยับ….”
“อื้ออ”ฉันเบนหน้าหนีที่นายเคนโซก้มหน้ามาเอาปลายจมูกโด่งของเขาคลอเ
คลียที่แก้มนวลของฉัน นายนี้มันไวจริงๆ เ้าเล่ห์ หื่น เ้าชู้!!เป็ตัวอันตรายสำหรับฉันและผู้หญิงทุกคนจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้