มู่ชิงเซียวตกตะลึงครู่หนึ่ง เมื่อได้สติจึงตอบว่า “วันนี้ที่กระหม่อมมา เพราะได้นัดกับแม่นางเฟิง...”
พูดได้ครึ่งหนึ่ง เขาพลันหยุดชะงัก คิดว่ามีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง จึงถามกลับไปว่า “กระหม่อมบังอาจถามประโยคหนึ่ง ตอนนี้แม่นางเฟิงอยู่ที่ใดพ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมจะได้พบนางหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
พูดแล้วเขาก็ลอบมองฝ่าาที่ประทับอยู่เบื้องบนปราดหนึ่ง ทว่ากลับเห็นสีหน้าของเขานิ่งเฉยยากจะคาดเดา
ลั่วหยิ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างมาโดยตลอดเอ่ยปากขึ้นในตอนนี้ “คุณชายมู่ ตอนนี้ฝ่าากำลังถามเ้า เ้ากลับย้อนถามฝ่าา?”
มู่ชิงเซียวตะลึงงันรีบก้มหน้าตอบทันที “กระหม่อมปฏิบัติตัวไร้ระเบียบ ขอฝ่าาระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เซวียนหยวนเช่อลอบมองประเมินเขา รู้ว่าเขาไม่มีทางพูดจุดประสงค์ในการมาแน่นอน นิ้วมือเรียวยาวนั้นเคาะลงบนโต๊ะแล้วกล่าวว่า “เ้ากลับไปเถิด นางออกจากวังไปแล้ว!”
“ออกจากวังไปแล้ว?” เซวียนหยวนเช่อเห็นความยินดีพาดผ่านใบหน้าของมู่ชิงเซียว
“เช่นนั้นกระหม่อมทูลลาพ่ะย่ะค่ะ” มู่ชิงเซียวคารวะ เซวียนหยวนเช่อโบกมือ มู่ชิงเซียวจึงรีบถอยออกไป
รอกระทั่งมู่ชิงเซียวออกไปจากห้องทรงพระอักษร เซวียนหยวนเช่อมองไปทางลั่วหยิ่ง “สะกดรอยตามเขา! ตามเขาไปย่อมหาฮองเฮาพบแน่นอน!”
สัญชาตญาณของเขาผนวกกับการสังเกตอย่างละเอียด เขาแทบจะมั่นใจได้เลยว่า มู่ชิงเซียวรู้แน่นอนว่าฮองเฮาไปที่ใด!
นิ้วมือเรียวยาวนั้นลูบเหอเปา “แม้กายห่างกัน แต่หัวใจสื่อถึงกัน” บทกวีสองแถวนี้ สายตาของเขานิ่งลึกราวกับสายน้ำ “ไม่ว่าเ้าจะไปสุดหล้าฟ้าเขียว เจิ้นจะต้องหาเ้าพบให้ได้!”
ออกมาจากห้องทรงพระอักษร มู่ชิงเซียวยิ่งคิดยิ่งประหลาดใจ ในเมื่อแม่นางเฟิงไปจากวังหลวงแล้ว เช่นนั้นนางจะต้องไปสำนักศึกษาเทียนหงเป็แน่ เหตุใดนางจึงไม่ได้มาหาเขา?
ยังมีอีก เมื่อสักครู่ท่าทีของฮ่องเต้แปลกมาก ราวกับจงใจที่จะล้วงความลับจากเขา...
เป็เพราะทางด้านแม่นางเฟิงเกิดอะไรขึ้นหรือไม่?
เขารีบก้าวออกจากประตูวังด้วยความรู้สึกร้อนรน
ไม่ไกลนัก ลั่วหยิ่งสะกดรอยตามมาห่างๆ เขาออกจากประตูวังเช่นกัน
แต่ที่พวกเขาไม่รู้คือ ตั๊กแตนจับจักจั่น (นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง) ยังมีสายตาโเี้อีกคู่หนึ่งคอยจับจ้องพวกเขาอยู่ และติดตามไป
เ้าของดวงตาคู่นี้มิใช่ใครอื่น แต่เป็โจวหมัวมัวจากตำหนักยีหลัน!
“มาหาฮองเฮา? ตามเขาไป ต้องพบฮองเฮาแน่นอน!”
สายตาของนางเย็นเยียบ
วันนี้สำนักศึกษาเทียนหงรับสมัครศิษย์ใหม่เข้าศึกษา มีคนจากเมืองต่างๆ มุ่งหน้าสู่สำนักศึกษาเทียนหง
ยังไม่ทันถึงประตูหน้าูเา ทางูเาก็ถูกฝูงคนเบียดเสียดแออัดเสียแล้ว รถม้าไม่อาจเคลื่อนตัวได้ เฟิ่งเฉี่ยนและคนอื่นๆ จึงต้องลงจากรถม้าเพื่อเดินเท้า
“เหตุใดจึงมีคนมากมายเช่นนี้” ถังไน่ไน่ถอนใจ
ถังเจิ้นอวี่ “แม้ชื่อเสียงของสำนักศึกษาเทียนหงจะไม่เหมือนในอดีต แต่ยังคงเป็สำนักศึกษาอันดับหนึ่งของแคว้นเป่ยเยียน มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ศึกษาความรู้หลายสาขาอย่างลึกซึ้ง การที่คนหนุ่มสาวมากมายมุ่งหน้ามาที่นี่ก็ไม่ใช่เื่แปลกอันใด”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยมองฝูงชนคลาคล่ำ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเม้มเป็เส้นตรงก่อนจะพูดอย่างรังเกียจ “ที่นี่วุ่นวายเกินไป ข้าค่อยมาหาพวกเ้า”
พูดแล้วคนก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ถังไน่ไน่อ้าปากค้าง “บุคคลในดวงใจไม่เพียงแต่หน้าตาหล่อเหลาเท่านั้น ทักษะการเดินหมากก็ล้ำเลิศ วรยุทธ์ร้ายกาจเช่นนี้ เหตุใดใต้หล้านี้จึงมีคนสมบูรณ์แบบเช่นนี้นะ”
เฟิ่งเฉี่ยนกลอกตาอย่างจนคำพูด “เหตุใดข้ามองเขาแล้วก็เหมือนเต่าตัวหนึ่ง ทั้งเอาแต่ใจ ทั้งปากร้าย ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง ยังมีอีก เขาสวมหน้ากาก ดวงตาข้างไหนของเ้าเห็นว่าเขาหน้าตาหล่อเหลา”
ถังไน่ไน่กระพริบตาปริบๆ “อย่างไรก็คือหล่อเหลาอยู่ดี! เอ๊ะ พี่หญิงเฟิง ท่านคงไม่ได้กินน้ำส้มกระมัง”
เฟิ่งเฉียนกลอกตาขาวใส่ “เฮอะ ข้ากินน้ำส้มเขา? ล้อเล่นอันใดกัน”
ถังไน่ไน่ปิดปากแอบหัวเราะ ท่าทีของท่านในตอนนี้ก็คือกำลังกินน้ำส้มนี่!
ถังเจิ้นอวี่เห็นฝูงชนด้านหน้า “อาจารย์ พวกเรารีบเข้าไปเถิด วันนี้มีคนมามากมายเช่นนี้ ไม่แน่ว่ายังต้องเข้าแถว”
เป็ไปอย่างที่เขาคาด ผู้ที่มาเข้าแถวลงชื่อแถวยาวเฟื้อย จากทิศเหนือของสนามกีฬายาวไปถึงทิศใต้ สามารถรองรับคนได้นับพัน!
เห็นการเคลื่อนไหวของแถวแล้วหากไม่มีสองชั่วยามคงไม่ถึงคิวของพวกเขา แต่เป็เื่ช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ต้องเข้าแถวต่อไป
ขณะที่คนทั้งสามเดินไปต่อท้ายแถว ในแถวก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นเล็กๆ
“หล่อเหลาเหลือเกิน!”
“เขาก็มาสอบเข้าสำนักศึกษาเทียนหงหรือ? หากได้เป็ศิษย์พี่หรือศิษย์น้องหญิงของเขาคงดี”
“เ้ารู้ได้อย่างไร ว่าจะต้องเป็ศิษย์พี่หรือศิษย์น้องหญิง มิใช่พี่สาวน้องชาย?”
“ข้าแก่เช่นนั้นเลยหรือ?”
“จะให้ข้ายืมกระจกให้เ้าหรือไม่?”
“...”
เฟิ่งเฉี่ยนแลบลิ้นปลิ้นตา คิดไม่ถึงว่าชาวบ้านที่นี่จะเปิดกว้างเช่นนี้ ชายหนุ่มหญิงสาวที่นี่มิได้เป็คนรักษาท่าทีอย่างที่นางจินตนาการเอาไว้ ในทางตรงข้าม เห็นถังเจิ้นอวี่ที่เป็คนหนุ่มหน้าตาบุคลิกดีเช่นนี้ แต่ละคนหันไปมองอย่างคลั่งไคล้ ไม่ต่างอันใดกับสาวๆ ที่เป็แฟนคลับดาราในศตวรรษที่ 21 แม้แต่น้อย!
นางตบไหล่ถังเจิ้นอวี่ “ไม่เลว! คิดไม่ถึงว่าศิษย์ของข้าจะมีเสน่ห์เช่นนี้ ช่างเป็เกียรติของอาจารย์เช่นข้า!”
ถังเจิ้นอวี่หน้าแดงก่ำ เขาหัวเราะเสียงขื่น “อาจารย์ ท่านอย่าได้หัวเราะเยาะข้าเลยขอรับ!”
ถังไน่ไน่ร้องเสียงดังขึ้นมาในตอนนี้ “อ๊า เ้าผลักข้าทำไมกัน”
เฟิ่งเฉี่ยนและถังเจิ้นอวี่หันไปมองพร้อมๆ กัน เห็นเพียงชายหนุ่มสามคนแซงหน้าแถวของพวกเขากะทันหัน พวกเขาตัดหน้าผู้อื่นท่ามกลางสายตาของทุกคน
ผู้ที่เป็หัวโจกนั้นมีรูปร่างอวบอ้วน เนื้อเต็มไปด้วยเนื้อ แค่มองก็รู้ว่าเป็เนื้อที่สะสมมาจากการดื่มสุราปลาปิ้ง เขาพลันยื่นมือออกมาผลักถังไน่ไน่อีกครั้งหนึ่งพร้อมกับพูดอย่างคนพาล “ข้าผลักเ้า นั่นเป็เพราะเห็นเ้าอยู่ในสายตา! อย่างไรเล่า คิดจะให้ข้ารับผิดชอบเ้าหรือ? ไม่มีปัญหา ข้าจะยอมเสียเปรียบแต่งเ้าไปเป็อนุ! ฮ่าๆๆ...”
อีกสองคนที่ติดตามมาได้ยินเช่นนั้นก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาผสมโรงเช่นกัน
คนที่อยู่รอบๆ ส่ายหน้าขมวดคิ้วตามๆ กันก่อนจะส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เบาๆ
“แม่นางน้อยคนนั้นโชคร้ายจริง ถึงกับปะทะกับโจวทง จอมอันธพาล”
“โจวทง จอมอันธพาล?”
“เ้ายังไม่รู้กระมัง เขาน่ะเป็น้องชายของ ฉินมู่ชวน ผู้เป็ศิษย์เอกของท่านผู้าุโฝ่ายอาญาของสำนักศึกษาเทียนหง มักจะอาศัยบารมีของพี่ชายทำเื่ผิดศีลธรรมอยู่เสมอ เป็จอมอันธพาลอันดับหนึ่งของเมืองซีหนิง! เมื่อครั้งข้าอาศัยอยู่ในเมืองซีหนิง ได้ยินชื่อเสียงอันเลวร้ายของเขามาก่อน เื่เลวทรามที่เขาเคยทำ เล่าสามวันสามคืนก็ไม่หมด ช่างเป็ผู้ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เลวระยำอย่างยิ่งยวด!”
“ที่แท้เป็น้องชายของศิษย์พี่ฉินมู่ชวนหรือ! ศิษย์พี่ฉินมีชื่อเสียงว่าเป็ศิษย์เอกของสำนักศึกษาเทียนหง และเป็ยอดฝีมืออันดับเจ็ด เป็บุคคลผู้มีชื่อเสียงของสำนักศึกษาเทียนหง อาจารย์ของเขาท่านาุโฝ่ายอาญาเป็บุคคลสำคัญของสำนักศึกษาเทียนหง ! มิน่าเล่า โจวทงจึงได้กล้าอวดดีเช่นนี้ เขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะอวดดีได้!”
“แต่ทุกคนล้วนต้องเข้าแถว เขาอาศัยอะไรมาแซงผู้อื่น ทำเกินไปแล้วนะ!”
ได้ยินทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ โจวทงไม่เพียงแต่ไม่หงุดหงิด แต่กลับมีท่าทางหยิ่งผยอง ส่ายหน้าไปมา
“เ้า เ้า...” ถังไน่ไน่โมโหจนหน้าแดง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงด้วยโทสะ ั้แ่เล็กนางถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงมราวกับไข่ในหิน ไหนเลยจะเคยพบเห็นคนพาลไม่มีเหตุผลเช่นนี้ นางเค้นคำพูดอยู่ครึ่งวันจึงกล่าวออกมาได้ประโยคหนึ่ง “เ้ามันคนพาล!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้