คนเข้าไปในสุสานจำนวนมากกว่าสี่หลัก ทว่าครึ่งปีผ่านไปกลับเหลือคนรอดชีวิตออกมาเพียงร้อยกว่าคน
ร้อยกว่าคนนี้ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดของการหาประสบการณ์
ทันทีที่ออกมาจากสุสานจึงจะเป็จุดเริ่มต้นอย่างแท้จริง
คนที่ออกมาเป็คนแรกคือศิษย์อัจฉริยะคนหนึ่งของสำนักนาคา มีพลังยุทธ์ขั้นราชันแล้ว หลังออกมาจากถ้ำ ทั่วทั้งร่างของเขามีไอพลังต่อสู้แผ่กระจายออกมาปกคลุมเขาไว้ในฉับพลัน
ขณะนั้นเอง ร่างเงาอีกร่างหนึ่งก็พุ่งตามหลังออกมา ในมือถือกระบี่พุ่งแทงใส่คนก่อนหน้า ดูจากพลังที่แผ่กระจายออกมาเห็นได้ชัดว่าถึงขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุดแล้ว
ขั้นราชันคนหนึ่งที่เพิ่งออกมา ยังไม่ทันได้เข้าใจถึงสถานการณ์ กับขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุดที่ซุ่มโจมตีอยู่นานแล้ว ใครแข็งแกร่งกว่ากันมองปราดเดียวก็เข้าใจแล้ว
แม้ศิษย์สำนักนาคาคนนั้นจะออกมาพร้อมแสดงม่านพลังป้องกันตัวเอาไว้ แต่ยังยากจะหลีกเลี่ยงความตายได้
การซุ่มโจมตีเป็เื่ปกติที่เกิดขึ้นที่นี่ ผู้สิ้นหวังบางส่วนมิอาจเข้าไปในสุสานได้ และยังไม่มีศิษย์อัจฉริยะเข้าไปแทนอีกด้วย จึงต้องลงมือเอง
คนผู้นี้มีชื่อเสียงเื่ความโเี้ในหุบเขาสุขาวดี เขาถือครองกระบี่พิฆาตอยู่ในมือ ผู้คนต่างเรียกขานเขาว่าปรมาจารย์แห่งความตาย เขาลงมืออย่างโเี้ เรียกได้ว่าเป็อันดับหนึ่งในขั้นต่ำกว่าขั้นราชัน ขอเพียงแย่งชิงสิ่งของที่อีกฝ่ายเอาออกมาจากสุสานได้ แม้จะโดนหมานกู่จากสำนักนาคาไล่ล่าก็คุ้มค่า
ทว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ คนจากสำนักนาคารอเขาอยู่ก่อนแล้ว
ขณะที่กระบี่พิฆาตกำลังจะแทงโดนศิษย์สำนักนาคา พลันมีงูตัวใหญ่สีเขียวมรกตพุ่งออกมาจากใต้น้ำ ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำให้มีน้ำกระเซ็นเป็สาย
งูตัวนั้นอ้าปากกว้างกัดเข้าไปที่ร่างปรมาจารย์แห่งความตายในทันที
“าา... าานาคา!”
ปรมาจารย์แห่งความตายก้มมองงูั์สีเขียวด้านล่างด้วยสีหน้าตื่นใ เขากล่าวออกมาเพียงแค่นั้นแล้วคิดหนี แต่กลับพบว่าร่างกายของเขาถูกแรงมหาศาลตรึงเอาไว้
จากนั้นเขาก็โดนกลืนลงท้องไป
คำเดียว!
เพียงคำเดียว งูตัวนั้นกลืนปรมาจารย์แห่งความตายลงท้องไปแล้ว ไอพลังเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่เสียงร้องโหยหวน
กลืนลงไปทั้งที่ยังมีชีวิต!
หลายคนได้เห็นดังนั้นมีทั้งใ ยิ้มเย็น และหวาดกลัว
พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าาานาคาแห่งสำนักนาคาจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ด้วย ให้าานาคาลงมือั้แ่แรก แสดงให้เห็นว่าสำนักนาคาให้ความสำคัญกับเื่นี้มากแค่ไหน
หลังจากงูั์ตัวเขียวกลืนปรมาจารย์แห่งความตายเข้าไปแล้ว ร่างกายก็ยืดตรงราวกับเป็น้ำตกสูงตระหง่าน
แล้วก็กลายเป็บุรุษหนุ่มสวมชุดสีเขียวในชั่วพริบตา
คนผู้นี้คือสัตว์ประหลาด!
คิ้วหนา ดวงตาพราว ใบหน้าคมกริบราวกับกระบี่ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่แม้แต่สตรียังต้องอิจฉา บนเส้นผมสีเขียวมีงูเขียวตัวเล็กๆ ขดอยู่ หากไม่ใช่เพราะงูตัวเล็กนั้นกำลังอ้าปากเปื้อนเืและซ่อนตัวอยู่ในเส้นผมก็คงมองไม่ออก
คนผู้นี้คือาานาคาคนใหม่ของสำนักนาคา เป็ศิษย์สายตรงของาานาคาคนก่อน ‘เสอฮวาฮวา’
าานาคาคนก่อนโดนาามารตะวันตกสังหาร นับว่าทั้งสองมีความแค้นต่อกัน ตอนที่เสอฮวาฮวาเข้ารับตำแหน่งาานาคาคนใหม่ ได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะแก้แค้นให้กับาานาคาาุโให้ได้
ทว่าทั้งสองฝ่ายมีพลังต่างกันมากเกินไป ยากที่จะแก้แค้นได้
“กล้าทำร้ายศิษย์ในสำนักข้า รนหาที่ตาย”
เสอฮวาฮวาเหาะอยู่กลางอากาศ กล่าวด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“เรียบร้อยดีไหม”
เสอฮวาฮวาเหลือบตามองอัจฉริยะสำนักนาคาคนนั้นพลางกล่าวถาม
“เรียบร้อยแล้ว”
“ดี ตามข้ามา”
เสอฮวาฮวาได้ยินดังนั้นก็ยิ้มมุมปากน้อยๆ แต่เป็ยิ้มที่ชั่วร้ายมาก เป้าหมายในการมาเยือนสุสานของแต่ละคนต่างกันไป บางคนก็เข้าไปตามหาของล้ำค่าภายในสุสานที่ผู้าุโของพวกเขาซ่อนไว้และเอาออกมา เพราะสุสานเปิดมาแล้วเป็พันปี ของล้ำค่ามากมายถูกเก็บซ่อนไว้ในนั้น
ความจริงแล้วของล้ำค่าในสุสานมีอยู่จำกัด ตอนเอาเข้าไปไม่ค่อยมากนัก แต่กลับมีคนเข้าไปตามหามากมาย คนเหล่านี้จึงาเ็ล้มตายกันเป็จำนวนมาก ทำให้มีของล้ำค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เสอฮวาฮวาเหาะอยู่ด้านหน้า อัจฉริยะสำนักนาคาเหาะตามหลัง ออกจากใจกลางทะเลสาบอย่างองอาจ พวกเขากลับไปอยู่ในอาณาเขตของสำนักนาคาเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก
สามารถอยู่ในนั้นได้นานกว่าครึ่งปีและยังกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย แสดงให้เห็นว่าพลังของเขาเป็อย่างไร
เสอฮวาฮวาเลือกออกไปปกป้อง แน่นอนว่าเขาคิดมาเป็อย่างดีแล้ว
อัจฉริยะสำนักนาคาคนนี้เป็เพียงคนแรกเท่านั้น หลังกลับมาถึงฐานที่มั่นสำนักนาคาแล้ว ผ่านไปอีกราวสิบลมหายใจ คนที่สองก็กระโจนออกมาจากถ้ำนั้น
คนผู้นี้ร่างกายเต็มไปด้วยาแ แม้มีพลังยุทธ์ขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุด แต่ตอนนี้ไอพลังกลับอ่อนแรงมาก เขาสามารถออกมาได้นับว่าถึงขีดจำกัดแล้ว หากออกมาช้าอีกหน่อยคงต้องตายอยู่ในนั้น
และเขาก็ไม่ได้โชคดีเหมือนกับคนแรกที่ออกมา
เพิ่งออกมายังไม่ทันได้แสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ กระบี่ยาวเล่มหนึ่งพลันพุ่งดิ่งลงมาจากท้องฟ้าแทงเขาจนตายอยู่กลางอากาศ
แล้วกระบี่เล่มนั้นก็กระโจนพาร่างไร้ชีวิตออกห่างจากที่นี่ไปด้วยความเร็วสูง
ทุกคนในที่นั้นมองไปรอบๆ ไม่เห็นเลยว่าใครใช้กระบี่สังหารคนผู้นั้น
“เฮอะ อัจฉริยะแล้วอย่างไร เมื่อไม่มีอำนาจยิ่งใหญ่อยู่ที่นี่ ต่อให้เป็อัจฉริยะก็ตายได้เหมือนกัน”
คนผู้หนึ่งจากสำนักจตุรเทพหัวเราะเสียงเย็น พวกเขารู้จักคนเมื่อครู่นี้ดี คนผู้นั้นเป็อัจฉริยะในหุบเขาสุขาวดีและเผยให้เห็นถึงความเฉียบแหลมของตนเองออกมา ทว่ายังไม่ทันได้เปล่งประกาย กลับถูกทำลายเพราะมีของล้ำค่าติดตัว
ปีนี้เขามีอายุสิบเก้าปี มีพลังยุทธ์ขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุด มีคุณสมบัติให้เขาได้อวดดี ครั้งนี้เขาออกมาจากสุสานได้ หากไม่เกิดเื่ขึ้นเสียก่อน เขาคงกลายเป็ผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว
น่าเสียดายที่อัจฉริยะเช่นนี้พบเจอได้ทั่วไปในหุบเขาสุขาวดี ที่ปกติแล้วไม่โดนก้าวล่วงไม่ได้หมายความว่าจะไม่กล้า เมื่อมีผลประโยชน์มากพอก็ตายก่อนวัยอันควรได้เหมือนกัน
แสดงให้เห็นว่า าามารตะวันตกก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งาามารได้ ต้องแข็งแกร่งมากขนาดไหน
ทุกคนที่ออกมาจากสุสานล้วนแล้วแต่เป็เหยื่อ ดึงดูดสายตาของทุกคนที่นี่ หากมีกำลังในการสังหาร พวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งกันทุกคน
ทว่าคนที่เข้ามายังอาณาเขตกู่ซวีแห่งนี้ต่างมีอำนาจแข็งแกร่งหนุนหลังกันอยู่แล้ว คิดโจมตีไม่ใช่เื่ง่าย
อย่างเช่นอัจฉริยะสองคนจากสำนักจตุรเทพที่ออกมาจากในนั้น ไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขาเลย สี่เซี่ยงเข้าปกป้องจนกลับเข้าสู่ฐานที่มั่นได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นก็มีคนออกมาจากสุสานอย่างต่อเนื่อง บ้างก็ถูกฆ่าตาย บ้างก็มีคนเข้าปกป้อง
หากคิดคำนวณดูแล้ว กลับกลายเป็ว่าสำนักต่อสู้เป่ยโต้วได้กำไรมากที่สุด
เพราะศิษย์จากสำนักต่อสู้เป่ยโต้วกลับออกมาได้เจ็ดคน ไม่มีใคราเ็ใดๆ เลย สำนักต่อสู้เป่ยโต้วมีค่ายกลเป่ยโต้วที่เป็เคล็ดวิชาลึกลับอยู่ แม้พวกเขาเจ็ดคนจะมีพลังยุทธ์ขั้นบรรพบุรุษระดับกลาง แต่ทั้งเจ็ดคนเข้าไปและออกมาพร้อมกัน เมื่อใช้ค่ายกลเป่ยโต้ว แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นราชันระดับสูงยังไม่กล้าท้าทายพวกเขาเลย
แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเจ็ดคน หนึ่งคนได้ของมาหนึ่งชิ้น พวกเขาจะได้รับของล้ำค่าไปแล้วเจ็ดชิ้น ยิ่งไปกว่านั้นแต่ละคนยังได้ของมากกว่าหนึ่งชิ้นอีกด้วย
ทันใดนั้นเอง พลังที่รุนแรงสองสายพลันพวยพุ่งออกมาจากด้านใน
จี๋เล่อน้อยและซูเหยียนเหาะออกมาจากในนั้น และหยุดนิ่งอยู่บนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบ
ทันทีที่ทั้งสองคนออกมาได้ อำนาจต่างๆ ที่มุงดูอยู่พลันหยุดนิ่งทุกการกระทำ
ทั้งสองคนนี้ พวกเขาก้าวล่วงไม่ได้เลยจริงๆ
หากทำให้จี๋เล่อน้อยโกรธขึ้นมา เขาคนเดียวอาจทำให้ทั้งสำนักพินาศไปเลยก็ได้
ส่วนคุณชายน้อยซู ยิ่งมิอาจล่วงเกินได้มากกว่านั้นอีก
เื้ัของเขามีพ่อที่ได้ชื่อว่าปกป้องพวกพ้องคนหนึ่ง ‘าามารทิศเหนือ’ ซึ่งน่ากลัวยิ่งกว่าจี๋เล่อน้อยเสียอีก
เมื่อเห็นจี๋เล่อน้อยและซูเหยียนออกมาแล้ว าามารตะวันตกยิ่งมีสีหน้าเปลี่ยนไป
นานขนาดนี้แล้ว เสิ่นเสวียนกับเริ่นเสี้ยวเทียนยังไม่ออกมาอีก เขามั่นใจในพลังของสองคนนั้นมาก แต่เพราะในสุสานพลังแข็งแกร่งมากเกินไปเขาจึงไม่วางใจ
ค่ายกลของผู้เฒ่าจี๋เล่อแข็งแกร่งมาก อย่าว่าแต่พวกเสิ่นเสวียนเลย แม้แต่าามารอย่างพวกเขา หากต้องเผชิญหน้าจริงๆ อาจถึงแก่ชีวิตเลยก็ได้
“แล้วพวกเขาล่ะ”
าามารตะวันตกถามจี๋เล่อน้อยทันที
“ไม่เห็น”
จี๋เล่อน้อยมองาามารตะวันตกแวบหนึ่ง จากนั้นก็เหาะไปอยู่ด้านข้างเพื่อสังเกตการณ์ต่อไป
ซูเหยียนกลับไปอยู่ข้างๆ าามารทิศเหนือเช่นกัน เขาถูกาามารทิศเหนือสอบถามต่างๆ นานา และดูว่าาเ็ตรงไหนบ้าง
กาลเวลาผ่านไปเรื่อยๆ าามารตะวันตกเหงื่อไหลเต็มหน้าไปหมด
ในท้ายที่สุดก็มีคลื่นพลังสองสายปรากฏขึ้น มีคนกำลังออกมา