ในอดีตนั้นมีการสังหารหมู่เกิดขึ้นเป็จำนวนมากนรกก็เป็หนึ่งในนั้น ตามที่ได้มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์สาเหตุเกิดมาจากการจลาจล โดยเหล่าทาสนักรบจับจอบขึ้นมาต่อสู้เ้าของทาสเหตุการณ์เป็เช่นไรนั้นไม่ได้มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์แต่ในที่สุดเท่าที่เราได้รับรู้มาคือ บทสรุปเป็ไปในทางล้มเหลว นั่นทำให้มีทาสจำนวนไม่ต่ำกว่า500,000 ชีวิตถูกสังหาร ในนรกเดิมก็หดหู่อยู่แล้วและจากผลลัพธ์นี้ก็ทำให้เต็มไปด้วยซากศพจำนวนมากมาย บรรดาศพต่างๆถูกกองทับถมกันเป็กองพะเนินก่อตัวขึ้นเป็ูเาในที่สุดก็กลายมาเป็สุสานเทือกเขาชางซาน
อาจเป็เพราะศพนั้นไม่ได้ถูกฝังกลบหลังจากที่ถูกหนูและแมลงกัดแทะ เมื่อรวมกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้พิษในตัวศพเริ่มก่อตัวขึ้นจนกลายเป็พิษที่ร้ายแรงมากยิ่งขึ้นจนส่งผลทำให้สิ่งมีชีวิตในบริเวณโดยรอบประมาณ 10 ไมล์ สูญพันธุ์ไปจนหมดจนกระทั่งผ่านมาร้อยปี จึงทำให้ไม่มีผู้คนเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวอีกเลยเนื่องจากเพียงแค่ััถูกก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้ทันที
ในยามค่ำคืนบริเวณนั้นจะส่งกลิ่นเหม็นมาก ซึ่งอาจเป็เพราะว่ามีซากศพอยู่มากมายทำให้อากาศบริเวณนั้นหนาแน่นไปด้วยมลพิษและมีผลกระทบกับแสงสว่างจึงทำให้ทัศนวิสัยแย่มากส่วนเวลากลางวันบริเวณสุสานเทือกเขาชางซานนั้นจะค่อนข้างมืดสลัว
ลึกเข้าไปในสุสานเทือกเขาชางซานกองทัพซากศพนั้นประกอบไปด้วย ซากศพเน่าเปื่อย ซอมบี้ ผีดิบ และมีทหารโครงกระดูกอีก12 ตัว พวกมันโจมตีได้อย่างบ้าคลั่งจำนวนกองทัพซากศพนั้นมีมากมายจนเรียกได้ว่าหนาแน่นถึงแม้ว่าพวกทหารโครงกระดูกนั้นจะมีจำนวนน้อยมาก แต่พวกมันแข็งแกร่งมาก เมื่อใดก็ตามที่กองทัพซากศพนั้นโจมตีพวกมันจะมีความมั่นคงไม่ต่างจากเทือกเขาไท่ซานเลยเท้าของพวกมันเหมือนรากที่หยั่งลึกลงไปในพื้นดินคล้ายกับว่าพวกมันไม่เคยถอยกลับเลย
ทหารม้าโครงกระดูก4 ตัว ยืนประจำ 4 มุม และทหารโครงกระดูกอีก 8 ตัว ยืนป้องกันในส่วนของช่องว่างโดยยืนล้อมรอบเป็วงกลมเพื่อป้องกันฉินโจ้วที่อยู่ด้านในไว้เพื่อให้ฉินโจ้วได้ใช้ทักษะรักษาชีพ และใช้ยาแดง การเรียกใช้ทหารโครงกระดูก 12 ตัวในเวลาเดียวกันนั้น ต้องใช้พลังชีวิต 520 หน่วยต่อวินาทีเลยทีเดียวและมันสามารถลากตัวเขาให้ม้วยได้ถ้าไม่ระมัดระวังพอเมื่อคุณคิดว่าปลอดภัยพอแล้วก็สามารถมีเวลาฝึกฝนทักษะหรือสามารถหยิบอุปกรณ์หรือไอเทมได้อีกด้วย
ระดับของกองทัพซากศพอยู่ใน่เลเวล10-30 ด้วยระยะค่อนข้างกว้าง มีซากศพเน่าเปื่อยที่อ่อนแอที่สุดคือ พวกซอมบี้(ซากศพเน่าเปื่อยที่เคลื่อนไหวได้) และพวกผีดิบที่แข็งแกร่งที่สุดลักษณะของผีดิบก็มีศีรษะไม่ห้อย ตาไม่เอียง ขาไม่หัก ไม่งอและร่างกายไม่เน่าเปื่อย ไม่มีความคิด เคลื่อนไหวโดยสัญชาตญาณพวกมันกินเืมนุษย์และเกลียดแสงอาทิตย์แต่ความแข็งแกร่งของมันนั้นเรียกได้ว่าแข็งราวกับเหล็ก มีพละกำลังที่มหาศาลซึ่งเป็การยากที่จะรับมือด้วย
ถึงแม้ว่าผีดิบนั้นจะแข็งแรงพวกมันอาจจะทรงพลังเมื่อสู้กับฉินโจ้ว แต่บังเอิญว่าเขาไม่ได้เป็คนที่ลงมาสู้เองเขาอัญเชิญทหารโครงกระดูกลงมาต่อสู้แทนลักษณะของทหารโครงกระดูกนั้นก็แข็งเหมือนเหล็ก พละกำลังก็สูง และที่สำคัญยังใช้อาวุธได้ด้วยซึ่งถ้าเทียบกับผีดิบแล้วก็สบายๆกระบองสังหารที่ผีดิบใช้อยู่นั้นมีคุณสมบัติดูดเืได้ก็จริงแต่ทหารโครงกระดูกไม่มีเืที่ว่าให้ดูดสักหยดแค่เริ่มต้นก็ไม่มีที่ให้ผีดิบยืนซะแล้ว แม้ว่าพวกมันจะมีพลังโจมตีมากแต่ก็ไม่ต่างอะไรกับของประดับ
ไม่ง่ายไม่ยาก ในที่สุดก็จัดการผีดิบได้
ฉินโจ้วอยู่ที่นี่เป็เวลาหนึ่งวันแล้วและขณะนี้เลเวลของเขาคือ 26 อยู่ในอันดับหนึ่งของการจัดลำดับส่วนที่สองนั้นอยู่ที่เลเวล 24
ถ้าจะให้พูดก็คงต้องขอบคุณกิลด์์ที่แนะนำสถานที่ดีๆสำหรับฝึกฝนให้เนื่องจากกิลด์์ได้ปล้นชิงสถานที่สำหรับเพิ่มระดับเป็จำนวนมากอย่างบ้าคลั่งเพียงเพื่อ้าแก้แค้นในส่วนของกิลด์วังเทพแห่งตะวันกับสมาคมโลกก็้าจะจับปลาในน้ำขุ่น(ฉวยโอกาสขณะเกิดเหตุการณ์ชุลมุน) จึงส่งผลกระทบกับผู้เล่นเป็จำนวนมาก ฉินโจ้วได้พบพื้นที่หลายแห่งที่ยึดครองโดยกลุ่มต่างๆเขาจึงต้องมุ่งหน้าไปให้ไกลกว่านั้น โดยในระหว่างทางเขาได้พบกับขโมยดวงตกคนหนึ่งขโมยคนนั้นได้พูดถึงการเข้าไปยังสถานที่ที่น่ากลัวแห่งนั้นโดยบังเอิญและเขาก็ตายหลังจากที่เดินเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตายได้อย่างไรมันไม่สามารถอธิบายได้ และแถมเขายังดรอปมีดสั้นเหล็กดำไปอีก ยิ่งทำให้เขาปวดใจมาก
ตามที่ขโมยคนนั้นอธิบายไว้ว่าเป็สถานที่ค่อนข้างหนาวเย็น มืดครึ้ม และปกคลุมไปด้วยหมอกหนาแสงอาทิตย์ไม่สามารถส่องถึง และส่วนใหญ่มีแต่หญ้าที่แห้งเหี่ยวจนกลายเป็สีเทา
ฉินโจ้วมีประสบการณ์ในการจัดการกับมอนสเตอร์ในแถบสุสานมาก่อนเขาจึงรู้ได้ทันทีว่ามันคืออะไร ที่นั่นจะต้องเป็สุสานหรือไม่ก็ใกล้เคียงสถานที่แบบนั้นมักจะมีพิษที่ร้ายแรงจนถึงชีวิต แต่ก็เฉพาะกับผู้เล่นอื่นสำหรับเขาแล้วฉินโจ้วผู้คงกระพันทานทนต่อพิษสารพัดชนิดที่แห่งนั้นย่อมเป็สถานที่ในฝันที่เหมาะเจาะมากสำหรับการฝึกฝน
มีอุปกรณ์จำนวนไม่น้อยในช่องมิติของฉินโจ้วส่วนอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ได้มาจากตอนที่สังหารสมาชิกกิลด์์ก็นำไปขายที่ร้านมีหลงเหลือติดตัวอยู่เล็กน้อยส่วนใหญ่ก็เป็เสื้อผ้าผู้หญิงดูท่าคงจะต้องนำไปประมูล ราคาประมูลนั้นก็สูงกว่าราคาที่ร้านค้าอยู่แล้วซึ่งแน่นอนว่าส่วนเล็กๆ ของฉินโจ้วเมื่อเทียบกับคนอื่นต้องเรียกว่าอย่างเยอะ
ฉินโจ้วได้สอบถามถึงสถานที่กับขโมยคนนั้นว่าอยู่ที่ไหนซึ่งขโมยก็อิดออดและมีทีท่าไม่้าจะบอก ฉินโจ้วเลยใช้ไม้ตายเขายื่นมีดสั้นระดับบรอนซ์ให้ไปหนึ่งเล่ม ทันใดนั้นดวงตาของขโมยก็เบิกกว้างส่องประกายก่อนจะรีบแชร์โล...เอ๊ย... รีบบอกตำแหน่งสถานที่ให้กับฉินโจ้วด้วยความรวดเร็ว
เมื่อฉินโจ้วมาถึงสุสานเทือกเขาชางซานก็ไม่มีความคิดที่จะออกไปที่อื่นอีก เขาจึงจัดการเื่อาหาร น้ำดื่มธุระหนักเบาที่นี่จนเสร็จเรียบร้อย สถานที่แห่งนี้เหมือนเป็์สำหรับเขาเขาเองเป็นักเวทสายความมืด ซึ่งเวทของเขานั้นโจมตีศัตรูธาตุความมืดได้แรงขึ้นอีก20% เนื่องจากโบนัสจากตราแห่งความยุติธรรมบวกกับความได้เปรียบของทหารโครงกระดูกที่มีต่อผีดิบอีกทั้งที่นี่นั้นยังมีมอนสเตอร์เป็จำนวนมาก ซึ่งน่าจะทำให้เขาเพิ่มระดับได้ถึงเลเวล30 โดยที่ไม่ต้องวิ่งเล่นไปทั่วเพื่อหามอนสเตอร์
จะมีสถานที่ไหนที่ดีกว่านี้สำหรับการฝึกฝนอีกหรือ? ตอบได้เลยว่า ไม่มีอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าจะเป็พื้นที่ที่เต็มไปด้วยสมบัติสำหรับการฝึกฝนแต่อันตรายของมันก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย มีผีดิบผมขาวซึ่งเป็ผีดิบอีกประเภทหนึ่งพลังโจมตีมากกว่าและความเร็วที่สูงกว่าผีดิบธรรมดาทั่วไปดูไปก็พอสูสีกับทหารโครงกระดูกที่ทรงพลังเลยทีเดียว
มีผีดิบผมดำเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชนิดดูเหมือนว่าจะเก่งกว่าผีดิบผมขาวอีกทันทีที่ปรากฏตัวครั้งแรกก็สามารถจัดการกับทหารโครงกระดูกได้ทันทีฉินโจ้วถึงกับต้องใช้ทหารโครงกระดูก 3 ตัว เพื่อจัดการจากนั้นเขาก็อัญเชิญทหารม้าโครงกระดูกออกมา จุดประสงค์หลักก็คือไว้คอยป้องกันผีดิบผมดำนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีผีดิบอีกประเภทหนึ่งที่จัดการได้ค่อนข้างยากคือผีดิบดิน เป็ผีดิบที่มีความสามารถในการซ่อนตัวในดินเคลื่อนไหวไปมารวดเร็วคล้ายภูตผี ซึ่งเป็ประเภทที่มีความเร็วสูงมากทำให้ยากที่จะป้องกัน
เมื่อผีดิบดินโผล่ออกมาฉินโจ้วก็เกือบจะถูกกัดเสียแล้วทันทีที่มันโผล่พ้นดินออกมาก็พุ่งตรงเข้าใส่ฉินโจ้วอย่างรวดเร็วแม้แต่ทหารโครงกระดูกและทหารม้าโครงกระดูกเองก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ทันในขณะที่แสงของผู้พิทักษ์กำลังทำงานก็ทำให้ผีดิบดินนั้นกระเด็นออกไป ก่อนที่ทหารม้าโครงกระดูกจะใช้เวลาเล็กน้อยในการจัดการดูเหมือนว่าผีดิบดินนั้นจะมีพลังโจมตีสูงแต่พลังชีวิตกลับต่ำมากไม่ต่างจากผีดิบทั่วไปเลยทหารม้าโครงกระดูกสามารถจัดการได้ด้วยการแทงไปเพียงสามครั้งเท่านั้น
หลังจากเกิดเหตุไม่คาดฝันในครั้งแรกฉินโจ้วก็เปิดใช้เนตรเซียนพญายมจ้องมองพื้นเป็ครั้งคราวมีหรือที่ผีดิบดินจะหนีรอดสายตาไปได้ ภายในเนตรเซียนพญายมมันแสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่แท้จริง และการลอบโจมตีก็ไม่มีผลอีกต่อไปในขณะที่ผีดิบดินะโเข้าใส่นั้น มันก็ถูกทหารม้าโครงกระดูกโจมตีใส่ในทันทีโดยที่ฉินโจ้วให้ทหารม้าโครงกระดูก 3 ตัว โจมตีพร้อมกัน จากการใช้หอกโจมตีพร้อมกัน3 อัน ทำให้ผีดิบดินถูกสังหารภายในเสี้ยววินาที หลังจากที่ ซอมบี้ถูกจัดการไป 3 ตัวก็ดูเหมือนว่ามันเริ่มเรียนรู้หรือไม่ก็คงกลัว เลยไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย
ฉินโจ้วไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแต่ทันใดนั้นเสียงหวีดแหลมแสบแก้วหูก็ดังขึ้นอีกครา
สิ่งนี้เป็สัญญาณเตือนว่าผีดิบที่แข็งแกร่งกว่าปกติกำลังจะปรากฏกายขึ้นฉินโจ้วคิดว่าพวกผีดิบจะไม่ส่งเสียงร้องเสียอีกแต่ในความเป็จริงแล้วดูเหมือนว่าพวกผีดิบจะสามารถส่งเสียงได้ แต่เสียงของมันฟังแล้วดูแปลกแถมแสบแก้วหูอีกต่างหาก
จากนั้นผีดิบผมดำก็ะโออกมา4 ตัว จากคนละด้าน ความสูงน่าจะราวๆ 3 เมตรเลยทีเดียวซอมบี้ทั่วไปะโได้สูงสุดราว 2 เมตรซึ่งทำให้ดูเป็ที่สะดุดตาอย่างมากในกองทัพผีดิบ
ระหว่างะโมันสามารถย่นระยะทางเข้ามาได้อีกเกือบ 5 เมตรเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขาของผีดิบมีโครงสร้างอย่างไรขาแข็งทื่อขนาดนั้นแล้วยังมีแรงะโได้มากขนาดนี้ถ้าเปลี่ยนเป็กล้ามเนื้อเหมือนคนทั่วไปนี่มันจะขนาดไหนกันนะ
ระยะทางกว่า10 เมตร เพียงไม่กี่อึดใจพวกมันก็มาถึง ผีดิบ 4 ตัววิ่งตรงเข้าหาทหารโครงกระดูกทันทีความแข็งแกร่งในการะโของพวกมันทำให้ดูเหมือนว่าสามารถบินได้ในอากาศพวกมันดูดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่พวกมันจะเข้ามาถึงกระแสลมแรงก็มาปะทะพร้อมกับร่างของซากศพที่อยู่ในอากาศ
เอา"อ่อนแรง" แล้วก็ "อ่อนแรง" ไปกินก่อนเลย
ฉินโจ้วมีเวลาร่ายเวทออกไปแค่สองบทผีดิบผมดำกลุ่มนั้นตรงเข้าโอบล้อมทหารม้าโครงกระดูกไว้ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฟาดฟันกันดังสนั่น ผีดิบผมดำสองตัวที่ถูก ''อ่อนแรง'' นั้นดูอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด พวกมันดูไม่รวดเร็วและดุร้ายเหมือนอีกสองตัวที่เหลือต่อสู้กันได้ 5 รอบ พวกมันก็ถูกทหารม้าโครงกระดูกเสียบจนตายผีดิบผมดำที่เหลือก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของทักษะ ''อ่อนแรง'' ได้เป็อย่างดี
อาชีพพ่อมดนั้นไม่ได้มีทักษะที่มีพลังโจมตีรุนแรงใน่แรกแต่จะมีทักษะเสริมซึ่งมีความพิเศษเป็อย่างมากและเมื่อระดับเลเวลได้ถูกเพิ่มไปถึงระยะกลาง พลังโจมตีก็ไม่น้อยกว่าเวทขั้นสูงเลยยิ่งเมื่อรวมเข้ากับความสามารถของตราแห่งความยุติธรรมอีก
"อ่อนแรง"จ้า "อ่อนแรง"
แรงดันอากาศสีเทาโปร่งแสงสองสายพุ่งตรงไปกระแทกผีดิบผมดำสองตัวตามลำดับไม่รู้ว่าเพราะฉินโจ้วมีค่าโชคที่สูงหรือเพราะคุณธรรมประจำใจอันสูงส่งจึงทำให้ทักษะนั้นมีประสิทธิภาพดี เวทของฉินโจ้วเลยไม่ค่อยพลาดเป้าการโจมตีทั่วไปก็ยังโดนเป้าหมายด้วย มันทำให้ทักษะเพิ่มระดับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อทักษะ''อ่อนแรง'' เลือนหายเข้าไปในตัวผีดิบผมดำทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันก็พลันลดลงอย่างมากมันไม่สามารถรับมือทหารม้าโครงกระดูกได้เหมือนปกติมันยิ่งง่ายขึ้นเมื่อพลังนั้นลดลงไป ไม่นานมันก็โดนแทงจนตายไปโดยทหารม้าโครงกระดูกหลังจากนั้นซากศพทั้งหลายก็ะเิ
ะเิศพ: สร้างผลกระทบจากการะเิ หลังจากการะเิ จะสร้างหมอกพิษสีเทาที่มีรัศมี 10เมตร เมื่อศัตรูัักับหมอกพิษเขาก็จะติดพิษ และจะสูญเสียพลังชีวิต 400หน่วยต่อวินาที เป็เวลานาน 120 วินาที
พลังทำลายของะเิศพมากกว่าอันที่เขาเคยใช้ก่อนหน้านี้เสียอีกมันเป็อาวุธที่จำเป็อย่างยิ่งในการจะสังหารผู้คนจากนั้นก็จุดไฟและปิดกั้นถนนเอาไว้นี่เป็อุปกรณ์ที่ฉินโจ้วชื่นชอบที่สุดในหลายวันนี้ถ้าให้เทียบกับอาวุธหรืออุปกรณ์อื่นๆ แล้ว เขาขอเลือกะเิศพถึงแม้แรงะเินั้นจะไม่ค่อยสูง แต่จำนวนของมันก็ไม่น้อยเลย และโชคของฉินโจ้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้เขารวบรวมะเิศพได้มากกว่า 200 ชิ้นแล้ว
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างไม่รู้ตัวจนเมื่อฉินโจ้วเริ่มรู้สึกว่าทั้งมือและเท้าแทบไม่มีแรงเหลือแล้ว นี่ก็ปาเข้าไป 5วัน 5 คืน แต่ถึงอย่างนั้นฉินโจ้วก็ยังรู้สึกตื่นตัวจากการต่อสู้จนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือน...ในขณะที่เขาแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงเหลือเลย
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นเมามายซบตักสาวงามได้เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งขั้น
เลเวล29 ซะที ดูเหมือนว่าเขายังคงนำอยู่ในการจัดลำดับชั้น ส่วนที่สองนั้นอยู่ที่เลเวล27 ยังคงห่างกัน 2 ระดับ จากเท่าที่เห็นนี่แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นคนอื่นก็ยังพยายามยกระดับการฝึกกันอย่างเต็มที่ความบ้าคลั่งในการเพิ่มระดับก็ไม่แพ้ฉินโจ้วเลย
หลังจากเพิ่มค่าสถานะฟรีไปที่พลังชีวิตก็ส่งผลให้พลังชีวิตของเขาตอนนี้มี 5,550 หน่วย, พลังจิต1,670 หน่วย, ค่าชื่อเสียง 3,560 แต้ม
สิ่งที่ทำให้ฉินโจ้วรู้สึกดีใจมากก็คือเขาสามารถรวบรวมะเิศพได้มากกว่า 1,200 ชิ้น น่าจะพอให้เขาใช้ได้สักระยะและยังได้อุปกรณ์เหล็กดำ 700 ชิ้น อุปกรณ์ระดับบรอนซ์อีก 200 กว่าชิ้นกับอุปกรณ์ระดับเงินอีก 36 ชิ้น และอย่างสุดท้ายทักษะลับ 1 เล่ม
เหินเหนือกำแพง: ประเภทวิชาตัวเบาระดับ 3 สามารถทำให้ตัวเบาได้เหมือนนกโดยต้องใช้พลังภายในสามารถเดินทางได้ 1,000 ลี้ ในหนึ่งวันสามารถเดินบนน้ำและยืนบนใบไม้ได้ถ้าฝึกถึงระดับสุดยอด
ถึงแม้ว่าจะเป็เพียงทักษะวิชาตัวเบาระดับ3 แต่ก็ยังเป็ทักษะลับที่หายาก ถ้าฉินโจ้วไม่ได้มี ''ย่ำหิมะไร้รอย'' อยู่แล้วเขาก็คงจะฝึกมันด้วยตัวเองไปแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ เอาไปขายดีกว่า...