หากกงเจวี๋ยนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่มีคุณภาพแย่กว่าปีก่อนๆไปแดนประจิมในนามของพระราชโอรส อนาคตของเขาจะเป็เช่นไร ใครๆ ก็ทราบดี
ทว่าสิ่งที่กงอี่โม่้าก็คือกงเจวี๋ยสามารถใช้โอกาสนี้สร้างผลงานความดีความชอบ นางไม่มีทางปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ดังนั้นกงอี่โม่จึงกล่าวอย่างเปิดเผย
“ท่านพี่รัชทายาททราบดีว่าข้ากับน้องเก้าสนิทกันเขาเสียเสด็จแม่ไปั้แ่ยังเล็ก ไม่มีใครช่วยวางแผนจึงมีแต่ข้าที่ต้องคอยดูแลแทนเขาบ้างการเดินทางไปแดนประจิมครั้งนี้ก็เป็แผนของข้าเช่นกัน ข้าอยากฝึกนกน้อยตัวนี้ดังนั้นแม้ว่าการนำของคุณภาพต่ำแทนที่ของคุณภาพดีจะเป็เื่ปกติที่ไม่มีการเขียนเป็ลายลักษณ์อักษรแต่ครั้งนี้ข้าไม่มีทางยอมปล่อยให้เกิดขึ้น”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ สีหน้าของนางพลันจริงจัง สายตาจดจ่อนางมองจนกงเช่อรู้สึกสะท้านอยู่ในใจ
ในสายตาของกงเช่อนั้นเต็มไปด้วยใบหน้าจริงจังของนางท่ามกลางท้องฟ้าสีแดงฉานทว่าในสายตาของนางกลับเต็มไปด้วยกงเจวี๋ย เมื่อถูกนางจ้องมองเช่นนี้ กงเช่อเข้าใจเป็อย่างดีเขาไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องของนางได้เลย
เขาคิดถึงเสด็จแม่ของตน เพื่อให้เขาได้ขึ้นตำแหน่งรัชทายาทแล้วนางต้องวางแผนอย่างเต็มที่ แต่ถึงแม้จะเป็เช่นนี้เขายังคงรู้สึกสงสารและอิจฉากงเจวี๋ยที่มีอายุเพียงสิบเอ็ดปีเท่านั้น
“น้อง้าให้ข้าทำอะไรหรือ?”
เมื่อได้ยินการตอบรับของเขา กงอี่โม่จึงคลี่ยิ้มสดใสอีกครั้งเวลานี้ความรู้สึกไม่พอใจในใจของกงเช่อจึงหายไปทันที
“อีกสามวันเป็วันออกเดินทางของกงเจวี๋ยก่อนออกเดินทางนั้นจะต้องมีการตรวจสอบสิ่งของตามปกติ ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางลงมือ”
“่ที่พวกเขาสามารถลงมือได้มีเพียง่เดียวก็คือหลังจากออกจากประตูเมืองแล้ววันพรุ่งนี้ข้าจะไปขอเสด็จพ่อโดยให้เหตุผลว่าสิ่งของครั้งนี้มีจำนวนมากเกินไปจึงต้องออกจากเมืองพร้อมกันทั้งสามประตู คือประตูบูรพา ประตูประจิม และประตูทักษิณแต่ถึงเวลานั้นข้าจะนำของทั้งหมดออกผ่านประตูทักษิณ”
“ได้ยินมาว่าผู้บัญชาการทหารทางประตูทักษิณเป็สหายของท่านพี่รัชทายาทถึงตอนนั้นข้าอยากขอยืมทหารม้าในมือของเขาช่วยอารักขาสิ่งของต่างๆถึงศาลาสิบลี้นอกเมือง” นางมองกงเช่อด้วยสายตาเป็ประกาย
เมื่อนางกล่าวจบ กงเช่อจึงครุ่นคิด ในใจของเขาทราบอย่างชัดเจน อีกฝ่ายอาจไม่ได้เชื่อใจเขามากนักแม้กล่าวว่าจะออกทางประตูทักษิณ แต่บางทีอาจเป็เพียงกลลวงเท่านั้น
ทว่าเมื่อเขาพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว เพื่อชื่อเสียงของเขา เสด็จแม่ไม่มีทางเข้ามายุ่งกับสิ่งของบรรเทาทุกข์เหล่านี้อย่างแน่นอนดังนั้นในเมื่อเสด็จแม่ไม่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์นี้ เขาจึงยินดีช่วยเหลือกงอี่โม่
ขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น เขาจึงพยักหน้าถือว่าเขารับปากเื่นี้แล้วเมื่อเขาพยักหน้าตกลงนั้นสีหน้าของกงอี่โม่พลันสดใส ดวงตาเป็เส้นโค้งทว่าในสายตาของกงเช่อนั้น ครั้งนี้เป็ครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่พอใจเขารู้สึกหงุดหงิดและเสียใจ เขามองสีของท้องฟ้าในใจคิดว่าคงไม่สามารถล่องเรือต่อไปได้แล้ว
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด กงเช่อรู้สึกว่าเขาเริ่มหายใจไม่ออก ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืนขณะที่คิดจะกล่าวว่าเข้าฝั่งนั้น เขาพลันรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอก
สีหน้าของเขาแย่มากทันทีแย่แล้ว!
กงเช่ออ้าปากคิดจะเรียกคนของตนทว่าเขาคิดได้ว่าคนที่ติดตามมาทั้งหมดล้วนอยู่บนฝั่งอีกทั้งบนฝั่งบริเวณนั้นยังมีคนของกงอี่โม่อีกด้วย
เมื่อเห็นเขาตอบตกลงแล้ว ตอนแรกกงอี่โม่ดีใจมากทว่าเมื่อเห็นสีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป นางจึงสอบถามอย่างอดไม่ได้
“เป็อะไรหรือ? ท่านพี่รัชทายาท?”
กงเช่อไม่ได้กล่าวอะไร เขาทำเพียงใช้มือกดตรงหัวใจกงอี่โม่คุ้นเคยกับภาพเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน นางนิ่งงันไปชั่วขณะจากนั้นจึงได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
ชาติที่แล้วนางอยู่ข้างกายกงเช่อมานานขนาดนั้น นางจะไม่รู้ความลับสำคัญที่สุดของกงเช่อได้อย่างไรทว่าสิ่งที่นางรู้อย่างชัดเจนยิ่งกว่าก็คือ ตอนนี้ผู้ที่รู้ความลับนี้ของเขานั้นหากไม่ใช่คนสนิทของเขา คนอื่นๆ ต่างเสียชีวิตไปหมดแล้ว
เรือลำน้อยพลันเงียบสงบ กงอี่โม่ไม่มีเวลาแม้กระทั่งลอบถอนหายใจถึงความโชคร้ายของตนเองนางพลันนั่งหลังตรง บนหน้าผากมีเหงื่อผุดออกมาอย่างฉับพลัน
เวลานี้กงเช่อทรุดนั่งอย่างกะทันหันพร้อมอุทานเบาๆ เขาจับขอบเรือหายใจเข้าอย่างแรงในทันทีสีหน้าเขียวคล้ำจนน่ากลัว เขาไม่สามารถรักษาภาพลักษณ์อันอ่อนโยนของตนได้อีกแล้วเขามองกงอี่โม่อย่างเคร่งเครียดและระแวดระวัง สายตาสะท้อนประกายพิฆาต
ความลับของเขาห้ามคนอื่นรู้อย่างเด็ดขาด
บนโลกใบนี้มีคนที่รู้ว่ากงเช่อมีโรคประจำตัวซ่อนอยู่ไม่ถึงห้าคน
ขณะที่ฮองเฮาตั้งครรภ์นั้น นางโชคร้ายถูกคนอื่นกลั่นแกล้ง เมื่อคลอดกงเช่อแล้วตอนแรกยังคงปกติดี ภายหลังเมื่อเขาเติบโตขึ้นฮองเฮาจึงพบว่าหัวใจและปอดของเขามีปัญหา เขามักรู้สึกเจ็บเวลาขาดอากาศหายใจอีกทั้งยังเป็อันตรายถึงชีวิต
อันที่จริงเื่นี้ถือเป็เื่ใหญ่ ทว่าขณะที่คลอดกงเช่อนั้นฮองเฮาเสียโลหิตมากเกินไปเมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งจึงทราบว่านางไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกส่วนพระโอรสที่มีโรคประจำตัวจะไม่สามารถเป็องค์รัชทายาทได้ ดังนั้นนางจึงปิดเื่นี้เป็ความลับผู้ที่รู้เื่นี้ถูกฆ่าปิดปากทั้งหมด ในที่สุดฮ่องเต้และพระชายาคนอื่นๆจึงไม่รู้เื่นี้
ดังนั้นเสด็จแม่จึงกล่าวย้ำเสมอว่า เพื่อตำแหน่งรัชทายาทของเขาเพื่อเกียรติศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล ผู้ที่รู้เื่นี้จำเป็ต้องตายทั้งหมด
เวลานี้กงเช่อรู้สึกเสียใจมาก เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าโรคประจำตัวของตนจะกำเริบล่วงหน้าเช่นนี้ส่วนยาของเขาอยู่กับผู้ติดตามที่อยู่บนฝั่งเขากุมหัวใจพร้อมมองกงอี่โม่ด้วยสายตาซับซ้อนผู้ที่เคยเห็นสภาพเช่นนี้ของเขาจำเป็ต้องตาย เขาจำเป็ต้องฆ่านางใช่ไหม?
เวลานี้เรือลำน้อยได้ลอยเข้าสู่ใจกลางกลุ่มดอกบัว มีใบบัวบดบังอย่างมิดชิดผู้คนบนฝั่งไม่สามารถมองเห็นการกระทำของพวกเขา
หาก้าฆ่านางนี่คือโอกาสที่ดีที่สุด
กงเช่อตัดสินใจในทันที เขาพลิกฝ่ามืออาวุธลับขนาดเล็กปรากฏอยู่ในอุ้งมือของเขา เรือลำน้อยโคลงเคลงอย่างช้าๆเขาจะฆ่านางก่อนที่เรือจะโผล่พ้นออกจากหมู่ดอกบัวเหล่านี้
เมื่อฆ่านางแล้วเขาค่อยส่งสัญญาณเรียกคนสนิทให้มาช่วย เขาต้องทำเช่นนี้
ฆ่านาง!
เหงื่อเม็ดใหญ่ราวกับเมล็ดถั่วไหลย้อยลงมาจากใบหน้าซีดขาว เขาฝืนลืมตาร่างกายเกร็งค้างจนแทบหยุดหายใจ เขาเริ่มรู้สึกชาไปทั่วร่างกายอย่างช้าๆ
ทว่าขณะที่เรือลำน้อยแล่นอยู่ใต้ใบบัว กงอี่โม่ทราบเป็อย่างดีนางไม่สามารถลังเลอีกแล้ว
นางมองกงเช่อด้วยสายตาเคร่งเครียดทว่านางเห็นมือข้างหนึ่งของเขากำลังกุมหน้าอกส่วนมืออีกข้างกำลังสอดอยู่ในสิ่งที่สามารถคร่าชีวิตของนางแต่เขากลับไม่ได้ลงมือในทันที
เขากำลังลังเล ช่างดีจริงๆกงอี่โม่ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
ทว่ากงเช่อที่สอดนิ้วอยู่ในอาวุธลับกลับแข็งใจลงมือไม่ได้เสียที เมื่อคิดว่าต้องสังหารนางสิ่งแรกที่เขาคิดกลับไม่ใช่การหาคำอธิบายต่อเสด็จพ่อ และไม่ใช่การลงมือกับผู้ที่อยู่บนฝั่งที่อาจเห็นสภาพเช่นนี้ของเขาแต่เขากลับไม่สามารถให้คำตอบกับตนเอง เขาต้องสังหารนางจริงๆ หรือ?
แต่ไหนแต่ไรเขาไม่ใช่คนอ่อนโยนอยู่แล้ว เพื่อตำแหน่งและเพื่อเสด็จแม่เขาสามารถฆ่าคนตาไม่กะพริบ ทว่าเขาต้องสังหารนางจริงๆ หรือ?!
เขามีใบหน้าดำคล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ กงอี่โม่เห็นเช่นนี้จึงรีบตัดสินใจทันทีนางยกมือพร้อมเดินเข้าหากงเช่อ ทว่าเมื่อนางขยับกายกงเช่อจึงเกร็งไปทั้งร่างอย่างอดไม่ได้ อีกทั้งยังเกือบกดอาวุธลับในมือของตน
“อย่าเข้ามา” สายตาของเขาสะท้อนประกายไม่อาจทน
ข้างหน้าผากของกงอี่โม่พลันมีเม็ดเหงื่อหยดลงมา ท่าทางของนางนุ่มนวลนางกล่าวออกมาเสียงเบาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็การกระตุ้นความรู้สึกของผู้อื่น
“ท่านพี่รัชทายาทท่านวางกล่องชีในมือของท่านเถิด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กงเช่อพลันลืมตาทั้งสองข้างในทันใดกล่องชีก็คือกล่องขนาดเล็กในมือของเขา ขอแค่เขากดลงไป ไอพิษด้านในมีฤทธิ์รุนแรงนอกเสียจากเคยทานยาแก้พิษอย่างเขาจึงจะสามารถรอดไปได้ส่วนคนอื่นจำเป็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
นางรู้ได้อย่างไร?
“เพราะปัญหาด้านวรยุทธ์ข้าจึงสังเกตเห็นถึงความลับของท่านพี่รัชทายาทมานานแล้ว” ขณะที่เขากำลังลังเลนั้นกงอี่โม่จึงเดินเข้าไปถึงข้างกายเขาได้อย่างราบรื่น นางกล่าวอย่างรวดเร็ว
“แต่ข้าไม่เคยพูดเื่นี้กับคนอื่น รวมทั้งกงเจวี๋ย” นางฝืนยิ้มพร้อมวางมือลงบนมือของกงเช่อข้างที่จับกล่องชีอยู่นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังอย่างใจเย็น