ร่างไร้ิญญาของอิ๋งเซียงถูกกู้ขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งคดีนี้ได้ถูกศาลาว่าการตัดสินว่าเป็เพียงอุบัติเหตุ โดยผู้ตายลื่นไถลตกลงไปในน้ำ เป็เหตุให้ถึงแก่ชีวิต หลังจากจบคดี กล่าวกันว่ามารดาของอิ๋งเซียงได้ลากสังขารที่ป่วยหนัก มาเรียกร้องความเป็ธรรมให้กับบุตรสาวที่หน้าศาลาว่าการอยู่นาน จนเป็ลมล้มพับไปอีกคน
เมื่อหนีเจียเอ๋อร์ได้ยินข่าว ก็อดมิได้ที่จะสงสารหญิงชราจับใจ นางจึงหันไปเอ่ยกับเสี่ยวเสวียนว่า “เราไปที่บ้านของอิ๋งเซียงกันเถอะ เตรียมเงินไว้ด้วยล่ะ”
“เ้าค่ะ คุณหนู” คราวนี้เสี่ยวเสวียนเห็นพ้อง นางรีบกลับเข้าไปในห้อง เปิดกล่องผ้าสีแดงสดที่มีลายปักดอกไม้กับสกุณา แล้วหยิบตั๋วแลกเงินห้าสิบตำลึงสองใบและเงินอีกจำนวนหนึ่งออกมา
หนีเจียเอ๋อร์พบหนีจวิ้นหว่านในสวน แม้หญิงสาวจะปกปิดรอยคล้ำใต้ดวงตาด้วยแป้งน้ำ แต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาของพี่สาวได้
“ดูเหมือนน้องสาวข้า จะรักและเอ็นดูอิ๋งเซียงมาก จนการตายของนาง ทำให้น้องข้านอนไม่หลับเช่นนี้”
จากนั้น ท่าทีของหนีจวิ้นหว่านก็อ่อนลง ก่อนเอ่ยต่อเบาๆ “น่าเสียดายนัก จริงๆ นางก็อยู่กับข้ามานานหลายปี”
ทว่าหนีเจียเอ๋อร์มิได้ใส่ใจ เพียงเดินผ่านอีกฝ่ายไป พร้อมกับเสี่ยวเสวียน
...
ทันทีที่มาถึง พวกนางก็ต้องใกับสภาพของหญิงชรา ที่บัดนี้มีอาการไม่สู้ดีนัก ผมเผ้ากระเซิง สีหน้าดำคล้ำ ดวงตาลึกโหล แลดูอ่อนล้า ทั้งยังเอาแต่นอนนิ่งอยู่บนฟูกเก่าๆ
หนีเจียเอ๋อร์ถอนหายใจเพื่อระงับอารมณ์ พลางหยิบตั๋วแลกเงิน และเงินจากเสี่ยวเสวียน ไปวางไว้ข้างๆ หมอนของหญิงชรา ก่อนเอ่ยอย่างแ่เบา “แม่เฒ่า คนตายย่อมไม่อาจฟื้นคืน แต่คนที่มีชีวิตอยู่ต้องเดินหน้าต่อไป เ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี มิฉะนั้น อิ๋งเซียงคงจะร้อนใจ ไม่อาจจากไปอย่างสงบได้”
หญิงชราหันมามองหนีเจียเอ๋อร์ด้วยสายตาว่างเปล่า จดจ้องเช่นนั้นอยู่นาน กว่าจะจำอีกฝ่ายได้
ทันใดนั้น นางก็ผุดลุกขึ้นมานั่งคุกเข่า แล้วพูดเสียงเศร้า “ถนนเส้นนั้น เซียงเอ๋อร์ใช้มาั้แ่เล็กจนโต ไม่เคยพลัดตกสักครั้ง หรือต่อให้พลาดจริงๆ ก็ไม่มีวันจมน้ำตายแน่ เพราะนางว่ายน้ำเป็ คุณหนูรอง ได้โปรดช่วยหญิงชราผู้นี้ ทวงความเป็ธรรมให้บุตรสาวด้วยเ้าค่ะ”
หญิงสาวไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าตนจะสามารถช่วยนางได้...
ทันใดนั้น เสี่ยวเสวียนก็เอ่ยขึ้น พร้อมรอยยิ้มกว้าง “คุณหนู คุณชายโจวมาแล้วเ้าค่ะ!”
หนีเจียเอ๋อร์หันกลับไปมอง พบว่าโจวชิงหวากำลังมุ่งตรงเข้ามา
“เ้ามาได้อย่างไร?”
โจวชิงหวาฉีกยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “หากข้าบอกว่า แค่ผ่านมาแถวนี้ เ้าจะเชื่อหรือไม่?”
จากนั้น เขาก็ประคองร่างของหญิงชราให้เอนตัวลงนอน แล้วค่อยๆ คลุมผ้าห่มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนผละออกมากุมมือหนีเจียเอ๋อร์ “ท่านป้าวางใจเถอะ การตายของบุตรสาวท่าน จะต้องได้รับความเป็ธรรม คุณหนูรองต้องทำได้แน่!”
หญิงสาวจึงพยักหน้าให้
เสี่ยวเสวียนลอบมองมือที่กำลังประสานกัน ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
พอออกมาจากบ้านทรุดโทรมหลังนั้น ใบหน้าของหนีเจียเอ๋อร์ก็เห่อร้อน แดงก่ำด้วยความเขินอาย พยายามที่จะสะบัดมือของตนให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม
โจวชิงหวาลอบมองดวงหน้าอันเขินอายนั้น พลางหยอกเย้า “นี่เ้าหน้าแดง เพราะโดนข้าจับมืออย่างนั้นหรือ? น่ารักจริงๆ!”
หนีเจียเอ๋อร์แยกเขี้ยว ก่อนจะกัดมืออีกฝ่ายเป็การประท้วง
แต่นอกจากชายหนุ่มจะไม่สำนึกแล้ว ยังยกยิ้มอย่างชอบใจ “เอาเลย เสี่ยวเอ๋อร์ กัดให้แรงกว่านี้ หากวันใดมีสตรีมาวุ่นวายกับข้า จะได้เอารอยกัดให้พวกนางดู จะได้ไม่มายุ่งกับข้าอีก”
หนีเจียเอ๋อร์หรี่ตามอง แล้วสะบัดมือออกจากการเกาะกุม “สตรีที่เ้าเอ่ยถึง คือสตรีในตึกอี๋หงละสิ?”
เมื่อมองไปที่รอยกัด โจวชิงหวาก็ยกยิ้มกว้าง “ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าที่ไหน ก็ไม่มีสตรีใดมาสั่นคลอนหัวใจข้าที่มีต่อเ้าได้”
“ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย ข้าหมายความว่า เ้าควรจะระวังตัวเองให้ดีกว่านี้ต่างหาก” หญิงสาวกล่าว พลางเดินหนี
...
นอกจวนสกุลหนี
โจวชิงหวายัดตั๋วแลกเงินสองสามใบใส่มือหนีเจียเอ๋อร์ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง ข้าไม่อาจอยู่ข้างเ้าตลอดเวลา ดังนั้นจงระวังตัวให้มาก อย่าชะล่าใจเด็ดขาด หากขาดเหลือหรือ้าสิ่งใด ก็ให้เสี่ยวเสวียนมาบอกข้า เข้าใจหรือไม่?”
แม้บางครั้งนางจะรำคาญบุรุษตรงหน้า แต่ก็ปฏิเสธมิได้ ว่ามีเพียงเขาเท่านั้น ที่รักใคร่และห่วงใยตนที่สุด “เข้าใจแล้ว!”
จวบจนหญิงสาวหายลับไปจากสายตา โจวชิงหวาจึงหันหลังกลับไป
...
ส่วนสวีซื่อ พอรู้ว่าหนีเจียเอ๋อร์กำลังแอบสืบเื่เกี่ยวกับการตายของอิ๋งเซียง จึงเรียกเว่ยอี๋เหนียง หนีเจียเอ๋อร์ และหนีจวิ้นหว่านมาพบ เพื่อให้คัดลอกคัมภีร์ อีกทั้งเสี่ยวเสวียนและสาวใช้ทุกคน ก็ต้องติดตามมาฝนหมึก จึงไม่มีผู้ใดปลีกตัวออกจากจวนได้เลย เป็เวลาเจ็ดวัน
ทว่า ในระยะเวลาเจ็ดวันที่ผ่านมานั้น โจวชิงหวาก็ทำการสืบเื่นี้ แทนหนีเจียเอ๋อร์อยู่
หลังมื้อเย็น เสี่ยวเสวียนก็เข้ามาพร้อมอ่างน้ำอุ่น นางจุ่มผ้าลงไป แล้วบิดหมาดๆ ก่อนนำไปประคบให้หนีเจียเอ๋อร์ “คุณหนู ประคบไว้ก่อน พรุ่งนี้ต้องคัดคัมภีร์ต่ออีก เฮ้อ! เมื่อใดคุณชายโจวจะมาช่วยพวกเราออกจากน้ำและไฟนี่เสียทีเล่าเ้าคะ?”
หนีเจียเอ๋อร์หยิบผ้ามาวางลงบนข้อมือของตน พลางทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง “บ่นไปก็ใช่ว่าเขาจะได้ยิน เ้าไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ เรายังมีเื่ต้องทำอีกมาก”
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป หนีเจียเอ๋อร์ก็รู้สึกง่วงงุน จึงเทน้ำในอ่างทิ้ง แล้วเดินไปปิดหน้าต่าง และตอนนั้นเองก็พบเข้ากับเงาปริศนา ที่ทำลับๆ ล่อๆ อยู่ในลานหน้าเรือน
ทันใดนั้น กลิ่นอำพันทะเลก็เข้ามาปะทะหน้า หนีเจียเอ๋อร์จึงเร่งมือ หมายจะปิดหน้าต่าง แต่ก็ช้าเกินไป ยามนี้ ร่างของนางจึงถูกรวบเข้าไปในอ้อมแขนของคนตรงหน้าเสียแล้ว “หากไม่ปล่อย ข้าจะผลักเ้าลงไปจริงๆ นะ”
โจวชิงหวาก้าวเข้ามาในห้อง พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม
หนีเจียเอ๋อร์หยิกมือซนๆ ของชายหนุ่ม เขาจึงละมือไปด้วยความเสียดาย
นางพาอีกฝ่ายเข้ามา ก่อนถามด้วยความตื่นเต้น “ที่เ้ามาหาข้าคืนนี้ แสดงว่าต้องได้เบาะแสแล้ว ใช่หรือไม่?”
โจวชิงหวาก้มลงมองมือของตน พลางทิ้งตัวลงบนที่นอนกว้าง “เป็อย่างที่คุณหนูคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด นายหญิงของเ้า ช่างเ้าแผนการนัก มอบเงินให้อิ๋งเซียงเพื่อหลอกให้ตายใจ ก่อนส่งคนไปฆ่าปิดปาก ทำทีเป็ฆ่าชิงทรัพย์ ถุงเงินนั่นจึงหายไป ส่วนร่างของนางก็ถูกโยนลงทะเลสาบ”
เมื่อหนีเจียเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้น ก็เริ่มหวั่นวิตก เป็ห่วงทั้งตัวเองและเว่ยอี๋เหนียง ที่ต้องอยู่ร่วมชายคากับคนจิตใจโเี้เช่นนี้
…
เช้าตรู่ในวันถัดมา โจวชิงหวาและหนีเจียเอ๋อร์จึงนำตัวฆาตกร มุ่งหน้าไปยังเรือนของผู้เป็บิดา เพื่อร้องขอความเป็ธรรมทันที
พอนายท่านสกุลหนีรับรู้เื่ราวทั้งหมด ก็โกรธมาก สั่งให้บ่าวนำตัวสวีซื่อไปยังห้องโถงใหญ่ของจวนทันที
ด้านสวีซื่อ เมื่อรู้ว่าตนอับจนหนทาง ไม่อาจหนีรอดแล้ว จึงยกมือขึ้นปิดหน้า แสร้งทำเป็ร่ำไห้เสียงดัง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “จิตใจของนางช่างโหดร้ายยิ่งนัก ซ้ำยังพยายามจะใส่ร้ายหว่านเอ๋อร์ ข้าจึงไม่มีทางเลือก จำต้องทำเพื่อปกป้องหว่านเอ๋อร์และหน้าตาของท่าน!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้