อากาศนับวันยิ่งหนาว เพราะใกล้่ส่งท้ายปี
ร้านค้าของเสิ่นม่านคืบหน้าไปราวร้อยละแปดสิบ ยังเหลือเพียงเนื้องานที่ต้องเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย จากระดับความเร็วตอนนี้ นางคาดว่าหลังพ้น่ตรุษจีน น่าจะราวๆ ่เทศกาลหยวนเซียว ร้านเต้าฮวยของนางคงได้เริ่มเปิดกิจการ
นี่นับว่าเป็หนึ่งความก้าวหน้าเล็กๆ ของนาง ชุ่ยฮัวกับคังต้าลี่ทำงานได้ดี ่นี้จึงถูกเลื่อนขั้นให้มาช่วยนางดูแลโรงทำเต้าหู้
หลายวันมานี้ สองสามีภรรยาป้องกันครอบครัวของตาเฒ่าคังอย่างเข้มงวดกวดขัน เนื่องจากกลัวว่า่กลางคืนจะมีคนแอบมาสร้างปัญหาในโรงทำเต้าหู้ เวลานอนจึงผลัดกันเข้าไปนอนในโรงงาน เสิ่นม่านเองก็วางใจมาก
ทุกเื่ราวกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี มีเพียงเื่หนึ่งก็คือ ถั่วเหลืองที่นางซื้อนับวันยิ่งซื้อได้น้อยลง
ั้แ่คราวก่อนที่นางไม่ได้ซื้อถั่วเหลืองจากร้านของเถ้าแก่หวัง แต่เลือกค้าขายกับผู้ค้าปลีกข้างนอกหลายราย ครั้งหนึ่งสามารถรวบรวมซื้อได้ราวห้าร้อยถึงหกร้อยชั่ง
แต่่นี้ ถั่วเหลืองที่รับซื้อมาได้ปริมาณน้อยลงกว่าเดิมทุกครั้ง นางรับจนทั่วตำบลแล้วอย่างมากที่สุดยังได้มาเพียงสามถึงสี่ร้อยชั่ง
ต้องรู้ว่า ปริมาณการใช้ถั่วเหลืองในโรงทำเต้าหู้ค่อนข้างมาก ถั่วเหลืองสามถึงสี่ร้อยชั่งอย่างมากที่สุดก็สามารถใช้ได้เพียงสองวัน
เสิ่นม่านเดาว่าคงมีใครกำลังก่อกวน พอสืบถามก็ได้รู้ว่าเถ้าแก่หวังในตำบลได้ผูกขาดการซื้อขายถั่วเหลืองไปมากกว่าร้อยละแปดสิบ
เสิ่นม่านซื้อถั่วเหลืองกับพ่อค้ารายย่อยในราคาชั่งละสามอีแปะ เช่นนั้นเถ้าแก่หวังก็จะรับซื้อในราคาชั่งละสี่อีแปะ อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องผูกขาดการซื้อถั่วเหลืองทั้งหมด เพื่อรอให้นางมาซื้อกับเขาถึงที่
เถ้าแก่หวังนี่ช่างโง่เขลาเหลือเกิน คิดหรือว่าทั้งแคว้นฝูเหลียงจะมีแค่ร้านเขาที่ขายถั่วเหลือง? แค่ร้านเสบียงธัญญาหารเล็กๆ ไปเอาความกล้าจากไหนมางัดข้อกับนาง?
เสิ่นม่านหลุดขำ จากนั้นเรียกเยี่ยนชีไปปล่อยข่าวลือในตลาดว่า ตอนนี้นางหาซื้อถั่วเหลืองไม่ได้ ตั้งใจว่าจะรับซื้อจากพ่อค้ารายย่อยในราคาชั่งละห้าอีแปะ ข่าวนี้ต้องให้รู้ถึงหูของเถ้าแก่หวังให้ได้
หลังจากปล่อยข่าวลือออกไป เสิ่นม่านก็นัดหนิงโม่เพื่อไปซื้อถั่วเหลืองจากตำบลข้างๆ
ทั้งสองบังคับเกวียนและเคลื่อนตัวโยกเยกออกจากบ้านของหลี่เถี่ยโถว บังเอิญเจอกับจางซิ่วอวิ๋นเดินบิดเอวมาจากใต้ต้นหวายหน้าหมู่บ้าน
จางซิ่วอวิ๋นกวาดตามองพวกเขาแวบหนึ่ง จากนั้นจงใจขวางเกวียนไว้ เอ่ยเสียงดัง “เสิ่นม่านเหนียง อย่างน้อยเ้าก็เป็สตรี นั่งเกวียนกับชายหนุ่มกลางวันแสกๆ กันตามลำพัง ไม่เหมาะสมกระมัง?”
เสิ่นม่านที่นั่งบนเกวียน ชำเลืองมองหญิงสาวคนนี้ ชักอยากจะใช้แส้สะบัดใส่หน้าของนางสักที
จากนั้นเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ “นี่คือญาติผู้พี่ของข้า ข้านั่งตรงนี้ไม่เหมาะสม หรือต้องให้เ้ามานั่งจึงจะเหมาะสม?”
“ญาติผู้พี่?”
จางซิ่วอวิ๋นใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและหัวเราะอย่างเสแสร้ง “เราอยู่ที่หมู่บ้านนี้มานานหลายปี ไม่เคยได้ยินว่าเ้ามีญาติผู้พี่จากแดนไกล เกรงว่าญาติผู้พี่คงเป็เื่ลวง แท้จริงคือชายคนรักมากกว่า?”
คนรักบ้านเ้าสิ!
เสิ่นม่านกล้าสาบานต่อ์ แม้ว่าญาติผู้พี่คนนี้จะเป็ของปลอม แต่ระหว่างพวกเขาสองคนนั้นเป็เพียงมิตรสหายที่บริสุทธิ์ใจ
แน่นอนว่าคำว่าบริสุทธิ์ใจออกจะเกินจริงไปหน่อย เพราะบางจังหวะนางก็แอบคิดไม่ซื่อกับหนุ่มรูปงามตรงหน้า
เพียงแต่! นางยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!
สัจธรรมก่อเกิดในใจของเสิ่นม่าน แส้ในมือชี้ไปทางจางซิ่วอวิ๋น
“เ้าผายลม! ดูิ่เหยียดหยามข้าได้ แต่ไยเ้าต้องปรักปรำญาติผู้พี่ของข้า? เป็สาวเป็นาง วันๆ อย่าเอาแต่คิดแต่เื่บัดสีพูดพล่ามไปเรื่อย!”
จางซิ่วอวิ๋นใ ฉับพลันนั้นก็กัดฟันกรอด
“ใคร ใครดูิ่เ้า? เ้าทำตัวเองแล้วยังห้ามผู้อื่นว่าอีกหรือ? หลายวันก่อนหน้านี้ข้าได้ยินหมดแล้ว เ้าบอกว่ารักญาติผู้พี่หนิงโม่ของเ้า! นางหญิงร่านไร้ยางอาย!”
นางแผดเสียงดังเป็พิเศษ! ทำให้คนที่ทำงานอยู่ละแวกนั้นได้ยินกันหมด
เสิ่นม่านดวงตาแข็งทื่อ นี่จงใจหาเื่ทำลายชื่อเสียงของนางหรือ?
เื่นี้จัดการยาก หากจะทะเลาะกับนาง เกรงว่าแม้จะไม่มีประเด็นชู้สาว แต่สัมพันธ์ระหว่างนางกับหนิงโม่ก็ต้องถูกจับได้แน่
แต่หากไม่ทะเลาะ… ก็รู้สึกอึดอัด
เสิ่นม่านข้ามมิติมา สิ่งที่ไม่ชอบก็คือการได้รับความอดสู!
นางหรี่ตาและสบตาอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็สั่งระบบเปิดโหมดสะกดจิต ม่านตาของเสิ่นม่านเปลี่ยนเป็สีแดง จากนั้นถ่ายข้อมูลความคิดในสมองผ่านแววตาเข้าไปสู่สมองของอีกฝ่าย
นางเลิกคิ้วถาม “เมื่อครู่ เ้าบอกว่าใครคือหญิงร่าน?”
จางซิ่วอวิ๋นดวงตาแข็งทื่อไป นางค่อยๆ ลืมตาขึ้น ใบหน้าที่อารมณ์ขึ้นเมื่อครู่ ตอนนี้ดูแข็งเหมือนท่อนไม้
“อะไรกัน เ้าหาเงินได้มากมาย ข้างกายยังมีหนุ่มรูปงาม ข้าว่าเ้าไม่ได้เชียวหรือ? ทั้งที่ข้าเองก็ชอบหนิงโม่ เหตุใดเขาจึงไม่สนใจไยดีข้า? หนิงโม่ เ้าแต่งงานกับข้าเถิด สู่ขอข้ากลับไปช่วยอุ่นเตียง ข้ารับรองว่าจะต้องปรนนิบัติเ้าทุกอย่าง เ้าเพียงนอนให้สบาย…”
คำพูดตอนท้าย ยิ่งฟังยิ่งระคายหู เสิ่นม่านไม่้าฟังอีกต่อไป จากนั้นสะบัดแส้และบังคับเกวียนไป เหลือเพียงจางซิ่วอวิ๋นที่ด่ากราดอยู่ข้างถนน เดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะ
คนไม่น้อยถึงกับงงงัน จางซิ่วอวิ๋นคงอยากได้ผู้ชายจนเป็บ้าไปแล้ว ถึงขั้นกล้าพูดเื่บัดสีออกมา เชอะ มิน่าถึงได้เป็อนุของผู้อื่น!
ไร้ยางอายสิ้นดี
เมื่อออกจากหมู่บ้านไป เสิ่นม่านแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นบังคับเกวียนมุ่งสู่ทิศทางข้างหน้า แต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับนาง แววตาของเขาจับจ้องนางไม่ละสายตาั้แ่ต้นจนจบ
เสิ่นม่านเหงื่อตก เขาจ้องมาตลอดทางแต่ไม่พูดจา ทำให้หัวใจของนางตุ้มๆ ต่อมๆ
นางทนไม่ไหวชิงเอ่ยขึ้นก่อน “พี่ชาย อย่าเอาแต่จ้องข้าสิ ข้ากลัว”
มุมปากของหนิงโม่กระตุก สายตาที่จ้องมองหญิงตรงหน้านั้นยากจะคาดเดา
“เ้าคือปีศาจงูจริงหรือ?”
มือของเสิ่นม่านที่สะบัดแส้ถึงกับแข็งทื่อ จากนั้นหันขวับไปกลอกตาใส่เขา
“หากข้าคือปีศาจงู ก่อนอื่นข้าจะต้องหาเปลือกนอกอันสวยงามให้ตนเอง จากนั้นแปลงร่างเป็เศรษฐีร่ำรวย โอบกอดหนุ่มหล่อทุกวันไม่ซ้ำ ไม่ใช่มาขายเต้าฮวยแลกเศษเงินเพื่อยังชีพอยู่บนเขากันดารเช่นนี้!”
หนิงโม่ “…”
เขารู้สึกว่ามีความผิดปกติบางแห่งอยู่ดี?
“ตอนที่อยู่ในหมู่บ้าน จางซิ่วอวิ๋นเหมือนจะเปิดโปงเื่ชู้สาวของเราสองคน แต่ไฉนจู่ๆ ก็เหมือนกับิญญาหลุดลอยและเริ่มพูดจาเสียสติ?”
เสิ่นม่านหงายฝ่ามือและคร้านจะโต้ตอบ “ไม่รู้ นางเสียสติแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า? ข้าเป็เพียงผู้บริสุทธิ์ที่เกือบถูกทำร้ายเพราะข่าวลือ”
ทว่า… เสิ่นม่านหลุบตาลง แววตาเปี่ยมด้วยความเ้าเล่ห์
“ชู้สาว? เราสองคนมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวอะไรกัน? หรือว่าญาติผู้พี่แอบคิดไม่ซื่อกับข้า?”
ใบหน้าหล่อเหลาของหนิงโม่ถึงกับบึ้งตึงในทันใด
เขาเบือนหน้าหนี วางท่าโมโห “เป็สาวเป็นาง วันๆ เอาแต่พูดจาแทะโลม! ระวังอีกหน่อยจะแต่งไม่ออก!”
เสิ่นม่านพูดจาฉะฉานไม่ใส่ใจ “ก็ยังมีเ้าอยู่ไม่ใช่หรือ? เ้ายอมรับว่าเราสองคนมีสัมพันธ์เชิงชู้สาว เช่นนั้นข้าก็จะยอมรับเ้า! ถือว่าเสียเปรียบให้เ้า! ข้ายังไม่เคยมีความรักด้วยซ้ำ!”
หนิงโม่หน้าแดงและถาม “เ้าหลอกผีหรือ? สามีของเ้าล่ะ? ไม่มีสามี แล้วจะมีต้าเป่าได้อย่างไร? ยังบอกว่าไม่เคยมีความรัก! ข้าต่างหากที่เป็ฝ่ายไม่เคยมีความรัก!”
โอ้ ลืมเื่ต้าเป่าไปสนิท
เสิ่นม่านเกี่ยวดอกหญ้าริมทางขึ้นมาคาบเล่นในปาก ตั้งใจว่าจะกลบเกลื่อนเื่นี้ไป “เฮ้อ พูดยากจริงๆ ใครเล่าไม่เคยมีอดีต? อย่าไปเอ่ยถึงดีกว่า!”
หารู้ไม่ว่าใครบางคนกลับไม่ยอม “ไม่อยากเอ่ยถึง? เหตุใดเ้าจึงไม่เคยเอ่ยถึงเขาต่อหน้าต้าเป่ามาก่อน? ตกลงว่าเขาคือใครกันแน่ ถึงได้มีค่าจนเ้ารักนวลสงวนตัวมาหลายปี?”
อืม… เสิ่นม่านขบริมฝีปากล่าง
เพราะอะไรนะ ทำไมนางถึงรู้สึกเหมือนเ้าหมอนี่กำลังหึงหวงอย่างไรอย่างนั้น?
-----
