ณ เมืองเทียนฟูแห่งแคว้นตงชิง เมืองเล็ก ๆ อันเงียบสงบทางตอนใต้ของแคว้น ในเรือนหลังคามุงฟางที่เรียบง่าย มีเด็กชายผู้หนึ่งใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาดำขลับใต้ตาขวามีไฝเม็ดหนึ่ง อายุประมาณสิบสี่ปี กำลังช่วยมารดาจัดเตรียมอาหารมื้อเย็น
"เหวินเออร์ ซุปสุกรึยัง?" เสียงอ่อนโยนของมารดาดังขึ้น ปลุกให้เด็กหนุ่มที่กำลังสะลึมสะลือลืมตาขึ้นกะพริบสองสามครั้ง ก่อนรีบตอบเสียงติดขัด "ข..ขอรับ ท่านแม่ สุกแล้วขอรับ"
เมื่อเห็นสภาพอันง่วงงุนของบุตรชาย นางอดมิได้ที่จะส่ายศีรษะพลางทอดถอนใจ "เห้อ… เ้าสองพ่อลูกนี้ช่างเหมือนกันเสียจริง" ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง "ท่านพี่… อีกไม่นานท่านก็จะกลับมาแล้ว ในที่สุดครอบครัวของเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง"
สามีของนางจำต้องเดินทางไปทำงานยังต่างเมือง ปีหนึ่งได้กลับบ้านเพียงสองครั้ง และบัดนี้ก็ใกล้ถึงเวลานั้นอีกครา หัวใจของนางเปี่ยมล้นไปด้วยความหวังและความคิดถึง
ค่ำคืนหนึ่ง ฝนโปรยปรายจากฟากฟ้าดั่งบทเพลงกล่อมให้สองแม่ลูกจมอยู่กับความรู้สึกเหงาแต่ก็อบอุ่นในคราวเดียวกัน
ชีวิตของครอบครัวเล็ก ๆ นี้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย มารดาดูแลบ้าน บุตรชายเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมอันสงบ เรียนรู้วิธีล่าสัตว์และหาของป่าเพื่อเลี้ยงปากท้องไปวัน ๆ แม้จะมิได้สมบูรณ์พูนสุขแต่ก็ไม่มีปัญหาใดให้ต้องกังวล
เช้าตรู่วันถัดมา อวี้เหวินตื่นขึ้นทำกิจวัตรประจำวัน ฝึกฝนร่างกายและเตรียมตัวออกไปหาของป่าบนูเาใกล้เมือง
ูเาลูกนี้แผ่กว้างกินอาณาบริเวณหลายเมือง อวี้เหวินรู้ดีว่าเขาสามารถหาของได้เพียงรอบนอกของูเาเท่านั้น ส่วนลึกเข้าไปมีอสูรดุร้ายชุกชุม เป็เขตแดนอันตรายที่มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้นจะกล้าก้าวล่วง
ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ มีผู้ฝึกยุทธ์ไม่มากนัก ระดับที่แข็งแกร่งที่สุดก็เพียงแค่ขอบเขตกำเนิดกายขั้นต้นเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับแคว้นตงชิงแล้ว ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะในแคว้นนี้มีผู้บ่มเพาะมากมายถึงสิบล้านคน ลำดับขั้นพลังมีั้แ่ ก่อตั้งรากฐาน กำเนิดกาย หลอมรวมกายา พลังปราณ ก่อกำเนิด สำนึกฟ้า ผสานนภา และเขตแดน์ ซึ่งระดับนี้กล่าวกันว่ามีเพียงห้าั์ใหญ่แห่งแคว้นเท่านั้นที่อาจเอื้อมถึง
แคว้นตงชิงเป็เพียงแคว้นเล็ก ๆ ในทวีปหวินซางอันกว้างใหญ่ ห้าั์ใหญ่ผู้ปกครองแคว้นได้แก่ พรรคมาร์แห่งแดนประจิม สำนักกระบี่เหินฟ้าแห่งแดนบูรพา วังหิมะเก้าชั้นฟ้าแห่งทิศอุดร สุสานดาบทลาย์แห่งทิศทักษิณ และตระกูลเฉินแห่งดินแดนภาคกลาง
"เ้าจะไปแล้วหรือ เหวินเออร์?" มารดากล่าวขณะเห็นบุตรชายเตรียมเครื่องมือ
"ขอรับ ท่านแม่ ข้าตั้งใจจะออกไปแต่เช้าตรู่ เพื่อจะหาเนื้อและผักมาให้ได้มาก ๆ เตรียมไว้รอท่านพ่อกลับมาในวันรุ่งขึ้น"
ใบหน้าของเขาเปี่ยมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน นางมองด้วยความเอ็นดูและปลื้มใจ "รีบกลับมาให้ทันมื้อเย็นนะ แม่จะรอ" นางโบกมือส่งเขาด้วยสายตาอบอุ่น
อวี้เหวินคล่องแคล่วในพื้นที่นี้เป็อย่างดี ด้วยเคยออกล่าสัตว์มาเนิ่นนาน วันนั้นเขาออกหาอาหารจนกระทั่งใกล้พลบค่ำ ก่อนเดินกลับเข้ามาในเมืองพร้อมเนื้อกวาง กระต่าย และผักมากมาย ทว่าทันทีที่เข้าใกล้เรือนของตน เขากลับเห็นกลุ่มคนยืนล้อมหน้าล้อมหลังบ้านของตนอยู่
"ซีเยว่… เ้าหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่เอง!" เสียงหนึ่งดังก้องมาแต่ไกล เป็เสียงของชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ คิ้วหนาดุดัน ั์ตาแฝงด้วยความเย้ยหยัน "ข้าตามหาเ้ามาสิบสี่ปี ไม่คิดเลยว่าเ้าจะมาซุกตัวในรูหนูเล็ก ๆ เช่นนี้… ผ่านมานานปานนี้ เ้าก็ยังงามดั่งเดิม จับตัวนางซะ!"
อวี้เหวินชะงักงันเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สองคนพุ่งตรงไปหามารดา เฉินซีเยว่พยายามดิ้นรนขัดขืน "ปล่อยข้านะ! ข้าไม่กลับไปทั้งนั้น!"
ชายผู้เป็หัวหน้าหัวเราะเ็า "เป็ถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเฉิน พร์เลิศล้ำเหนือผู้ใด กลับลดตัวลงมาคบกับชายบ้านนอกต่ำต้อย น่าอับอายสิ้นดี! ส่งตัวนางกลับตระกูล ท่านประมุขต้องปลาบปลื้มเป็แน่!"
"เฉินเทียนซิง…!" นางขบกรามแน่น ตวาดเสียงกร้าว
"หยุดนะ! ปล่อยท่านแม่ข้าเดี๋ยวนี้!" อวี้เหวินคำรามพลางถลันเข้าใส่
เฉินเทียนซิงปรายตามองเขาแล้วหัวเราะเยาะ "หึ ไอ้เด็กเหลือขอ เ้าเป็ลูกของมันงั้นหรือ? ดูท่าจะไร้ค่าไม่ต่างจากบิดา โตป่านนี้แล้ว ยังมิอาจก้าวข้ามระดับก่อตั้งรากฐาน ช่างเป็ขยะโดยแท้!"
"เ้าว่าใครเป็ขยะ? หุบปากเสีย! อย่ามาดูถูกบิดาข้า!" อวี้เหวินกัดฟันตวาด
ชายหนุ่มแค่นเสียงเยาะ "บังอาจ! สั่งสอนมันเสีย!"
ทว่ายังไม่ทันที่สมุนของมันจะลงมือ เฉินซีเยว่กลับกรีดร้องออกมา "อย่าแตะต้องลูกข้า! ข้ายอมแล้ว! อย่าทำร้ายเขา ข้าจะกลับไปกับเ้า… เฉินเทียนซิง!"
ดวงตาของมันเปล่งประกายพึงใจ "หึ ๆ ข้ารอคำนี้มานานแล้ว ซีเยว่"
"ท่านแม่! อย่าไป!" อวี้เหวินพุ่งเข้าใส่แต่ถูกซัดจนร่วงลงสลบไป
เฉินซีเยว่กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาไหลรินเป็สาย 'เหวินเออร์… แม่ขอโทษ…'
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้