เพราะเ้าของใหญ่ที่อยู่เื้ับ่อนแห่งนี้เป็คนที่ไม่ใช่แค่ที่ว่าการอำเภอของพวกเขาไม่กล้าล่วงเกิน แม้แต่ข้าหลวงยังไม่กล้าล่วงเกิน อีกฝ่ายแค่มาเปิดกิจการในที่ของเ้าเพราะไว้หน้าเ้าเท่านั้น ไม่มีผู้ใดกล้าวางมาดเล่นตัว
แนะนำเจียงหงหย่วนให้คนเหล่านี้เสร็จก็ถึงคราวแนะนำพวกเขาให้เจียงหงหย่วนรู้จัก
“…ท่านนี้คือเ้าหน้าที่โหลว ท่านนี้คือสือจู่ปู้ ท่านนี้คือผู้ช่วยนายอำเภอเฮ่อ ท่านนี้คือหัวหน้ามือปราบซุน”
เจียงหงหย่วนคำนับทุกคนด้วยความเคารพ สือจู่ปู้ไม่พูดกระไร เจียงหงหย่วนเข้าใจความหมายเขา ไม่ได้เอาเื่ที่ทั้งคู่เคยพบกันก่อนหน้านี้ขึ้นมาพูด
แต่เขาสนใจผู้ช่วยนายอำเภอเฮ่อเป็พิเศษ นี่คือพ่อตาของสวีเต๋อเซิ่ง
ที่บ้านตระกูลสวีวางอำนาจบาตรใหญ่ในหมู่บ้านได้เพราะอาศัยว่าสวีเต๋อเซิ่งที่เป็มือปราบอยู่ในอำเภอ
งานของสวีเทากับสวีลั่งก็มาจากสวีเต๋อเซิ่งเช่นกัน
หากจะโค่นตระกูลสวีก็ต้องเริ่มจากผู้ช่วยนายอำเภอผู้นี้เสียก่อน หรือไม่ก็…ทำให้ผู้ช่วยนายอำเภอเฮ่อไม่เป็ที่พึ่งให้สวีเต๋อเซิ่งอีก
ความคิดต่างๆ แล่นผ่านสมองของเจียงหงหย่วนภายในชั่วพริบตา สีหน้าเขาไม่มีสิ่งใดผิดปกติ พร้อมพูดกับหัวหน้ามือปราบซุนว่า “หวงต้าเกอเคยพูดถึงซุนเกอให้ข้าฟัง บอกว่าท่านเป็คนยุติธรรม หากวันหน้าข้ามีปัญหากระไรในบ่อนให้ไปหาท่าน”
เขากำลังดึงชื่อของผู้มีอำนาจมาอ้าง มิเช่นนั้นจะเสียแรงช่วยสองคนนั้นไปเพื่อเหตุใด?
ไม่มีผู้ใดทำกระไรโดยไม่หวังผลประโยชน์ ต้องมีแผนในใจเป็แน่
แน่นอนว่าเขาไม่ใช่แค่วางแผนจะเอาชื่อหวงจ้งซานออกมาโอ้อวดเป็ครั้งคราว แต่ในอนาคตยังมีจุดที่ต้องพึ่งหวงจ้งซานด้วย
“หวงต้าเกอ…” ซุนเคอลังเลเล็กน้อย มีคนแซ่หวงเยอะเต็มไปหมด
“อ้อ หมายถึงหวงจ้งซานต้าเกอน่ะขอรับ ข้าน้อยเป็นายพราน หวงต้าเกอชอบอาหารป่า ข้าน้อยได้รู้จักกับเขาก็เพราะเหตุนี้เช่นกัน”
อย่างไรเสีย คนเหล่านี้แค่กลับไปตรวจสอบก็รู้แล้วเขาเป็ผู้ใด เจียงหงหย่วนไม่จำเป็ต้องโกหก ในทางตรงกันข้าม การที่เขาเปิดเผยตรงไปตรงมาเช่นนี้จะทำให้ทุกคนที่นี่รู้สึกว่าแท้จริงแล้วเขาสนิทกับหวงจ้งซานมาก มิเช่นนั้นลำพังแค่ชาติกำเนิดที่เป็นายพรานของเขาอย่างเดียวไม่มีทางทำให้หวงจ้งซานกำชับเช่นนี้
อีกอย่าง นายพรานผู้นี้ได้รับ่ต่อจากเหลียงหู่ทันทีที่มาถึง แม้จะเป็แค่นายพราน แต่คนที่หนุนหลังเขาต้องไม่ธรรมดาเป็แน่
นี่ก็คือการนำความจริงมาผสมกับคำโกหก
เจียงหงหย่วนย่นระยะห่างระหว่างตัวเองกับซุนเคอสำเร็จภายในคำพูดประโยคเดียว ทำให้ข้าราชการตำแหน่งเล็กๆ ทั้งหลายไม่กล้าดูถูกเขาด้วย
อย่ามองว่าบุรุษคนนี้โง่เขลา ภายในใจเ้าเล่ห์ไม่เบา
ทุกคนต่างสนใจที่จะทำความรู้จัก งานเลี้ยงจบลงด้วยความสุขของทั้งฝ่ายเ้าภาพและแขก
หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไป เหลียงหู่พูดกับเจียงหงหย่วนว่า “ในเมื่อน้องสะใภ้อยู่ในอำเภอ เ้าก็รีบกลับไปอยู่กับนางเถิด ค่อยไปที่บ่อนวันพรุ่ง”
เจียงหงย่วนส่ายหน้า “ไม่ต้องขอรับ นางอยู่ในอำเภออีกสองสามวันจึงจะกลับ”
เหลียงหู่ได้ยินเขาปฏิเสธก็ไม่พูดกระไรอีก
“เช่นนั้นข้ากลับล่ะ” เหลียงหู่พูด
เขาเป็หัวหน้าผู้ดูแล มีรองผู้ดูแลเป็ผู้ช่วยอีกเป็กลุ่ม ไม่จำเป็ต้องอยู่เฝ้าที่บ่อนตลอดเวลา
“เหลียงต้าเกอกลับดีๆ ขอรับ” เจียงหงหย่วนมองส่งเขาจากไป ย้อนกลับไปซื้อเหล้าและอาหารจากภัตตาคารแล้วไปที่บ่อน
เขามอบเหล้าและอาหารให้ผู้ช่วยสองสามคน ทุกคนต่างชอบบุรุษที่มาใหม่ผู้นี้ ขอบคุณแล้วนำไปแบ่งกันกิน
เจียงหงหย่วนเดินเตร่ในบ่อน มองคนร้องไห้ฟูมฟายที่เสียเงิน บ้างก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งที่ชนะ ภายในบ่อนพนันเล็กๆ แห่งนี้มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ให้เห็นทุกรูปแบบ
จู่ๆ ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกลากออกมาจากโต๊ะพนันและโดนทุบตีที่ตรอกด้านหลัง
เขากัดริมฝีปากแน่น ไม่ว่าจะโดนทุบตีอย่างไรก็ไม่ส่งเสียง
“เขาเป็กระไร?” เจียงหงหย่วนตามไปถาม
“ไอ้เด็กนี่โกง กล้าชักดาบต่อหน้ากวนอู[1] ช่างกล้านัก!”
“นั่นน่ะสิ ที่บ่อนมีกฎ ผู้ใดที่โกงต้องโดนหักมือข้างที่ใช้โกง!”
ตรอกด้านหลังมืดสลัว แต่หลังจากเจียงหงหย่วนกินโอสถชำระไขกระดูก การมองเห็นของเขาดีขึ้นมาก มองเห็นสีหน้าเด็กหนุ่มผู้นั้นชัดเจน
ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเด็กหนุ่มจะถูกทุบตีอย่างไรก็อดทน แต่พอได้ยินว่าจะหักมือก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายสั่นเทาขึ้นมา
“ข้าทำเอง หักมือแล้วทำอย่างไรต่อ?” เจียงหงหย่วนถาม
“โยนออกไปจากตรอกเป็พอ” ลูกมือคนหนึ่งตอบ
เจียงหงหย่วนได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า เดินไปด้านหน้าเด็กหนุ่ม คว้าแขนเขาขึ้นมาหักอย่างแคล่วคล่องต่อหน้าคนกลุ่มนี้
เด็กหนุ่มร้องโหยหวนทันที แขนเขาหักเป็รูปตัว V
เจียงหงหย่วนเช็ดมือกับเสื้อผ้าด้วยความรังเกียจหลังทำเสร็จ “เอาล่ะ ข้าไปเข้าห้องน้ำประเดี๋ยว รบกวนพี่น้องช่วยโยนเด็กผู้นี้ออกไปหน่อยได้หรือไม่?”
“ไอ๊หยา เสี่ยวเจียง ฝีมือเ้าดีมากเลย!”
“นั่นน่ะสิ หากให้พวกข้าทำคงต้องลงแรงอีกมาก หรือไม่ก็เอาท่อนเหล็กมาทุบ”
ทุกคนพากันชมเจียงหงหย่วน
เจียงหงหย่วนพูดว่า “ข้าแค่แรงเยอะน่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าขึ้นเขาลึกไปเสี่ยงชีวิตกับสัตว์ป่าบ่อยๆ”
“เ้าจะไปห้องน้ำไม่ใช่หรือ รีบไปเถิด อย่ามัวแต่อั้น”
ทุกคนหัวเราะเสียงดัง ลูกมือสองคนด้านข้างลากเด็กหนุ่มที่ร้องโอดโอยไม่หยุดออกไป
ไม่มีผู้ใดสนใจจะอุดปากเขา ให้พวกผีพนันในบ่อนฟังเสียงร้องโหยหวนน่ะดีแล้ว มิเช่นนั้นจะเกรงกลัวได้อย่างไร?
เจียงหงหย่วนแอบออกมาจากห้องน้ำเงียบๆ เขาหลบอยู่ในความมืด เห็นลูกมือสองคนนั้นจากไปแล้วก็เดินมายืนหน้าเด็กหนุ่ม ย่อตัวลงสบตากับดวงตาโกรธแค้นของอีกฝ่าย “เหอะ ข้าแค่หักแขนเ้า มันยังต่อกลับไปได้อยู่ หากรอให้พวกเขาทุบกระดูก แขนเ้าคงได้พิการจริงๆ แน่ อีกอย่าง ถ้าเ้าไม่โกงทางบ่อนก่อน ทางบ่อนมีหรือจะลงมือกับเ้า? จะโทษก็โทษตัวเอง!”
“ต่างกันตรงไหน ข้าไม่มีเงินรักษาอยู่ดี” เด็กหนุ่มถูกเจียงหงหย่วนตำหนิ แววตาเขาสั่นไหวเล็กน้อย จริงอย่างที่บุรุษผู้นี้พูด เื่ที่เขาถูกหักแขนไม่ใช่ความผิดของอีกฝ่าย
หากเขาไม่ลงมือ เปลี่ยนเป็ผู้อื่นมีแต่จะยิ่งอนาถ
“ข้าช่วยเ้าได้ รักษาแขนให้เ้าได้ แต่เ้าต้องขายตัวเองให้ข้า” เจียงหงหย่วนจ้องเด็กหนุ่ม รอให้เขาตอบ
เด็กหนุ่มเจ็บจนหน้าผากมีเหงื่อไหล เขากัดฟันคิด แล้วถามกลับว่า “ท่านให้เงินข้ายี่สิบตำลึงได้หรือไม่?”
มีเงินยี่สิบตำลึงก็ช่วยน้องสาวได้แล้ว
เชิงอรรถ
[1] ชักดาบต่อหน้ากวนอู(关公面前刷大刀) เปรียบเปรยถึงการกล้าโอ้อวดต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ!
